- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- ชม UNSEEN เมืองอุทัยฯ สัมผัสวิถี SLOW LIFE ริมแม่น้ำสะแกกรัง 2 วัน 1 คืน
ชม UNSEEN เมืองอุทัยฯ สัมผัสวิถี SLOW LIFE ริมแม่น้ำสะแกกรัง 2 วัน 1 คืน
- อ่าน (7,144)
- ByWebmaster
- 09:47:18 | 15 มี.ค. 2565
ชม UNSEEN เมืองอุทัยฯ สัมผัสวิถี SLOW LIFE ริมแม่น้ำสะแกกรัง : 2 วัน 1 คืน
จังหวัดอุทัยธานีเป็นจังหวัดในภาคกลางที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวจากวิถีชีวิตท้องถิ่นท่ามกลางธรรมชาติของแม่น้ำและป่าไม้ ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่นักท่องเที่ยวมักจะนึกถึงเมื่อต้องการมาพักผ่อนเพื่อสัมผัสธรรมชาติและบรรยากาศแบบสโลว์ไลฟ์แบบไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ซึ่งหากใครพอมีเวลาอยากให้ลองมาเที่ยวอุทัยธานีดูสักครั้ง โดยวันนี้ทาง Palanla จะพาทุกท่านไปเที่ยวอุทัยธานีกันแบบ 2 วัน 1 คืน เพื่อเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดอุทัยธานีกันในทริปนี้
แผนที่ เที่ยวอุทัยธานี 2 วัน 1 คืน เส้นสีเหลืองคือเส้นทางของทริปวันที่ 1 ส่วนเส้นสีแดงคือเส้นทางของทริปวันที่ 2
วันที่ 1 และ เช้าวันที่ 2
กรุงเทพฯ - วัดจันทาราม (วัดท่าซุง) - วัดสังกัสรัตนคีรี – แม่น้ำสะแกกรัง - ตลาดเช้าริมแม่น้ำสะแกกรัง
สำหรับวันแรกของการเดินทาง เราจะออกจากกรุงเทพฯ กันในช่วงสายๆ เพื่อไปถึงยังอำเภอเมืองอุทัยธานีกันในช่วงกลางวัน โดยเราพาทุกท่านเดินทางไปเที่ยวกันที่วัดจันทาราม หรือ วัดท่าซุง ซึ่งเป็นวัดที่มีชื่อเสียงประจำจังหวัดอุทัยธานีกันเป็นที่แรก จากนั้นเราจะไปเที่ยวชมความสวยงามของวัดสังกัสรัตนคีรี และแม่น้ำสะแกกรังกันต่อ แล้วจากนั้นในช่วงเย็นเราจะเข้าเช็คอินที่พักในตัวเมืองอุทัยธานีเพื่อที่จะได้ออกมาเดินตลาดเช้าริมแม่น้ำสะแกกรังกันในตอนเช้าวันรุ่งขึ้น
1. วัดจันทาราม (วัดท่าซุง)
วัดจันทาราม หรือ วัดท่าซุง (Wat Chantaram (Wat Tha Sung)) ตั้งอยู่ที่ ตำบลน้ำซึม อำเภอเมืองอุทัยธานี วัดจันทารามเป็นวัดที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามและมีการตกแต่งภายในอย่างวิจิตรประณีต ที่นี่จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงประจำจังหวัดอุทัยธานี ภายในวัดมีสิ่งปลูกสร้างที่เป็นไฮไลท์อยู่หลายแห่ง เช่น วิหารพระศรีอาริยเมตไตรยที่ภายในประดับด้วยกระจกรอบด้านซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปพระศรีอาริยเมตไตรย หรือพระวิหารสมเด็จองค์ปฐมที่ภายในตกแต่งด้วยลายแก้วอย่างงดงาม รวมถึงหอพระไตรปิฎก ปราสาททองคำ มหาวิหารแก้ว และเจดีย์พุดตาล อีกทั้งยังเป็นศูนย์รวมแห่งศรัทธาที่มีต่อพระราชพรหมยานหรือหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่ชาวอุทัยธานีให้ความเคารพนับถือกันมาช้านานอีกด้วย
การเดินทาง : จาก กรุงเทพฯ ไปยัง วัดจันทาราม (วัดท่าซุง) มีระยะทางประมาณ 223 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง
เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08:00 น. – 16:00 น.
