ศาลเจ้าทานซาน จังหวัดนารา ประเทศญี่ปุ่น

  • อ่าน (3,474)
  • By Webmaster
  • 03:58:12 | 2 ก.พ. 2566

ศาลเจ้าทานซาน จังหวัดนารา ประเทศญี่ปุ่น

Tanzan Shrine, Nara, Japan


เจดีย์ 13 ชั้นในศาลเจ้าทานซาน ซึ่งสามารถพบได้ที่เดียวในประเทศญี่ปุ่น

           ศาลเจ้าทานซาน เป็นศาลเจ้าประจำตระกูลฟูจิวาระ ซึ่งเป็นกลุ่มขุนนางที่เคยมีอำนาจและอิทธิพลอย่างยิ่งใหญ่ต่อราชสำนักญี่ปุ่นในยุคเฮอัน เช่นเดียวกับศาลเจ้าคาสุงะ ไทฉะ ถือเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีขึ้นชื่อในนารา และมีเจดีย์ไม้สิบสามชั้น ซึ่งมีความเก่าแก่และสามารถพบได้ที่เดียวในญี่ปุ่นเท่านั้น ตั้งอยู่เขตซากุไร เมืองนารา ประเทศญี่ปุ่น


ประวัติความเป็นมาของศาลเจ้าทานซาน


ทางเดินเข้าไปสู่อาคารหลักของศาลเจ้าทานซาน

 

           แต่เดิม ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นวัดที่มีชื่อว่า วัดโทโนะมิเนะ(Tonomine Temple) สร้างขึ้นในยุคอาซุกะ หรือราว ค.ศ. 538-710 โดยพระภิกษุโจเอ ซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของฟุจิวาระ โนะ คามาทาริ ผู้ก่อตั้งตระกูลฟุจิวาระในสมัยที่นาราเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น และกลายมาเป็นวัดที่องค์จักรพรรดิไดโกะ และองค์จักรพรรดิโกะ ฮานาโซโนะ ให้ความนับถือเป็นอย่างมาก

           วัดโทโนมิเนะกลายมาเป็นศาลเจ้าในสมัยเมจิของญี่ปุ่น ตามหนึ่งในนโยบายของการปฏิรูปเมจิที่ต้องการแยกชินโตออกมาจากศาสนาพุทธ ให้เป็นศาสนาอีกศาสนาหนึ่งโดยเฉพาะ ตั้งแต่นั้นมาวัดแห่งนี้จึงกลายมาเป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโต และมีชื่อเรียกอื่นๆเช่น ศาลเจ้าโทโนมิเนะ หรือศาลเจ้าดันซาน เป็นต้น


การเดินทางไปยังศาลเจ้าทานซาน

           - จากสถานี JR Nara โดยสารรถไฟมาลงที่สถานี JR Sakurai ใช้เวลาเดินทาง 32 นาที ค่าโดยสาร 320 เยน

           - จากสถานี JR Sakurai เดินออกจากสถานีด้วยทางออกทิศใต้ และต่อรถบัสไปลงที่ป้าย “Tanzan-Jinja” ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาที ค่าโดยสารรถบัส 410 เยน


เวลาในการเปิด-ปิดทำการ

           ศาลเจ้าทานซานเปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 – 17.00 น.


อาคารหลักของศาลเจ้าทานซานถูกห้อมล้อมด้วยพรรณไม้หลากสีสันในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี


การซื้อบัตรเข้าชม

           ศาลเจ้าทานซานมีค่าเข้าชม 600 เยน


เสาโทริอิสีแดงระหว่างทางเดินขึ้นไปยังศาลเจ้าทานซาน


จุดท่องเที่ยวสำคัญบริเวณศาลเจ้าทานซาน


เจดีย์ 13 ชั้นความสูง 17 เมตร ซึ่งถูกสร้างขึ้นใหม่ในปี 1532 หลังจากถูกไฟไหม้

             - เจดีย์ 13 ชั้น เป็นเจดีย์ไม้โบราณ ความสูง 17 เมตร ถูกสร้างขึ้นพร้อมกับตัววัดในยุคอาซุกะ หรือราว ค.ศ. 538-710 แต่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ไฟไหม้ในปี ค.ศ. 1173 และถูกบูรณะขึ้นใหม่อีกครั้งใน ค.ศ. 1532 จนมีสภาพแบบที่เห็นในปัจจุบัน ถือเป็นเจดีย์ 13 ชั้นแห่งเดียวที่สามารถพบได้ในประเทศญี่ปุ่น และเป็นเจดีย์ที่มีจำนวนชั้นมากที่สุดอีกด้วย


