- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- จัตุรัสเปียซซ่าซานมาร์โค และ หอระฆังซานมาร์โค เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
จัตุรัสเปียซซ่าซานมาร์โค และ หอระฆังซานมาร์โค เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
- อ่าน (5,663)
- By Webmaster
- 11:58:58 | 30 ม.ค. 2567
จัตุรัสเปียซซ่าซานมาร์โค และ หอระฆังซานมาร์โค เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
Piazza San Marco & San Marco Campanile, Venice, Italy
จัตุรัสเปียซซ่าซานมาร์โค แหล่งแลนด์มาร์กและศูนย์กลางการท่องเที่ยวแห่งเวนิส
จัตุรัสเปียซซ่าซานมาร์โค หรือ จตุรัสเซนต์มาร์ค (Piazza San Marco / St. Mark’s Square) เป็นจัตุรัสที่เป็นศูนย์กลางของเมืองเวนิส บริเวณจัตุรัสล้อมรอบด้วยแลนด์มาร์กสำคัญของเมือง อย่างเช่น มหาวิหาร หอนาฬิกา พระราชวัง พิพิธภัณฑ์ ศูนย์นิทรรศการ และหอสมุด และมีด้านที่ติดกับชายฝั่งทะเล ซึ่งจักรพรรดินโปเลียน (Napoleon) อดีตจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งฝรั่งเศสเคยกล่าวไว้ว่าที่นี่เป็นดั่งห้องรับรองที่สวยที่สุดในโลก นอกจากนี้ บริเวณจัตุรัสยังโดดเด่นด้วยหอระฆังซานมาร์โค หรือ หอระฆังเซนต์มาร์ค (San Marco Campanile / St. Mark’s Campanile) ความสูง 99 เมตรซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมทัศนียภาพอันน่าประทับใจของเมืองเวนิสและชายฝั่งทะเลได้จากด้านบน ด้วยเหตุนี้ จัตุรัสเปียซซ่าซานมาร์โคและหอระฆังซานมาร์โค จึงได้รับนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามของสถาปัตยกรรมเก่าแก่โดยรอบ และยังมีทัศนยีภาพอันสวยงามของเมืองริมฝั่งทะเลให้เที่ยวชม
แผนที่ตั้งจัตุรัสเปียซซ่าซานมาร์โค และ หอระฆังซานมาร์โค (Piazza San Marco & San Marco Campanile) เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
ประวัติ
จัตุรัสเปียซซ่าซานมาร์โคตั้งอยู่ใจกลางเมืองเวนิส แต่เดิมเป็นสนามหญ้าของพระราชวังปาลัซโซ่ดูคาเลที่อยู่ติดกัน สร้างขึ้นในช่วงปลายของศตวรรษที่ 9 เพื่อใช้เป็นบริเวณทางเดินทอดไปยังมหาวิหารซานมาร์โค บริเวณจัตุรัสโดดเด่นด้วยหอระฆังซานมาร์โค (San Marco Campanile) ความสูง 99 เมตรที่สามารถขึ้นไปชมทัศนียภาพเมืองเวนิสอันงดงามได้จากด้านบนบริเวณ นอกจากนี้บริเวณจัตุรัสยังรายล้อมด้วยอาคารที่สร้างด้วยสถาปัตกรรมเก่าแก่ โดยทางด้านเหนือของจตุรัสเป็นที่ตั้งของศูนย์นิทรรศการโอลิเวตตี (Olivetti Exhibition Centre) และหอนาฬิกาเซนต์มาร์ค (Saint Mark’s Clocktower) ทางด้านตะวันออกของจัตุรัสเป็นที่ตั้งของมหาวิหารซานมาร์โค (Basilica di San Marco) มหาวิหารประจำเมืองเวนิส ทางด้านใต้ของจตุรัสเป็นที่ตั้งของอาคารพิพิธภัณฑ์โบราณคดีแห่งชาติ (Museo Archeologico Nazionale di Venezia) และร้านค้าต่างๆ และทางด้านตะวันตกเป็นที่ตั้งของอาคารพิพิธภัณฑ์ศิลปะคอร์เรย์ (Museo Correr)
