- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- ประติมากรรมแมนเนเกน พิส และพิพิธภัณฑ์เสื้อผ้าแมนเนเกน พิส เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
ประติมากรรมแมนเนเกน พิส และพิพิธภัณฑ์เสื้อผ้าแมนเนเกน พิส เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
- อ่าน (4,280)
- By Webmaster
- 15:27:34 | 17 ธ.ค. 2562
ประติมากรรมแมนเนเกน พิส และพิพิธภัณฑ์เสื้อผ้าแมนเนเกน พิส เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
Manneken Pis & Garderobe Manneken Pis, Brussels, Belgium
ประติมากรรมแมนเนเกน พิสที่เก่าแก่ และโด่งดังที่สุดชิ้นหนึ่งของเมืองบรัสเซลส์
ประติมากรรมแมนเนเกน พิส และพิพิธภัณฑ์เสื้อผ้าแมนเนเกน พิส (Manneken Pis & Garderobe Manneken Pis) แลนด์มาร์กยอดนิยมแห่งนี้ คือประติมากรรมเด็กชายกำลังยืนปัสสาวะ ที่กลายมาเป็นภาพแทนทางวัฒนธรรมของเมืองบรัสเซลส์ ที่มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมกันหนาแน่นที่สุดจุดหนึ่งของเมือง และบริเวณใกล้เคียงกันยังมีพิพิธภัณฑ์เสื้อผ้าของเด็กชายที่รวบรวมเครื่องแต่งกายตามประเพณีพื้นเมืองและเทศกาลของบรัสเซลส์ และของประเทศต่างๆ ทั่วโลก ที่จัดแสดงเป็นคอลเลกชั่นกว่า 1,000 ชุด
แผนที่ตั้ง ประติมากรรมแมนเนเกน พิส และพิพิธภัณฑ์เสื้อผ้าแมนเนเกน พิส เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
ประวัติ
แอ่งหินรองรับน้ำที่ปล่อยออกมาจากตัวประติมากรรมแมนเนเกน พิส
ประติมากรรมแมนเนเกน พิส และพิพิธภัณฑ์เสื้อผ้าแมนเนเกน พิส (Manneken Pis & Garderobe Manneken Pis) ประติมากรรมแมนเนเกน พิส ปรากฏขึ้นมาในหน้าประวัติศาสตร์บรัสเซลส์ครั้งแรกในช่วงประมาณปี 1619 จากโครงการจัดตั้งแหล่งน้ำสะอาดสำหรับใช้กินดื่มให้กับประชาชนในเมืองของรัฐบาล เกิดเป็นลานน้ำพุที่มีแอ่งหินทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสองชั้นคอยรองรับน้ำจากประติมากรรมซึ่งมีหน้าที่กระจายน้ำที่ติดตั้งอยู่ด้านบน และเป็นเหตุผลให้นักท่องเที่ยวสามารถพบลานน้ำพุที่กระจายตัวอยู่ตามเมืองบรัสเซลส์ได้จนชินตา โดย แมนเนเกน พิส ที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบันเป็นหนึ่งในประติมากรรมน้ำพุที่เคยตั้งอยู่ทั่วเมือง ซึ่งคำว่า Manneken Pis ก็เป็นภาษาดัตช์ที่แปลไทยได้ว่า เด็กชายกำลังปัสสาวะ นั้นก็อธิบายลักษณะของประติมากรรมน้ำพุชิ้นนี้ได้แบบเห็นภาพที่สุด และเด็กชายชื่อดังคนนี้ยังมีชื่อภาษาฝรั่งเศส Ie Petit Julien ที่เป็นไทยว่า จูเลียนน้อย อีกด้วย โดยงานชิ้นนี้ได้รับการออกแบบจากช่างประติมากรรมชาวฝรั่งเศสนาม เจอโรม ดูเกสนอย (Jerome Duquesnoy) ซึ่งได้ต้นแบบมาจาก คิวปิด (Cupid) เทพเจ้าแห่งความรักในเทพปกรณัมกรีกและโรมันโบราณ และการหล่อขึ้นมาให้อยู่ในท่ากำลังยืนปัสสาวะก็เพื่อสื่อถึงการปลดปล่อยตัวเองของเด็กชายวัยประมาณหัดเดินคนนี้ ซึ่งวัสดุของประติมากรรมชิ้นนี้ในยุคแรก จะใช้หินแกรนิตเป็นหลัก มีความสูง 61 ซม. ก่อนที่ต่อมาจะมีการหล่อแมนเนเกน พิสทำจากทองแดงสำริดตัวใหม่ที่รูปทรงเหมือนเดิมทุกประการ มาใช้แทนที่ตัวเก่าที่ถูกย้ายไปจัดเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์เมืองบรัสเซลส์
