- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- พิพิธภัณฑ์นครวาติกัน กรุงโรม ประเทศอิตาลี
พิพิธภัณฑ์นครวาติกัน กรุงโรม ประเทศอิตาลี
- อ่าน (6,372)
- By Webmaster
- 12:02:57 | 8 เม.ย. 2563
พิพิธภัณฑ์นครวาติกัน กรุงโรม ประเทศอิตาลี
Vatican Museums, Rome, Italy
พิพิธภัณฑ์นครวาติกัน (Vatican Museums) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงวัตถุสิ่งของคอลเล็กชันต่างๆ มากมายและสุดอลังการ ไม่ว่าจะเป็นงานชิ้นเอกหรูหราจากยุคเรเนซองส์ (Renaissance) ไปจนถึงโบราณวัตถุสมัยโรมันอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑ์นครวาติกันมีหอศิลป์และห้องโถงรวมกันมากกว่า 54 ห้อง จนอาจเรียกได้ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก โดยในแต่ละปีนั้นดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาเที่ยวมากถึง 6 ล้านคน
ประวัติ
พิพิธภัณฑ์นครวาติกันเป็นพิพิธภัณฑ์ทางศาสนาและศิลปะขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในนครรัฐวาติกัน กรุงโรม ประเทศอิตาลี สร้างขึ้นในสมเด็จพระสันตะปาปาจูเลียสที่ 2 ในช่วงต้นศตวรรษที่ 16 เป็นสถานที่ที่เก็บรวบรวมผลงานทางศิลปะของศาสนจักรคาทอลิกที่มีอายุหลายร้อยปี โดยวัตถุที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีมากกว่า 70,000 ชิ้น ทั้งยังเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวจะมีโอกาสได้ชมผลงานชิ้นเอกของศิลปินระดับโลกหลายท่าน
คอลเล็คชันจัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์ที่เด่นๆ อาทิ คอลเล็กชันของพระสันตะปาปาจูเลียสที่สองจากปี ค.ศ.1506 ปีเดียวกับที่เริ่มวางหินซึ่งเป็นรากฐานของมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St. Peter’s Basilica) โดยคอลเล็กชันที่จัดแสดงนี้มีผลงานชิ้นโดดเด่นที่ได้รับจากโบสถ์คาธอลิกในช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมา
สิ่งจัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์นครวาติกันยังประกอบด้วยคอลเล็กชันขนาดเล็กอีกจำนวนมากที่น่าสนใจและบ่งบอกถึงความเป็นเลิศทางศิลปะจากอดีตได้เป็นอย่างดี มีไฮไลต์ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด ได้แก่ แกลเลอรี่งานศิลปะ Pinacoteca Vaticana เป็นที่เก็บภาพวาดที่มีชื่อเสียง ภาพวาดในโบสถ์จากศิลปินระดับโลก เช่น จิออตโต้ (Giotto) ดาวินชี (da Vinci) และราฟาเอล (Raphael) ซึ่งสิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือส่วนที่จัดแสดงผลงานของราฟาเอล ศิลปินเอกในยุคเรเนซองส์ ซึ่งเป็นห้องๆ ที่เรียงติดกันอยู่สี่ห้อง เดิมที่นี่ถูกสร้างเพื่อจะให้เป็นที่พักสำหรับพระสันตะปาปาจูเลียสที่สอง ห้องเหล่านี้มีภาพฝาผนังอันยิ่งใหญ่ที่สุดซึ่งยังหลงเหลืออยู่ของราฟาเอลและผลงานอื่นๆ รวมถึงงานอันเป็นเอกลักษณ์ของคาราวาจิโอ (Caravaggio) นั่นคือ The Entombment of Christ Museo Pio-Clementino ซึ่งเป็นตัวอย่างงานประติมากรรมชั้นเยี่ยมแบบกรีกและโรมัน นอกจากนี้ยังมีคอลเล็กชันอีกจำนวนมากที่เก็บรวบรวมโบราณวัตถุของชาวอียิปต์ งานศิลปะแนวศาสนาร่วมสมัย และแผนที่ซึ่งตกแต่งแบบอิตาเลียนในยุคสมัยต่างๆ
