เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ คุณสามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ โดยคลิก "การตั้งค่าคุกกี้"
ขับรถเช่าเที่ยวฝรั่งเศส เรื่องง่ายๆกว่าที่คิด
Driving in France
ฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในประเทศภูมิภาคยุโรปที่มีทิวทัศน์สวยงาม จนได้ชื่อว่าเป็นดินแดนในฝันที่นักท่องเที่ยวอยากไปเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก ซึ่งนอกจากสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว หลายครั้งที่เส้นทางการเดินทางระหว่างสถานที่ของประเทศฝรั่งเศสก็มีเสน่ห์น่าชื่นชมไม่แพ้กัน การเดินทางด้วยรถยนต์ในประเทศฝรั่งเศส จึงเป็นการเดินทางท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมไม่แพ้การเดินทางประเภทอื่นๆ
รถยนต์กับถนนหนทางในเมืองปารีสที่ไม่ได้ขับยากเท่าที่คิด
หรือหากเป็นเมืองที่ไม่พลุกพล่านเช่นเมือง Honfleur ก็ยื่งขับง่ายมากขึ้นไปอีก
กฎหมายและคุณสมบัติผู้ขับรถในประเทศฝรั่งเศส
ประเทศฝรั่งเศสกำหนดให้ผู้ขับรถยนต์ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี และสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการขับรถเที่ยวประเทศฝรั่งเศส สิ่งที่ขาดไม่ได้ย่อมต้องเป็น ใบอนุญาตขับขี่นานาชาติ หรือที่อาจเรียกกันว่า ใบขับขี่สากล (International Driving License/Permit) กับใบอนุญาตขับขี่จากประเทศของนักท่องเที่ยว ที่ยังไม่หมดอายุ ซึ่งนักท่องเที่ยวต้องพกติดตัวไว้ตลอดเวลา
นอกจากเอกสารดังกล่าวแล้ว นักท่องเที่ยวควรศึกษาเกี่ยวกับ ข้อจำกัดความเร็วในการขับรถตามถนนแบบต่างๆในประเทศฝรั่งเศส รวมไปถึง ข้อห้ามการขับรถหากดื่มเครื่องดื่มแอลกฮออล์ อันเนื่องมากจากการที่ประเทศฝรั่งเศสกำหนดให้ผู้ขับขี่ต้องไม่มีปริมาณแอลกฮออล์เกิน 0.5 กรัมต่อลิตรในกระแสเลือด (หรือประมาณเบียร์หนึ่งกระป๋อง)ไว้อีกด้วย โดยสามารถศึกษารายละเอียดต่างๆเพิ่มเติมได้ที่ http://uk.france.fr/en/information/driving-france-0
ถนนบางช่วงที่ทัศนวิสัยรอบด้านไม่ชัดเจนนักก็ถูกจำกัดความเร็วเช่นเดียวกับถนนที่มีน้ำขัง
ถนนที่มีหมอกจัดใกล้กับเมืองอองเฟลอร์ที่นักท่องเที่ยวต้องลดความเร็วและใช้ความระมัดระวังอย่างมาก
การเช่ารถในประเทศฝรั่งเศส
เนื่องจากการขับรถเที่ยวเป็นหนึ่งในวิธีการที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศฝรั่งเศส จึงมีบริษัทให้บริการรถเช่าสำหรับนักท่องเที่ยวอยู่หลายบริษัท ซึ่งส่วนมากนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปดูที่หน้าเว็บไซต์ของบริษัทเช่ารถเหล่านี้ และเลือกรุ่นที่ต้องการพร้อมโปรโมชั่นออนไลน์ได้ตลอดเวลา
รถของบริษัทเช่ารถที่ให้บริการแก่นักท่องเที่ยว
หลังจากนั้น นักท่องเที่ยวสามารถไปรับรถได้ที่จุดบริการของบริษัท ซึ่งสำหรับประเทศฝรั่งเศสนั้น ภายในสนามบิน Roissy Charles de Gaulle มีจุดบริการรถเช่า (อาทิ บริษัท Avis) ไว้ให้นักท่องเที่ยวตรวจเช็คสภาพรถและเอกสาร ก่อนเริ่มต้นการออกเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถยนต์ได้ทันที
และในส่วนของการคืนรถนั้น นอกจากจุดบริการเดิมแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถนำรถไปคืนที่จุดบริการอื่นๆที่สะดวกได้ หรือบางจุดอาจมีบริการคืนรถด้วยตนเอง โดยนักท่องเที่ยวต้องนำรถไปจอดในสถานที่ที่กำหนดไว้ จากนั้นนำกุญแจและเอกสารไปส่งคืนตู้ของบริษัท ซึ่งมีข้อควรระวังคือ สถานที่คืนรถบางแห่งอาจเป็น ลานจอดรถใต้ดินที่อยู่ลึกลงไปหลายชั้น ซึ่งหลังจากคืนรถแล้ว นักท่องเที่ยวอาจเดินทางกลับลำบากได้
จุดรับบริการคืนรถของบริษัท Avis ในประเทศฝรั่งเศสซึ่งปิดทำการ
ตู้บริการคืนกุญแจสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาคืนรถนอกเวลา
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้สำหรับการขับรถในประเทศฝรั่งเศส
นอกจากจุดคืนรถเช่าซึ่งมีระบบให้บริการตนเองแล้ว การจอดรถและการเติมน้ำมันในประเทศฝรั่งเศส ก็เป็นระบบบริการตนเองเช่นกัน โดยในการเติมน้ำมันนั้น หลังจากนักท่องเที่ยวจอดรถที่ช่องจอดหน้าเครื่องเติมแล้ว ต้องเดินไปยังจุดบริการชำระเงินเพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าต้องการเติมน้ำมันเท่าไร และชำระเงินให้เรียบร้อยก่อน จึงกลับมาเติมน้ำมันรถด้วยตนเอง
ช่องจอดหน้าเครื่องเติมน้ำมัน
ราคาน้ำมันต่อลิตรและปริมาณการเติมขั้นต่ำที่นักท่องเที่ยวต้องนำไปแจ้งที่จุดชำระเงินเอง หลังจากชำระเงินแล้ว นักท่องเที่ยวจึงมาเติมน้ำมันด้วยตนเอง
