- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- พระธาตุเรณู (พระธาตุประจำวันเกิด : วันจันทร์) จังหวัดนครพนม ประเทศไทย
พระธาตุเรณู (พระธาตุประจำวันเกิด : วันจันทร์) จังหวัดนครพนม ประเทศไทย
- อ่าน (5,970)
- ByWebmaster
- 17:18:39 | 14 ต.ค. 2564
พระธาตุเรณู จังหวัดนครพนม ประเทศไทย
Phra That Renu, Nakhon Phanom, Thailand
พระธาตุเรณูถือเป็นพระธาตุประจำวันจันทร์
พระธาตุเรณู (Phra That Renu) ตั้งอยู่ภายในวัดพระธาตุเรณูซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ของอำเภอเมืองเรณูนคร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในจังหวัดนครพนม และเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันจันทร์ เชื่อกันว่าผู้ที่มานมัสการจะได้รับอานิสงส์ส่งผลให้มีวรรณะงดงามผุดผ่องดั่งแสงจันทร์ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนยังนิยมเข้าไปกราบสักการะพระองค์แสนซึ่งเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองเรณูนครที่ประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถของวัดอีกด้วย
แผนที่ตั้ง พระธาตุเรณู (Phra That Renu) จังหวัดนครพนม ประเทศไทย
ประวัติ
พระธาตุเรณูตั้งอยู่ในวัดพระธาตุเรณู ภายในอำเภอเรณูนคร แต่เดิมชื่อวัดกลางเพราะอยู่บริเวณใจกลางเมืองเรณูนคร วัดแห่งนี้มีพื้นที่ประมาณ 16 ไร่ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยเจ้าเมืองคนแรก จึงเป็นวัดเก่าแก่ที่ชาวบ้านให้ความเคารพศรัทธากันมาอย่างช้านาน
ในส่วนขององค์พระธาตุเรณู สร้างขึ้นประมาณช่วงปี พ.ศ. 2460-2463 โดยพระอุปัชฌาย์อินภูมิโย องค์พระธาตุสร้างขึ้นแบบก่ออิฐถือปูนโดยจำลองแบบมาจากพระธาตุพนมองค์เดิมก่อนที่กรมศิลปากรจะเข้ามาบูรณะ แต่ย่อให้มีขนาดเล็กลงโดยมีความสูง 35 เมตร ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมกว้างด้านละ 8.37 เมตร ล้อมรอบด้วยกำแพงแก้วและมีซุ้มประตูทั้งสี่ทิศ ด้านนอกทาสีขาว ตกแต่งลวดลายด้วยศิลปะล้านช้าง โดยองค์พระธาตุชั้นล่างและชั้นที่สองประดับด้วยซุ้มประตูหลอกและประดับลวดลายอาชาไนยซึ่งเป็นพาหนะประจำวันจันทร์ทั้งสี่ด้าน และบริเวณยอดประดับด้วยฉัตรทอง ภายในองค์พระธาตุบรรจุพระไตรปิฎก พระพุทธรูปทองคำ พระพุทธรูปเงิน เครื่องกกุธภัณฑ์ของพระยาและเจ้าเมือง และของมีค่าที่ประชาชนได้บริจาคให้ด้วยความศรัทธา และได้มีการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันต์ธาตุของพระอัญญาโกณฑัญญะ พระสารีบุตรในปี พ.ศ. 2559
พระธาตุแห่งนี้ยังเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันจันทร์อีกด้วย ซึ่งเชื่อกันว่าอานิสงส์ของการนมัสการพระธาตุแห่งนี้จะส่งผลให้มีวรรณะงดงามผุดผ่องดั่งแสงจันทร์ โดยเครื่องสักการะที่ใช้ได้แก่ ธูป 15 ดอก เทียนขาว 2 เล่ม พวงมาลัย ดอกไม้สีเหลือง น้ำอบไทย ข้าวเหนียวปิ้ง และข้าวพอง นอกจากนี้ทางวัดจะมีงานนมัสการสมโภชซึ่งจัดขึ้นประจำทุกปี โดยจะเริ่มตั้งแต่วันขึ้น 11 ค่ำ ถึง วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4
สำหรับภายในพระอุโบสถที่อยู่ใกล้กันนั้นเป็นที่ประดิษฐานพระองค์แสนซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิที่เป็นพระพุทธรูปเป็นคู่บ้านคู่เมืองเรณูนคร ขนาดหน้าตักกว้าง 50 เซนติเมตร สูง 50 เซนติเมตร ทำจากทองเหลือง โดยจะมีพิธีอัญเชิญพระองค์แสนแห่ไปรอบเมืองในเทศกาลสงกรานต์ของทุกปีเพื่อให้ประชาชนได้สรงน้ำพระและสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล
บริเวณลานด้านหน้าพระธาตุเรณู
บริเวณทางเดินสู่องค์พระธาตุเรณู
องค์พระธาตุล้อมรอบด้วยกำแพงแก้ว และมีซุ้มประตูทั้งสี่ทิศ
องค์พระธาตุทาสีขาว ประดับลวดลายอย่างงดงาม ด้านบนประดับด้วยฉัตรทอง
ความงดงามของลวดลายอาชาไนยที่ประดับอยู่บนองค์พระธาตุ
บริเวณมุมกำแพงแก้วประดับด้วยหอระฆัง
คำนมัสการพระธาตุเรณู
พระอุโบสถของวัดพระธาตุเรณู
พระพุทธรูปพระองค์แสนภายในพระอุโบสถ
พระธาตุเรณูเมื่อมองจากด้านในพระอุโบสถ
บริเวณด้านข้างของพระอุโบสถที่ติดกับบริเวณลานพระธาตุ
การเดินทางจากกรุงเทพไปยังจังหวัดนครพนม
- รถยนต์ (Car) จากกรุงเทพไปยังจังหวัดนครพนมโดยรถยนต์ มีระยะทางประมาณ 740 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง
- เครื่องบิน (Flight) จากกรุงเทพขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมืองหรือสนามบินสุวรรณภูมิ และลงเครื่องที่สนามบินนครพนม ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
- อื่นๆ (others) จากกรุงเทพ หากต้องการเดินทางโดยรถทัวร์ สามารถไปขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งหมอชิตใหม่ และลงที่สถานีขนส่งนครพนม โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลเวลาเดินรถ และค่าโดยสารได้ที่ https://ticket.transport.co.th/
การเดินทางไปพระธาตุเรณู
- รถยนต์ (Car) จากตัวเมืองนครพนม ไปพระธาตุเรณู มีระยะทางประมาณ 53 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
สามารถเหมารถหรือเช่ารถไปยังสถานที่ต่างๆ ในจังหวัดนครพนมได้ตามความสะดวก
เวลาทำการเปิด-ปิด
เปิดทุกวัน 08:00 น. – 18:00 น.
อัตราค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว พระธาตุเรณู สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
พระธาตุเรณู จังหวัดนครพนม ประเทศไทย
(Phra That Renu, Nakhon Phanom, Thailand)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08:00 น. – 18:00 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : จังหวัดนครพนม ประเทศไทย
โทรศัพท์ : (+66) 042-251-416
เว็บไซต์ : https://bit.ly/3DzR9Mw
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศhttps://www.accuweather.com
เว็บไซต์จังหวัดนครพนม http://www2.nakhonphanom.go.th/
เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ จังหวัดมุกดาหาร ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ (Phu Pha Toep National Park) หรือ อุทยานแห่งชาติมุกดาหาร เป็นหนึ่งในอุทยานที่มีขนาดพื้นที่เล็กที่สุดในประเทศไทย โดยอุทยานแห่งนี้เป็นที่ตั้งของหินรูปทรงประหลาดและถ้ำที่มีจิตรกรรมวาดด้วยมือ
อ่านต่อภูห้วยอีสัน จังหวัดหนองคาย ประเทศไทย
ภูห้วยอีสัน (Phu Huai Isan) เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกแห่งใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงปลายฝนต้นหนาว ด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลหมอกลอยละล่องเหนือสายน้ำโขง และขุนเขาสลับซับซ้อน ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาจังหวัดหนองคาย
อ่านต่ออุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิ ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม (Pa Hin Ngam National Park) จังหวัดชัยภูมิ เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีสภาพป่าสมบูรณ์และมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง โดยเฉพาะทุ่งดอกกระเจียวที่จะออกดอกสีชมพูอมม่วงบานสะพรั่งไปทั่วผืนป่าในช่วงต้นฤดูฝน ประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมของทุกปี
อ่านต่อปราสาทพนมวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย
ปราสาทพนมวัน (Prasat Phanom Wan) อีกหนึ่งปราสาทหินเก่าแก่ในจังหวัดนครราชสีมาที่สร้างขึ้นครั้งแรกตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 15 เพื่อเป็นเทวสถาน ปราสาทหินแห่งนี้ถือเป็นปราสาทหินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย
อ่านต่อ5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย
จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้
อ่านต่อวัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย
วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อ8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้
อ่านต่อผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อน้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน
อ่านต่อเกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