นอกจากนี้ พื้นที่จัตุรัสยังครอบคลุมไปถึงพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ระหว่างพระราชวังปาลัซโซ่ดูคาเล (Palazzo Ducale) และหอสมุดแห่งชาติมาร์เซียน่า (Biblioteca Nazionale Marciana) บริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งของอนุสรณ์สถานที่มีลักษณะเป็นเสาหินสูงสองต้น ได้แก่ เสาเซนต์มาร์ค (Columns of Saint Mark) และเสาเซนต์ธีโอดอร์ (Column of Saint Theodore) ซึ่งเป็นเสาหินสลักที่ทำจากหินแกรนิตและหินอ่อน สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1172 เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงนักบุญมาร์คและนักบุญธีโอดอร์ ผู้มีความสำคัญทางศาสนาคริสต์ และในบริเวณใกล้กันยังมีท่าเรือกอนโดล่า และจุดชมวิวเพลซ ริวา เดกลี เชียโวนี (Place Riva Degli Schiavoni) ซึ่งเป็นพื้นที่ริมชายฝั่งบริเวณด้านหน้าพระราชวังปาลัซโซ่ดูคาเลที่เป็นจุดชมวิวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของเมืองเวนิส นอกจากนี้ จัตุรัสเปียซซ่าซานมาร์โคเป็นจัตุรัสเดียวในเมืองเวนิสที่เรียก “เปียซซ่า (Piazza)” สำหรับจัตุรัสอื่นจะเรียกว่า “เปียซแซล (Piazalle)”
ในส่วนของหอระฆังซานมาร์โค หรือ หอระฆังเซนต์มาร์ค เป็นจุดแลนด์มาร์กที่ตั้งตระหง่านด้วยความสูง 99 เมตร แต่เดิมพื้นที่ตรงนี้เคยเป็นประภาคารบอกตำแหน่งเมืองให้กับนักเดินเรือมาก่อนที่จะได้รับการปรับเปลี่ยนให้เป็นหอระฆังประจำมหาวิหารซานมาร์โคในปีค.ศ. 1515 แต่หอถล่มลงมาในปีค.ศ. 1902 และได้รับการสร้างใหม่ในปีค.ศ. 1912 บริเวณยอดด้านบนของหลังคาหอระฆังประดับด้วยรูปปั้นทูตสวรรค์กาเบรีล (Archangel Gabriel) และบริเวณผนังด้านล่างของหลังคาตกแต่งด้วยรูปสลักสิงโตเซนต์มาร์คซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งเมืองเวนิสทั้งสี่ด้าน ด้านบนหอระฆังยังเป็นพื้นที่ของหอชมเมืองที่สามารถขึ้นไปชมทัศนียภาพเมืองเวนิส และชมความสวยงามของท้องทะเลบริเวณบึงปากแม่น้ำ (lagoon) ที่คลองแกรนด์คาแนล (Grand Canal) กับคลองจิวเดคคา (Giudecca Canal) ไหลมาบรรจบกันบริเวณใกล้กับมหาวิหารซานตามารียา เดลล่า ซาลูเต (Basilica di Santa Maria della Salute) ก่อนจะไหลรวมกันไปออกยังอ่าวซานมาร์โค (Bacino San Marco) บริเวณด้านหน้าจุดชมวิวเพลซ ริวา เดกลี เชียโวนี
จตุรัสเปียซซ่าซานมาร์โคในปัจจุบันเป็นศูนย์กลางของเมืองเวนิสที่นอกจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และศาสนา ยังมักใช้เป็นจุดนัดพบ และเป็นพื้นที่จัดงานประจำเมืองเวนิสอยู่หลายงาน โดยเฉพาะเทศกาลเวนิสคาร์นิวัล (Venice Carnival) ก็จะจัดขึ้นที่นี่เช่นกัน ด้วยเหตุนี้ ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองเวนิสอีกแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดไปเที่ยวชม
ภายในจัตุรัสโดดเด่นด้วยหอระฆังซานมาร์โค
อาคารหลังคาโดมที่เยื้องไปทางด้านหลังของหอระฆังคือ มหาวิหารซานมาร์โค
ภาพจัตุรัสจากมุมสูงจากด้านบนมหาวิหารซานมาร์โค
อาคารที่ล้อมรอบจัตุรัสสร้างด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ ร้านค้า ร้านอาหาร และศูนย์จัดนิทรรศการ
