วัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

  • อ่าน (9,232)
  • ByWebmaster
  • 14:34:55 | 29 มี.ค. 2566

วัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

Wat Chaiwatthanaram, Ayutthaya, Thailand


ทางเดินเข้าไปสู่ปรางค์ประธานของวัดไชยวัฒนาราม

           วัดไชยวัฒนาราม เป็นวัดเก่าแก่ในสมัยอยุธยาตอนปลาย และเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์กรยูเนสโก เมื่อปี พ.ศ. 2534 ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา


ประวัติความเป็นมาของวัดไชยวัฒนาราม


หมู่เจดีย์ที่รายล้อมปรางค์ประธาน และในเจดีย์ทุกองค์จะมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ภายใน

           วัดไชยวัฒนาราม มีชื่อเรียกอื่นๆว่า “วัดไชยยาราม” หรือ “วัดไชยชนะทาราม” ถือเป็นวัดพระอารามหลวงในสมัยอยุธยา สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระเจ้าปราสาททองในปี พ.ศ. 2173 ที่ตั้งของวัดแห่งนี้ แต่เดิมเคยเป็นบ้านพักของพระราชมารดาที่ได้สิ้นพระชนม์ไปก่อนที่พระเจ้าปราสาททองได้เสวยราชสมบัติเป็นกษัตริย์ ภายหลังจากที่พระองค์ได้ขึ้นครองราชย์ จึงได้สร้างวัดไชยวัฒนารามขึ้นเพื่ออุทิศผลบุญนี้ให้กับพระราชมารดาของพระองค์

           วัดแห่งนี้กลายเป็นวัดหลวงที่ใช้เพื่อบำเพ็ญพระราชกุศลของบรรดาพระมหากษัตริย์ในสมัยอยุธยา และยังถูกใช้เป็นสถานที่ถวายพระเพลิงศพพระบรมวงศานุวงศ์เกือบทุกพระองค์ ทำให้วัดไชยวัฒนารามนั้นได้รับการดูแลและปฏิสังขรณ์เป็นอย่างดีในสมัยนั้น โดยหลังจากการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง วัดไชยวัฒนารามได้ถูกปล่อยทิ้งให้ร้างเรื่อยมา บางครั้งมีผู้ไม่หวังดีเข้าไปลักลอบขุดหาสมบัติ เศียรพระพุทธรูปถูกตัดขโมย มีการรื้ออิฐที่พระอุโบสถ และกำแพงวัดไปขาย จนกระทั่งกรมศิลปากรได้เข้ามาทำการอนุรักษ์ในปี พ.ศ. 2530 จนแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2535 วัดแห่งนี้จึงกลายเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มาจนถึงปัจจุบัน


การเดินทางไปจังหวัดอยุธยาจากกรุงเทพฯ

             - รถยนต์ส่วนตัว จากกรุงเทพฯ สามารถเดินทางไปจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้หลายเส้นทางดังนี้

                       ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ขับผ่านประตูน้ำพระอินทร์ แล้วแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 32 เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 309 เข้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

                       ใช้ทางหลวงหมายเลข 304 (ถนนแจ้งวัฒนะ) หรือทางหลวงหมายเลข 302 (ถนนงามวงศ์วาน) เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 306 (ถนนติวานนท์) แล้วข้ามสะพานนนทบุรีหรือสะพานนวลฉวี ไปยังจังหวัดปทุมธานีต่อด้วยเส้นทาง ปทุมธานี-สามโคก-เสนา (ทางหลวงหมายเลข 3111) เลี้ยวแยกขวาที่อำเภอเสนา เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 3263 เข้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

           ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบเส้นทางที่เหมาะสมเพิ่มเติมได้จากแอปพลิเคชัน Google Map

             - รถตู้ นักท่องเที่ยวสามรถขึ้นรถตู้กรุงเทพ-อยุธยาได้ที่สถานีขนส่งหมอชิต หรือบริเวณห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 60 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทางและจุดขึ้นลงรถ

