- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- 20 จุดเช็คอิน...ฟินเวอร์ทั่วไทย
20 จุดเช็คอิน...ฟินเวอร์ทั่วไทย
- อ่าน (4,076)
- ByWebmaster
- 05:13:26 | 24 ธ.ค. 2564
20 จุดเช็คอิน...ฟินเวอร์ทั่วไทย
ก่อนที่ปี 2021 กำลังจะผ่านไป Palanla อยากชวนทุกคนมาชม 20 จุดเช็คอินทั่วไทย เผื่อว่าใครอยากจะบรรจุไว้ในแผนเที่ยวปี 2022 ที่รับประกันเลยว่าแต่ละที่นั้นทั้งสวย บรรยากาศดี และหลากหลาย งานนี้เราคัดสรรมาเอาใจคอเที่ยวทุกสาย ให้ได้ฟินกันไปตามๆ กัน
แผนที่แสดงตำแหน่ง 20 จุดเช็คอิน ฟินเวอร์ทั่วไทย
1. แอร์ ไดมอนด์ คาเฟ่ แอนด์ โฮเทล
แอร์ ไดมอนด์ คาเฟ่ แอนด์ โฮเทล (Air Diamond Cafe & Hotel) คาเฟ่บนเครื่องบินแอร์บัสแห่งแรกและแห่งเดียวในเชียงใหม่ ที่อำเภอแม่แตง ซึ่งคาเฟ่สุดเก๋ไม่เหมือนใครที่ว่านี้ ตั้งอยู่บนเครื่องบินโดยสารแอร์บัส A330-300 ที่ปลดประจำการแล้ว เดิมเครื่องบินลำนี้เป็นของบริษัทการบินไทยที่รับมอบจากโรงงานแอร์บัสเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2538 และยังเคยได้รับพระราชทานชื่อจากในหลวงรัชกาลที่ 9 ว่า "ลำปลายมาศ" หลังจากปลดประจำการแล้ว แอร์บัส A330-300 ลำนี้ ก็ได้กลายมาเป็น "Air Diamond Cafe & Hotel" ที่เพิ่งเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2564 ให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาจิบกาแฟและนั่งเล่นชมบรรยากาศบนเครื่องบินกันแบบฟินๆ เสมือนกำลังโดยสารเครื่องบินอยู่บนน่านฟ้า ส่วนบริเวณด้านล่างรอบๆ ลานจอดเครื่องบินยังมีร้านอาหาร ร้านขายของฝากของที่ระลึก รวมถึงโรงแรมที่พักอีกด้วย
เวลาเปิด - ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09.00 – 18.00 น.
พิกัด GPS : 19°04'21.7"N 98°56'21.0"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ แอร์ ไดมอนด์ คาเฟ่ แอนด์ โฮเทล ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=804
2. ไอ เลิฟ ฟลาวเวอร์ ฟาร์ม
ไอ เลิฟ ฟลาวเวอร์ ฟาร์ม (I love flower farm) สวนดอกไม้ขนาด 8 ไร่ แห่งนี้ตั้งอยู่ที่อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เต็มไปด้วยดอกไม้หลากหลายชนิด และมุมถ่ายภาพสวยๆ ที่ทางฟาร์มได้จัดไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางไปถ่ายรูป ถ่ายรูปกันอย่างจุใจ โดยภายในสวนนั้นก็จะมีแปลงดอกไม้นานาชนิด แต่ที่โดดเด่นที่สุดก็คือทุ่งมาร์กาเร็ตสีม่วง และดอกสร้อยไก่โดยเฉพาะสีแดง ซึ่งเป็นพันธุ์เดียวกันกับที่ปลูกที่ฮอกไกโดประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทำให้เกิดภาพบรรยากาศสุดอันซีนที่ใครๆ ก็อยากไปยืนถ่ายรูปสวยๆ อยู่ท่ามกลางแปลงดอกไม้สดสวยเหล่านี้ ไอ เลิฟ ฟลาวเวอร์ ฟาร์มจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมความสวยงามของแปลงดอกไม้ตั้งแต่ช่วงประมาณปลายเดือนตุลาคมไปจนถึงราวๆ ปลายเดือนมีนาคม นอกจากนี้ยังมีช่างภาพมืออาชีพคอยให้บริการถ่ายภาพสวยๆ รวมถึงมีห้องเปลี่ยนชุดไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เปลี่ยนชุดถ่ายรูปสวยๆ กันอย่างเต็มที่
เวลาเปิด - ปิด : เปิดตั้งแต่ช่วงประมาณปลายเดือนตุลาคม - ปลายเดือนมีนาคม ทุกวัน เวลา 09.00 - 18.00 น.
พิกัด GPS : 18°53'52.0"N 98°58'50.6"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ไอ เลิฟ ฟลาวเวอร์ ฟาร์ม ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=375
3. เดอะ ไจแอนท์ เชียงใหม่
เดอะ ไจแอนท์ เชียงใหม่ (The Giant Chiangmai) ร้านกาแฟบนต้นไม้ใหญ่บรรยากาศร่มรื่นซ่อนตัวอยู่ในป่า ที่ให้บริการเป็นทั้งร้านกาแฟและที่พัก เดอะ ไจแอนท์ เชียงใหม่อยู่ที่ตำบลห้วยแก้ว อำเภอแม่ออน ซึ่งเดิมพื้นที่บริเวณนี้เป็นไร่ปลูกกาแฟ ปลูกพลับ และใบเมี่ยงมาก่อน ก่อนที่เจ้าของร้านเดอะ ไจแอนท์ ซึ่งเข้ามาตั้งหลักปักฐานในพื้นที่กว่า 10 ปีแล้วจะตัดสินใจสร้างร้านแห่งนี้ขึ้นมาโดยความร่วมมือจากชาวบ้านจนสำเร็จ และเปิดบริการเมื่อปี 2557 และแม้จะอยู่ท่ามกลางป่าเขาแต่กาแฟของ เดอะ ไจแอนท์ เชียงใหม่เขาก็ใช้วัตถุดิบและส่วนผสมคุณภาพเทียบเท่าร้านดังๆ ในเมือง นอกจากนี้ทางร้านยังได้ส่งเสริมการเกษตรในชุมชน โดยทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการจำหน่ายและประชาสัมพันธ์กาแฟของหมู่บ้าน และร่วมสร้างจิตสำนึกในเรื่องของการดูแลรักษาธรรมชาติไปพร้อมๆ กันด้วย
เวลาเปิด - ปิด : ร้านกาแฟเปิดทุกวันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา 08.30 – 17.30 น. หยุดทุกวันจันทร์
พิกัด GPS : 18°53'33.0"N 99°21'06.0"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เดอะ ไจแอนท์ เชียงใหม่ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=376
4. ดอยเสมอดาว
ดอยเสมอดาว (Doi Samer Dao) สถานที่เที่ยวสุดฟิน ในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน ตำบลศรีษะเกษ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน ที่แม้จะไม่ใช่ดอยที่สูงที่สุด แต่ก็เป็นดอยที่มีความสวยงาม และมีภูมิทัศน์อลังการไม่แพ้ดอยสูงอื่นๆ ในประเทศไทย ดอยเสมอดาวนี้ตั้งอยู่ที่ความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 888 เมตร เป็นพื้นที่ที่มีลานหญ้ากว้างเขียวขจี โค้งไปตามสันเขา ให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อน กางเต็นท์ และดื่มด่ำกับทัศนียภาพรอบๆ ที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์ ได้อย่างกว้างไกลสุดสายตา โดยเฉพาะในช่วงปลายฝนต้นหนาว ถือเป็นช่วงที่เหมาะแก่การมาพักผ่อนมากๆ เพราะมีทะเลหมอกให้ได้ฟินกันอย่างเต็มที่ และบนดอยเสมอดาวแห่งนี้ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกและชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดน่าน
เวลาเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 18°22'33.5"N 100°49'38.6"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ดอยเสมอดาว ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=779
5. วัดพิพัฒน์มงคล
วัดพิพัฒน์มงคล (Wat Pipat Mongkol) วัดสวยงามวิจิตรที่โดดเด่นด้วยศิลปะโบราณทรงไทยล้านนาบนพื้นที่ 119 ไร่ ในตำบลทุ่งเสลี่ยม อำเภอทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย ถือเป็นสถานธรรมชื่อดังอันดับต้นๆ ของประเทศ และยังเป็นแหล่งศึกษาเชิงพุทธศาสนา และสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติด้วย ซึ่งแต่เดิมนั้นวัดแห่งนี้เป็นวัดร้างกลางทุ่งนา โดยสันนิษฐานกันว่าเป็นวัดมาก่อนประมาณ 700 ปีแล้ว ถึงแม้จะไม่ปรากฏหลักฐานในทางประวัติศาสตร์ แต่ก็ได้มีการพบรากฐานอุโบสถ เจดีย์โบราณ ซึ่งจมอยู่ใต้พื้นดินลึกลงไปประมาณ 1เมตรครึ่ง ภายในวัดเต็มไปด้วยศิลปะที่งดงาม มีเอกลักษณ์แบบล้านนา รวมทั้งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำปางมารวิชัย อายุราว 500 ปี ซึ่งเป็นทองคำแท้ หนักถึง 9 กิโลกรัม สร้างด้วยศิลปะสมัยสุโขทัยที่มีความงดงามและเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์กับวัดแห่งนี้และจังหวัดสุโขทัย
เวลาเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.00 - 17.00 น.
