วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย

  • อ่าน (5,649)
  • ByWebmaster
  • 17:51:03 | 24 พ.ค. 2561

วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย

Wat Chedi Luang, Chiang Mai Province, Thailand

 

             วัดเจดีย์หลวง หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ วัดโชติการาม เป็นหนึ่งในวัดสำคัญและแหล่งท่องเที่ยวที่ห้ามพลาด ของเมืองเชียงใหม่ ภาคเหนือของประเทศไทย

           ทั้งนี้ วัดเจดีย์หลวงถือเป็นพระอารามหลวงเก่าคู่เมืองเชียงใหม่มาตั้งแต่อดีต ได้รับการบูรณะมาหลายต่อหลายสมัย อีกทั้งภายในวัดยังมีพระเจดีย์โบราณองค์ใหญ่แม้จะได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวเมื่อหลายร้อยปีก่อนจนยอดถล่มลงมา แต่ขนาดที่เหลืออยู่ก็ยังกว้างถึงด้านละ 60 เมตร ถือเป็น องค์พระเจดีย์ที่มีความสำคัญองค์หนึ่งในเชียงใหม่ และตั้งอยู่ใจกลางตัวเมืองเชียงใหม่ ทั้งยังถือว่าเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ความรุ่งเรืองของเมืองเชียงใหม่ในฐานะศูนย์กลางการปกครองล้านนาในอดีต

           และนอกจากพระเจดีย์องค์ใหญ่แล้ว ปัจจุบันวัดเจดีย์หลวงยังเป็นที่ตั้งของ เสาอินทขีล ซึ่งถือเป็นหลักเมืองสำคัญที่ชาวเชียงใหม่ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งอีกด้วย


พระเจดีย์หลวงและวิหารหลวง สถานที่สำคัญภายในวัดเจดีย์หลวงเมืองเชียงใหม่ 


องค์พระตามคติศิลปะล้านนาในศาลารอบพระเจดีย์หลวงอันงดงามจับตา 


พระวิหารหลวงหน้าพระเจดีย์หลวง อีกหนึ่งอาคารที่ไม่ควรพลาดภายในวัดพระเจดีย์หลวง 


ภายในพระวิหารหลวงซึ่งประดิษฐานพระอัฎฐารสที่ชาวเชียงใหม่ศรัทธา 


พระเจดีย์ประจำปีนักษัตรจำลองภายในพระวิหารหลวง 


หออินทขีล ที่ประดาฐานเสาอินทขีลหรือเสาหลักเมืองเชียงใหม่ที่วัดเจดีย์หลวง 


วิหารบุรพจารย์อีกหนึ่งสถาปัตยกรรมอันละเอียดประณีตในวัดพระเจดีย์หลวง 


ไม่ไกลนักมีเจดีย์ที่แม้จะอายุไม่มากแต่ก็ได้รับการออกแบบมาให้เข้ากับสถาปัตยกรรมอื่นๆเช่นกัน

 

ความเป็นมาของวัดเจดีย์หลวง

           ตำนานเมืองเหนือหลายฉบับเล่าว่า พระเจดีย์องค์ใหญ่ของวัดเจดีย์หลวง ถูกสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกในช่วงประมาณปี 1385 (พ.ศ. 1928) อันเป็นสมัยของพระเจ้าแสนเมืองมาผู้เป็นเจ้าเมืองเชียงใหม่ในขณะนั้น และสร้างต่อเนื่องมาจนถึงสมัยพระเจ้าสามฝั่งแถนผู้เป็นโอรส โดยแรกเริ่มพระเจดีย์หรือที่เรียกกันว่า กู่หลวง แห่งนี้มีขนาดไม่ใหญ่นัก จนสมัยถัดมา ได้มีการเสริมฐานและสร้างเพิ่มเติม จนกลายเป็นเจดีย์สูงกว่า 90 เมตร และกว้างถึง 50 เมตร สามารถมองเห็นได้แต่ไกล