             - รถไฟ นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการรถไฟที่วิ่งเส้นทางสายเหนือจากสถานีหัวลำโพง ลงที่สถานีพระนครศรีอยุธยา โดยมีขบวนรถไฟให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 04.20 – 22.45 น. ค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 15 บาทสำหรับรถไฟชั้น 3 นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่การรถไฟแห่งประเทศไทยที่เบอร์ 1690 หรือ www.railway.co.th


การเดินทางไปยังวัดไชยวัฒนาราม


             - รถยนต์ส่วนตัว วัดไชยวัฒนารามตั้งอยู่บริเวณนอกเกาะอยุธยา โดยใช้เส้นทางวิ่งข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยสะพานกษัตราธิราช เมื่อลงจากสะพานให้เลี้ยวซ้าย จากนั้นขับตรงไปอีกประมาณ 750 เมตร จะพบกับตัววัด (มีที่จอดรถบริการที่หน้าวัด)

             - รถตุ๊กตุ๊ก ภายในตัวเมืองอยุธยามีรถตุ๊กตุ๊กให้บริการในอัตรา 20-40 บาทต่อคน ขึ้นอยู่กับระยะทาง สำหรับการเหมารถ ค่าเช่าตุ๊กตุ๊กต่อชั่วโมงจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 200 บาท

             - Grabcar พื้นที่จ.อยุธยามีระบบเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน Grab ให้บริการ โดยสามารถตรวจสอบอัตราค่าโดยสารแต่ละครั้งได้บนหน้าจอก่อนที่จะกดเรียกรถไปยังสถานที่ต่างๆ โดยนักท่องเที่ยวสามารถดาวน์โหลดแอป Grab ได้ที่ http://grb.to/2F9a2bx


เวลาในการเปิด-ปิดทำการ

           วัดไชยวัฒนารามเปิดทำการทุกวัน เวลา 08.00-18.00น.


ส่วนรากฐานของอาคารต่างๆที่เคยปลูกสร้างอยู่รายรอบวัดไชยวัฒนารามในอดีต


การซื้อบัตรเข้าชม

           ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท

           หรือสามารถซื้อบัตรเข้าชมแบบรวมได้ ชาวไทย 40 บาท ชาวต่างชาติ 220 บาท โดยบัตรนี้สามารถเข้าชมวัดและโบราณสถานบริเวณอุทยานประวัติศาสตร์ได้ ภายในระยะเวลา 30 วัน


บริเวณกำแพงวัดไชยวัฒนารามที่มีพระพุทธรูปขนาดเล็กวางเรียงรายอยู่


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว


พื้นที่บริเวณอุโบสถของวัดไชยวัฒนาราม ที่หลงเหลืออยู่เพียงโครงสร้างส่วนฐาน และพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ภายใน

           นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเยือนวัดไชยวัฒนารามได้ตลอดทั้งปี ทั้งนี้อาจหลีกเลี่ยงในช่วงฤดูร้อน ระหว่างเดือนมีนาคม-เดือนพฤษภาคม เนื่องจากมีอาการร้อนจัด

           นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถตรวจสอบพยากรณ์อากาศล่วงหน้าเพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยวได้ที่ https://www.accuweather.com/


ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้


เจดีย์รูปแบบต่างๆที่สร้างขึ้นในเขตวัดไชยวัฒนาราม

           นักท่องเที่ยวควรแต่งกายให้สุภาพ สวมเสื้อมีแขน สวมกระโปรงหรือกางเกงขายาว และไม่สวมเสื้อผ้าที่รัดรูป จนเกินไป นอกจากนี้ ไม่ควรกระทำสิ่งใดที่เป็นการสร้างอันตรายและความเสียหายต่อตัวโบราณสถาน รวมถึงการปีนป่ายและเข้าไปยังพื้นที่ห้ามเข้าอีกด้วย

           ตั้งแต่เวลาประมาณ 19.30- 21.00 น. จะมีการประดับไฟตามโบราณสถานต่างๆในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา


           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว วัดไชยวัฒนาราม สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                       วัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

                       (Wat Chaiwatthanaram, Ayutthaya, Thailand)

                       ระดับความนิยม 

                       อัตราค่าเข้าชม : ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท

                                    หรือสามารถซื้อบัตรเข้าชมแบบรวมได้ ชาวไทย 40 บาท ชาวต่างชาติ 220 บาท

                                    โดยบัตรนี้สามารถเข้าชมวัดและโบราณสถานบริเวณอุทยานประวัติศาสตร์ได้ ภายในระยะเวลา 30 วัน

                       เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.

                       ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

                       สถานที่ตั้ง : ตำบลบ้านป้อม อำเภอเมืองพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

                       โทรศัพท์ : (+66)35-322730

                       เว็บไซต์ : -

                       ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org/home

                                       เว็บไซต์จังหวัดอยุธยา http://ww2.ayutthaya.go.th/frontpage

                                       เฟซบุ๊คการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประจำจังหวัดอยุธยา https://www.facebook.com/TatAyutthaya/

                                       เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

สวนสาธารณะเทศบาลโพธาราม จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย

สวนสาธารณะเทศบาลโพธาราม (Muang Photharam Municipal Public Park) เป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ริมเขื่อนแม่น้ำแม่กลองในอำเภอโพธาราม ภายในสวนมีบรรยากาศร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่ และยังมีส่วนของจุดชมวิว สนามหญ้า ทางวิ่งออกกำลังกาย ลานกีฬา เครื่องออกกำลังกาย และสนามเด็กเล่น สวนสาธาณะแห่งนี้เหมาะกับคนทุกวัยที่ต้องการมาเดินเล่น พักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกาย และชมวิวแม่น้ำแม่กลองที่เป็นแม่น้ำสายหลักของจังหวัดราชบุรี และที่นี่ยังใช้เป็นสถานที่จัดงานกิจกรรมและงานประเพณีต่างๆ ของเมืองโพธารามอีกด้วย

อ่านต่อ

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี (Ratchaburi National Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์จากการใช้ศาลากลางหลังเก่าของจังหวัดราชบุรีมาก่อตั้งขึ้นเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อาคารแห่งนี้เป็นอาคารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามและอยู่คู่กับจังหวัดราชบุรีมาอย่างนาวนาน และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติอีกด้วย ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรีมีนิทรรศการท้องถิ่นที่น่าสนใจของจังหวัดราชบุรีให้เที่ยวชม โดยจัดแสดงเรื่องราวทางสภาพภูมิศาสตร์และธรรมชาติวิทยา ประวัติศาสตร์และโบราณคดี ชนเผ่าชาติพันธุ์วิทยา มรดกทางธรรมชาติและวัฒนธรรม และบุคคลสำคัญ ไปจนถึงคลังโบราณวัตถุที่หาชมได้ยากตั้งแต่เครื่องปั้นดินเผาไปจนถึงพระพุทธรูปในยุคต่างๆ

อ่านต่อ

น้ำตกเก้าชั้น จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย

น้ำตกเก้าชั้น (Kaew Chan Waterfalls) เป็นน้ำตกกลางหุบเขาที่มีความสูง 9 ชั้น โดยแต่ละชั้นมีความสวยงามแตกต่างกันไป ชั้นที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดคือบริเวณชั้นที่ 6 น้ำตกเก้าชั้นสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะมีน้ำไหลทุกฤดูกาล โดยจะมีน้ำมากที่สุดและสวยที่สุดในช่วงฤดูฝน เพราะจะมองเห็นสายน้ำตกสีขาวขนาดใหญ่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงท่ามกลางป่าไม้อันเขียวขจีและเสียงของน้ำตก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่งของอำเภอสวนผึ้ง

