วัดปากน้ำภาษีเจริญ จังหวัดกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย

  • อ่าน (20,646)
  • ByWebmaster
  • 14:50:12 | 19 ก.ค. 2564

วัดปากน้ำภาษีเจริญ จังหวัดกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย

Wat Paknam Phasi Charoen, Bangkok, Thailand

 

             วัดปากน้ำภาษีเจริญ (Wat Paknam Phasi Charoen) วัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาที่เป็นดั่งศูนย์รวมจิตใจของผู้คนฝั่งธนบุรีมายาวนาน และมีพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) หรือ “หลวงพ่อสด” ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสและพัฒนาวัดแห่งนี้ในสมัยรัชกาลที่ 6 จนเป็นที่ศรัทธาของประชาชนเรื่อยมาถึงปัจจุบัน

 


ประวัติ


             วัดปากน้ำ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ตั้งอยู่ ณ ที่ราบลุ่มบางกอกซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเจ้าพระยา ริมคลองบางกอกใหญ่ เนื่องจากวัดตั้งอยู่บริเวณปากคลองด่านที่แยกไปจากคลองบางหลวงอีกทีหนึ่ง ชื่อของวัดจึงถูกเรียกขานตามตำบลที่ตั้งว่า วัดปากน้ำ ซึ่งชื่อนี้มีปรากฏเรียกใช้ในจดหมายเหตุ แต่ได้พบชื่อของวัดที่แปลกออกไปในแผนที่กรุงเทพฯ พ.ศ. 2453 วัดสมุทธาราม แต่ไม่เป็นที่นิยมเรียกกัน คงเรียกว่า วัดปากน้ำ มาจนถึงปัจจุบัน

             ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีการขุดคลองภาษีเจริญที่ข้างวัดด้านทิศตะวันตก วัดจึงมีลำน้ำหลักล้อมอยู่ทั้ง 3 ด้าน ส่วนด้านใต้เป็นคลองเล็กแสดงอาณาเขตของวัดในสมัยก่อน วัดปากน้ำ เป็นวัดโบราณสร้างมาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง (ระหว่าง พ.ศ. 2031-2172) สถาปนาโดยพระราชวงศ์ในสมัยกรุงศรีอยุธยา แต่ไม่ปรากฏพระนามแน่ชัด เป็นวัดประจำหัวเมืองธนบุรี ปรากฏในตำนานเรื่องวัตถุสถานต่างๆ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสถาปนาว่าเป็นพระอารามหลวงครั้งกรุงศรีอยุธยา อันหมายถึงพระอารามที่พระเจ้าแผ่นดินหรือพระมเหสีทรงสถาปนาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยานั้น

             หลักฐานทางโบราณวัตถุและโบราณสถานภายในวัดมีอายุย้อนไปถึงสมัยอยุธยาตอนกลาง ได้พบร่องรอยคลองเล็กด้านทิศใต้และทิศตะวันตกของวัด ที่โบราณขุดไว้เป็นแนวเขตที่ดินของวัดหลวงสมัยอยุธยา ที่ตั้งของวัดปากน้ำจึงมีลักษณะเป็นเกาะรูปสี่เหลี่ยมมีน้ำล้อมอยู่ทุกด้าน สถาปัตยกรรมและศิลปวัตถุที่อยู่คู่วัดมา เช่น หอพระไตรปิฏก ตู้พระไตรปิฎกทรงบุษบก ล้วนเป็นฝีมือช่างหลวงสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และตัวพระอุโบสถก็ใช้เทคนิคการก่อสร้างในสมัยนั้น ได้ค้นพบนามเจ้าอาวาส 1 รูป ในรัชสมัยสมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ (พระเจ้าเอกทัศ) คือ พระครูธนะราชมุนี วัดปากน้ำ ได้มีบทบาทสำคัญมาแต่โบราณ เพราะได้รับสถาปนาเป็นพระอารามหลวงที่อยู่นอกกรุงศรีอยุธยา เป็นวัดสำคัญประจำหัวเมืองหน้าด่านทางทะเล

             ในจดหมายเหตุสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชได้เสด็จพระราชดำเนินทางชลมารคถวายผ้าพระกฐินหลวง ณ วัดปากน้ำ ตลอดรัชกาลวัดปากน้ำได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์มาโดยตลอด คือ ได้รับพระราชทานพระราชทรัพย์จากสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชในการซ่อมหลังคาพระอุโบสถคราวหนึ่ง ต่อมาพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ได้บูรณปฏิสังขรณ์ใหญ่ในตอนต้นกรุงรัตนโกสินทร์ และให้คงรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยกรุงศรีอยุธยาไว้ ครั้นถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ทางวัดได้รับพระบรมราชานุญาตบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่เกือบทั้งอารามโดยให้อนุรักษ์ศิลปะเดิมไว้ และได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระบรมวงศานุวงศ์นำพระกฐินหลวงมาถวายตลอดรัชกาล ในสมัยรัชกาลที่ 6 วัดปากน้ำได้ชำรุดทรุดโทรมลง ไม่มีเจ้าอาวาสประจำพระอาราม มีแต่ผู้รักษาการที่อยู่ในอารามอื่น