พิกัด GPS : 15°19'48.7"N 100°04'16.9"E
อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับวัดจันทาราม (วัดท่าซุง)ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=54
2. วัดสังกัสรัตนคีรี
วัดสังกัสรัตนคีรี (Wat Sangkat Rattana Khiri) ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาสะแกกรัง ในตำบลน้ำซึม อำเภอเมืองอุทัยธานี แต่เดิมเรียกกันว่าวัดเขาสะแกกรังตามลักษณะของภูเขาขนาดย่อมภายในบริเวณวัดและแม่น้ำสะแกกรังที่อยู่ไม่ไกล ภายในวัดสังกัสรัตนคีรีบริเวณตรงข้ามเชิงเขาเป็นที่ตั้งของวิหารที่สร้างขึ้นอย่างงดงาม ภายในเป็นที่ประดิษฐาน “พระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยสำริดเก่าแก่ที่มีอายุประมาณ 600-700 ปี สร้างในสมัยพระเจ้าลิไทยโดยฝีมือช่างสุโขทัย ความพิเศษของพระพุทธรูปองค์นี้ คือ ส่วนพระเศียรและส่วนองค์พระต่างเป็นชิ้นส่วนที่นำมาจากพระพุทธรูปองค์อื่น แล้วนำมาซ่อมแซมปฏิสังขรณ์จนเป็นองค์เดียวกัน และได้มีการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่พระเศียร เป็นพระพุทธรูปที่ชาวอุทัยธานีให้ความเคารพนับถือกันมาอย่างช้านาน และนิยมมากราบสักการะบูชาเพื่อขอโชคลาภ และความสำเร็จในการประกอบอาชีพ นอกจากนี้อีกหนึ่งไฮไลท์ของวัดแห่งนี้คือมณฑปสิริมหามายากุฎาคารที่ตั้งอยู่บนยอดเขาซึ่งเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง และยังเป็นจุดชมวิวเมืองอุทัยธานีจากมุมสูงอีกด้วย
การเดินทาง : จาก วัดจันทาราม (วัดท่าซุง) ไปยัง วัดสังกัสรัตนคีรี มีระยะทางประมาณ 10.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที
เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06:00 น. – 20:00 น.
พิกัด GPS : 15°22'43.1"N 100°01'01.0"E
อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วัดสังกัสรัตนคีรี ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=45
3. แม่น้ำสะแกกรัง
แม่น้ำสะแกกรัง (Sakae Krang River) เป็นแม่น้ำสายสำคัญในจังหวัดอุทัยธานีที่ไหลผ่านพื้นที่ในสามอำเภอ ได้แก่ อำเภอสว่างอารมณ์ อำเภอทัพทัน และอำเภอเมืองอุทัยธานี โดยจุดชมวิวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจะอยู่บริเวณทางเดินริมแม่น้ำตรงข้ามกับวัดอุโบสถารามซึ่งเป็นจุดที่สามารถชมความงามของแม่น้ำได้อย่างเต็มตา และยังมองเห็นวัดที่อยู่ในฝั่งตรงข้ามเป็นฉากหลัง รวมถึงสะพานที่ทอดข้ามฝั่งมาอีกด้วย โดยในช่วงเช้าที่พระอาทิตย์ขึ้น