           แต่น่าเสียดายที่ประมาณช่วงปี 1545 (พ.ศ.2088) ได้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขึ้น ทำให้เจดีย์พักลงมา และถูกทิ้งร้างไว้นานกว่า 400 ปี ก่อนจะกลับมาได้รับความสำคัญอีกครั้ง ในสมัยรัตนโกสินทร์ เมื่อเจ้ากาวิละได้ทรงฟื้นฟูเมืองเชียงใหม่ และได้นำเสาอินทขีลอันเป็นหลักเมืองสำคัญมาประดิษฐานไว้ยังที่นี่ และในสมัยของพลตรีเจ้าแก้วนวรัฐขึ้นเป็นผู้ครองนครเชียงใหม่ปี 1928 (พ.ศ.2471) ได้มีการจัดการกับรากไม้ที่ห่อหุ้มองค์พระเจดีย์อยู่ รวมถึงบูรณะวิหารและบริเวณรอบๆ ก่อนที่องค์พระเจดีย์หลวงจะได้รับการบูรณะครั้งใหญ่โดยกรมศิลปากรในปี 1990 (พ.ศ. 2533) ด้วยงบประมาณกว่า 30 ล้านบาท (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.med.cmu.ac.th/secret/admin/web/custom8.html)


องค์พระเจดีย์หลวงในปัจจุบันหลังผ่านกาลเวลามากกว่า 600 ปี

 

การเดินทางไปวัดเจดีย์หลวง อ.เมือง จ.เชียงใหม่

           วัดเจดีย์หลวง เป็นวัดที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ ซึ่งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทย และเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญทั้งในด้านของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว และอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศไทยประมาณ 696 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวจึงสามารถเดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่ได้หลายวิธี คือ

             - เครื่องบิน นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการเที่ยวบินได้ทั้งจาก ท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มาลงที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปทางใต้ 4 กิโลเมตร โดยใช้เวลาเดินทางเพียง 1.30 – 2 ชั่วโมงเท่านั้น ถือเป็นการเดินทางที่สะดวกสบายและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสายการบินที่ให้บริการ รวมถึงตารางเวลาเพิ่มเติมได้ที่ http://chiangmaiairportthai.com/

             - รถโดยสารประจำทาง บริการขนส่งสาธารณะที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับผู้ที่เดินทางไป จ.เชียงใหม่ เนื่องมาจากจำนวนรอบต่อวันที่ค่อนข้างมาก รวมถึงเที่ยวเวลาและผู้ให้บริการที่มีให้เลือกหลากหลาย โดยนักท่องเที่ยวสามารถเลือกขึ้นรถได้ที่ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) (หรือสถานีหมอชิต) และลงที่สถานีขนส่งผู้โดยสารเชียงใหม่ แห่งที่ 3 ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 9 – 12 ชั่วโมง นักท่องเที่ยวที่ต้องการทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางเพิ่มเติม สามารถตรวจสอบเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 1490, 0-2872-1777 หรือเว็บไซต์ http://www.busticket.in.th และเว็บไซต์ http://www.thairoute.com 

             - รถไฟ เป็นอีกบริการขนส่งสาธารณะสำหรับเดินทางไปเชียงใหม่ ซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนยาวในระหว่างการเดินทาง เนื่องจากใช้เวลาในการเดินทางยาวประมาณ 11 – 13 ชั่วโมง โดยนักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบรายละเอียดเวลา, ราคา ตลอดจนสำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ที่ http://www.railway.co.th/ หรือหมายเลขโทรศัพท์ 1690

             - รถยนต์ / รถรับจ้าง เป็นอีกหนึ่งการเดินทางที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเช่นกัน เนื่องจากเป็นการเดินทางที่สะดวกสบาย และนักท่องเที่ยวยังสามารถเลือกแวะพักหรือท่องเที่ยวจังหวัดระหว่างทางซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจไม่แพ้กันได้อีกด้วย

           ทั้งนี้หลังจากมาถึงเมืองเชียงใหม่แล้ว นักท่องเที่ยวสามารถไปยังวัดเจดีย์หลวง ซึ่งตั้งอยู่ ใจกลางตัวเมืองเชียงใหม่ อย่างง่ายๆ หลายวิธี อาทิ 

             - รถโดยสารประจำทางสีแดง (รถแดง) หรือ รถตุ๊กตุ๊ก ซึ่งให้บริการวิ่งวนรอบเมืองเชียงใหม่ นักท่องเที่ยวสามารถเรียกรถได้ทั้งจากที่สถานีขนส่งเชียงใหม่ หรือบริเวณอื่นๆในตัวเมือง โดยสามารถตกลงราคากันได้ประมาณ 15 – 60 บาท/คน ตามแต่จุดที่นักท่องเที่ยวขึ้นรถ

