แหล่งศึกษาและท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์โฮจิมินห์ จังหวัดอุดรธานี ประเทศไทย

  • อ่าน (5,358)
  • ByWebmaster
  • 16:20:26 | 24 ก.พ. 2564

แหล่งศึกษาและท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์โฮจิมินห์ จังหวัดอุดรธานี ประเทศไทย

Ho Chi Minh Educational and Tourism Historical Site, Udon Thani, Thailand

              แหล่งศึกษาและท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์โฮจิมินห์ (Ho Chi Minh Educational and Tourism Historical Site) เป็นสถานที่ที่จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับชีวประวัติของประธานโฮจิมินห์ขณะที่อาศัยอยู่ในเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็นบ้านพัก ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่อยู่ในช่วงเวลานั้น และแนวทางการดำเนินชีวิตของบุคคลสำคัญแห่งประเทศเวียดนามท่านนี้ ที่ได้กอบกู้บ้านเมืองจากการเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส


ประวัติ

              แหล่งศึกษาและท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์โฮจิมินห์ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 4 ไร่ เป็นสถานที่ที่ลูกหลานคนไทยเชื้อสายเวียดนามได้รวบรวมเงินซื้อที่ดินประวัติศาสตร์แปลงนี้ แล้วมอบให้ทางจังหวัดอุดรธานี จัดสร้างเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ โดยเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ.2549 สถานที่แห่งนี้ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม และเป็นจุดหนึ่งในแผนที่ประวัติศาสตร์อันสำคัญของท่านประธานโฮจิมินห์ในต่างแดน เนื่องจากครั้งหนึ่งในอดีตจังหวัดอุดรธานีเคยเป็นที่พำนักของท่านประธานโฮจิมินห์ บุรุษผู้ซึ่งได้กอบกู้บ้านเมืองของเวียดนามจากการเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส

              อุดรธานีตั้งแต่อดีตนั้นเป็นจังหวัดที่มีชาวไทยเชื้อสายเวียดนามอาศัยอยู่จำนวนมาก ด้วยชัยภูมิที่สะดวกในการติดต่อกับหนองคาย นครพนม และที่ต่างๆ ที่มีชาวไทยเชื้อสายเวียดนามอาศัยอยู่ โดยเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2571 ท่านโฮจิมินห์ได้เดินทางเข้ามาพำนักอยู่ในอุดรธานี และใช้ชื่อว่า "เฒ่าจิ๋น" โดยในช่วงแรกๆ นั้นท่านอาศัยอยู่แถวหนองบัวใกล้สถานีรถไฟปัจจุบัน หลังจากนั้นเฒ่าจิ๋นได้ย้ายมาอยู่บ้านหนองโอน  ตำบลเชียงพิณ  อำเภอเมือง โดยอาศัยพักอยู่กับครอบครัวของเฒ่าแมด-ด๋าย ซึ่งเป็นสหายกัน ชุมชนบริเวณนี้เป็นพื้นที่ที่ชาวเวียดนามอพยพอาศัยอยู่ราว 20 - 30 ครอบครัว ส่วนมากทำการเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ ตลอดระยะเวลาที่อยู่ที่นี่ท่านได้รับความช่วยเหลือโอบเอื้อทั้งจากชาวเวียดนามและชาวไทยเป็นอย่างดี   

              ปี พ.ศ.2472 ท่านโฮจิมินห์ได้เดินทางออกจากอุดรธานี ไปยังจังหวัดอื่นๆ และกลับไปยังประเทศเวียดนาม ดำเนินการต่อสู้กับฝรั่งเศสจนได้รับเอกราชในวันที่ 2 กันยายน พ.ศ.2488 โดยได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2489 และถึงแก่อสัญกรรรม พ.ศ. 2512

แม้ปัจจุบันสิ่งก่อสร้างต่างๆ ได้สูญสลายไปหมดแล้ว ทว่าผู้ก่อตั้งได้จำลองอาคารบ้านพักของท่านโฮจิมินห์ หรือ “ลุงโฮ” ที่มีลักษณะเดียวกัน คือเป็นบ้านชั้นเดียวสร้างติดพื้นดิน ก่อสร้างแบบง่ายๆ ฝาเป็นไม้ไผ่ขัดแตะ มุงด้วยจาก พื้นปูด้วยกระเบื้องดินเผา ภายในแบ่งพื้นที่เป็นห้องโถงกลาง จัดแสดงโต๊ะประชุม โต๊ะเรียน และห้องครัว มีเตียง มุ้ง โต๊ะทำงาน จัดไว้ให้สภาพเหมือนกับสมัยที่ท่านโฮจิมินห์อาศัยอยู่

              ส่วนด้านนอก จำลองเล้าหมู เล้าไก่ ยุ้งข้าว และแปลงผักเอาไว้ ติดกับอาคารบ้านพัก เป็นอาคารชั่วคราวเปิดโล่งที่จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนชาวไทยเชื้อสายเวียดนามในจังหวัดอุดรธานี ภาพถ่ายเก่า รวมถึงนิทรรศการ "ลุงโฮในเมืองไทยและจังหวัดอุดร" ด้วย บรรยากาศรอบๆ บริเวณแหล่งศึกษาและท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์โฮจิมินห์นั้นมีความสงบ ร่มรื่นเป็นธรรมชาติ เหมาะแก่การแวะมาเที่ยวชมและพักผ่อนหย่อนใจในคราวเดียวกัน