โดยเด็กชายคนนี้เริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมาในเหตุการณ์ปฎิวัติฝรั่งเศสปี 1695 ที่สร้างความสูญเสียครั้งใหญ่ให้กับเมืองบรัสเซลส์ แต่งานชิ้นนี้กลับรอดพ้นจากความเสียหายอย่างน่าอัศจรรย์ มีเพียงท่อส่งน้ำบริเวณอวัยวะเพศของเด็กชายเท่านั้นที่ติดขัด และไม่สามารถปล่อยน้ำออกมาได้ โดยหนังสือข่าวที่ตีพิมพ์ในปีเดียวกันนั้น ได้นำเสนอข้อความซึ่งแปลเป็นภาษาไทยได้ว่า “วัตถุแห่งความรุ่งโรจน์ที่ได้รับความชื่นชมจากทุกคนและมีชื่อเสียงไปทั่วโลก” ซึ่งเป็นประโยคที่ทำให้แมนเนเกน พิส กลายเป็นภาพแทนของชาวเมืองบรัสเซลส์ที่พร้อมเผชิญหน้ากับปัญหา และกลับมาลุกขึ้นสู้อย่างเข้มแข็ง ดังเช่นประติมากรรมชิ้นนี้ ที่แม้จะผ่านสมรภูมิสงครามมาอย่างหนักหน่วง แต่ก็ยังวางอยู่บนฐานรากของตัวเองได้อย่างมีชัย ทั้งการเป็นตัวแทนของแมนเนเกน พิส นั้น ยังได้รับความเห็นชอบจากทุกคนในเมืองถึงขั้นมีการจารึกข้อความจากพระคัมภีร์ว่า Petra Exaltavit me, nunc exaltavi caput meum super inimicos meos (ลอร์ดวางฉันไว้บนฐานหิน ตอนนี้ฉันยกหัวอยู่เหนือศัตรูของฉัน) ไว้อยู่เหนือหัวประติมากรรมชิ้นนี้เลยทีเดียว
โครงสร้างของซุ้มหินที่ประติมากรรมแมนเนเกน พิส ติดตั้งอยู่
ต่อมาปี 1697 ลานน้ำพุแห่งนี้ก็ถูกย้ายไปตั้งอยู่บริเวณทางแยกระหว่างถนนเลทุฟ (Rue de I’Etuve) กับถนนแซน (Rue du Chene) ใจกลางเมืองบรัสเซลส์ จนปี 1770 ส่วนอื่นของลานน้ำพุเดิมก็ถูกย้ายออกไป เหลือเพียง แมนเนเกน พิส ที่ถูกตกแต่งขึ้นใหม่ในซอกหินของทางแยกถนน มีราวกั้นที่ป้องกันการเข้าถึงพื้นที่ของน้ำพุ และถูกปรับมาเป็นพื้นที่เชิงสัญลักษณ์เท่านั้น หลังจากปี 1855 เมืองบรัสเซลส์อนุญาติให้มีการผลิตน้ำดื่มใช้กันในที่พักอาศัย จนไม่จำเป็นต้องมาใช้น้ำที่ลานน้ำพุ และกลายมาเป็นสถานที่ให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเยี่ยมชมกันอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
ลานน้ำพุแมนเนเกน พิส เมื่อมองมาจากด้านข้าง (รูปซ้าย) รูปจำลองหน้าร้านขายวาฟเฟิล (รูปขวา)
มาที่ปลายปี 2018 นาย เรจิส คัลเลนส์ (Regis Callens) ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานของเมืองได้เสนอข้อมูลว่า แมนเนเกน พิส มีระบบการทำงานที่ปล่อยน้ำสะอาดทิ้งลงท่อระบายน้ำไปอย่างเปล่าประโยชน์ถึงวันละ 1,000 – 2,500 ลิตร ทำให้มีการแก้ปัญหานี้ด้วยการเปลี่ยนไปใช้ระบบหมุนเวียนน้ำแบบปิด กล่าวคือน้ำที่ถูกปล่อยออกมาจาก แมนเนเกน พิส จะถูกเวียนกลับเข้าไปที่ตัวประติมากรรมชิ้นนี้ใหม่ และวนซ้ำแบบนี้ไปตลอดเวลา ทำให้ไม่ต้องมีการใช้น้ำไปอย่างเปล่าประโยชน์อีก
ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์เสื้อผ้าเด็กชายแมนเนเกน พิส