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว


นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสความงามของใบไม้เปลี่ยนสีได้จากทุกบริเวณภายในศาลเจ้า

           นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเยือนศาลเจ้าทานซานได้ตลอดทั้งปี โดยศาลเจ้าแห่งนี้จะมีความสวยงามเป็นพิเศษในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ระหว่างกลางเดือนถึงประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน

           นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถตรวจสอบพยากรณ์อากาศล่วงหน้าเพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยวได้ที่ https://www.accuweather.com/


ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้


เจดีย์ 13 ชั้นตั้งอยู่อย่างโดดเด่นอยู่บนเนินเขา

           เนื่องจากศาลเจ้าทานซานตั้งอยู่บริเวณเนินเขา นักท่องเที่ยวที่ไปเยือนศาลเจ้าแห่งนี้ควรเลือกใส่รองเท้าที่เดินขึ้นเขาได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ควรใส่รองเท้าแตะหรือรองเท้าส้นสูง

           นอกจากนี้ สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนศาลเจ้าแห่งนี้ด้วยรถสาธารณะ ควรตรวจสอบรอบเวลาของรถบัสแต่ละเที่ยวจากสถานีรถไฟซากุไรให้ดี เนื่องจากในแต่ละวันจะมีรถบัสวิ่งเพียง 8-10 เที่ยวเท่านั้น


           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว ศาลเจ้าทานซาน สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                       ระดับความนิยม

                       อัตราค่าเข้าชม : 600 เยน

                       เวลาเปิด-ปิด : 08.30 – 17.00 น.

                       ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ระหว่างกลางเดือนถึงประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน

                       สถานที่ตั้ง : เมืองนารา ประเทศญี่ปุ่น

                       โทรศัพท์ : (81)744-49-0001

                       เว็บไซต์ : http://www.tanzan.or.jp/english/

                       ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/eng/

                                       เว็บไซต์การท่องเที่ยวจังหวัดนารา https://www.visitnara.jp/

                                       เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวนารา https://narashikanko.or.jp/en/

                                       เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

ล่องบอลลูนชม 2 ดินแดนมรดกโลก…พุกาม & คัปปาโดเชีย

หากเอ่ยถึง “พุกาม” (Bagan) เชื่อว่าคงจะนึกถึงสิ่งอื่นใดไปไม่ได้ นอกจากทะเลเจดีย์นับพันที่สร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งเรียงรายอยู่บริเวณพื้นที่ของเขตเขตมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาร์ และหากเอ่ยถึง “คัปปาโดเชีย” (Cappadocia) ประเทศตุรกีหรือตุรเคีย แน่นอนว่าก็คงจะต้องมีภาพของบอลลูนหลากสีลอยล่องอยู่เหนือภูมิประเทศแปลกตา ที่เต็มไปด้วยกลุ่มภูเขาหินรูปกรวยโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน... ในครั้งนี้ Palanla จะพาออกเดินทางไปสัมผัสกับความน่าอัศจรรย์ของ 2 ดินแดนมรดกโลก “พุกาม” และ “คัปปาโดเชีย” ด้วยมุมมองจากบนท้องฟ้าผ่านการล่องบอลลูนลมร้อน พร้อมแล้วไปด้วยกัน!

อ่านต่อ

เกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) & ฮาจิโกะ (Hachiko)

สุนัข ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่แสนดีและซื่อสัตย์ของมนุษย์มายาวนานอยู่ทุกหนแห่งของโลกใบนี้ หลายๆ เรื่องราวถูกถ่ายทอดความประทับใจออกมาผ่านภาพยนตร์ หนังสือ ตลอดจนสร้างเป็นรูปปั้นอนุสรณ์สถานเพื่อเชิดชูและระลึกถึงความรักอันบริสุทธิ์ที่เจ้าตูบและมนุษย์มีต่อกัน เช่นเดียวกับรูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ 2 แห่งที่ Palanla จะพาไปชมในวันนี้ ที่แรกคือ รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์ และอีกที่คือ รูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ (Hachiko) ที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