พิกัด GPS : 17°19'21.6"N 99°33'04.0"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดพิพัฒน์มงคล ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=809
6. วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว
วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว (Wat Phra That Pha Sorn Kaew) หนึ่งในจุดเช็กอินสำคัญของคนมาเที่ยวเพชรบูรณ์ สถานที่ที่จะได้ฟินไปกับทัศนียภาพรอบด้านของขุนเขาและเมฆหมอก ที่โอบล้อมวัดสวยกลางขุนเขาแห่งนี้อยู่ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาในหมู่บ้านทางแดง อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นวัดที่โดดเด่นด้วยเจดีย์พระธาตุ 9 ชั้นงามสง่า ประดับตกแต่งด้วยกระเบื้องสี ถ้วยชามเบญจรงค์ ตลอดจนเซรามิคหลากสีสัน งดงามวาววับราว นอกจากนี้วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วยังเป็นที่ประดิษฐาน “พระพุทธเจ้า 5 พระองค์” พระพุทธรูปสีขาวขนาดใหญ่ 5 องค์ที่มีความงดงามแปลกตา ประทับนั่งซ้อนกันบนฐานดอกบัวท่ามกลางขุนเขาเขียวขจีสามารถมองเห็นได้จากระยะไกล โดยเฉพาะในช่วงที่หมอกลงปกคลุมยอดเขานั้นเป็นภาพที่งดงามมากๆ
เวลาเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 07.00 – 17.00 น.
พิกัด GPS : 16°47'21.8"N 101°02'56.9"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=743
7. สกายวอล์คเชียงคาน (ภูคกงิ้ว)
สกายวอล์คเชียงคาน (Skywalk Chiang Khan (Phu Kok Ngiew)) จุดชมวิวสุดฟินบนเนินเขาภูคกงิ้ว อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย เป็นจุดที่จะสามารถสัมผัสกับทะเลหมอกได้อย่างใกล้ชิดได้ในช่วงฤดูหนาว และยังเป็นจุดชมแม่น้ำสองสีในตำแหน่งที่แม่น้ำโขงตัดกับแม่น้ำเหืองได้อย่างชัดเจนอีกด้วย สกายวอล์คเชียงคานเป็นทางเดินกระจกใสที่มีโครงเหล็กรองรับ สูงจากพื้นดิน 19 เมตร หรือเทียบเท่ากับตึก 30 ชั้น โดยด้านบนจะเป็นทางเดินกว้าง 2 เมตร ทอดยาวออกไปถึง 100 เมตร สามารถมองเห็นวิวได้แบบ 360 องศา ซึ่งภายในบริเวณยังเป็นที่ประดิษฐานพระใหญ่ภูคกงิ้ว หรือ พระพุทธนวมินทรมงคลลีลาทวินคราภิรักษ์ เป็นพระพุทธรูปปางลีลาประทานพรที่นักท่องเที่ยวมักจะนำดอกไม้ธูปเทียนมาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย ใครมาเที่ยวเชียงคานยุคนี้จะต้องไม่พลาดที่นี่ เพราะเรียกว่าเป็นจุดท่องเที่ยวที่สวยงามแบบรอบทิศทาง
เวลาเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน 07.00 น. – 18.00 น.
พิกัด GPS : 17°49'10.3"N 101°33'14.7"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สกายวอล์คเชียงคาน (ภูคกงิ้ว) ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=703
8. ทะเลบัวแดง
ทะเลบัวแดง (Red Lotus Lake) อยู่ที่บึงหนองหาน อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี เป็นบึงดอกไม้ตามธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย งดงามละลานตาด้วย “บัวสาย” หรือ “บัวแดง” นับล้านๆ ดอก ที่จะพร้อมใจกันเบ่งบานอวดโฉมให้นักท่องเที่ยวได้ยล ตั้งแต่ช่วงประมาณเดือนธันวาคม – ต้นเดือนมีนาคมของทุกปี ภายในบึงนั้นอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชน้ำ พันธุ์นก และพันธุ์ปลาหลากหลายชนิด ซึ่งพันธุ์ไม้น้ำที่โดดเด่นที่สุดคือ “บัวสาย” หรือ “บัวแดง” นับล้านที่ธรรมชาติได้เนรมิตความงามสุดอลังการนี้ขึ้นมา การมาชมทะเลบัวแดงควรมาชมในช่วงเช้าเวลาประมาณ 06.00 - 11.00 น. เพราะเป็นช่วงเวลาที่ดอกบัวสีชมพูจะแข่งกันเบ่งบานและยังไม่หุบ และการมาเที่ยวในช่วงเช้าๆ ยังเป็นโอกาสที่นักท่องเที่ยวจะได้ชมและเก็บภาพพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามสุดแสนประทับใจด้วย
เวลาเปิด - ปิด : ทะเลบัวแดงมีให้ชมทุกวันในช่วงต้นเดือนธันวาคม – สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ การมาชมทะเลบัวแดงควรมาชมในช่วงเช้าเวลาประมาณ 06.00 - 11.00 น.
