ท่องเที่ยวต่างประเทศ
ยุโรป
มหาวิหารซานตามารียา กลอริโอซา เดอี ฟรารี เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
มหาวิหารซานตามารียา กลอริโอซา เดอี ฟรารี (Basilica di Santa Maria Gloriosa dei Frari) มักเรียกสั้นๆ ว่าโบสถ์ฟรารี เป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมโกธิกแบบเรียบง่าย ตั้งอยู่บริเวณใกล้กับจัตุรัสแคมโปเดอีฟรารี (Campo dei Frari) ในพื้นที่ของเขตซานโปโล (San Polo) สถานที่แห่งนี้เป็น ศาสนสถานเชิงประวัติศาสตร์ที่มีอายุหลายร้อยปี ปัจจุบันเป็นทั้งโบสถ์นิกายโรมันคาทอลิก และสถานที่เก็บรักษาและจัดแสดงผลงานศิลปะสำคัญที่เกี่ยวข้องกับคริสตศาสนาจำนวนหลายชิ้น โดยเฉพาะงานศิลปะที่เกี่ยวข้องกับพระแม่มารี ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และโบราณคดีที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจอีกแห่งหนึ่งในเมืองเวนิส
มหาวิหารซานตามารียา เดลล่า ซาลูเต เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
มหาวิหารซานตามารียา เดลล่า ซาลูเต (Basilica di Santa Maria della Salute / Basilica of Saint Mary of Health) มักเรียกกันสั้นๆ ว่าโบสถ์ซาลูเต เป็นโบสถ์เก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของเมืองเวนิส โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมบาโรกที่มีหลังคาโดมขนาดใหญ่ และมีรูปปั้นพระแม่มารีประดิษฐานอยู่ด้านบน มหาวิหารแห่งนี้เป็นดั่งศรัทธาของเมืองเวนิส เพราะสร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่พระแม่มารีที่ช่วยพิทักษ์รักษาเมืองเวนิสให้รอดพ้นจากโรคระบาดในช่วงศตวรรษที่ 16 มหาวิหารแห่งนี้จึงเป็นแลนด์มาร์กที่มีชื่อเสียงประจำเมืองเวนิสอีกแห่งหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี อีกทั้งด้วยตำแหน่งที่ตั้งของมหาวิหารที่อยู่ริมชายฝั่งติดกับพิพิธภัณฑ์ศิลปะปันตาเดลล่าโดกานา (Punta della Dogana) ซึ่งเป็นบริเวณที่คลองแกรนด์คาแนล (Grand Canal) และคลองจิวเดคก้า (Giudecca Canal) มาบรรจบกันที่อ่าวซันมาร์โก (San Marco Basin) เกิดเป็นความสวยงามทางธรรมชาติของสายน้ำที่มีเรือแล่นผ่านไปมาโดยมีฉากหลังเป็นมหาวิหารอันยิ่งใหญ่
สะพานบริดจ์ออฟไซส์ เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
สะพานบริดจ์ออฟไซส์ (Bridge of Sighs / Ponte dei Sospiri) เป็นสะพานประวัติศาสตร์ของเมืองเวนิส สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 16 เป็นสะพานหินโค้งเก่าแก่ที่มีลักษณะปิดทึบรอบด้าน ทอดข้ามคลองข้ามคลองริโอเดลปาลัซโซ่ (Rio del Palazzo)เชื่อมระหว่างพระราชวังปาลัซโซ่ดูคาเล่ (Palazzo Ducale) กับคุกที่อยู่อีกฟากของฝั่งคลอง ชื่อของสะพานมีความหมายว่า สะพานแห่งเสียงถอนหายใจ เพราะเมื่อนักโทษถูกพิจารณาคดีและนำตัวไปยังที่คุมขังจะต้องผ่านสะพานนี้เพื่อข้ามไปยังคุก ซึ่งนักโทษจะมองเห็นอิสรภาพของโลกภายนอกครั้งสุดท้ายได้จากช่องหน้าต่างเล็กๆ บนสะพานแห่งนี้ ซึ่งนำมาสู่ความเศร้าและเสียงถอนใจ จึงกลายเป็นชื่อเรียกของสะพานนับแต่นั้นมา ในปัจจุบัน สะพานบริดจ์ออฟไซส์และคุกกลายส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ในความดูแลของพระราชวัง และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ให้กับคนรุ่นหลังได้เที่ยวชมและศึกษา ที่นี่จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองเวนิสอีกแห่งหนึ่ง
การเดินทางโดยขนส่งสาธารณะในเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
การเดินทางมายังเมืองเวนิส (Venice) ที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี (Italy) นั้นสามารถมาได้ทั้งทางเครื่องบินและรถไฟ โดยทางเครื่องบินนิยมลงที่สนามบินเวนิสมาร์โคโปโล (Venice Marco Polo Airport) และต่อรถบัสเข้าไปยังตัวเมืองเวนิส สำหรับทางรถไฟจะเป็นการเดินทางจากเมืองต่างๆ ในยุโรป มาลงยังสถานีรถไฟเวเนเซียซานตาลูเซีย (Stazione di Venezia Santa Lucia) ซึ่งเป็นสถานีรถไฟหลักของเมืองเวนิสที่มีเส้นทางเดินรถเชื่อมต่อกับเมืองต่างๆ ในประเทศอิตาลี รวมถึงเมืองหลักต่างๆ ในประเทศแถบยุโรป
สะพานริอัลโต เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
สะพานริอัลโต (Ponte di Rialto / Rialto Bridge) เป็นสะพานหินซุ้มโค้งเก่าแก่ที่มีอายุหลายร้อยปี ทอดข้ามคลองแกรนด์คาแนล (Grand Canal) เชื่อมพื้นที่ระหว่างเขตซานมาร์โค (San Marco) และเขตซานโปโล (San Polo) เข้าไว้ด้วยกัน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของเมืองเวนิสที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือน เพราะเป็นแลนด์มาร์กที่ตั้งอยู่กลางแหล่งช้อปปิ้ง และเป็นจุดชมวิวคลองแกรนด์คาแนลบริเวณโค้งน้ำที่มีทัศนียภาพอันสวยงามอีกจุดหนึ่งของลำคลอง สะพานนี้จึงเป็นอีกหนึ่งในภาพจำของเมืองเวนิสที่คนทั่วโลกนึกถึง
โอลิมเปียปาร์ค เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
โอลิมเปียปาร์ค (Olympiapark) ตั้งอยู่ทางเหนือของเมืองมิวนิค บนพื้นที่ราว 3 ตารางกิโลเมตรที่มีสภาพเป็นเนินเขาสูงต่ำสลับกันไปซึ่งก่อให้เกิดทัศนียภาพอันสวยงามของเนินเขาสีเขียวที่ลาดโค้งขึ้นลงท่ามกลางต้นไม้และทะเลสาบ โดดเด่นด้วยโอลิมปิกสเตเดียม (Olympic Stadium) ซึ่งเป็นสนามฟุตบอลล้อมรอบด้วยอัฒจรรย์ขนาดใหญ่ที่มีหลังคาโครงเหล็กรูปทรงคล้ายเต็นท์หลายหลัง และหอชมเมืองโอลิมปิกทาวเวอร์ (Olympic Tower) ซึ่งจัดเป็นอีกสองแลนด์มาร์กที่มีชื่อเสียงของเมืองมิวนิค เพราะที่นี่เคยใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปีค.ศ. 1972 มาก่อน ปัจจุบันเป็นทั้งสวนสาธารณะ ศูนย์กีฬา และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองและนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองมิวนิค