จุดชมวิวสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 จังหวัดนครพนม ประเทศไทย

  • อ่าน (6,629)
  • ByWebmaster
  • 14:28:51 | 15 ต.ค. 2564

จุดชมวิวสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 จังหวัดนครพนม ประเทศไทย

Viewpoint of Thai-Lao Friendship Bridge 3, Nakhon Phanom, Thailand


ทัศนียภาพอันสวยงามบริเวณจุดชมวิวสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 

             จุดชมวิวสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (Viewpoint of Thai-Lao Friendship Bridge 3) เป็นจุดที่อยู่บริเวณสวนสาธารณะใต้สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 ที่บ้านห้อม ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมืองนครพนม จากบริเวณนี้สามารถมองเห็นสะพานทอดยาวข้ามแม่น้ำโขงไปยังฝั่งลาวโดยมีฉากหลังเป็นแนวทิวเขาซึ่งมีความสวยงามเป็นอย่างมาก เป็นจุดชมวิวและมุมถ่ายภาพที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดนครพนม 


แผนที่ตั้ง จุดชมวิวสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (Viewpoint of Thai-Lao Friendship Bridge 3) จังหวัดนครพนม ประเทศไทย 


ประวัติ

             สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 เป็นสะพานที่เชื่อมระหว่างฝั่งประเทศไทยและฝั่งประเทศลาว โดยในฝั่งไทยจะอยู่ที่บ้านห้อม ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมืองนครพนม ส่วนฝั่งลาวอยู่ที่บ้านเวินใต้ เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สะพานแห่งนี้เป็นเส้นทางคมนาคมขนส่งทั้งทางด้านการค้าและการท่องเที่ยว มีความยาว 780 เมตร สูง 10 เมตร และกว้าง 13 เมตร แบ่งออกเป็น 2 ช่องจราจร โดยในวันศุกร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2552 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีได้เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม - คำม่วน) ณ มณฑลพิธีบ้านห้อม ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม และในวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดอย่างเป็นทางการร่วมกับพันเอกบุนยัง วอละจิด รองประธานประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในขณะนั้น

             ในส่วนของจุดชมวิวจะอยู่บริเวณสวนสาธารณะใต้สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 ซึ่งเป็นมุมที่สามารถมองเห็นสะพานที่ทอดยาวข้ามแม่น้ำโขงไปยังฝั่งลาวโดยมีแนวทิวเขาเป็นฉากหลัง ซึ่งมีความสวยงามเป็นอย่างมาก และในบริเวณยังมีมุมถ่ายภาพสวยๆ หลายมุมให้เก็บภาพเป็นที่ระลึกอีกด้วย  


มุมถ่ายภาพบริเวณจุดชมวิวสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3


สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 ที่ทอดข้ามแม่น้ำโขงไปยังฝั่งลาว


บริเวณแนวทางเดินชมวิวริมแม่น้ำโขง


มุมถ่ายภาพเป็นที่ระลึก


สะพานแห่งนี้มีความยาว 780 เมตร


ทัศนียภาพของแม่น้ำโขงและแนวทิวเขาในฝั่งลาว


สวนสาธารณะบริเวณจุดชมวิว


เสาคู่บริเวณต้นสะพานฝั่งไทย


การเดินทางจากกรุงเทพไปยังจังหวัดนครพนม

             - รถยนต์ (Car) จากกรุงเทพไปยังจังหวัดนครพนมโดยรถยนต์ มีระยะทางประมาณ 740 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง

             - เครื่องบิน (Flight) จากกรุงเทพขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมืองหรือสนามบินสุวรรณภูมิ และลงเครื่องที่สนามบินนครพนม ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง

             - อื่นๆ (others) จากกรุงเทพ หากต้องการเดินทางโดยรถทัวร์ สามารถไปขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งหมอชิตใหม่ และลงที่สถานีขนส่งนครพนม โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลเวลาเดินรถ และค่าโดยสารได้ที่ https://ticket.transport.co.th/


การเดินทางไปจุดชมวิวสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3

             - รถยนต์ (Car) จากตัวเมืองนครพนม ไปจุดชมวิวสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 มีระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที

             สามารถเหมารถหรือเช่ารถไปยังสถานที่ต่างๆ ในจังหวัดนครพนมได้ตามความสะดวก


เวลาทำการเปิด-ปิด

             เปิดตอลดเวลา


อัตราค่าเข้าชม

             ไม่เสียค่าเข้าชม


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

             ตลอดทั้งปี 


             
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว จุดชมวิวสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                         จุดชมวิวสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 จังหวัดนครพนม ประเทศไทย

                         (Viewpoint of Thai-Lao Friendship Bridge 3, Nakhon Phanom, Thailand)

                         ระดับความนิยม : 

                         อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม

                         เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอดเวลา

                         ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

                         สถานที่ตั้ง : จังหวัดนครพนม ประเทศไทย

                         โทรศัพท์ : (+66) 042-511-287

                         เว็บไซต์ : http://www2.nakhonphanom.go.th/travel/detail/10/data.html   

                         ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com    

                                            เว็บไซต์จังหวัดนครพนม http://www2.nakhonphanom.go.th/

                                            เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org  

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย

จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้

อ่านต่อ

วัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย

วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้

อ่านต่อ

ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

น้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน

อ่านต่อ

เกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ

วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) Wat Bu Pai (Wat Ban Rai 2) เป็นวัดที่ตั้งตระหง่านบนเนินเขาในอำเภอวังน้ำเขียว ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ หรือ พระเทพวิทยาคม พระเกจิดังวัดบ้านไร่องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

อ่านต่อ

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว (Wat Saeng Tham Wang Khao Khiao) เป็นที่ตั้งของพระมหาเจดีย์ศรีแสงธรรมวิสุทธิมงคล พระมหาเจดีย์รูปทรงดอกบัวสีขาวตั้งตระหง่านสง่างามอยู่กลางคูน้ำ ท่ามกลางสวนหย่อมสีเขียวขนาดใหญ่และแวดล้อมด้วยหุบเขาสีเขียวขจีของอำเภอวังน้ำเขียว

อ่านต่อ

ผาเก็บตะวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

ผาเก็บตะวัน (Pha Kep Tawan) หนึ่งในที่เที่ยววังน้ำเขียวที่เป็นจุดชมวิวที่มีทัศนียภาพสวยงาม แวดล้อมด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ เหมาะแก่การแวะมาชมวิวผ่อนคลาย หรือหากต้องการกางเต็นท์ค้างคืนก็ได้เช่นกัน

อ่านต่อ

วัดป่าโนนสวรรค์ จังหวัดร้อยเอ็ด ประเทศไทย

วัดป่าโนนสวรรค์ (Wat Pa Non Sawan) เป็นวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดร้อยเอ็ด ภายในวัดมีความน่าตื่นตาตื่นใจของประติมากรรมปูนปั้นมากมายที่ถ่ายทอดเรื่องเกี่ยวกับพุทธประวัติ พระธรรมคำสอน รวมถึงวรรณคดีไทยชื่อดังต่างๆ ให้ได้เดินเที่ยวชม และภายในวัดยังโดดเด่นด้วยองค์เจดีย์ขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอย่างงดงาม รวมถึงศิลปะการตกแต่งที่ใช้หม้อดินมาประดับในส่วนต่างๆ โดยรอบจนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดร้อยเอ็ดที่ไม่ควรพลาดชม

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