พิกัด GPS : 17°12'08.0"N 102°59'58.9"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ทะเลบัวแดง ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=352
9. ลานพญานาคริมโขง
ลานพญานาคริมโขง (Lan Phaya Nak) หรือลานวัฒนธรรมหน้าวัดลำดวน แลนด์มาร์กสำคัญของคนมาเที่ยวหนองคาย สถานที่ที่สามารถบอกเล่าเรื่องราวความเชื่อเกี่ยวกับพญานาค และความผูกพันกับแม่น้ำโขงที่มีมาอย่างยาวนานของชาวหนองคาย ผ่านประติมากรรมพญานาคสีทองขนาดมหึมา 2 ตัว ความสูง 15 เมตร ความยาวลำตัว 45 เมตร พ่นน้ำอย่างสง่างามอยู่ริมฝั่งโขง ท่ามกลางบรรยากาศแวดล้อมอันคึกคักของร้านค้า แผงลอยจำหน่ายอาหารหลากหลายชนิด โดยเฉพาะยามที่ผู้คนมาออกกำลังกายเดินเล่นพักผ่อน ชมบรรยากาศริมฝั่งโขงโขงและพญานาคพ่นน้ำในช่วงเย็นๆ เป็นสถานที่ที่บรรยากาศดีและเต็มไปด้วยชีวิตชีวาอีกแห่งหนึ่งของเมืองหนองคาย นอกจากนี้ใกล้ๆ กันกับลานพญานาคยังมีหอสูงที่เรียกว่า Giant Tree & River Walk ซึ่งเป็นจุดชมวิวริมแม่น้ำโขงมุมสูง ให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปชมวิวฝั่งลาว
เวลาเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 17°53'15.3"N 102°45'10.2"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ลานพญานาคริมโขง ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=428
10. วิมานพญาแถน
วิมานพญาแถน (Wiman Phaya Tan) ตั้งโดดเด่นอยู่ภายในบริเวณสวนสาธารณะพญาแถน พื้นที่สำหรับจัดงานบุญบั้งไฟประจำปีซึ่งเป็นประเพณีที่มีชื่อเสียงของยโสธร อาคารรูปพญานาคนี้เคียงคู่อยู่ใกล้ๆ กับอาคารพญาคันคากที่มีรูปร่างคางคก ซึ่งเป็นสองแลนด์มาร์กที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกันริมอ่างเก็บน้ำลำทวน โดยด้านในวิมานพญาแถนซึ่งเป็นอาคารรูปพญานาคจะเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเรื่องราวและที่น่าสนใจเกี่ยวพญานาคพญานาคและงูใหญ่ทั่วโลก วิวัฒนาการและความเป็นอยู่ของงู รวมถึงตำนานเกี่ยวกับพญาคันคาก และพญาแถน ซึ่งเป็นเทวดาที่ชาวยโสธรเชื่อสืบต่อกันมาว่ามีอิทธิพลต่อฟ้าฝน เชื่อมโยงกับประเพณีบุญบั้งไฟของชาวอีสานนั่นเอง
เวลาเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 09.00 น. – 16.00 น.
พิกัด GPS : 15°47'32.5"N 104°09'18.7"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วิมานพญาแถน ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=421
11. วัดสิรินธรวราราม (วัดภูพร้าว)
วัดสิรินธรวราราม (Wat Sirindhorn Wararam (Wat Phu Prao)) หรือ วัดภูพร้าว ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงในอำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี รู้จักกันในนาม “วัดเรืองแสง” ผลงานพุทธศิลป์ที่ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบจิตรกรรมภาพเขียนต้นกัลปพฤกษ์บนผนังด้านหลังของอุโบสถ และลวดลายที่สลักลงบนลานหินด้านนอกของอุโบสถที่จะเรืองแสงในยามค่ำคืน คือสิ่งที่สร้างความตราตรึงใจให้แก่ผู้ที่มาเยือนวัดแห่งนี้ และไม่เพียงแต่แสงสวยๆ ที่เรืองออกมาจากลวดลายเท่านั้น แต่ตัวอุโบสถของวัดสิรินธรวรารามนั้นได้จำลองมาจากวัดเชียงทองที่มีชื่อเสียงของประเทศลาว นอกจากนี้วัดสิรินธรวราราม ยังมีจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินสวยๆ ซึ่งสามารถมองเห็นทัศนียภาพลำน้ำโขงและอ่างเก็บน้ำบริเวณเชิงเขาได้อย่างชัดเจนด้วย
เวลาเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 06.00 น. – 21.00 น.
พิกัด GPS : 15°08'55.7"N 105°27'56.3"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดสิรินธรวราราม (วัดภูพร้าว) ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=397
12. ต้นมะพร้าวคู่ที่หาดคลองเจ้า
ต้นมะพร้าวคู่ (Twin coconut palm tree) ที่หาดคลองเจ้า ถือเป็นหนึ่งในจุดเช็กอินสำคัญของเกาะกูด ต้นมะพร้าวคู่สองต้นนี้อยู่ในพื้นที่ของ ไฮซีซั่น พูลวิลล่า แอนด์ สปา บริเวณหาดคลองเจ้า เป็นชายหาดทอดยาวประมาณ 600 เมตร อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของเกาะกูด โดยคนท้องถิ่นในสมัยโบราณมีความเชื่อกันว่า ที่ไหนมีต้นมะพร้าวคู่ขึ้นอยู่จะนำโชคดีมาสู่ และจะช่วยป้องกันบริเวณนั้นจากฟ้าผ่าได้ ซึ่งระหว่างต้นมะพร้าวต้นใหญ่สองต้นที่พร้อมใจกันโน้มเอนเข้าหาทะเลก็จะมีชิงช้าไม้เรียบง่ายแต่สุดเก๋ผูกอยู่ ชวนให้ใครต่อใครอยากไปนั่งโล้ชิงช้าถ่ายรูปสวยๆ ที่นี่เป็นที่ระลึก โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิวพระอาทิตย์ตกยามเย็นตรงหน้าชิงช้านั้น ยิ่งงดงามและโรแมนติก
เวลาเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 11°37'58.4"N 102°32'42.4"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ต้นมะพร้าวคู่ที่หาดคลองเจ้า ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=320
13. อุทยานราชภักดิ์
อุทยานราชภักดิ์ (Rajabhakti Park) คือสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพราะที่นี่คือที่ประดิษฐานพระบรมรูปหล่อด้วยโลหะสำริดขนาดใหญ่ของบูรพกษัตริย์ไทย 7 พระองค์อันประกอบด้วย พ่อขุนรามคำแหงมหาราช, สมเด็จพระนเรศวรมหาราช, สมเด็จพระนารายณ์มหาราช, สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช, พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช, พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในพระอิริยาบถยืน งามสง่าและน่าเกรงขาม ท่ามกลางบรรยากาศสวยงามของอุทยานประวัติศาสตร์บนพื้นที่กว่า 222 ไร่ ที่ผ่านการออกแบบโดยกรมศิลปากร โดยการจำลองตามแบบตำราพิชัยสงครามในอดีต และหนึ่งในไฮไลต์สำคัญที่นักท่องเที่ยวจะต้องไม่พลาดก็คือ จุดศูนย์กลางของอุทยานราชภักดิ์ หรือที่เรียกว่า “จุดรวมสายพระเนตร” ที่ทั้ง 7 พระองค์จะทอดพระเนตรมาจุดนี้พอดี
เวลาเปิด - ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 น. - 18.00 น.
พิกัด GPS : 12°30'10.5"N 99°57'47.2"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ อุทยานราชภักดิ์ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=210
14. จุดชมวิวเสม็ดนางชี
จุดชมวิวเสม็ดนางชี (Samet Nangshe View Point) ตั้งอยู่ที่หมู่ 2 ตำบลคลองเคียน อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอินสุดฟินของเมืองไทยในพ.ศ.นี้ โดยเปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี พ.ศ. 2559 และได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอย่างล้นหลาม จากจุดชมวิวเสม็ดนางชีจะสามารถมองเห็นทัศนียภาพอันสวยงามของอ่าวพังงา ไม่ว่าจะเป็นเกาะแก่ง ภูเขาหินปูนต่างๆ ในอ่าวได้อย่างงดงามสุดลูกหูลูกตา โดยที่นี่ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามที่สุดของจังหวัดพังงา โดยในช่วงเวลากลางวันจะมีบรรยากาศความงดงามของพระอาทิตย์ที่ค่อยๆ โผล่พ้นขึ้นมาจากด้านหลังภูเขาหินปูนน้อยใหญ่ในอ้อมกอดของอ่าวพังงาให้ได้ชม ส่วนในตอนกลางคืนท้องฟ้าที่มืดมิดก็จะสว่างไสวไปด้วยดวงดาวระยิบนับล้านดวง
เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทำการทุกวัน เวลา 04.00 – 00.00 น.