แน่นอนว่าระดับประติมากรรมชิ้นเอกที่อยู่คู่กับเมืองบรัสเซลส์มายาวนานหลายร้อยปี ก็ต้องมีเรื่องเล่าขานที่สืบทอดกันมาหลายเรื่อง โดยเรื่องที่มีชื่อเสียง และได้รับการเล่าต่อกันมาหนาหูมากที่สุดคงหนีไม่พ้นตำนานที่ว่า ในสมัยสงครามมีทหารฝ่ายข้าศึกนำระเบิดติดฉนวนมาวางไว้ที่กำแพงเมือง แต่เด็กชายชื่อ จูเลียนสกี (Julianske) มาพบสายฉนวนระเบิดที่กำลังติดไฟพอดี จึงทำการฉี่ใส่สายฉนวนเพื่อดับมัน เป็นการช่วยให้เมืองรอดพ้นจากหายนะครั้งสำคัญไปได้ จนมีการสร้างประติมากรรมรูปเขา เพื่อแสดงถึงความกล้าหาญของเด็กชายคนนี้
เครื่องแต่งกายที่เป็นอัตลักษณ์ของประเทศต่างๆ ที่ส่งมาให้แมนเนเกน พิสใส่
โดยนี่เป็นหนึ่งในเรื่องเล่าที่เปี่ยมไปด้วยสีสันของแมนเนเกน พิส ที่มีอยู่มากมายเป็นกระบุง ไม่ต่างจากเครื่องแต่งกายของเขาที่มีอยู่มากกว่า 1,000 ชุด เพราะหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ประติมากรรมชิ้นนี้กลายเป็นแลนด์มาร์กที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเยี่ยมชม เป็นเพราะร่ายกายอันเปลือยเปล่าของเด็กชายถูกปกคลุมไปด้วยเสื้อผ้าตามประเพณีพื้นเมืองหรือตามเทศกาลสำคัญที่เกิดขึ้นในเมืองและทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันประติมากรรมชิ้นนี้ปรากฏกายอยู่ในอาภรณ์ที่แตกต่างโดยเฉลี่ยถึง 130 ชุด ต่อปี
คอลเลกชั่นเครื่องแต่งกายของแมนเนเกน พิส ที่จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์
รูปจำลองประติมากรรมแมนเนเกน พิสที่นำมาวางขายเป็นของที่ระลึก
โดยได้รับการจัดการจากสมาคมไม่หวังผลกำไร The Friends of Manneken Pis ที่จะมีหน้าที่คอยคัดเลือกเสื้อผ้าหลายร้อยชิ้นจากทั่วโลก ที่ถูกส่งมาในแต่ละปี ด้วยหวังให้ชุดที่แสดงถึงอัตลักษณ์ของพื้นที่ต้นทางที่ส่งมา ได้สวมใส่อยู่ในตัวของประติมากรรมที่โด่งดังที่สุดชิ้นหนึ่งในบรัสเซลส์ โดยปัจจุบันเครื่องแต่งกายต่างๆ ที่ แมนเนเกน พิส เคยใส่มา ถูกรวบรวมไว้เป็นคอลเลกชั่นจัดแสดงในนิทรรศการถาวรที่ตั้งอยู่ในพิพิธภัณฑ์เมืองบรัสเซลส์ และในเดือนกุมภาพันธ์ 2017 ก็มีการสร้างพิพิธภัณฑ์ของตัวเองแบบเต็มรูปแบบ ซึ่งภายในจะมีการจัดแสดงคอลเลกชั่นเสื้อผ้าของ แมนเนเกน พิส ที่เคยใช้สวมใส่มาตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 18 นับเป็นมรดกทางวัฒนธรรมมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดประเภทหนึ่งของเมืองเลยทีเดียว โดยจากที่ตั้งของ แมนเนเกน พิส นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เสื้อผ้าแมนเนเกน พิส ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงกันได้อย่างสะดวกสบาย
การเดินทางจากสนามบินบรัสเซลส์ซาเวนเทมไปยังสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์
- รถยนต์ จากสนามบินไปยังสถานีรถไฟกลางของเมืองบรัสเซลส์ (Brussels Centraal) ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 32 นาที
- รถบัส จากอาคารผู้โดยสารขาเข้าให้เดินไปขึ้นรถบัสที่สถานีรถบัสประจำสนามบิน โดยขึ้นรถบัสหมายเลข 12 ตรงไปยังสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ (Brussels Centraal) ได้เลย ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 34 นาที สามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถ ราคา และข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.delijn.be/nl/routeplanner/index.html