ทางด้านทิศใต้ของจัตุรัสเป็นพื้นที่อีกโซนหนึ่งที่ติดกับชายฝั่งทะเล พื้นที่ตรงนี้เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าเปียซเซ็ตต้าซานมาร์โค (Piazzetta San Marco) อาคารด้านขวาในภาพคือหอสมุดแห่งชาติมาร์เซียน่า
บริเวณริมฝั่งโดดเด่นด้วยเสาหินสองต้น โดยเสาต้นซ้ายของภาพคือเสาเซนต์มาร์ค และเสาต้นขวาของภาพคือเสาเซนต์ธีโอดอร์
เสาเซนต์มาร์ค อนุสรณ์รำลึกถึงนักบุญมาร์ค ด้านบนเป็นรูปปั้นสิงโต สัญลักษณ์แห่งนักบุญมาร์คและเมืองเวนิส (รูปซ้าย) เสาเซนต์ธีโอดอร์ อนุสรณ์รำลึกถึงนักบุญธีโอดอร์ เป็นรูปปั้นนักบุญธีโอดอร์ถือหอกและยืนอยู่บนหลังจระเข้ (รูปขวา)
ทัศนียภาพพื้นที่จัตุรัสฝั่งใต้ที่ติดทะเล ถ่ายจากบริเวณท่าเรือกอนโดล่า จะสามารถเห็นแลนด์มาร์กทั้งหมดของจัตุรัส
แลนด์มาร์กในภาพจากซ้ายไปขวาได้แก่ หอสมุดแห่งชาติมาร์เซียน่า หอระฆังซานมาร์โค หอนาฬิกาเซนต์มาร์ค มหาวิหารซานมาร์โค และพระราชวังปาลัซโซ่ดูคาเล
หอระฆังซานมาร์โค (รูปซ้าย) บริเวณยอดด้านบนของหลังคาหอระฆังประดับด้วยรูปปั้นทูตสวรรค์กาเบรีล และบริเวณผนังด้านล่างของหลังคาตกแต่งด้วยรูปสลักสิงโตเซนต์มาร์ค (รูปขวา)
หอระฆังซานมาร์โคจากมุมด้านในอาคารฝั่งตรงข้าม
ความสวยงามของหอระฆังและสถาปัตยกรรมเก่าแก่โดยรอบ
หอนาฬิกาเซนต์มาร์คบริเวณด้านเหนือของจัตุรัสใกล้กับมหาวิหารซานมาร์โค
บริเวณใกล้กับพระราชวังปาลัซโซ่ดูคาเลนี้เป็นหนึ่งในพื้นที่ชมวิวยอดนิยม สามารถมองเห็นโบสถ์ซานจิออร์จิโอแม็กจิออเร่ที่อยู่ในฝั่งตรงข้าม
โบสถ์ซานจิออร์จิโอแม็กจิออเร่ที่อยู่ในฝั่งตรงข้าม
บริเวณจัตุรัสเปียซซ่าซานมาร์โคในช่วงเช้ามืด
ความสวยงามของมหาวิหารซานมาร์โคและพระราชวังปาลัซโซ่ดูคาเลในตอนเช้ามืด
ความสวยงามจัตุรัสที่มีแสงเรืองรองจากไฟประดับตัดกับสีของท้องฟ้า
บริเวณท่าเรือกอนโดล่า
จุดชมวิวเพลซ ริวา เดกลี เชียโวนี ซึ่งเป็นพื้นที่ริมชายฝั่งบริเวณด้านหน้าพระราชวังปาลัซโซ่ดูคาเล
ทัศนียภาพอันสวยงามของท้องทะเล เรือกอนโดล่า และเกาะซานจิออร์จิโอแม็กจิออเร่ในฝั่งตรงข้าม บริเวณจุดชมวิวเพลซ ริวา เดกลี เชียโวนี
ทัศนียภาพอ่าวซานมาร์โคอันสวยงามน่าประทับใจ
เรือกอนโดล่า เรือท้องถิ่นของเมืองเวนิส จอดเรียงรายอยู่ริมฝั่ง
อนุเสารีย์กษัตริย์วิคเตอร์เอ็มมานูแอลที่ 2 (Monument to Victor Emmanuel II)
อนุเสารีย์กษัตริย์วิคเตอร์เอ็มมานูแอลที่ 2 ตั้งอยู่ใกล้กับจุดชมวิวเพลซ ริวา เดกลี เชียโวนี
การเดินทางจากสนามบินเวนิสมาร์โคโปโล (Venice Marco Polo Airport / Aeroporto di Venezia-Marco Polo) ไปยังสถานีรถไฟเวเนเซียซานตาลูเซีย (Stazione di Venezia Santa Lucia)
- รถยนต์ (Car) จาก Venice Marco Polo Airport ไปยัง Stazione di Venezia Santa Lucia มีระยะทางประมาณ 13.7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 35 นาที
- รถประจำทาง (Bus) จาก Venice Marco Polo Airport ให้เดินมายังท่ารถ Aeroporto Marco Polo เพื่อขึ้นรถบัสสาย Venezia P. Roma (ออกทุก 20 นาที) มุ่งหน้าไปยังเมือง Venice โดยเมื่อไปถึงเมืองเวนิส รถบัสจะจอดให้ลงบริเวณท่ารถ Venezia Piazzale Roma ATVO ที่จัตุรัสเปียซแซลโรมา (Piazzale Roma) จากนั้นเดินต่อไปประมาณ 450 เมตร ก็จะถึงยัง Stazione di Venezia Santa Lucia มีระยะทางโดยรวมประมาณ 13.7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 35 นาที