แสงจะส่องกระทบผิวน้ำเกิดเป็นทัศนียภาพที่สวยงามยิ่งขึ้น นักท่องเที่ยวนิยมมาชมวิวและใส่บาตรพระสงฆ์ที่ล่องเรือมาบิณฑบาตรในยามเช้า นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถใช้บริการล่องเรือเที่ยวชมแม่น้ำสะแกกรังเพื่อสัมผัสธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด และชมภาพวิถีชีวิตริมน้ำของชาวบ้าน ชมบ้านเรือนแพ ดูนกที่หากินริมน้ำ และชมทิวทัศน์ทางธรรมชาติได้อย่างเพลิดเพลิน
การเดินทาง : จาก วัดสังกัสรัตนคีรี ไปยัง จุดชมวิวบริเวณทางเดินริมแม่น้ำสะแกกรัง (ฝั่งตรงข้ามวัดอุโบสถาราม) มีระยะทางประมาณ 1.8 เมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 นาที
เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดตลอดเวลา
พิกัด GPS : 15°22'56.7"N 100°01'49.0"E
อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ แม่น้ำสะแกกรัง ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=928
4. ตลาดเช้าริมแม่น้ำสะแกกรัง
ตลาดเช้าริมแม่น้ำสะแกกรัง (Sakae Krang Riverside Morning Market) ตั้งอยู่บริเวณลานสะแกกรังใกล้กับทางเดินเลียบแม่น้ำฝั่งตรงข้ามกับวัดอุโบสถาราม ตลาดเช้าแห่งนี้เป็นตลาดคู่เมืองอุทัยธานีมาอย่างยาวนาน เปิดตั้งแต่ช่วงเช้ามืดถึงเก้าโมงเช้า พ่อค้าแม่ขายเป็นชาวบ้านในท้องถิ่นที่มาตั้งแผงขายสินค้าต่างๆ เช่น พืชผักสวนครัว อาหารสด อาหารแห้ง กับข้าวต่างๆ ขนมที่หาทานยากอย่างขนมเบื้องโบราณ และอาหารขึ้นชื่ออย่างขนมจีนน้ำยาปลาช่อน และอาหารเช้าทานง่ายๆ อย่างน้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋ และโจ๊ก รวมถึงมีปลาท้องถิ่นต่างๆ วางจำหน่าย โดยเฉพาะปลาแรดซึ่งเป็นปลาท้องถิ่นขึ้นชื่อของจังหวัดอุทัยธานี ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวจึงนิยมมาจับจ่ายและซื้อหาของกินกันที่ตลาดแห่งนี้ โดยเอกลักษณ์ของตลาดเช้าริมแม่น้ำสะแกกรังจะมีบรรยากาศแบบท้องถิ่นเรียบง่ายในราคามิตรภาพ พ่อค้าแม่ค้ามีความเป็นกันเอง เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและสเน่ห์ของวิถีชีวิตชุมชนอีกแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาด
การเดินทาง : จาก จุดชมวิวบริเวณทางเดินริมแม่น้ำสะแกกรัง (ฝั่งตรงข้ามวัดอุโบสถาราม) ไปยัง ตลาดเช้าริมแม่น้ำสะแกกรัง มีระยะทางประมาณ 300 เมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 นาที
เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 05:30 น. – 9:00 น.
