- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จังหวัดเลย ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จังหวัดเลย ประเทศไทย
- อ่าน (6,138)
- ByWebmaster
- 14:10:13 | 16 พ.ย. 2564
อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จังหวัดเลย ประเทศไทย
Phu Kradueng National Park, Loei, Thailand
มุมถ่ายภาพยอดนิยมที่สามารถชมทัศนียภาพอันงดงามบนภูกระดึงได้อย่างเต็มตา
อุทยานแห่งชาติภูกระดึง (Phu Kradueng National Park) เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวสายลุยที่ชื่นชอบธรรมชาติ เนื่องจากไฮไลท์ของที่นี่อยู่ที่การเดินเท้าเข้าป่าขึ้นไปชมความงามของทิวทัศน์ด้านบนที่มีความสวยงามคุ้มค่ากับความเหนื่อย โดยการไปเที่ยวพักแรมบนภูกระดึงนั้นจะใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 วัน ซึ่งวันแรกจะหมดไปกับการเดินขึ้นเขาผ่านด่าน หรือ “ซำ” ต่างๆ ไปยัง “หลังแป” จุดสูงสุดของภูกระดึง และเดินต่อไปยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวางซึ่งเป็นจุดกางเต็นท์แห่งเดียวของภูกระดึง เพื่อพักค้างแรมและตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้นเพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกยามเช้า จากนั้นเริ่มเดินทางต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ บนภูกระดึง เช่น ผานกแอ่น น้ำตกวังกวาง น้ำตกถ้ำใหญ่ สระอโนดาต ผาหมากดูก ผานกน้อย ผาเหยียบเมฆ และผาหล่มสัก โดยบริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวางจะมีจุดเช่าจักรยานเพื่อให้เดินทางไปยังจุดต่างๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็วขึ้น นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยวภูกระดึงควรจองคิวล่วงหน้าเพราะรับจำกัดเพียง 1,000 คนต่อวัน
แผนที่ตั้ง อุทยานแห่งชาติภูกระดึง (Phu Kradueng National Park) จังหวัดเลย ประเทศไทย
ประวัติ
อุทยานแห่งชาติภูกระดึงตั้งอยู่ที่ตำบลศรีฐานในอำเภอภูกระดึง มีพื้นที่ 217,576.25 ไร่ เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งที่ 2 ของประเทศไทย มีสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาหินทรายยอดตัด มีความสูงอยู่ระหว่าง 400 – 1,200 เมตร โดยมีจุดสูงสุดอยู่ที่บริเวณคอกเมย ที่ความสูง 1,316 เมตร สภาพพื้นที่บนยอดภูกระดึงมีลักษณะเป็นที่ราบสูงอยู่ทางด้านตะวันตกและตะวันออกเฉียงใต้ และพื้นที่มีลักษณะเทลาดลงมาทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ทำให้ลำธารสายต่างๆ ที่เกิดจากแหล่งน้ำบนภูเขาไหลไปรวมกันทางด้านนี้ เกิดเป็นแหล่งต้นน้ำของลำน้ำพอง ที่ไหลไปยังเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น
ป่าในอุทยานแห่งชาติภูกระดึงเป็นป่าที่มีความหลากหลาย ทั้งป่าผลัดใบ และป่าดงดิบ ตามสภาพพื้นที่ของเขา และยังมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่กันอย่างชุกชุม รวมถึงมีสภาพอากาศเย็นตลอดทั้งปี โดยในช่วงฤดูหนาวนั้นอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 0-10 องศาเซลเซียส แต่อากาศบนยอดภูกระดึงมักจะแปรปรวน มีเมฆหมอก ลอยต่ำปกคลุมบ่อยครั้ง ส่วนฤดูฝนมักเกิดภัยธรรมชาติทางอุทยานจึงปิดบริการสำหรับนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูฝน โดยจะเปิดให้ขึ้นภูกระดึงได้ในช่วงวันที่ 1 ตุลาคม ถึง 31 พฤษภาคม ของทุกปี
ทะเลหมอกยามเช้าบนภูกระดึง
จุดชมวิวบริเวณผานกแอ่น
น้ำตกภายในอุทยานแห่งชาติภูกระดึง
ภายในอุทยานจะมีต้นเมเปิ้ลซึ่งใบจะเปลี่ยนเป็นสีแดงในช่วงฤดูหนาว
เต็นท์พักแรมบนภูกระดึงท่ามกลางท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว
ป้ายถ่ายภาพที่ระลึกบนภูกระดึง
การเดินทางจากกรุงเทพไปยังจังหวัดเลย
- รถยนต์ (Car) จากกรุงเทพไปยังจังหวัดเลยโดยรถยนต์ มีระยะทางประมาณ 545 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง
- เครื่องบิน (Flight) จากกรุงเทพขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมืองหรือสนามบินสุวรรณภูมิ และลงเครื่องที่สนามบินเลย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
- อื่นๆ (others) จากกรุงเทพ หากต้องการเดินทางโดยรถทัวร์ สามารถไปขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งหมอชิตใหม่ และลงรถที่สถานีขนส่งเลย โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลเวลาเดินรถ และค่าโดยสารได้ที่ https://ticket.transport.co.th/
การเดินทางไปอุทยานแห่งชาติภูกระดึง
- รถยนต์ (Car) จากตัวเมืองเลย ไปอุทยานแห่งชาติภูกระดึง มีระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที
สามารถเหมารถหรือเช่ารถไปยังสถานที่ต่างๆ ในจังหวัดเลยได้ตามความสะดวก
เวลาทำการเปิด-ปิด
เปิดทุกวัน 07:00-14:00 น.
อัตราค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
1 ตุลาคม - 31 พฤษภาคม ของทุกปี
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว อุทยานแห่งชาติภูกระดึง สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จังหวัดเลย ประเทศไทย
(Phu Kradueng National Park, Loei, Thailand)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 07:00-14:00 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : 1 ตุลาคม - 31 พฤษภาคม ของทุกปี
สถานที่ตั้ง : จังหวัดเลย ประเทศไทย
โทรศัพท์ : (+66) 042-810-833
เว็บไซต์ : http://park.dnp.go.th/visitor/nationparkshow.php?PTA_CODE=1002
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com
เว็บไซต์จังหวัดเลย https://loei.mots.go.th
เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ จังหวัดมุกดาหาร ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ (Phu Pha Toep National Park) หรือ อุทยานแห่งชาติมุกดาหาร เป็นหนึ่งในอุทยานที่มีขนาดพื้นที่เล็กที่สุดในประเทศไทย โดยอุทยานแห่งนี้เป็นที่ตั้งของหินรูปทรงประหลาดและถ้ำที่มีจิตรกรรมวาดด้วยมือ
อ่านต่อภูห้วยอีสัน จังหวัดหนองคาย ประเทศไทย
ภูห้วยอีสัน (Phu Huai Isan) เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกแห่งใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงปลายฝนต้นหนาว ด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลหมอกลอยละล่องเหนือสายน้ำโขง และขุนเขาสลับซับซ้อน ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาจังหวัดหนองคาย
อ่านต่ออุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิ ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม (Pa Hin Ngam National Park) จังหวัดชัยภูมิ เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีสภาพป่าสมบูรณ์และมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง โดยเฉพาะทุ่งดอกกระเจียวที่จะออกดอกสีชมพูอมม่วงบานสะพรั่งไปทั่วผืนป่าในช่วงต้นฤดูฝน ประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมของทุกปี
อ่านต่อปราสาทพนมวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย
ปราสาทพนมวัน (Prasat Phanom Wan) อีกหนึ่งปราสาทหินเก่าแก่ในจังหวัดนครราชสีมาที่สร้างขึ้นครั้งแรกตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 15 เพื่อเป็นเทวสถาน ปราสาทหินแห่งนี้ถือเป็นปราสาทหินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย
อ่านต่อ5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย
จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้
อ่านต่อวัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย
วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อ8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้
อ่านต่อผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อน้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน
อ่านต่อเกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