หมายเหตุ : Stazione di Venezia Santa Lucia เป็นสถานีรถไฟหลักของเมืองเวนิสที่มีเส้นทางเดินรถเชื่อมต่อกับเมืองต่างๆ ในประเทศอิตาลี รวมถึงเมืองต่างๆ ในประเทศแถบยุโรป แต่ขนส่งสาธารณะหลักภายในเมืองเวนิส จะใช้การเดินทางทางน้ำโดย “เรือประจำทาง” ที่เรียกว่า “Water-bus” ซึ่งมีท่าเรือครอบคลุมทั่วเมือง โดยท่าเรือบริเวณด้านหน้า Stazione di Venezia Santa Lucia มีจำนวน 4 ท่าแยกตามเส้นทางเดินเรือ ได้แก่ Ferrovia “A”, Ferrovia “B”, Ferrovia “C” และ Ferrovia “D”
การเดินทางจากสถานีรถไฟเวเนเซียซานตาลูเซีย (Stazione di Venezia Santa Lucia) ไปยังจัตุรัสเปียซซ่าซานมาร์โคและหอระฆังซานมาร์โค (Piazza San Marco & San Marco Campanile)
- เรือ (Ferry) จาก Stazione di Venezia Santa Lucia เดินไปยังท่าเรือ Ferrovia D เพื่อขึ้น Water-bus สาย 1 จากนั้นลงที่ท่าเรือ San Marco Zaccaria และเดินต่อไปอีกประมาณ 200 เมตร ก็จะถึงยัง Piazza San Marco & San Marco Campanile ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 43 นาที
เวลาทำการเปิด-ปิด
บริเวณจัตุรัสเปิดตลอดเวลา
หอระฆังมีเวลาทำการดังนี้
วันที่ 1 ตุลาคม - 31 มีนาคม เปิดเวลา 9:30 น. - 17:00 น.
วันที่ 7-24 มกราคม ปิดเพื่อทำการบูรณะซ่อมแซม
วันที่ 1-15 เมษายน เปิดเวลา 9:30 น. - 17:30 น.
วันที่ 16 เมษายน - 30 กันยายน เปิดเวลา 8:30 น. - 21:00 น.
ความสวยงามของจัตุรัสเปียซซ่าซานมาร์โคในช่วงเช้ามืดที่ไร้ผู้คนพลุกพล่าน
ความสวยงามของมหาวิหารซานมาร์โคและหอนาฬิกาซานมาร์โคในช่วงเช้ามืด
จัตุรัสที่เงียบสงบในช่วงเช้ามืด
อัตราค่าเข้าชม
บริเวณจัตุรัสไม่เสียค่าเข้าชม
ค่าเข้าชมหอระฆัง : ตั๋วผู้ใหญ่ราคา 8 Euro / ตั๋วเด็กอายุ 6 - 18 ปี ราคา 4 Euro
จัตุรัสเปียซซ่าซานมาร์โคและหอระฆังริมอ่าวซานมาร์โค
จัตุรัสเปียซซ่าซานมาร์โคและหอระฆังริมอ่าวซานมาร์โค
ความสวยงามของจัตุรัสเปียซซ่าซานมาร์โค และพระราชวังปาลัซโซ่ดูคาเลเมื่อมองจากริมอ่าวซานมาร์โค
ภาพแลนด์มาร์กอันโดดเด่นกลางเมืองเวนิสเมื่อมองจากหอระฆังบนเกาะซานจิออร์จิโอแม็กจิออเร่ที่อยู่ในฝั่งตรงข้าม
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี ยกเว้นช่วง 7-24 มกราคม ที่หอระฆังจะปิดซ่อมบำรุง
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว Piazza San Marco และ San Marco Campanile สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
จัตุรัสเปียซซ่าซานมาร์โค และ หอระฆังซานมาร์โค เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
(Piazza San Marco & San Marco Campanile, Venice, Italy)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : บริเวณจัตุรัสไม่เสียค่าเข้าชม
ค่าเข้าชมหอระฆัง: ตั๋วผู้ใหญ่ราคา 8 Euro / ตั๋วเด็กอายุ 6 - 18 ปี ราคา 4 Euro
เวลาเปิด-ปิด : บริเวณจัตุรัสเปิดตลอดเวลา
หอระฆังมีเวลาทำการดังนี้
วันที่ 1 ตุลาคม - 31 มีนาคม เปิดเวลา 9:30 น. - 17:00 น.