- รถไฟ จากอาคารผู้โดยสารขาเข้าให้ลงไปขึ้นรถไฟ Airport City Express ที่ชั้นใต้ดินของอาคารเพื่อไปลงที่สถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ (Brussels Station) ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาที สามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถ ราคา และข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.belgiantrain.be/en
การเดินทางจากสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ไปยังประติมากรรมแมนเนเกน พิสและพิพิธภัณฑ์เสื้อผ้าแมนเนเกน พิส
- เดิน จากสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ สามารถเดินไปยัง พิพิธภัณฑ์เสื้อผ้าแมนเนเกน พิส และประติมากรรมแมนเนเกน พิส ได้เลย ระยะทางประมาณ 500 เมตร และ 600 เมตร ตามลำดับ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 นาที และ 7 นาที ตามลำดับ
เวลาเปิด-ปิดทำการ
กราฟฟิตี้รูปแมนเนเกน พิส บริเวณผนังด้านข้างของพิพิธภัณฑ์
ประติมากรรมแมนเนเกน พิส (Manneken Pis) เปิดให้ชมตลอดเวลา / พิพิธภัณฑ์เสื้อผ้าแมนเนเกน พิส (Garderobe Manneken Pis) เปิดให้เข้าชมทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 10:00 น. – 17:00 น. (ปิดทุกวันจันทร์และวันที่ 1 ม.ค. / 1 พ.ค. / 1 และ 11 พ.ย. / 25 ธ.ค.)
อัตราค่าเข้าชม
คอลเลกชั่นเครื่องแต่งกายของแมนเนเกน พิส ที่จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์
ประติมากรรมแมนเนเกน พิส (Manneken Pis) เข้าชมฟรี / พิพิธภัณฑ์เสื้อผ้าแมนเนเกน พิส (Garderobe Manneken Pis) มีค่าเข้าชมสำหรับ ผู้ใหญ่ 8 ยูโร / ผู้สูงอายุ 6 ยูโร / นักเรียน-นักศึกษา 4 ยูโร / ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนเข้าชมฟรี (บัตรสามารถใช้เข้าชมพิพิธภัณฑ์เมืองบรัสเซลส์ได้ด้วย)
เวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
ประติมากรรมแมนเนเกน พิส จำลอง ที่ตั้งอยู่ในร้านขนมหวานชื่อดังของเมืองบรัสเซลส์
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว ประติมากรรมแมนเนเกน พิส และพิพิธภัณฑ์เสื้อผ้าแมนเนเกน พิส สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ประติมากรรมแมนเนเกน พิส และพิพิธภัณฑ์เสื้อผ้าแมนเนเกน พิส เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
(Manneken Pis & Garderobe Manneken Pis, Brussels , Belgium)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ประติมากรรมแมนเนเกน พิส เข้าชมฟรี
พิพิธภัณฑ์เสื้อผ้าแมนเนเกน พิส มีค่าเข้าชมสำหรับ ผู้ใหญ่ 8 ยูโร / ผู้สูงอายุ 6 ยูโร / นักเรียน-นักศึกษา 4 ยูโร
ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนเข้าชมฟรี (บัตรสามารถใช้เข้าชมพิพิธภัณฑ์เมืองบรัสเซลส์ได้ด้วย)
เวลาเปิด-ปิด : ประติมากรรมแมนเนเกน พิส เปิดให้ชมตลอดเวลา
พิพิธภัณฑ์เสื้อผ้าแมนเนเกน พิส เปิดให้เข้าชมเวลา วันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 10:00 น. – 17:00 น.