ซุ้มประตูทางเข้าสีแดง


อาคารอเนกประสงค์


ทางแยกระหว่างอาคารอเนกประสงค์  และบ้านลุงโฮ


บ้านชั้นเดียวสร้างติดพื้นดิน ฝาเป็นไม้ไผ่ขัดแตะ มุงด้วยจาก


บรรยากาศรอบๆ ภายในแหล่งศึกษาและท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์โฮจิมินห์


การเดินทางไปจังหวัดอุดรธานี

              - เครื่องบิน (Flight) การเดินทางโดยเครื่องบินจากสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ไปสนามบินจังหวัดอุดรธานีใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง

              - รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดอุดรธานี มีระยะทาง 576 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง  

              - รถไฟ (Train) การเดินทางโดยรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดอุดรธานี ใช้เวลาเร็วสุดประมาณ 10 ชั่วโมง ทั้งนี้อาจใช้เวลานานกว่านี้ขึ้นอยู่กับประเภทของรถไฟ


การเดินทางไป
แหล่งศึกษาและท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์โฮจิมินห์

              แหล่งประวัติศาสตร์โฮจิมินห์ ตั้งอยู่ที่บ้านหนองฮาง ต.เชียงพิณ อ.เมือง ห่างจากตัวจังหวัดอุดรธานีประมาณ 12 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ 20 นาที  


เวลาทำการเปิด – ปิด

              เปิดทำการทุกวัน เวลา 8.00 – 18.00 น.


อาคารอเนกประสงค์


อัตราค่าเข้าชม

              ไม่เสียค่าเข้าชม   


ด้านหน้าอาคารอเนกประสงค์มีกระถางธูปสำหรับทำการสักการะอยู่


สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไป
แหล่งศึกษาและท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์โฮจิมินห์

              เรียนรู้ชีวประวัติของท่านโฮจิมินห์ขณะที่อาศัยอยู่ในเมืองไทย ชมบ้านพัก ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ในช่วงเวลานั้น และแนวทางการดำเนินชีวิตของบุคคลสำคัญท่านนี้


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

              สามารถเที่ยวได้ตลอดปี


              
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม แหล่งศึกษาและท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์โฮจิมินห์ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                           แหล่งศึกษาและท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์โฮจิมินห์ จังหวัดอุดรธานี ประเทศไทย

                           (Ho Chi Minh Educational and Tourism Historical Site, Udon Thani Province, Thailand)

                           ระดับความนิยม : 

                           อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม

                           เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทำการทุกวัน เวลา 8.00 – 18.00 น.

                           ตั้งอยู่ที่ : บ้านหนองฮาง ต.เชียงพิณ อ.เมือง จังหวัดอุดรธานี

                           โทรศัพท์ : (+66) 0 4222 3929

                           เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/hochiminh.udonthailand

                           ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com 

                                       ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวจังหวัดอุดรธานี https://udonthani.mots.go.th

                                       ศูนย์ข้อมูลการเดินทางจังหวัดอุดรธานี https://www.dlt.go.th/site/udonthani/m-about/6907

                                       ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย

จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้

อ่านต่อ

วัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย

วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้

อ่านต่อ

ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

น้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน

อ่านต่อ

เกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ

วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) Wat Bu Pai (Wat Ban Rai 2) เป็นวัดที่ตั้งตระหง่านบนเนินเขาในอำเภอวังน้ำเขียว ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ หรือ พระเทพวิทยาคม พระเกจิดังวัดบ้านไร่องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

อ่านต่อ

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว (Wat Saeng Tham Wang Khao Khiao) เป็นที่ตั้งของพระมหาเจดีย์ศรีแสงธรรมวิสุทธิมงคล พระมหาเจดีย์รูปทรงดอกบัวสีขาวตั้งตระหง่านสง่างามอยู่กลางคูน้ำ ท่ามกลางสวนหย่อมสีเขียวขนาดใหญ่และแวดล้อมด้วยหุบเขาสีเขียวขจีของอำเภอวังน้ำเขียว

อ่านต่อ

ผาเก็บตะวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

ผาเก็บตะวัน (Pha Kep Tawan) หนึ่งในที่เที่ยววังน้ำเขียวที่เป็นจุดชมวิวที่มีทัศนียภาพสวยงาม แวดล้อมด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ เหมาะแก่การแวะมาชมวิวผ่อนคลาย หรือหากต้องการกางเต็นท์ค้างคืนก็ได้เช่นกัน

อ่านต่อ

วัดป่าโนนสวรรค์ จังหวัดร้อยเอ็ด ประเทศไทย

วัดป่าโนนสวรรค์ (Wat Pa Non Sawan) เป็นวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดร้อยเอ็ด ภายในวัดมีความน่าตื่นตาตื่นใจของประติมากรรมปูนปั้นมากมายที่ถ่ายทอดเรื่องเกี่ยวกับพุทธประวัติ พระธรรมคำสอน รวมถึงวรรณคดีไทยชื่อดังต่างๆ ให้ได้เดินเที่ยวชม และภายในวัดยังโดดเด่นด้วยองค์เจดีย์ขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอย่างงดงาม รวมถึงศิลปะการตกแต่งที่ใช้หม้อดินมาประดับในส่วนต่างๆ โดยรอบจนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดร้อยเอ็ดที่ไม่ควรพลาดชม

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