             - รถแท็กซี่เมืองเชียงใหม่ ซึ่งมีให้บริการทั้งจาก แท็กซี่ของตัวเมืองเชียงใหม่ โดยนักท่องเที่ยวสามารถดูรายละเอียดและอัตราค่าบริการกรณีเหมาจ่ายได้ที่ http://www.taxichiangmai.com/  หรืออาจเลือกใช้บริการแท็กซี่อย่าง Grabcar  ซึ่งเมืองเชียงใหม่มีบริการระบบเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน Grab โดยสามารถตรวจสอบอัตราค่าโดยสารแต่ละครั้งได้บนหน้าจอก่อนที่จะกดเรียกรถไปยังสถานที่ต่างๆ โดยนักท่องเที่ยวสามารถดาวน์โหลดแอป Grab ได้ที่ http://grb.to/2F9a2bx

             - รถยนต์/รถจักรยานยนต์ นักท่องเที่ยวที่นำรถไปเอง สามารถนำรถไปจอดภายในบริเวณวัดได้

             - การเดินเท้า สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีที่พักอยู่ในตัวเมืองแล้ว สามารถเดินทางไปยังวัดเจดีย์หลวงได้ง่ายๆ โดยสามารถเลือกดูรายละเอียดระยะทางและเวลาเพิ่มเติมโดยการใช้บริการ https://www.google.com/maps

 

เวลาในการเปิด-ปิดทำการ

           นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยวชมวัดเจดีย์หลวงได้ ทุกวัน โดยประตูใหญ่ของวัดเจดีย์หลวงจะเปิดตั้งแต่ เวลา 05.00 น. – 22.30 น.


ประตูใหญ่ของวัดเจดีย์หลวงและเวลาในการเปิด – ปิดประตู

 

อัตราค่าเข้าชม

           นักท่องเที่ยวชาวไทย สามารถเข้าชมวัดเจดีย์หลวงได้ ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ต้องเสียค่าบัตรผ่าน  40 บาท/คน

 

สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดเจดีย์หลวง

           เนื่องจากความเป็นมาอันเก่าแก่และความสำคัญของวัดเจดีย์หลวง ทำให้ภายในวัดเต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้างทั้งอาคารสถาปัตยกรรมและประติมากรรมอันสวยงามมากมายหลายแห่ง ให้นักท่องเที่ยวเลือกชื่นชมได้ อาทิ

 

วิหารหลวง

 

           วิหารหลวงที่เห็นในปัจจุบันได้รับการก่อสร้างใหม่ในปี 1928 (พ.ศ. 2471) ด้วยความร่วมมือระหว่างเจ้าคุณอุบาลีคุณปรมาจารย์(สิริจันทะเถระ) และเจ้าแก้วนวรัฐ แต่โครงเดิมของตัววิหารและบันไดนาคที่มีความสวยงามนั้นเคยเป็นของเก่ามาก่อนเป็นอย่างมาก โดยวิหาร(เดิม)แห่งนี้เคยเป็นที่ประกอบพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัจจาในสมัยของรัชกาลที่ 5 และภายในวิหารยังเป็นที่ประดิษฐานของ พระอัฎฐารส พระประธานในโบสถ์ซึ่งเป็นพระเก่าแก่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยปี 1411 (พ.ศ. 1954) อีกด้วย


พระอัฎฐารส พระประธานเก่าแก่ปางห้ามญาติภายในวิหารหลวง

 

 พระธาตุเจดีย์หลวง

           ถือเป็นพระเจดีย์ที่ สูงที่สุดในภาคเหนือ โดยมีความสูงประมาณ 80 เมตร ฐานกว้างด้านละ 60 เมตร สันนิฐานว่ารูปทรงถูกสร้างเป็นแบบโลหะปราสาท ส่วนองค์พระเจดีย์ที่เหลืออยู่ในปัจจุบันมีลักษณะอย่างศิลปะพุกาม บริเวณฐานสี่เหลี่ยมเชื่อว่าเคยประดับด้วยปูนปั้นรูปช้าง แต่ปัจจุบันได้รับความเสียหายเนื่องจากกาลเวลา เช่นเดียวกับบันไดนาคที่หลงเหลือให้เห็นไม่มากนัก แต่ก็ยังถือว่าเป็นพระเจดีย์ที่สวยงามและเป็นสัญลักษณ์อีกหนึ่งแห่งของเมืองเชียงใหม่