พิพิธภัณฑ์นครวาติกันมีหอศิลป์และห้องโถงรวมกันมากกว่า 54 ห้อง ทว่าห้องที่โด่งดังที่สุดคือห้องสวด Sistine Chapel ที่ผนังและเพดานปกคลุมไปด้วยภาพวาดงดงามและสุดอลังการฝีมือของสุดยอดศิลปินจากยุคนั้น อาทิ ปีเอโตร เปรูจิโน (Pietro Perugino), แซนโดร บอทติเซลลิ (Sandro Botticelli), คอสิโม รอสเซลลิ (Cosimo Rosselli) และศิลปินยุคเรเนซองส์ผู้ยิ่งใหญ่ท่านอื่นๆ อีกจำนวนมาก ส่วนภาพวาด The Creation of Adam and Eve บนเพดาน ที่เป็นไฮไลต์สำคัญนั้นเป็นผลงานชิ้นยิ่งใหญ่ที่สุดของไมเคิลแองเจโล (Michelangelo) จิตรกร สถาปนิก และประติมากรชื่อก้องโลกชาวอิตาลี
นอกจากวัตถุโบราณที่จัดแสดงให้ได้ชมและผลงานศิลปะจากศิลปินระดับโลกแล้ว แล้วยังมีอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้นั่นก็คือบันไดวนที่เรียกว่า Bramante Staircase อันงดงามและเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ซึ่งอยู่บริเวณก่อนที่จะออกจากพิพิธภัณฑ์ โดยหากขึ้นไปบนสุดแล้วมองลงมาก็จะเห็นบันไดวนไล่ระดับลงไปครบทุกชั้นอย่างสวยงาม ถือเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของพิพิธภัณฑ์นครวาติกันแห่งนี้ที่ใครมาเยือนแล้วก็ไม่อาจพลาดที่จะต้องถ่ายรูปเก็บไว้
ป้ายชื่ออาคารพิพิธภัณฑ์นครวาติกันในภาษาอิตาลี
ทัศนียภาพรอบๆ พิพิธภัณฑ์นครวาติกัน
ส่วนหนึ่งของอาคารที่เรียกได้ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
ประติมากรรมหินอ่อนแกะสลักรูปเทพเจ้าต่างๆ
ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มากถึง 6 ล้านคน
ความวิจิตรสวยงามของภาพวาดบนเพดานและความโอ่โถงภายในพิพิธภัณฑ์
ผนังและเพดานปกคลุมไปด้วยภาพวาดงดงามสุดแสนอลังการ
ภาพวาดบนผนังห้อง Sistine Chapel
นักท่องเที่ยวต่างแหงนชมความงดงาม
ห้อง Sistine Chapel
ส่วนจัดแสดงคอลเล็กชันของพระสันตะปาปา
คอลเล็กชันโบราณวัตถุของชาวอียิปต์
คอลเล็กชันโบราณวัตถุของชาวอียิปต์
งานประติมากรรมชั้นเยี่ยมแบบกรีกและโรมัน
การเดินทางจากสนามบินสู่ตัวเมือง
สนามบินโรม หรือชื่อทางการคือท่าอากาศยานเลโอนาร์โด ดา วินชี-ฟีอูมีชีโน (Leonardo da Vinci-Fiumicino Airport) ภาษาอิตาเลียนใช้ Fiumicino Aeroporto ตั้งอยู่ห่างจากกรุงโรมประมาณ 30 กิโลเมตร จากสนามบินนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าเมืองไปยังสถานีรถไฟหลักคือสถานี Roma Termini ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเดินทางของกรุงโรมได้ด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้
- รถยนต์ (Car) การเดินทางโดยรถยนต์จากสนามบิน Fiumicino Aeroporto ไปยังสถานี Roma Termini โดยใช้เส้นทางสาย A91 มีระยะทาง 30 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที
- รถไฟ (Train) จากสนามบิน Fiumicino Aeroporto นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถไฟสาย RV3231 ไปยังสถานี Roma Termini ได้โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที
การเดินทางไป Vatican Museums
- รถยนต์ (Car) การเดินทางโดยรถยนต์จากสถานี Roma Termini ไปยัง Vatican Museums โดยใช้เส้นทางสาย Viale del Muro Torto มีระยะทาง 6.7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที
- รถประจำทาง (Bus) จากสถานี Roma Termini ไปยัง Vatican Museums นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถประจำทางสาย nMA ไปลงที่ป้าย Doria A./L.go ใช้เวลาประมาณ 25 นาที
เวลาทำการเปิด – ปิด
วันจันทร์ – วันเสาร์ เปิดเวลา 09.00 – 18.00 น.
ทุกวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือน เปิดเวลา 09.00 – 14.00 น. (โดยในวันนี้จะไม่เสียค่าเข้าชม)
ความงดงามอลังการของห้องต่างๆ ภายในพิพิธภัณฑ์วาติกัน
อัตราค่าเข้าชม
ตั๋วเข้าชมปกติ ราคา 17 ยูโร
ตั๋วเข้าชมประเภทที่ไม่ต้องต่อแถว (Skip the Line Ticket) ราคา 21 ยูโร
นักท่องเที่ยวต่อแถวรอเข้าชมพิพิธภัณฑ์วาติกัน
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว Vatican Museums
สิ่งที่เป็นไฮไลต์ของการมาเที่ยวชมที่นี่ อาทิ ภาพวาดบนเพดานของพิพิธภัณฑ์ฝีมือของ Michelangelo, ห้องพักที่ได้รับการตกแต่งโดย Raphael, โบสถ์ซิสทีน (Sistine) ซึ่งเป็นห้องสุดท้ายที่โดดเด่นสะดุดตาภายในพิพิธภัณฑ์ นอกจากนี้ยังมีคอลเล็กชันจำนวนมากที่เก็บรวบรวมโบราณวัตถุของชาวอียิปต์ งานศิลปะแนวศาสนาร่วมสมัย และแผนที่ซึ่งตกแต่งแบบอิตาเลียนในยุคสมัยต่างๆ
งานประติมากรรมชั้นเยี่ยมแบบกรีกและโรมัน
The Entombment of Christ Museo Pio-Clementino ผลงานของ Caravaggio
ภาพวาดการคืนพระชนม์ของพระเยซู (The resurrection of Jesus)
ผลงานชิ้นเอกของราฟาเอล (Raphael)จิตรกรเอกของโลกชาวอิตาลี
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเที่ยว Vatican Museums ได้ตลอดทั้งปี
เพดานโดมสถาปัตยกรรมแบบบาร็อก (Baroque) อันงดงาม
บันไดวน เอกลักษณ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งของพิพิธภัณฑ์วาติกัน
บันไดวน Bramante Staircase เมื่อมองจากชั้นบนสุด
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้
หากนักท่องเที่ยวต้องการซื้อตั๋วเข้าชมประเภทที่ไม่ต้องต่อแถว (Skip the Line Ticket) ราคา 21 ยูโร ต้องซื้อล่วงหน้าในเว็บไซต์ http://www.museivaticani.va/content/museivaticani/en/visita-i-musei/tariffe-e-biglietti.html หรือจากเว็บไซต์ของเอเจนซี่ท่องเที่ยวต่างๆ โดยตั๋วนี้เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการหลีกเลี่ยงการต่อคิวยาวที่ด้านนอกของอาคาร เมื่อเดินทางมาถึง จะมีคนนำทางนักท่องเที่ยวผ่านทางเข้าเฉพาะโดยไม่ต้องรอคิว จากนั้นผู้ประสานงานจะให้คำแนะนำสั้นๆ และให้แผนที่ของพิพิธภัณฑ์ก่อนปล่อยให้นักท่องเที่ยวได้เดินสำรวจสถานที่ได้ตามต้องการ
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม Vatican Museum สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
พิพิธภัณฑ์วาติกัน กรุงโรม ประเทศอิตาลี
(Vatican Museums, Rome, Italy)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ตั๋วเข้าชม ราคา 17 ยูโร
เวลาเปิด – ปิด : วันจันทร์ – วันเสาร์ เปิดเวลา 09.00 – 18.00 น. และทุกวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือน เปิดเวลา 09.00 – 14.00 น.
ตั้งอยู่ที่ : Vatican, Rome, Italy
โทรศัพท์ : (+39) 06 69884676
เว็บไซต์ : http://www.museivaticani.va
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
เว็บไซต์การท่องเที่ยวเมืองโรม https://www.rome.net/
เว็บไซต์การท่องเที่ยวประเทศอิตาลี http://www.italia.it
ขนส่งสาธารณะเมืองโรม https://www.rome.net/transportation
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
หมู่บ้านซอมมารอย เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
อ่านต่อมหาวิหารอาร์กติก เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ
อ่านต่อมหาวิหารทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม
อ่านต่อท่าเรือทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
ท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ
อ่านต่อกระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา
อ่านต่อหมู่บ้านแฮมนอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ
อ่านต่อหมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้
อ่านต่อหมู่บ้านซาคริซอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด
อ่านต่อหมู่บ้านไรเนอร์ หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านไรเนอร์ (Reine) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่ในหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) ทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ ที่ซ่อนความงดงามและเสน่ห์อันไม่เหมือนใคร จนได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่สวยที่สุดในหมู่เกาะโลโฟเทน และสวยที่สุดในประเทศนอร์เวย์
อ่านต่อล่องเรือชมฟยอร์ดไกแรงเกอร์ เมืองโอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์
ไกแรงเกอร์ฟยอร์ด (Geirangerfjord) หนึ่งในฟยอร์ดที่สวยที่สุดในโลก และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วยภูมิประเทศที่เป็นเอกลักษณ์ของหน้าผาสูงชัน น้ำตกที่ตกลงมาจากหน้าผา และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมฟยอร์ด ทำให้ไกแรงเกอร์ฟยอร์ดเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความงามของธรรมชาติอันบริสุทธิ์แห่งนอร์เวย์
อ่านต่อ