ศาลเจ้าดาไซฟุเท็มมังกู (Dazaifu Tenmangu Shrine) เป็นแลนด์มาร์กหลักแห่งหนึ่ง ประจำเมืองฟุกุโอกะ เพราะไม่เพียงมีแต่ตัวศาลเจ้าที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ และประวัติศาสตร์อันยาวนานของเมืองฟุกุโอกะเท่านั้น แต่พื้นที่โดยรอบของศาลเจ้า ยังมีสถาปัตยกรรม ร้านค้า ร้านอาหาร ฯลฯ ที่น่าสนใจไม่แพ้ตัวศาลเจ้าหลักเลยทีเดียว อีกทั้งยังเป็นจุดชมดอกบ๊วยที่งดงามที่สุดประจำเมือง จากการที่มีต้นบ๊วยปลูกอยู่ทั่วพื้นที่ ทำให้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชมได้หนาแน่นทุกวัน และยังเป็นพื้นที่หลักในการจัดพิธีกรรมทางศาสนา และเทศกาลสำคัญๆ ที่สืบทอดกันมายาวนาน อีกมากมาย

ศาลเจ้าคูชิดะ (Kushida Shrine) เป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองฟุกุโอกะ โดยหนึ่งในวิหารด้านในศาลเจ้านั้น มีอายุมากกว่า 1,200 ปี ทำให้เป็นศาลเจ้าที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ ซึ่งตัวศาลเจ้า และบริเวณรอบๆ ถูกออกแบบให้มีความสวยงามตามสถาปัตยกรรมแบบชินโตแท้ๆ ทำให้แม้จะเป็นศาลเจ้าที่มีขนาดเล็ก แต่ก็มีความน่าสนใจ และเป็นศูนย์กลางในการจัดงานเทศกาลสำคัญๆ ของเมืองอีกด้วย

ย่านยะไต ฮากาตะ (Yatai Hakata) คือโซนขายอาหารข้างทาง ที่ตั้งเรียงรายกันตลอดทางเดินริมน้ำ ของเขตฮากาตะ โดยส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารซุ้มเล็กๆ ที่รองรับลูกค้าได้ไม่มาก แต่มีเสน่ห์คือความเป็นกันเองของบรรดาพ่อครัว แม่ครัวในร้าน ราคาอาหารที่จับต้องได้ และเป็นแหล่งสังสรรค์ยอดนิยม ของคนในพื้นที่ ซึ่งนิยมใช้เวลาช่วงหลังเลิกงาน มานั่งสังสรรค์กันที่นี่ ทำให้นักท่องเที่ยวที่มาย่านนี้ ไม่เพียงจะได้กินอาหารรสชาติท้องถิ่นแท้ๆ เท่านั้น แต่ยังจะได้สัมผัสบรรยากาศสบายๆ ท่ามกลางวัฒนธรรมการกินดื่มอันเป็นเอกลักษณ์ของคนญี่ปุ่นอีกด้วย

ปราสาทโคคุระ (Kokura Castle) เป็นปราสาทที่ก่อสร้างตามสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นแท้ๆ มีความสูง 5 ชั้น มีฐานรากเป็นชั้นหินสูงใหญ่ หลักคาที่ไล่ลงมาถึง 4 ระดับ โดยสร้างขึ้นมาเพื่อใช้เป็นที่พักอาศัย และป้อมปราการของ โฮโซะกาวะ ทาดะโอกิ (Hosokawa Tadaoki) นายพลที่ทรงอิทธิพลในยุคนั้น โดยปราสาทนี้ถูกยกให้เป็นสถาปัตยกรรมที่มีความแปลกใหม่ และสวยงาม จนใช้เป็นต้นแบบของการสร้างปราสาทตามหัวเมืองใหญ่ๆ ทั่วประเทศญี่ปุ่น ทำให้ปราสาทโคคุระ (Kokura Castle) เป็นจุดเริ่มต้น ที่ทำให้มีปราสาทสวยๆ ทั่วประเทศญี่ปุ่นให้ได้ไปเยี่ยมชม มากมาย

ภูมิภาคคันไซ (Kansai) เป็นภูมิภาคที่ตั้งอยู่ตอนกลางทางตะวันตกของประเทศญี่ปุ่น ประกอบไปด้วย 6 จังหวัดคือ จังหวัดชิงะ (Shiga), จังหวัดนารา (Nara), จังหวัดวากายะมะ (Wakayama), จังหวัดเกียวโต (Kyoto), จังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo), จังหวัดโอซาก้า (Osaka) โดยภูมิภาคนี้ถูกยกให้เป็นภูมิภาคที่สำคัญทั้งทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม การท่องเที่ยว และเป็นเหตุผลที่ทำให้มีระบบขนส่งสาธารณะ โดยเฉพาะรถไฟ ที่ทันสมัย และครอบคลุมมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น จึงทำให้ตั๋วรถไฟเป็นหนึ่งในสิ่งจำเป็นสำหรับนักท่องเที่ยว ซึ่งก็มีหลายประเภท ตามความต้องการใช้งานของแต่ละคน เราจึงได้รวบรวมบัตรรถไฟที่สำคัญๆ และควรค่าแก่การพกติดตัวเวลามาเที่ยวภูมิภาคนี้ไว้ให้ในบทความนี้เลย

ตั๋วโอซาก้า อะเมซิ่ง พาส (Osaka Amazing Pass) บัตรที่ให้สิทธิประโยชน์สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวจังหวัดโอซาก้าแบบคุ้มค่าที่สุด เพราะสามารถใช้ขึ้นรถไฟ รถบัส ได้แทบทุกพื้นที่ของโอซาก้า และยังใช้เป็นบัตรผ่านในการเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ มากมาย ซึ่งจะมีหนังสือไกด์บุ๊คมาให้เป็นคู่มือในการใช้ประกอบการท่องเที่ยว พร้อมแนบ TOKU x 2 คูปองที่ใช้เป็นส่วนลด และสิทธิพิเศษเวลาไปใช้บริการตามร้านค้า ร้านอาหาร ฯลฯ ได้อีกหลายแห่ง โดยตั๋วโอซาก้า อะเมซิ่ง พาส (Osaka Amazing Pass) จะแยกออกเป็นสองประเภท คือ ตั๋ว 1 วัน (1 Day Pass) กับตั๋ว 2 วัน (2 Day Pass)