พระเจดีย์หลวง สัญลักษณ์ของวัดเจดีย์หลวงเมืองเชียงใหม่วันนี้ที่ยังยิ่งใหญ่ตระการตา

 

หออินทขีล ศาลหลักเมืองเชียงใหม่ 

           เดิมทีเสาอินทขีล หรือเสาหลักเมืองเชียงใหม่นั้น ตั้งอยู่ที่วัดอินทขีลสะดือเมือง แต่ในสมัยของพระเจ้ากาวิละ (1782 – 1813) ซึ่งเป็นเจ้าผู้ครองเชียงใหม่องค์แรกแห่งราชวงศ์ทิพย์จักร  และเป็นผู้ฟื้นฟูเมืองเชียงใหม่ที่ตกอยู่ใต้อิทธิพลพม่ามาเนิ่นนานให้รุ่งเรืองอีกครั้ง เนื่องในโอกาสดังกล่าว จึงได้มีการเคลื่อนย้ายเสาหลักเมืองมาประดิษฐานยังวัดเจดีย์หลวง และเป็นหนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่ชาวเชียงใหม่ให้ความนับถือตราบจนทุกวันนี้


หออินทขีลที่ประดิษฐานเสาอินทขีลหรือเสาหลักเมือง ที่นอกจากเป็นศูนย์รวมศรัทธาแล้วยังเป็นอีกหนึ่งสถาปัตยกรรมศิลปะล้านนาอันทรงคุณค่า 

           นอกจากสถานที่สำคัญทั้งสามแห่งด้านบนที่ต้องไปเยือนแล้ว ภายในวัดเจดีย์หลวงยังมีสิ่งอื่นๆที่สวยงามอีกมาก ไม่ว่าจะเป็น วิหารท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ซึ่งเป็นพระภิกษุที่ได้รับความเคารพนับถืออีกท่านหนึ่ง โดยวิหารของท่านพระอาจารย์มั่นฯ แม้จะไม่ได้มีประวัติเก่าแก่ยาวนาน แต่ก็มีเป็นอาคารสถาปัตยกรรมที่ก่อสร้างด้วยศิลปะล้านนาที่ประณีตงดงามอย่างมาก หรือ ศาลารายรอบพระเจดีย์หลวง ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์สำคัญๆที่มีลักษณะอันเป็นเอกลักษณ์ของศิลปะล้านนาอย่าง องค์พระไสยาสน์ หรือบางองค์ก็ได้รับอิทธิพลจากศิลปะพม่า กลายเป็นความงดงามอันน่าแปลกตาที่ควรไปชื่นชมอย่างยิ่ง


วิหารท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต อีกหนึ่งที่ต้องแวะภายในวัดเจดีย์หลวง 


อีกหนึ่งวิหารในวัดเจดีย์หลวงที่โดดเด่นด้วยรูปทรงสถาปัตยกรรมล้านนาซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวไม่แพ้กัน 


พระไสยาสน์ที่ประดิษฐานอยู่ในศาลารายรอบพระเจดีย์หลวง ที่ผู้คนนิยมไปกราบไหว้บูชา 


องค์พระซึ่งได้รับอิทธิพลผสมระหว่างศิลปะพม่าและล้านนาในศาลาราย

 

ฤดูกาลและเทศกาลสำคัญกับการเที่ยววัดเจดีย์หลวง

           นักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวชมความสวยงามของวัดเจดีย์หลวงได้ทุกฤดู โดยช่วงที่ได้รับความนิยมที่สุดคือ ช่วงฤดูหนาวในเดือนพฤศจิกายน – เดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศค่อนข้างเย็นสบาย เหมาะแก่การเดินเที่ยวชม แต่หากนักท่องเที่ยวเลือกไปเที่ยวในช่วงฤดูร้อน หรือเดือนมีนาคม – เดือนมิถุนายน นักท่องเที่ยวต้องเตรียมรับมือกับอากาศร้อน (อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 30 องศาเซสเซียสขึ้นไป) และลมมรสุมหน้าร้อน เช่นเดียวกับในฤดูฝน (เดือนกรกฏาคม – เดือนตุลาคม) ซึ่งมักจะมีฝนฟ้าคะนองกะทันหันบ่อยครั้งจนอาจเป็นอุปสรรคต่อการเที่ยวชมได้