วันที่ 7-24 มกราคม ปิดเพื่อทำการบูรณะซ่อมแซม
วันที่ 1-15 เมษายน เปิดเวลา 9:30 น. - 17:30 น.
วันที่ 16 เมษายน - 30 กันยายน เปิดเวลา 8:30 น. - 21:00 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
โทรศัพท์ : (+39) 041 2708311
http://www.basilicasanmarco.it/basilica/campanile/?lang=en
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/th/it/italy-weather
เว็บไซต์ทางการของเมืองเวนิส https://www.veneziaunica.it/en
เว็บไซต์ทางการของประเทศอิตาลี http://www.italia.it/en/home.html
เว็บไซต์การท่องเที่ยวของประเทศอิตาลี https://www.italyguides.it/en
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
ล่องบอลลูนชม 2 ดินแดนมรดกโลก…พุกาม & คัปปาโดเชีย
หากเอ่ยถึง “พุกาม” (Bagan) เชื่อว่าคงจะนึกถึงสิ่งอื่นใดไปไม่ได้ นอกจากทะเลเจดีย์นับพันที่สร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งเรียงรายอยู่บริเวณพื้นที่ของเขตเขตมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาร์ และหากเอ่ยถึง “คัปปาโดเชีย” (Cappadocia) ประเทศตุรกีหรือตุรเคีย แน่นอนว่าก็คงจะต้องมีภาพของบอลลูนหลากสีลอยล่องอยู่เหนือภูมิประเทศแปลกตา ที่เต็มไปด้วยกลุ่มภูเขาหินรูปกรวยโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน... ในครั้งนี้ Palanla จะพาออกเดินทางไปสัมผัสกับความน่าอัศจรรย์ของ 2 ดินแดนมรดกโลก “พุกาม” และ “คัปปาโดเชีย” ด้วยมุมมองจากบนท้องฟ้าผ่านการล่องบอลลูนลมร้อน พร้อมแล้วไปด้วยกัน!
อ่านต่อเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) & ฮาจิโกะ (Hachiko)
สุนัข ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่แสนดีและซื่อสัตย์ของมนุษย์มายาวนานอยู่ทุกหนแห่งของโลกใบนี้ หลายๆ เรื่องราวถูกถ่ายทอดความประทับใจออกมาผ่านภาพยนตร์ หนังสือ ตลอดจนสร้างเป็นรูปปั้นอนุสรณ์สถานเพื่อเชิดชูและระลึกถึงความรักอันบริสุทธิ์ที่เจ้าตูบและมนุษย์มีต่อกัน เช่นเดียวกับรูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ 2 แห่งที่ Palanla จะพาไปชมในวันนี้ ที่แรกคือ รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์ และอีกที่คือ รูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ (Hachiko) ที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
อ่านต่อ8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
อิสตันบูล (Istanbul) เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นนคร 2 ทวีป ซึ่งมีช่องแคบบอสฟอรัสเป็นเส้นแบ่งระหว่างยุโรปและเอเชียแห่งนี้ คือเมืองที่รุ่มรวยไปด้วยประวัติศาสตร์ความเป็นมานับพันๆ ปี จึงไม่น่าแปลกใจหากอิสตันบลูจะเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่และงดงามทรงคุณค่ามากมายที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นยุโรปและเอเชียจากอดีตจนถึงปัจจุบัน Palanla จะพาไปชม 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูลที่หากมีโอกาสไปเยือนประเทศตุรกีไม่ควรพลาด
อ่านต่อล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
ช่องแคบบอสฟอรัส เป็นช่องแคบเล็กๆ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของตุรกี เคยเป็นทั้งเส้นทางการค้าที่สำคัญ และยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญมาจนถึงปัจจุบัน การล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) จึงเป็นวิธีที่ดีที่จะได้สัมผัสบรรยากาศ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมที่หลากหลายของอิสตันบูล