พิกัด GPS : 8°14'19.4"N 98°26'43.7"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ จุดชมวิวเสม็ดนางชี ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=346
15. หมู่เกาะสิมิลัน
สิมิลัน (Similan Islands) หมู่เกาะเล็กๆ 9 เกาะในทะเลอันดามัน จังหวัดพังงา ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหมู่เกาะที่มีความสวยงามทั้งบนบกและใต้น้ำติดอันดับความงามเป็น 1 ใน 10 ของโลกจากนิตยสารสกินไดเวอร์ของอเมริกา หมู่เกาะสิมิลันขึ้นชื่อเรื่องน้ำทะเลใส ทรายสวยละเอียด มีแนวปะการังน้ำลึกที่มีความสวยงามและหลากหลาย บางชนิดไม่สามารถพบได้ที่หมู่เกาะอื่น รวมถึงปลาหายากหลายชนิดก็สามารถพบได้ที่นี่ เช่นกัน เกาะที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาหมู่เกาะทั้ง 9 ของสิมิลันคือ เกาะแปด ซึ่งมีสัญลักษณ์เป็นหินเรือใบ เป็นเกาะที่มีหาดทรายขาวละเอียด ใต้ทะเลมีปะการังหลายชนิด ถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางในฝันของผู้ที่ชื่นชอบความงามแห่งท้องทะเล ช่วงเวลาที่สามารถเที่ยวสิมิลันได้คือช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนกลางเดือนพฤษภาคม หลังจากนั้นจะประกาศปิดเกาะเนื่องจากเข้าสู่ฤดูมรสุมและเพื่อให้ธรรมชาติได้ฟื้นฟู
เวลาทำการเปิด – ปิด : หมู่เกาะสิมิลันจะเปิดให้เที่ยวชมได้ระหว่าง 15 ตุลาคม - 15 พฤษภาคม ของทุกปี
พิกัด GPS : 8°39'26.6"N 97°38'47.0"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ หมู่เกาะสิมิลัน ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=128
16. เกาะรอก
เกาะรอก (Rok Island) ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ราชินีแห่งอันดามัน” เป็นเกาะที่อยู่ ในน่านน้ำทะเลกระบี่เชื่อมต่อทะเลตรัง นั่งเรือห่างจากชายฝั่งกระบี่ออกไปประมาณ 2 ชั่วโมง 45 นาที เกาะรอกมีลักษณะเป็นสองเกาะเล็กๆ ตั้งอยู่คู่กัน ซึ่งก็คือเกาะรอกใน และ เกาะรอกนอก เป็นเกาะที่มีหาดทรายทอดยาวโค้งคล้ายเกือกม้า และมีทรายขาวละเอียด บรรยากาศเงียบสงบและโรแมนติก ซึ่งอีกหนึ่งจุดเด่นของเกาะรอกก็คือปะการังน้ำตื้นที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์ไปด้วยดอกไม้ทะเลและปลาสีสันสวยๆ ที่นี่จึงเป็นสวรรค์ของผู้ที่ชอบการดำน้ำอย่างแท้จริง เกาะรอกจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวได้ตั้งแต่ประมาณกลางเดือนตุลาคม จนถึงประมาณปลายเดือนเมษายนของทุกปี
เวลาทำการเปิด – ปิด : นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเที่ยวเกาะรอกได้ตลอด ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับตารางการเดินเรือหรือการนัดหมายกับบริษัทที่ให้บริการนำเที่ยว
พิกัด GPS : 7°11'56.7"N 99°03'34.7"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เกาะรอก ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=123
17. หนุมานเวิลด์
หนุมานเวิลด์ (Hanuman World) ตั้งอยู่ที่ตำบลวิชิต อำเภอเมืองภูเก็ต เป็นสวนสนุกเชิงนิเวศน์ชื่อแปลกหูที่ตั้งตาม "หนุมาน" เทพลิงแห่งป่าเขาลำเนาไพรจากตำนานรามเกียรติ์ ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า Eco Adventures ค่ะ ด้วยกิจกรรมผจญภัยหลายรูปแบบที่ผสมผสานเข้ากับธรรมชาติอย่างลงตัว กับฐานวัดใจมากถึง 30 สถานีที่จะเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวที่มาได้สัมผัสกับธรรมชาติมุมมองใหม่ๆ โดยมีไฮไลต์สำคัญคือการโหนสลิง ระยะทางกว่า 400 เมตร และโรลเลอร์โคสเตอร์ รถไฟเหาะรางไม้สุดตื่นเต้น ระยะทางยาว 800 เมตร ที่ไม่อาจพลาด นอกจากความสนุกตื่นเต้นแล้วนักท่องเที่ยวยังได้ฟินไปกับบรรยากาศโดยรอบที่เขียวขจีและอุดมสมบูรณ์
เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 18.00 น.