วันที่อากาศปลอดโปร่ง นักท่องเที่ยวจะสามารถเก็บภาพความงามของสถานที่ได้อย่างชัดเจน

           นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวสามารถเลือกมาเที่ยวในช่วงเทศกาลประจำปีของวัดเจดีย์หลวงอย่าง งานประเพณีบูชาเสาอินทขีล หรือเสาหลักเมืองสำคัญที่อยู่ภายในวัดเจดีย์หลวง ซึ่งภายในงานจะมีพิธีสำคัญที่หาดูได้ยากหลายอย่าง อาทิ พิธีบูชาเสาอินทขีล, พิธีใส่ขันดอก, การใส่บาตรพระประจำวันเกิด, พิธีสรงน้ำพระเจ้าฝนแสนห่า, พิธีสืบชะตาเมือง เป็นต้น


หน้าหออินทขีลทุกๆเดือนพฤษภาคมจะมีการจัดงานประเพณีบูชาเสาอินทขีลที่จะมีประชาชนมาร่วมงานอย่างล้นหลามทุกปี

           และนอกจากเทศกาลประจำปีนี้แล้ว ในช่วงวันสำคัญต่างๆ อาทิ วันขึ้นปีใหม่, วันสงกรานต์ หรือ ฯลฯ วัดเจดีย์หลวงยังอาจมีกิจกรรมพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวที่แวะไปอีกด้วย ซึ่งนักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถตรวจสอบเวลาในการจัดงานเทศกาลต่างได้ที่หน้าแฟนเพจการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ https://www.facebook.com/tatchiangmai/


บริเวณหน้าพระเจดีย์หลวงซึ่งหากเป็นเทศกาลสำคัญๆ อาทิ ปีใหม่ หรือสงกรานต์ จะมีการกางเต๊ณฑ์ไว้สำหรับจัดกิจกรรมตามประเพณี 

           แต่มีข้อควรระวังคือ ในช่วงเวลาดังกล่าว อาจจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากและอาจทำให้การจราจรติดขัดอย่างมากได้ นักท่องเที่ยวจึงควรวางแผนการเดินทางให้ดี

           ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวควรใช้เวลาในการเที่ยวชมวัดเจดีย์หลวง ไม่น้อยกว่า 3-4 ชั่วโมง และสามารถตรวจสอบสภาพอากาศล่วงหน้าได้ที่ www.accuweather.com

 

ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้ในการเที่ยววัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่

           วัดเจดีย์หลวง นอกจากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมแล้ว ยังเป็นศาสนสถานที่สำคัญที่ชาวเชียงใหม่ให้ความเคารพและศรัทธา นักท่องเที่ยวที่ไปเยี่ยมชม จึงควรแต่งกายสุภาพ งดสวมเสื้อไม่มีแขน และกางเกงหรือกระโปรงสั้น และควรปฏิบัติตามข้อห้ามของทางวัด อาทิ ห้ามผู้หญิงเข้าบางเขต หรือห้ามใส่รองเท้าเข้าไปบางสถานที่ อย่างเคร่งครัด


บางบริเวณของวัดอาจเป็นสถานที่สำหรับพระสงฆ์ นักท่องเที่ยวควรตรวจดูให้ดีก่อน

           ทั้งนี้ เนื่องจากวัดเจดีย์หลวงตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ จึงมีบริการร้านอาหารและที่พักแรมให้นักท่องเที่ยวเลือกพักมากมายหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นโฮสเทส หรือบูติคโฮเทล และสำหรับนักท่องเที่ยวที่เที่ยวชมวัดพระธาตุดอยสุเทพเสร็จแล้ว แต่ยังมีเวลาเหลือ สามารถเลือกที่จะไปเที่ยวชมสถานที่แห่งอื่นๆที่อยู่ไม่ห่างกันนัก อาทิ วัดพระสิงห์, อนุสาวรีย์สามกษัตริย์  หรือ ฯลฯ หรือรอเลือกซื้อสินค้าที่น่าสนใจในถนนคนเดินวันอาทิตย์ (ถนนท่าแพ) ซึ่งจะจัดขึ้นในบริเวณใกล้ๆก็ได้เช่นกัน


บรรยากาศของวัดเจดีย์หลวงยามค่ำคืนวันอาทิตย์ที่มีการจัดถนนคนเดินท่าแพ

 

           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม วัดเจดีย์หลวง สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                       วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย

                       (Wat Chedi Luang, Chiang Mai Province , Thailand)

                       ระดับความนิยม

                       อัตราค่าเข้าชม : ฟรีสำหรับชาวไทย ชาวต่างชาติ 40 บาท

                       เวลาเปิด – ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน โดยประตูวัดจะเปิดตั้งแต่เวลา 05.00 น. – 22.30 น.