ขณะที่การจอดรถนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 แบบใหญ่ๆ คือแบบที่มีเครื่องบันทึกเวลานำรถเข้าไปจอด จากนั้นเมื่อนักท่องเที่ยวจะนำรถออกจากที่จอด เครื่องก็จะอ่านเวลาอีกครั้ง และแจ้งค่าบริการ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถชำระด้วยบัตรเครดิตได้เลย
ลานจอดรถใกล้มหาวิหารแห่งรูอ็องซึ่งเป็นแบบเครื่องบันทึกเวลาเข้า-ออก
นักท่องเที่ยวต้องแวะรับใบบันทึกเวลาที่นำรถเข้ามาจอด
ใบบันทึกเวลาที่ได้รับจากเครื่อง
เมื่อนักท่องเที่ยวนำรถออก เครื่องจะอ่านใบบันทึกเวลาอีกครั้งและจ่ายค่าบริการที่เครื่องได้เลย
หรืออีกรูปแบบคือ หลังจากที่นักท่องเที่ยวนำรถไปจอดที่สถานที่จอดรถแล้ว ให้ชำระเงินค่าบริการตามเวลาที่คาดว่าจะจอดก่อน แล้วนำใบเสร็จที่ได้จากเครื่องไปวางไว้ด้านหน้ารถเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบได้
เครื่องชำระค่าจอดรถอีกแบบหนึ่ง
หน้าจอเครื่องจะมีอัตราค่าบริการบอกไว้อย่างชัดเจน
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวควรใช้ความระมัดระวังในการจอดรถตามสถานที่ต่างๆ เพราะค่าบริการจอดรถในประเทศฝรั่งเศส โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวอย่างปารีสนั้น มีราคาสูงมาก
ป้ายบอกราคาที่จอดรถใกล้มหาวิหารแห่งรูอ็อง ซึ่งมีค่าบริการ 3 ชั่วโมงครึ่งเป็นเงิน 7 ยูโร
นอกจากบริการจอดรถและเติมน้ำมันรถแล้ว อีกหนึ่งบริการที่นักท่องเที่ยวซึ่งขับรถเที่ยวประเทศฝรั่งเศสใช้บริการบ่อยๆคือ บริการทางด่วนหรือ toll way / Motorway ซึ่งเป็นถนนเชื่อมระหว่างเมืองใหญ่ต่างๆในประเทศฝรั่งเศสนั่นเอง โดยนักท่องเที่ยวสามารถชำระค่าบริการเหล่านี้ได้ทั้งเงินสด และบัตรเครดิต แต่มีข้อควรระวังคือ นอกจากการรับชำระเงินด้วยบัตรเครดิตแล้ว ยังมีช่องเฉพาะสำหรับผู้ถือบัตรบริการหักค่าทางด่วนพิเศษแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Telepage Liber-t) ซึ่งมีสัญลักษณ์ในการให้บริการเป็นรูปตัว t อีกด้วย นักท่องเที่ยวต้องใช้บริการให้ถูกช่อง โดยสามารถตรวจสอบรายละเอียดเส้นทาง, อัตราค่าบริการ, รวมถึงวิธีต่างๆในการชำระเงินเพิ่มเติมได้ที่ http://www.autoroutes.fr/
ช่องชำระค่าบริการ toll way ของประเทศฝรั่งเศส โดยช่องที่มีรูปสี่เหลี่ยมเรียงซ้อนกันหมายถึงรับชำระทั้งเงินสดและบัตรเครดิต
นอกจากเป็นบริการเส้นทางสะดวกสบายสำหรับเดินทางแล้ว toll way ในประเทศฝรั่งเศสยังมีบริการอาหาร, เครื่องดื่ม รวมถึงมุมพักผ่อนสำหรับผู้ขับขี่ที่เหน็ดเหนื่อยซึ่งมีป้ายบอกไว้เป็นระยะๆอีกด้วย
นักท่องเที่ยวที่สนใจ ขับรถเที่ยวในประเทศฝรั่งเศส สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
การขับรถในประเทศฝรั่งเศส ปารีส
(Driving in France)
อัตราค่าบริการ : มีหลากหลายโปรโมชั่นจากหลายบริษัทให้เลือกใช้ ทั้ง Avis, Europcar, Budget Leisure Car, Sixt
หรืออื่นๆอีกมากมาย หรือสามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ http://bit.ly/2myY8iT
สถานที่ให้บริการ : ประเทศฝรั่งเศส
เว็บไซด์ : http://uk.france.fr/en/information/driving-france-0
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
การท่องเที่ยวประเทศฝรั่งเศส http://uk.france.fr/en/
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเมืองปารีส https://en.parisinfo.com/
ตรวจสอบเส้นทางและสภาพถนน http://www.autoroutes.fr/
หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ
อ่านต่อหมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้
อ่านต่อหมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด
อ่านต่อนอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์
อ่านต่อนอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด
อ่านต่อหมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
อ่านต่อมหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ
อ่านต่อมหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม
อ่านต่อท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ
อ่านต่อกระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา
อ่านต่อหมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ
อ่านต่อหมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้
อ่านต่อหมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด
อ่านต่อนอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์
อ่านต่อนอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด
อ่านต่อหมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
อ่านต่อ