พิกัด GPS : 7°52'35.0"N 98°21'04.2"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ หนุมานเวิร์ล ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=665
18. สวนน้ำบลูทรี ภูเก็ต
สวนน้ำบลูทรี ภูเก็ต (Blue Tree Phuket) เป็นสวนน้ำขนาดใหญ่ที่ถือเป็นแลนด์มาร์กสำหรับการพักผ่อนแห่งใหม่ของภูเก็ต บนพื้นที่กว่า 140 ไร่ ในตำบลเชิงทะเล เรียกว่าเป็นทั้งสวนน้ำและศูนย์รวมบันเทิงสำหรับครอบครัวที่มีมาตรฐานระดับโลกแห่งแรกของเกาะภูเก็ต ภายในสวนน้ำแห่งนี้เพียบพร้อมไปด้วยเครื่องเล่นและกิจกรรมมากมายแบ่งออกเป็น 6 โซนด้วยกัน โดยมีไฮไลต์สำคัญคือ “บลูทรี ลากูน” มหาสมุทรน้ำสีฟ้าใสสไตล์ลากูนขนาดใหญ่กว่า 17,000 ตารางเมตรที่มี Beach Club 4 ชั้นอยู่ตรงกลาง และตกแต่งอย่างสวยงาม ล้อมรอบด้วยชายหาดเทียม นอกจากนี้ในแต่ละเดือนที่สวนน้ำบลูทรียังเต็มไปด้วยกิจกรรมและอีเวนต์ต่างๆ ที่จะหมุนเวียนสลับเปลี่ยนกัน เพื่อคอยสร้างความเพลิดเพลินแก่นักท่องเที่ยว
เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 10.00 – 22.00 น.
พิกัด GPS : 7°59'18.6"N 98°19'09.6"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สวนน้ำบลูทรี ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=662
19. บานาน่าบีช (เกาะเฮ)
บานาน่าบีช (Banana Beach) เป็นเกาะส่วนตัวเล็กๆ ห่างจากเกาะภูเก็ตออกไปราวๆ 10-15 นาทีโดยการนั่งเรือสปีดโบ๊ท บรรยากาศของบานาบีชนั้นโอบล้อมด้วยหาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลใส มีปะการังน้ำตื้นอุดมสมบูรณ์ มีทัศนียภาพรอบๆ หาดที่สวยงามและสงบ นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำหน้าหาดได้เพลินๆ และรอบๆ หาดก็มีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปอยู่หลายจุดด้วยกัน และไฮไลต์สำคัญอีกอย่างหนึ่งของเกาะเฮก็คือนกเงือกเจ้าถิ่นหลายตัวที่จะออกมาให้นักท่องเที่ยวได้ยลโฉมกันอยู่เป็นประจำ นอกจากนี้ที่บานาน่าบีชยังมีกิจกรรมต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกทำกันอย่างเพลิดเพลิน ไม่ว่าจะเป็นเรือกล้วย เรือลากร่ม ดำน้ำลึก พายเรือแคนูใส นักท่องเที่ยวสามารถซื้อทัวร์แบบครึ่งวันไปเที่ยวบานาน่าบีชที่เกาะเฮได้ บนเกาะเฮจะมีที่พักอยู่เพียงที่เดียวเท่านั้น ดังนั้นหากต้องการค้างคืนบนเกาะควรตรวจสอบกับทางที่พักล่วงหน้า
เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 7°44'39.5"N 98°22'57.7"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เกาะเฮ ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=619
20. ปัตตานี สกายวอล์ค
ปัตตานี สกายวอล์ค (Pattani Sky Walk) ตั้งอยู่ในสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ สวนเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา จังหวัดปัตตานี เป็นเส้นทางเดินลอยฟ้าเหนือป่าชายเลนความสูงประมาณตึก 5 ชั้น ที่จะให้ทั้งประสบการณ์สุดตื่นเต้นและวิวหลักล้าน สกายวอล์คเป็นทางเดินตาข่ายเหล็กโปร่งความยาว 400 เมตร สูงจากพื้นดินประมาณ 12 เมตร พร้อมทัศนียภาพสวยๆ ที่มองออกไปทางทิศตะวันตกจะเห็นปากอ่าวปัตตานีและแหลมตาชี ส่วนฝั่งทิศตะวันออกจะเห็นวิวทิวทัศน์ของเขาทรายขาวหรือเขารังเกียบ รวมถึงเป็นจุดชมความงดงามของพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก บวกกับวิวของผืนป่าชายเลนแบบ 360 องศา
เวลาเปิด - ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00 - 24.00น.