                       ฤดูกาลต่างๆในการท่องเที่ยว : ฤดูหนาว (เดือนธันวาคม – เดือนกุมภาพันธ์) เป็นฤดูกาลที่ได้รับความนิยมที่สุดในการท่องเที่ยว

                                                 ระวังอากาศที่ร้อนจัดในเดือนเมษายน – เดือนมิถุนายน

                                                 และหลีกเลี่ยงช่วงเทศกาลเนื่องจากนักท่องเที่ยวจะมีปริมาณมาก

                       ตั้งอยู่ที่ : อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย

                       โทรศัพท์ : (+66)053-814-308         

                       ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                                       การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) https://thai.tourismthailand.org/

                                       สำนักงานการท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่ http://www.cm-mots.com/

                                       Facebook Fanpage การท่องเที่ยวเชียงใหม่ https://www.facebook.com/tatchiangmai/

                                       บริการขนส่ง (รถทัวร์ประจำทาง) http://www.busticket.in.th, http://www.thairoute.com 

                                       บริการรถเมลล์เชียงใหม่ http://www.cityupdate.in.th/chiangmai/?p=23       

                                       ท่าอากาศยานนานาชาติ จ.เชียงใหม่ http://www.airportthai.co.th/chiangmai/th

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดพะเยา ประเทศไทย

จังหวัดพะเยาเป็นจังหวัดทางภาคเหนือที่เต็มไปด้วยวัดสวยๆ หลายแห่งที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมล้านนาอย่างงดงาม และยังเป็นที่ตั้งของวนอุทยานภูลังกาที่มีธรรมชาติอันสวยงามและอุดมสมบูรณ์ รวมถึงอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่อย่างกว๊านพะเยาให้เที่ยวชมอีกด้วย วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดพะเยามาฝากทุกท่านเพื่อเป็นแนวทางในการจัดทริปเที่ยวเหนือกันในวัดหยุดที่กำลังจะมาถึงนี้

อ่านต่อ

วัดพระนั่งดิน จังหวัดพะเยา ประเทศไทย

วัดพระนั่งดิน (Wat Phra Nang Din) เป็นวัดเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดพะเยา ไฮไลท์ของวัดแห่งนี้อยู่ที่องค์พระประธานภายในวิหารของวัด นามว่าพระเจ้านั่งดินที่ประดิษฐานอยู่บนพื้น ซึ่งต่างจากพระพุทธรูปทั่วไปที่ต้องประดิษฐานอยู่บนฐาน ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากในอดีตเกิดเหตุการณ์อัศจรรย์ที่ไม่มีใครสามารถยกพระพุทธรูปขึ้นได้ แม้ต่อมาในยุคสมัยใหม่จะสามารถยกขึ้นประดิษฐานบนฐานได้ แต่หลังจากนั้นก็เกิดฟ้าผ่าลงหลังคาวิหารถึงสามครั้งจนต้องอัญเชิญพระพุทธรูปนี้ลงมาประดิษฐานไว้บนพื้นเช่นเดิม วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวและผู้มีจิตศรัทธาเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ

จุดชมวิวภูลังกา จังหวัดพะเยา ประเทศไทย

จุดชมวิวภูลังกา (Phu Lanka Viewpoint) เป็นจุดชมวิวภายในวนอุทยานภูลังกาซึ่งเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของอำเภอเชียงคำและอำเภอปง ไฮไลท์ของจุดชมวิวนี้อยู่ที่สามารถชมทัศนียภาพของภูเขาและหน้าผาต่างๆ ได้แบบพาโนรามา มีความสวยงามแตกต่างกันไปตามแต่ละฤดูกาลและชมวิวได้ไกลถึงฝั่งลาว โดยช่วงเวลาที่ได้รับการยอมรับว่าสวยที่สุดคือช่วงปลายฝนต้นหนาวที่มีทะเลหมอกล่องลอยท่ามกลางยอดดอยและหน้าผา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมที่สุดในจังหวัดพะเยา