พิกัด GPS : 15°23'02.7"N 100°01'42.0"E
อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ ตลาดเช้าริมแม่น้ำสะแกกรัง ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=926
วันที่ 2
หุบป่าตาด - วัดผาทั่ง - ต้นไม้ยักษ์ บ้านสะนำ – วัดถ้ำเขาวง - กรุงเทพฯ
สำหรับวันที่สองของการเดินทาง เมื่อเที่ยวตลาดเช้าริมแม่น้ำสะแกกรังเสร็จแล้วในตอนเช้า เราก็จะเดินทางไปเที่ยวกันต่อที่หุบป่าตาดในอำเภอลานสัก จากนั้นในช่วงบ่ายเราจะเดินทางไปเที่ยวกันที่วัดผาทั่ง ตามด้วยต้นไม้ยักษ์ บ้านสะนำ และวัดถ้ำเขาวง ที่ตั้งอยู่ในอำเภอบ้านไร่ ก่อนที่จะเดินทางกลับกรุงเทพฯ กันในช่วงเย็น
1. หุบป่าตาด
หุบป่าตาด (Hup Pa Tat) ตั้งอยู่ที่ตำบลทุ่งนางาม ในอำเภอลานสัก เป็นหุบเขาที่มีสภาพเหมือนดินแดนป่าดึกดำบรรพ์และได้ชื่อว่าเป็น Unseen แห่งอุทัยธานีอีกด้วย หุบป่าตาดมีลักษณะเป็นโถงถ้ำขนาดใหญ่ที่ทอดตัวสู่ผืนป่าที่เต็มไปด้วยต้นตาดและพืชพันธุ์โบราณแปลกตาหายาก พื้นที่แห่งนี้จึงเป็นพื้นที่อนุรักษ์ซึ่งอยู่ในความดูแลของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน ภายในมีการจัดเส้นทางเดินชมธรรมชาติความยาวประมาณ 700 เมตร นักท่องเที่ยวจะได้เที่ยวชมหินงอกหินย้อย และเดินผ่านโถงถ้ำที่ค่อนข้างมืด ไปยังปลายโถงที่มีแสงสว่างส่องลงมาจากปล่องถ้ำขนาดใหญ่ในช่วงกลางวัน และพบกับป่าตาดขนาดใหญ่อันเขียวขจีที่ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น ซึ่งให้บรรยากาศเหมือนหลุดไปอยู่ในป่ายุคดึกดำบรรพ์เลยทีเดียว และหากใครมาเที่ยวในช่วงฤดูฝนก็อาจจะได้พบกิ้งกือมังกรสีชมพูที่จะออกมาอวดโฉมให้นักท่องเที่ยวได้เห็นอีกด้วย
การเดินทาง : จาก ตลาดเช้าริมแม่น้ำสะแกกรัง ไปยัง หุบป่าตาด มีระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08:30 น. - 16:30 น.
พิกัด GPS : 15°22'37.6"N 99°37'51.2"E
อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ หุบป่าตาด ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=929
2. วัดผาทั่ง
วัดผาทั่ง (Wat Pha Tang) ตั้งอยู่ที่ตำบลห้วยแห้ง อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี วัดแห่งนี้มีบรรยากาศที่สงบและร่มรื่น มีทางเดินพญานาคทอดยาวนำสายตาไปสู่ลานกว้างซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหลวงพ่อโต ปางประทานพร ที่ได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุดในจังหวัดอุทัยธานี องค์พระพุทธรูปนี้สร้างขึ้นอย่างสง่างาม มีสีทองอร่าม มีหน้าตักกว้าง 23 เมตร สูง 52 เมตร สร้างขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2532-2540 โดยความร่วมแรงร่วมใจกันของคณะศิษยานุศิษย์ของสมเด็จพระพุทธาจารย์ (โต พรหมรังษี) และชาวบ้าน และบริเวณใต้ฐานหลวงพ่อโตเป็นพื้นที่ของอาคารเอนกประสงค์ที่ใช้เป็นที่ประดิษฐานรูปเสมือนของสมเด็จพระพุทธาจารย์โต หลวงปู่ทวด และหลวงปู่ศุข ซึ่งเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้กราบสักการะบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตอีกด้วย
การเดินทาง : จาก หุบป่าตาด ไปยัง วัดผาทั่ง มีระยะทางประมาณ 53 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06:00 น. - 18:00 น.