อ่านต่อ

ฮาจิโกะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

ฮาจิโกะ (Hachiko) คือ รูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ที่ไปรอรับเจ้าของที่สถานีชิบูย่าทุกวัน แม้เจ้าของจะจากไปแล้ว มันก็ยังคงเฝ้ารออยู่ที่เดิมเวลาเดิมเป็นเวลานานถึง 10 ปีเต็ม ความประทับใจของชาวญี่ปุ่นที่มีต่อสุนัขตัวนี้ กลายมาเป็นรูปปั้นซึ่งเป็นจุดนัดพบสำคัญและเป็นจุดเช็คอินที่ห้ามพลาดของชิบูย่า

อ่านต่อ

นิเซโกะ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

นิเซโกะ (Niseko) เมืองสกีรีสอร์ทยอดนิยมของญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่บนภูเขานิเซโกะ-อันนูปูริ (Niseko - Annupuri) ซึ่งมีความสูงถึง 1,300 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล นับเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในบรรดาเทือกเขานิเซโกะ นิเซโกะขึ้นชื่อในเรืองของหิมะที่มีผงนุ่ม ละเอียด เหมือนฝุ่นแป้งและเป็นสวรรค์ของผู้ที่ชื่นชอบการเล่นสกี

อ่านต่อ

หมู่บ้านน้ำอูเจิ้น เมืองถงเซียง มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

หมู่บ้านน้ำอูเจิ้น (Wuzhen Water Town) ฉายา "เวนิสแห่งตะวันออก" เป็นเมืองโบราณอายุกว่า 7,000 ปีที่เหมือนย้อนเวลาพากลับไปในอดีต ด้วยบ้านเรือนบรรยากาศแบบจีนโบราณ มีคลองน้ำล้อมรอบ สะพานหินทรงโค้ง และผู้คนที่ยังคงใช้เรือในการสัญจรไปมา

อ่านต่อ

วัดหลิงอิ่น เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

วัดหลิงอิ่น (Lingyin Temple) เป็นวัดพุทธโบราณอายุมากถึง 1,600 ปี โอบล้อมไปด้วยเนินเขาที่ปกคลุมด้วยต้นไม้ เป็นที่ประดิษฐานพระธาตุและงานแกะสลักทางพุทธศาสนามากมายที่มีประวัติยาวนาน เชื่อมโยมกับจุดกำเนิดของพระอรหันต์ “จี้กง” วัดแห่งนี้จึงเป็นวัดพุทธที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีน

อ่านต่อ

ทะเลสาบซีหู เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

ทะเลสาบซีหู หรือ ทะเลสาบตะวันตก (Xi Hu West Lake) เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีน ซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องความงามตามธรรมชาติ สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และต้นกำเนิดตำนานความรักของนางพญางูขาวอันโด่งดัง

อ่านต่อ

ถนนเก่าเหอฟาง เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

ถนนเก่าเหอฟาง (Hefang Old Street) ถนนเก่าเหอฟาง ถนนอายุเก่าแก่กว่า 800 ปี ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการค้าที่คึกคักของหางโจว ถนนเส้นนี้จะทำให้นักท่องเที่ยวได้ย้อนเวลากลับไปในอดีตและสัมผัสเสน่ห์แบบดั้งเดิมของเมืองนี้ ได้ซึมซับกับวัฒนธรรมท้องถิ่น และลิ้มรสอาหารพื้นเมืองอร่อยๆ

อ่านต่อ

เจดีย์เหลยเฟิง เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

เจดีย์เหลยเฟิง (Leifeng Pagoda) สถาปัตยกรรมงามสง่าบนเนินเขา ริมทะเลสาบซีหู ในหางโจว ประเทศจีน สถานที่ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เชื่อมโยงกับตำนานนางพญางูขาว และมีความสวยงามจนได้รับการเรียกขานว่า “อาทิตย์อัสดงที่เหลยเฟิง”

อ่านต่อ

มิตซุย เอาท์เล็ต พาร์ค จังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น

มิตซุย เอาท์เล็ต พาร์ค (Mitsui Outlet Park Kisarazu) เอาท์เล็ตขนาดใหญ่ บรรยากาศรีสอร์ตริมทะเล ในจังหวัดชิบะ เป็นสวรรค์ของคนรักการช้อปปิ้งที่สามารถเดินทางได้ง่ายๆ เพียง 45 นาทีจากโตเกียว

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