พิกัด GPS : 6°53'39.2"N 101°14'35.7"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ปัตตานี สกายวอล์ค ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=810
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : เว็บไซต์พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) https://thai.tourismthailand.org/
การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) https://www.railway.co.th/
บริการขนส่ง (รถทัวร์ประจำทาง) http://www.busticket.in.th, http://www.thairoute.com
แอปพลิเคชันแนะนำสำหรับเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ในประเทศไทย
- Grab สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
อัตราค่าบริการแท็กซี่ (TAXI FARE)
อัตราค่าครองชีพ (DAILY COST)
สภาพอากาศ (WEATHER)
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
พิจิตร จังหวัดเล็กๆ ที่ซ่อนเสน่ห์เอาไว้มากมาย และไม่ได้มีแค่บึงสีไฟเพียงอย่างเดียว เพราะเมืองชาละวันแห่งนี้มีทั้งธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ วัดวาอารามเก่าแก่ และวิถีชีวิตของผู้คนท้องถิ่นที่น่าสนใจ บทความนี้ Palanla จะพาไปเปิดมุมมองใหม่กับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนพิจิตร
อ่านต่อวัดหิรัญญาราม (วัดบางคลาน) จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
วัดหิรัญญาราม (Wat Hiranyaram) หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันดีในชื่อ วัดบางคลาน (Wat Bang Khlan) เป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากแห่งหนึ่งของจังหวัดพิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นที่รู้จักจาก หลวงพ่อเงิน พระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่มีผู้คนให้ความเคารพนับถืออย่างมาก
อ่านต่ออุทยานเมืองเก่าพิจิตร จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
อุทยานเมืองเก่าพิจิตร (Pichit Historical Park) เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัด เชื่อกันว่าเดิมทีบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของเมืองพิจิตรเก่า
อ่านต่อวัดนครชุม จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
วัดนครชุม (Wat Nakhon Chum) หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า "วัดใหญ่" ตั้งอยู่ที่ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เป็นวัดเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย โดยเคยเป็นวัดสำคัญของเมืองพิจิตรในอดีต
อ่านต่อวัดเขารูปช้าง จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
วัดเขารูปช้าง (Wat Khao Rup Chang) อีกหนึ่งวัดเก่าแก่ของจังหวัดพิจิตรที่สร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา บนยอดเขาที่มีหินสีขาวซ้อนกันเป็นรูปช้างคุกเข่าโดดเด่นด้วยเจดีย์แบบลังกา ประดับกระเบื้องเคลือบสีทองทั้งองค์
อ่านต่อทุ่งดอกกระเจียวยักษ์บ้านเขาโล้น จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
ทุ่งดอกกระเจียวยักษ์บ้านเขาโล้น (Giant Siam Tulip Field Baan Khao Loan) ตั้งอยู่ที่ตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน เมื่อดอกกระเจียวสีชมพูบานสะพรั่งทั่วทั้งทุ่ง
อ่านต่อตลาดย่านเก่าวังกรด จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
ตลาดย่านเก่าวังกรด ( Yan Kao Wang Krot Market) ตลาดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ณ ย่านเก่าวังกรด จังหวัดพิจิตร เป็นแหล่งรวมอาหารอร่อยที่เรียงรายด้วยสถาปัตยกรรมอาคารไม้เก่าแก่สวยงาม พร้อมทั้งหอนาฬิกาที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของชุมชน
อ่านต่อน้ำตกไทรโยคใหญ่ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย
น้ำตกไทรโยคใหญ่ (Sai Yok Yai Waterfall) เปรียบเสมือนอัญมณีแห่งเมืองกาญจนบุรี ด้วยความงามของม่านน้ำอันยิ่งใหญ่ที่ไหลรินลงมาจากหน้าผาสูงและกลายเป็นสายน้ำที่ทอดยาว รายล้อมไปด้วยป่าไม้ร่มรื่น ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของจังหวัดกาญจนบุรี
อ่านต่อต้นจามจุรียักษ์ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย
ต้นจามจุรียักษ์ (Giant Monkey Pod Tree) อายุกว่า 100 ปี ที่ยืนตระหง่าน แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาแก่ผู้คนที่มาพักผ่อนหย่อนใจ คืออีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองกาญจนบุรีในปัจจุบัน
อ่านต่อคู่มือการดำเนินการตามกระบวนการเคลมประกันรถยนต์ฉบับสมบูรณ์
การมีส่วนร่วมในอุบัติเหตุทางรถยนต์หรือประสบความเสียหายต่อยานพาหนะของคุณอาจเป็นประสบการณ์ที่ตึงเครียดและท่วมท้น อย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจขั้นตอนการเคลมประกันรถยนต์สามารถช่วยบรรเทาความวิตกกังวลและแก้ไขปัญหาได้ราบรื่นยิ่งขึ้น
อ่านต่อ