พิกัด GPS : 15°06'42.5"N 99°32'11.7"E
อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วัดผาทั่ง ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=55
3. ต้นไม้ยักษ์ บ้านสะนำ
ต้นไม้ยักษ์ บ้านสะนำ (Ban Sanum Giant Tree) ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านสะนำ ตำบลบ้านไร่ อำเภอบ้านไร่ ภายในหมู่บ้านเป็นที่ตั้งของป่าหมากและต้นไม้ยักษ์หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าต้นเซียงยักษ์ที่มีอายุสี่ร้อยกว่าปี มีขนาดรอบวงลำต้น 45 เมตร สูง 53 เมตร บริเวณโคนต้นแผ่รากกว้าง และมีพูพอนขนาดใหญ่ ต้นไม้ยักษ์แห่งนี้ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางป่าหมากอันเขียวขจีขนาด 2 ไร่ โดยมีต้นหมากกว่าหลายร้อยต้นโอบล้อมต้นไม้ยักษ์แห่งนี้เอาไว้อย่างสวยงามแปลกตา โดยเมื่อไปยืนถ่ายรูปบริเวณโคนต้นจะยิ่งเห็นได้ชัดถึงความยิ่งใหญ่ ถือเป็น Unseen ของอำเภอบ้านไร่ที่ได้รับการดูแลรักษาไว้เป็นอย่างดีเพื่อให้คนรุ่นหลังได้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติในท้องถิ่น และหากใครมาเที่ยวในวันเสาร์และอาทิตย์ก็สามารถแวะชมตลาดต้นไม้ยักษ์ที่ชาวบ้านจะนำสินค้าท้องถิ่นมาวางจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวอีกด้วย ที่นี่จึงเป็นอีกสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวยังจังหวัดอุทัยธานี
การเดินทาง : จาก วัดผาทั่ง ไปยัง ต้นไม้ยักษ์ บ้านสะนำ มีระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที
เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06:00 น. - 18:00 น.
พิกัด GPS : 15°04'14.1"N 99°30'36.2"E
อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ ต้นไม้ยักษ์ บ้านสะนำ ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=925
4. วัดถ้ำเขาวง
วัดถ้ำเขาวง (Wat ThamKhao Wong) ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านไร่ อำเภอบ้านไร่ วัดแห่งนี้เป็นวัดป่าและเป็นธรรมสถานเพื่อการปฎิบัติธรรมที่ตั้งอยู่บนเขา ภายในบริเวณวัดตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันสงบและร่มรื่น โดดเด่นด้วยภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านเป็นฉากหลัง และมีบึงน้ำขนาดใหญ่อยู่บริเวณด้านหน้าซึ่งตกแต่งด้วยสะพานไม้ที่ประกอบขึ้นจากไม้ตามธรรมชาติซึ่งไม่ได้ผ่านการปรับแต่งรูปร่างแล้วนำมาประกอบเข้าด้วยกันจึงมีความสวยงามแปลกตา ถือเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวมักเข้ามาถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก เหนือบึงน้ำขึ้นไปโดดเด่นด้วยศาลาทรงไทยประยุกต์ 4 ชั้นที่มีความงดงาม ศาลาแห่งนี้สร้างด้วยไม้สัก ไม้มะค่า และไม้ที่ได้รับบริจาคจากชาวบ้าน รวมถึงไม้เก่าจากเรือนไทยที่มาจากหลายจังหวัด นอกจากนี้ภายในบริเวณวัดยังมีถ้ำที่ใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมอย่างสงบ รวมทั้งเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองอีกด้วย
การเดินทาง : จาก ต้นไม้ยักษ์ บ้านสะนำ ไปยัง วัดถ้ำเขาวง มีระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 13 นาที
เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08:00 น. - 18:00 น.