อ่านต่อ

ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย

ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก (Lao Tuk Luck Floating Market) เป็นตลาดน้ำแห่งแรกของจังหวัดราชบุรีที่ก่อตั้งขึ้นมาก่อนตลาดน้ำดำเนินสะดวก มีลักษณะเป็นตลาดน้ำขนาดย่อมที่ตั้งอยู่บนเรือนไม้ริมน้ำที่ชุมชนชาวไทย-จีนอาศัยอยู่ ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลักมีบรรยากาศเรียบง่ายและคลาสสิก แต่มีความพลุกพล่านน้อยกว่าตลาดน้ำดำเนินสะดวก การเดินทางก็แสนง่าย แค่เพียงแค่ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำจากฝั่งตลาดน้ำดำเนินสะดวกมายังฝั่งตรงข้าม ก็จะได้พบกับเรือนไม้โบราณของชุมชนชาวจีนและลำคลองที่ตัดผ่าน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอาหารทานง่ายอร่อยๆ ให้เลือกมากมาย และมีมุมถ่ายรูปสวยๆ ให้เก็บความประทับใจ นอกจากนี้ในวันหยุดจะมีเสียงดนตรียุค 80 คลอเคล้าสร้างความเพลิดเพลินในการเดินตลาดอีกด้วย

อ่านต่อ

ตลาดน้ำอโยธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

ตลาดน้ำอโยธยา (Ayothaya Floating Market) ตลาดน้ำที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองเก่าแห่งนี้

อ่านต่อ

วัดราชบูรณะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

วัดราชบูรณะ (Wat Ratchaburana) อนุสรณ์สถานแห่งการแย่งชิงราชบัลลังค์ เป็นอีกหนึ่งในวัดที่ใหญ่ และเก่าแก่มากที่สุดในพระนครศรีอยุธยา สร้างโดยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 หรือ เจ้าสามพระยา เมื่อปี พ.ศ. 1967

อ่านต่อ

วัดมเหยงคณ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

วัดมเหยงคณ์ (Wat Mahaeyong) อดีตพระอารามหลวง และกลายเป็นวัดร้างไปภายหลังกรุงศรีอยุธยาแตกเมื่อ พ.ศ. 2310 ปัจจุบันวัดแห่งนี้ยังทำหน้าที่เป็นสถานปฏิบัติธรรม ใจกลางโบราณสถานที่เก่าแก่ของอยุธยาอีกด้วย

อ่านต่อ

10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย

จังหวัดนครสวรรค์ตั้งอยู่บริเวณภาคกลางตอนบน เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่เป็นแหล่งเกษตรกรรมของไทย อีกทั้งยังได้รับสมญานามว่าเป็นประตูสู่ภาคเหนือ และเป็นพื้นที่ต้นกำเนิดของแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ จังหวัดนครสวรรค์จึงมีทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่สวยงาม และมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายโดยเฉพาะวัดและตลาดที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ของชาวนครสวรรค์ได้เป็นอย่างดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวม 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดนครสวรรค์มาฝากทุกท่านกันในบทความนี้

อ่านต่อ

หอชมเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย

หอชมเมืองนครสวรรค์ (Nakhon Sawan Observation Tower) เป็นหอชมเมืองที่ตั้งอยู่บนเขาคีรีวงศ์ จุดชมวิวจะตั้งอยู่บริเวณชั้น 10 ของหอชมเมืองซึ่งสามารถชมวิวเมืองนครสวรรค์จากมุมสูงได้โดยรอบ และมองเห็นทิวทัศน์ของธรรมชาติที่อยู่ไกลออกไปได้อย่างเต็มตา นอกจากนี้บริเวณชั้น 1 ยังมีร้านขายของที่ระลึกซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนท้องถิ่นให้เลือกซื้ออีกด้วย หอชมเมืองนครสวรรค์จึงเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองปากน้ำโพที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ

พาสาน อาคารสัญลักษณ์ต้นน้ำเจ้าพระยา จังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย

พาสาน อาคารสัญลักษณ์ต้นน้ำเจ้าพระยา (Pasaan, The Headwaters of the Chao Phraya River Symbol Building) ตั้งอยู่บริเวณแหลมเกาะยม ซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำปิง วัง ยม น่านมาบรรจบกันและก่อกำเนิดเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา พาสานถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของนครสวรรค์ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวชม เดินเล่น ชมวิว ดูพระอาทิตย์ตกดิน และถ่ายภาพความสวยงามของอาคารและทิวทัศน์แม่น้ำโดยรอบกันอย่างเพลิดเพลิน

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