(ปิดทุกวันจันทร์และวันที่ 1 ม.ค. / 1 พ.ค. / 1 และ 11 พ.ย. / 25 ธ.ค.)
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : เมืองบรัสเซลส์, ประเทศเบลเยียม
โทรศัพท์ : (+32) 2-514-53-97
เว็บไซต์ : https://www.mannekenPis.brussels/fr/accueil#manneken-Pis
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : เว็บไซต์สำนักงานการท่องเที่ยวประเทศเบลเยียม http://walloniabelgiumtourism.co.uk/
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสำนักงานเมืองบรัสเซลส์ https://www.brussels.be/
เว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองบรัสเซลส์ https://be.brussels/bruxelles
เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/
เว็บไซต์การเดินทางขนส่งมวลชนของเมืองบรัสเซลส์ http://www.stib-mivb.be/index.htm?l=fr
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
ล่องบอลลูนชม 2 ดินแดนมรดกโลก…พุกาม & คัปปาโดเชีย
หากเอ่ยถึง “พุกาม” (Bagan) เชื่อว่าคงจะนึกถึงสิ่งอื่นใดไปไม่ได้ นอกจากทะเลเจดีย์นับพันที่สร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งเรียงรายอยู่บริเวณพื้นที่ของเขตเขตมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาร์ และหากเอ่ยถึง “คัปปาโดเชีย” (Cappadocia) ประเทศตุรกีหรือตุรเคีย แน่นอนว่าก็คงจะต้องมีภาพของบอลลูนหลากสีลอยล่องอยู่เหนือภูมิประเทศแปลกตา ที่เต็มไปด้วยกลุ่มภูเขาหินรูปกรวยโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน... ในครั้งนี้ Palanla จะพาออกเดินทางไปสัมผัสกับความน่าอัศจรรย์ของ 2 ดินแดนมรดกโลก “พุกาม” และ “คัปปาโดเชีย” ด้วยมุมมองจากบนท้องฟ้าผ่านการล่องบอลลูนลมร้อน พร้อมแล้วไปด้วยกัน!
อ่านต่อเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) & ฮาจิโกะ (Hachiko)
สุนัข ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่แสนดีและซื่อสัตย์ของมนุษย์มายาวนานอยู่ทุกหนแห่งของโลกใบนี้ หลายๆ เรื่องราวถูกถ่ายทอดความประทับใจออกมาผ่านภาพยนตร์ หนังสือ ตลอดจนสร้างเป็นรูปปั้นอนุสรณ์สถานเพื่อเชิดชูและระลึกถึงความรักอันบริสุทธิ์ที่เจ้าตูบและมนุษย์มีต่อกัน เช่นเดียวกับรูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ 2 แห่งที่ Palanla จะพาไปชมในวันนี้ ที่แรกคือ รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์ และอีกที่คือ รูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ (Hachiko) ที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
อ่านต่อ8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
อิสตันบูล (Istanbul) เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นนคร 2 ทวีป ซึ่งมีช่องแคบบอสฟอรัสเป็นเส้นแบ่งระหว่างยุโรปและเอเชียแห่งนี้ คือเมืองที่รุ่มรวยไปด้วยประวัติศาสตร์ความเป็นมานับพันๆ ปี จึงไม่น่าแปลกใจหากอิสตันบลูจะเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่และงดงามทรงคุณค่ามากมายที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นยุโรปและเอเชียจากอดีตจนถึงปัจจุบัน Palanla จะพาไปชม 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูลที่หากมีโอกาสไปเยือนประเทศตุรกีไม่ควรพลาด
อ่านต่อล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
ช่องแคบบอสฟอรัส เป็นช่องแคบเล็กๆ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของตุรกี เคยเป็นทั้งเส้นทางการค้าที่สำคัญ และยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญมาจนถึงปัจจุบัน การล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) จึงเป็นวิธีที่ดีที่จะได้สัมผัสบรรยากาศ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมที่หลากหลายของอิสตันบูล