อ่านต่ออุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Sarnici) คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของตุรกี ดินแดนที่เต็มไปด้วยประวัติความเป็นมามากกว่าพันปี อุโมงค์เก่าแก่ขนาดใหญ่แห่งนี้คือสถานที่เก็บน้ำในสมัยโบราณที่ยังคงความยิ่งใหญ่และงดงาม กับเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างเสากรีกที่ค้ำเรียงรายมากถึง 336 ต้น และเสาเมดูซ่าพร้อมตำนานที่เล่าขานกันมาหลายชั่วอายุคน รวมถึงซากโบราณของพระราชวังใต้ดินแห่งกรุงคอนสแตนติโนเปิลสมัยไบเซนไทน์อีกด้วย
อ่านต่อตลาดเครื่องเทศ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
ตลาดเครื่องเทศ (Historical Spice Bazaar / Egyptıan Spıce Bazaar) ในอิสตันบูล เป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในโลก ตลาดแห่งนี้มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ในสมัยจักรวรรดิออตโตมัน เดิมทีเป็นจุดแลกเปลี่ยนเครื่องเทศ ผ้าไหม และสินค้าอื่นๆ จากเอเชียมาสู่ยุโรป
อ่านต่อ10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
บูดาเปสต์ (Budapest) เป็นเมืองหลวงของประเทศฮังการี ตัวเมืองถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งด้วยแม่น้ำดานูบที่ไหลผ่านกลางเมือง ทำให้ในเมืองเต็มไปด้วยบรรยากาศโรแมนติกจากสถาปัตยกรรมอันสวยงามเปี่ยมเสน่ห์ที่รอคอยให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือน Palanla ได้รวบรวมเอา 10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์มาให้แล้วในบทความนี้
อ่านต่อ12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก
ปราก (Prague) เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก ประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลนี้ ตั้งอยู่ใจกลางของทวีปยุโรป ในอดีต เมืองปรากเคยเป็นศูนย์กลางการปกครองอันยิ่งใหญ่ของทวีปยุโรป ซึ่งอารยธรรมแห่งความยิ่งใหญ่ และเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานนั้น ก็ยังคงสะท้อนอยู่ในวิถีชีวิตของชาวเมือง วัฒนธรรมประเพณี สถาปัตยกรรม ฯลฯ ราวกับมรดกที่สืบทอด และรักษากันมาอย่างดี จนถูกยกให้เป็นเมืองที่มีความน่าหลงใหล ควรค่าแก่การไปสัมผัสความเป็นยุโรปมากที่สุด โดยเมืองปรากยังได้รับการประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลก จากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย ปัจจุบันเมืองนี้นับเป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญ ของบรรดานักท่องเที่ยวที่มาเยือนทวีปยุโรป ไปชม 12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปรากพร้อมๆ กันกับ Palanla!
อ่านต่อถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
ถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ (Fashion Street Budapest) เป็นถนนช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงในใจกลางเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ถนนสายนี้เป็นที่รู้จักในด้านร้านค้าแฟชั่นชั้นนำจากแบรนด์ระดับโลก อาทิ Gucci, Louis Vuitton, Dior, Armani, Prada และ Chanel ถนนสายนี้ยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่มากมาย จึงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวและชาวเมืองบุดาเปสต์เองด้วย
อ่านต่อล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
ล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ (Dinner Cruise Budapest) เป็นวิธียอดเยี่ยมในการชมความสวยงามของเมืองบูดาเปสต์ โดยขณะที่เรือล่องไปตามแม่น้ำดานูบ (Danube River) นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่สวยงามของสะพาน พระราชวัง และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ รวมทั้งอิ่มอร่อยกับอาหารรสเลิศและเครื่องดื่มแสนอร่อย
อ่านต่อ