- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- วัดภูตะเภาทอง จังหวัดอุดรธานี ประเทศไทย
วัดภูตะเภาทอง จังหวัดอุดรธานี ประเทศไทย
- อ่าน (9,114)
- ByWebmaster
- 23:47:23 | 25 พ.ย. 2564
วัดภูตะเภาทอง จังหวัดอุดรธานี ประเทศไทย
Wat Phu Taphao Thong, Udon Thani, Thailand
วัดภูตะเภาทอง (Wat Phu Taphao Thong) แหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมะและประวัติศาสตร์ บนเทือกเขาภูพานอันเป็นที่ตั้งของหินเรือสำเภาอายุ 2,500 ปีซึ่งมี “รอยฝ่ามือแดง” อายุใกล้เคียงกับภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ที่ผาแต้มปรากฏอยู่ รวมถึงรูปปั้นพญานาคราชสีทองนาม “มุจลินท์” ซึ่งเจ้าอาวาสได้สร้างขึ้นตามนิมิต
ประวัติ
วัดภูตะเภาทอง ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 15 ไร่ ของเทือกเขาภูพานในพื้นที่อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี โดยเป็นพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้จัดตั้งวัดอย่างถูกต้อง นอกจากวัดแห่งนี้จะเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของชาวบ้านและเป็นแหล่งศึกษาดูงานของคนต่างพื้นที่แล้ว ปัจจุบันยังเปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมะและประวัติศาสตร์ด้วย
พื้นที่บริเวณรอบๆ วัดภูตะเภาทองส่วนมากเป็นลานหิน มีก้อนหินขนาดใหญ่รูปร่างแปลกตามากกว่า 30 ลูก ทางขึ้นหินแต่ละก้อนเชื่อมกันด้วยบันไดไม้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปชมทัศนียภาพที่สวยงามของผืนป่าโดยรอบอย่างเพลิดเพลิน นักวิชาการสันนิษฐานว่าพื้นที่บริเวณนี้เดิมเคยเป็นทะเลมาก่อน ต่อมาเกิดการยกตัวขึ้นเป็นลานหินและพื้นดินดังเช่นที่ปรากฏในปัจจุบัน
สำหรับหินก้อนที่โดดเด่นที่สุดคือ หินก้อนใหญ่ที่ถูกเรียกขานว่า “เรือสำเภา” เนื่องจากมีรูปร่างคล้ายเรือ ชาวบ้านเชื่อกันว่าหากได้มาลอดใต้ท้องหินจะได้รับสิริมงคล ประสบโชคดี เจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน คล้ายกับการลอดท้องช้าง ข้างหินก้อนใหญ่มีรอยฝ่ามือแดงปรากฏอยู่ กรมศิลปากรได้ตรวจสอบและมีผลยืนยันว่ารอยฝ่ามือแดงนี้มีอายุประมาณ 2,500 ปี อายุใกล้เคียงกับภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ที่ผาแต้ม จังหวัดอุบลราชธานี คาดว่าในยุคก่อนประวัติศาสตร์เคยมีกลุ่มคนผู้เลี้ยงสัตว์ หรือนายพรานใช้เป็นเส้นทางในการหากิน
นอกจากนี้ วัดภูตะเภาทองยังมีจุดเด่นคือพญานาคราชสีทองนามว่า “มุจลินท์” มีความงดงามและศักดิ์สิทธิ์ โดยเจ้าอาวาสได้สร้างขึ้นตามนิมิตเกี่ยวเนื่องกับพื้นที่บริเวณวัดซึ่งเป็นที่อยู่ของพญานาค
รูปปั้นพญานาคราชสีทองนามว่า “มุจลินท์”
มุมมองสวยๆ ของพญานาคพ่นน้ำ
บริเวณรอบๆ วัดภูตะเภาทองส่วนมากเป็นลานหิน มีก้อนหินขนาดใหญ่รูปร่างแปลกตามากกว่า 30 ลูก
การเดินทางไปจังหวัดอุดรธานี
- เครื่องบิน (Flight) การเดินทางโดยเครื่องบินจากสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ไปสนามบินจังหวัดอุดรธานีใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
- รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดอุดรธานี มีระยะทาง 576 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง
- รถไฟ (Train) การเดินทางโดยรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดอุดรธานี ใช้เวลาเร็วสุดประมาณ 10 ชั่วโมง ทั้งนี้อาจใช้เวลานานกว่านี้ขึ้นอยู่กับประเภทของรถไฟ
การเดินทางไปวัดภูตะเภาทอง
วัดภูตะเภาทอง ตั้งอยู่ที่ ตำบลกุดหมากไฟ อำเภอหนองวัวซอ อยู่ห่างจากตัวจังหวัดอุดรธานี 63 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที
เวลาทำการเปิด – ปิด
เปิดทุกวัน เวลา 7.00 – 17.00 น.
อัตราค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าเข้าชม
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยววัดภูตะเภาทอง
ชมหินเรือสำเภาอายุ 2,500 ปีซึ่งมี “รอยฝ่ามือแดง” อายุใกล้เคียงกับภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ที่ผาแต้มปรากฏอยู่ ชมความงดงามและกราบสักการะพญานาคราชสีทองเพื่อความเป็นสิริมงคล
นักท่องเที่ยวกราบสักการะพญานาคสีทอง
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม วัดภูตะเภาทอง สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
วัดภูตะเภาทอง จังหวัดอุดรธานี ประเทศไทย
(Wat Phu Taphao Thong, Udon Thani Province, Thailand)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 7.00 – 17.00 น.
ตั้งอยู่ที่ : ต.กุดหมากไฟ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
โทรศัพท์ : (+66) 093 067 5359
เว็บไซต์ : -
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com
ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวจังหวัดอุดรธานี https://udonthani.mots.go.th
ศูนย์ข้อมูลการเดินทางจังหวัดอุดรธานี https://www.dlt.go.th/site/udonthani/m-about/6907
ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ จังหวัดมุกดาหาร ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ (Phu Pha Toep National Park) หรือ อุทยานแห่งชาติมุกดาหาร เป็นหนึ่งในอุทยานที่มีขนาดพื้นที่เล็กที่สุดในประเทศไทย โดยอุทยานแห่งนี้เป็นที่ตั้งของหินรูปทรงประหลาดและถ้ำที่มีจิตรกรรมวาดด้วยมือ
อ่านต่อภูห้วยอีสัน จังหวัดหนองคาย ประเทศไทย
ภูห้วยอีสัน (Phu Huai Isan) เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกแห่งใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงปลายฝนต้นหนาว ด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลหมอกลอยละล่องเหนือสายน้ำโขง และขุนเขาสลับซับซ้อน ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาจังหวัดหนองคาย
อ่านต่ออุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิ ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม (Pa Hin Ngam National Park) จังหวัดชัยภูมิ เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีสภาพป่าสมบูรณ์และมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง โดยเฉพาะทุ่งดอกกระเจียวที่จะออกดอกสีชมพูอมม่วงบานสะพรั่งไปทั่วผืนป่าในช่วงต้นฤดูฝน ประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมของทุกปี
อ่านต่อปราสาทพนมวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย
ปราสาทพนมวัน (Prasat Phanom Wan) อีกหนึ่งปราสาทหินเก่าแก่ในจังหวัดนครราชสีมาที่สร้างขึ้นครั้งแรกตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 15 เพื่อเป็นเทวสถาน ปราสาทหินแห่งนี้ถือเป็นปราสาทหินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย
อ่านต่อ5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย
จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้
อ่านต่อวัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย
วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อ8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้
อ่านต่อผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อน้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน
อ่านต่อเกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