อ่านต่ออุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Sarnici) คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของตุรกี ดินแดนที่เต็มไปด้วยประวัติความเป็นมามากกว่าพันปี อุโมงค์เก่าแก่ขนาดใหญ่แห่งนี้คือสถานที่เก็บน้ำในสมัยโบราณที่ยังคงความยิ่งใหญ่และงดงาม กับเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างเสากรีกที่ค้ำเรียงรายมากถึง 336 ต้น และเสาเมดูซ่าพร้อมตำนานที่เล่าขานกันมาหลายชั่วอายุคน รวมถึงซากโบราณของพระราชวังใต้ดินแห่งกรุงคอนสแตนติโนเปิลสมัยไบเซนไทน์อีกด้วย
อ่านต่อตลาดเครื่องเทศ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
ตลาดเครื่องเทศ (Historical Spice Bazaar / Egyptıan Spıce Bazaar) ในอิสตันบูล เป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในโลก ตลาดแห่งนี้มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ในสมัยจักรวรรดิออตโตมัน เดิมทีเป็นจุดแลกเปลี่ยนเครื่องเทศ ผ้าไหม และสินค้าอื่นๆ จากเอเชียมาสู่ยุโรป
อ่านต่อ10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
บูดาเปสต์ (Budapest) เป็นเมืองหลวงของประเทศฮังการี ตัวเมืองถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งด้วยแม่น้ำดานูบที่ไหลผ่านกลางเมือง ทำให้ในเมืองเต็มไปด้วยบรรยากาศโรแมนติกจากสถาปัตยกรรมอันสวยงามเปี่ยมเสน่ห์ที่รอคอยให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือน Palanla ได้รวบรวมเอา 10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์มาให้แล้วในบทความนี้
อ่านต่อ12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก
ปราก (Prague) เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก ประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลนี้ ตั้งอยู่ใจกลางของทวีปยุโรป ในอดีต เมืองปรากเคยเป็นศูนย์กลางการปกครองอันยิ่งใหญ่ของทวีปยุโรป ซึ่งอารยธรรมแห่งความยิ่งใหญ่ และเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานนั้น ก็ยังคงสะท้อนอยู่ในวิถีชีวิตของชาวเมือง วัฒนธรรมประเพณี สถาปัตยกรรม ฯลฯ ราวกับมรดกที่สืบทอด และรักษากันมาอย่างดี จนถูกยกให้เป็นเมืองที่มีความน่าหลงใหล ควรค่าแก่การไปสัมผัสความเป็นยุโรปมากที่สุด โดยเมืองปรากยังได้รับการประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลก จากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย ปัจจุบันเมืองนี้นับเป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญ ของบรรดานักท่องเที่ยวที่มาเยือนทวีปยุโรป ไปชม 12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปรากพร้อมๆ กันกับ Palanla!
อ่านต่อถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
ถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ (Fashion Street Budapest) เป็นถนนช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงในใจกลางเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ถนนสายนี้เป็นที่รู้จักในด้านร้านค้าแฟชั่นชั้นนำจากแบรนด์ระดับโลก อาทิ Gucci, Louis Vuitton, Dior, Armani, Prada และ Chanel ถนนสายนี้ยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่มากมาย จึงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวและชาวเมืองบุดาเปสต์เองด้วย
อ่านต่อล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
ล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ (Dinner Cruise Budapest) เป็นวิธียอดเยี่ยมในการชมความสวยงามของเมืองบูดาเปสต์ โดยขณะที่เรือล่องไปตามแม่น้ำดานูบ (Danube River) นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่สวยงามของสะพาน พระราชวัง และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ รวมทั้งอิ่มอร่อยกับอาหารรสเลิศและเครื่องดื่มแสนอร่อย
อ่านต่อ