พิกัด GPS : 15°01'53.9"N 99°27'20.8"E
อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วัดถ้ำเขาวง ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=53
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : เว็บไซต์พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) https://thai.tourismthailand.org/
เว็บไซต์จังหวัดอุทัยธานี http://www.uthaithani.go.th
บริการขนส่ง (รถทัวร์ประจำทาง) http://www.busticket.in.th , http://www.thairoute.com
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
พิจิตร จังหวัดเล็กๆ ที่ซ่อนเสน่ห์เอาไว้มากมาย และไม่ได้มีแค่บึงสีไฟเพียงอย่างเดียว เพราะเมืองชาละวันแห่งนี้มีทั้งธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ วัดวาอารามเก่าแก่ และวิถีชีวิตของผู้คนท้องถิ่นที่น่าสนใจ บทความนี้ Palanla จะพาไปเปิดมุมมองใหม่กับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนพิจิตร
อ่านต่อวัดหิรัญญาราม (วัดบางคลาน) จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
วัดหิรัญญาราม (Wat Hiranyaram) หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันดีในชื่อ วัดบางคลาน (Wat Bang Khlan) เป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากแห่งหนึ่งของจังหวัดพิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นที่รู้จักจาก หลวงพ่อเงิน พระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่มีผู้คนให้ความเคารพนับถืออย่างมาก
อ่านต่ออุทยานเมืองเก่าพิจิตร จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
อุทยานเมืองเก่าพิจิตร (Pichit Historical Park) เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัด เชื่อกันว่าเดิมทีบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของเมืองพิจิตรเก่า
อ่านต่อวัดนครชุม จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
วัดนครชุม (Wat Nakhon Chum) หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า "วัดใหญ่" ตั้งอยู่ที่ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เป็นวัดเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย โดยเคยเป็นวัดสำคัญของเมืองพิจิตรในอดีต
อ่านต่อวัดเขารูปช้าง จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
วัดเขารูปช้าง (Wat Khao Rup Chang) อีกหนึ่งวัดเก่าแก่ของจังหวัดพิจิตรที่สร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา บนยอดเขาที่มีหินสีขาวซ้อนกันเป็นรูปช้างคุกเข่าโดดเด่นด้วยเจดีย์แบบลังกา ประดับกระเบื้องเคลือบสีทองทั้งองค์
อ่านต่อทุ่งดอกกระเจียวยักษ์บ้านเขาโล้น จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
ทุ่งดอกกระเจียวยักษ์บ้านเขาโล้น (Giant Siam Tulip Field Baan Khao Loan) ตั้งอยู่ที่ตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน เมื่อดอกกระเจียวสีชมพูบานสะพรั่งทั่วทั้งทุ่ง
อ่านต่อตลาดย่านเก่าวังกรด จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
ตลาดย่านเก่าวังกรด ( Yan Kao Wang Krot Market) ตลาดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ณ ย่านเก่าวังกรด จังหวัดพิจิตร เป็นแหล่งรวมอาหารอร่อยที่เรียงรายด้วยสถาปัตยกรรมอาคารไม้เก่าแก่สวยงาม พร้อมทั้งหอนาฬิกาที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของชุมชน
อ่านต่อน้ำตกไทรโยคใหญ่ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย
น้ำตกไทรโยคใหญ่ (Sai Yok Yai Waterfall) เปรียบเสมือนอัญมณีแห่งเมืองกาญจนบุรี ด้วยความงามของม่านน้ำอันยิ่งใหญ่ที่ไหลรินลงมาจากหน้าผาสูงและกลายเป็นสายน้ำที่ทอดยาว รายล้อมไปด้วยป่าไม้ร่มรื่น ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของจังหวัดกาญจนบุรี
อ่านต่อต้นจามจุรียักษ์ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย
ต้นจามจุรียักษ์ (Giant Monkey Pod Tree) อายุกว่า 100 ปี ที่ยืนตระหง่าน แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาแก่ผู้คนที่มาพักผ่อนหย่อนใจ คืออีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองกาญจนบุรีในปัจจุบัน
อ่านต่อคู่มือการดำเนินการตามกระบวนการเคลมประกันรถยนต์ฉบับสมบูรณ์
การมีส่วนร่วมในอุบัติเหตุทางรถยนต์หรือประสบความเสียหายต่อยานพาหนะของคุณอาจเป็นประสบการณ์ที่ตึงเครียดและท่วมท้น อย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจขั้นตอนการเคลมประกันรถยนต์สามารถช่วยบรรเทาความวิตกกังวลและแก้ไขปัญหาได้ราบรื่นยิ่งขึ้น
อ่านต่อ