อ่านต่อ

๑๒ วัดสวยในภาคเหนือ พุทธศิลป์แห่งอาณาจักรล้านนา

ภาคเหนือ เป็นหนึ่งในภูมิภาคของประเทศไทย ที่มีวิถีชีวิตของชาวพื้นเมือง และขนบธรรมเนียมประเพณีที่เรียบง่าย มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ และมีชื่อเสียงอยู่มากมาย รวมไปถึงมีผลงานพุทธศิลป์แบบล้านนาสุดแสนจะวิจิตร ที่สะท้อนออกมาในรูปแบบของสถาปัตยกรรมและประติมากรรมในวัดวาอารามต่าง ๆ เป็นเอกลักษณ์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวแวะมากราบสักการะ พร้อมชื่นชมผลงานศิลปะล้านนาที่อ่อนช้อย และทรงคุณค่า วันนี้ Palanla จึงจะขอชวนออกเดินทางไปเที่ยวชม และรับสิริมงคลกับ 12 วัดสวยในภาคเหนือกันค่ะ

อ่านต่อ

อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย

อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ (Doi Inthanon National Park) สถานที่ท่องเที่ยวอันมีชื่อเสียงประจำจังหวัดเชียงใหม่ อุทยานที่สวยงาม และแวดล้อมไปด้วยทิวเขาสูงสลับซับซ้อน น้ำตก ถ้ำ ผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนในทุกๆปี

อ่านต่อ

อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย ประเทศไทย

อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า (Phu Chi Fa National Park) ผืนป่าบนยอดดอยที่มีจุดชมทะเลหมอก พระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก ที่มีความสวยงามติดอันดับต้นๆ ของเมืองไทย

อ่านต่อ

วัดจามเทวี จังหวัดลำพูน ประเทศไทย

วัดจามเทวี (Wat Chamdhevi) วัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดลำพูน ภายในวัดมีเจดีย์บรรจุอัฐิของพระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญไชย วัดแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์โบราณคดีที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทยด้วย

อ่านต่อ

กู่ช้าง กู่ม้า จังหวัดลำพูน ประเทศไทย

กู่ช้าง กู่ม้า (Khu Chang – Khu Ma) เป็นโบราณสถานที่สำคัญของจังหวัดลำพูน โดยเชื่อว่ากู่ช้าง เป็นสุสานช้างศึกคู่บารมีของพระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญชัย ส่วนกู่ม้า เป็นสุสานม้าทรงของพระโอรสในพระนางจามเทวี

อ่านต่อ

พระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชราชานุสรณ์ จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย

พระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชราชานุสรณ์ (King Naresuan Stupa) เป็นอนุสรณ์สถานที่สร้างขึ้นในรูปแบบของสถูปเจดีย์พร้อมกับพระบรมรูปเพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และรำลึกเหตุการณ์ครั้งที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเคยเสด็จมาประทับแรมที่เมืองงายแห่งนี้ก่อนกรีฑาทัพต่อไปยังเมืองอังวะของพม่าเมื่อปี พ.ศ. 2147 โดยสร้างขึ้นในบริเวณที่เคยเป็นเส้นทางเดินทัพเมื่อในอดีต นักท่องเที่ยวและชาวเมืองเชียงใหม่นิยมมาสักการะและขอพร นอกจากนี้ ภายในบริเวณยังมีส่วนนิทรรศการค่ายหลวงจำลองที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชซึ่งกรมศิลปากรจัดสร้างขึ้นเพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้เที่ยวชมและเรียนรู้ประวัติศาสตร์อีกด้วย

อ่านต่อ

น้ำตกแม่สา จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย

น้ำตกแม่สา (Mae Sa Waterfall) เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติยอดนิยมในอำเภอแม่ริม น้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกขนาดใหญ่มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 10 ชั้น สามารถเดินขึ้นไปชมความงดงามในแต่ละชั้นได้ตามทางเดินที่ทางอุทยานจัดทำไว้ให้ และหากใครสนใจเล่นน้ำคลายร้อนก็สามารถลงเล่นน้ำได้เช่นกัน โดยชั้นที่เป็นที่นิยมคือชั้นที่ 3-6 เพราะค่อนข้างปลอดภัยและสามารถเล่นได้ทั้งครอบครัว นอกจากนี้ภายในบริเวณยังมีร้านค้า ร้านอาหาร และห้องน้ำให้บริการอีกด้วย

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