             จนกระทั่งทางเจ้าคณะปกครองได้ส่ง พระสมุห์สด จนฺทสโร (หลวงพ่อสด) จากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหารมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ซึ่งท่านได้กวดขันพระภิกษุสามเณรให้ปฏิบัติในพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด ที่สำคัญได้มีการสอนสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน ส่งเสริมการศึกษาพระปริยัติธรรมตั้งสำนักเรียนทั้งนักธรรมและบาลี สร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรมที่ทันสมัยที่สุดในสมัยนั้น ทำให้พระภิกษุสามเณร และสาธุชนเข้ามาขอศึกษาและปฏิบัติธรรมเป็นจำนวนมาก วัดจึงเจริญขึ้นมาโดยลำดับ กลายเป็นศูนย์กลางการปฏิบัติธรรม และเป็นศูนย์กลางการศึกษาบาลีมาจนปัจจุบัน หลวงพ่อสดได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานแต่งตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะฝ่ายวิปัสสนาธุระ และได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์มาโดยลำดับ สมณศักดิ์สุดท้ายในพระราชทินนามที่ พระมงคลเทพมุนี ทว่าผู้คนทั่วไปรู้จักและนิยมเรียกขานท่านว่า หลวงพ่อวัดปากน้ำ

             สิ่งที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของวัดปากน้ำภาษีเจริญคือ พระพุทธธรรมกายเทพมงคล เป็นพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ ปางสมาธิ เกตุดอกบัวตูม หน้าตักกว้าง 40 เมตร สูง 69 เมตร ที่ประดิษฐานเคียงคู่กับพระมหาเจดีย์มหารัชมงคลที่มีความสูง 80 เมตร (สูงกว่าพระปรางค์วัดอรุณราชวรารามที่มีความสูง 78 เมตร) บริเวณที่ราบลุ่มบางกอก เจดีย์แห่งนี้สร้างเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา และสังฆบูชา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช องค์เอกอัครศาสนูปถัมภก ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ (ณ ขณะนั้น) และเพื่อบูชาพระคุณพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) หลวงพ่อวัดปากน้ำ

             นอกจากวัดปากน้ำภาษีเจริญจะเป็นสถานที่ปฏิบัติกิจของสงฆ์ ยังมีสถาปัตยกรรมสำคัญและบริเวณอื่นที่น่าสนใจอยู่หลายอย่าง อาทิ พระมหาเจดีย์มหารัชมงคล หอพระไตรปิฎก พื้นที่พักผ่อนในสวน โซนริมน้ำ รวมถึงจุดให้อาหารนกและปลา

 
พระพุทธธรรมกายเทพมงคล และพระมหาเจดีย์มหารัชมงคล ประดิษฐานเด่นสง่าในวัดปากน้ำภาษีเจริญ

 
พระพุทธธรรมกายเทพมงคล ความสูง 69 เมตร

 
พระพุทธธรรมกายเทพมงคล เป็นพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ ปาง​สมาธิ เกตุดอกบัวตูม หน้าตักกว้าง 40 เมตร

 
พระมหาเจดีย์มหารัชมงคลสร้างตามแบบสถาปัตยกรรมไทย ฐานสี่เหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง เป็นเจดีย์ประยุกต์ผสมผสานระหว่างศิลปะยุครัตนโกสินทร์กับศิลปะยุคล้านนา

 
ป้ายชื่ออันโดดเด่นของวัดปากน้ำภาษีเจริญ 


การเดินทางไปวัดปากน้ำภาษีเจริญ

             วัดปากน้ำภาษีเจริญ ตั้งอยู่ที่ซอยเพชรเกษม 23 (ซอยปุณยฤทธิ์เสนีย์) ถนนเพชรเกษม กรุงเทพมหานคร ห่างจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 17 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 25 นาที มีรถไฟฟ้าสถานีใกล้เคียงซึ่งอยู่ห่างจากวัด 1 กิโลเมตรกว่าๆ คือ BTS สถานีวุฒากาศ และ MRT สถานีท่าพระ


เวลาทำการเปิด-ปิด

             เปิดทุกวัน เวลา 8.00 – 18.00 น.

 
ศาลาไม้สัก


อัตราค่าเข้าชม

             ไม่เสียค่าเข้าชม

 
บริเวณตึกเนกขัมม์


สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยววัดปากน้ำภาษีเจริญ

             กราบสักการะหลวงพ่อสด ชมพระมหาเจดีย์มหารัชมงคลและหอพระไตรปิฎก และพักผ่อนหย่อนใจในสวนโซนริมน้ำ ให้อาหารนกและปลา

 
รูปหล่อหลวงพระสมุห์สด จนฺทสโร (หลวงพ่อสด) วัดปากน้ำภาษีเจริญ


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

             ตลอดทั้งปี 

 


             
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว วัดปากน้ำภาษีเจริญ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                        วัดปากน้ำภาษีเจริญ จังหวัดกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย

                        (Wat Paknam Phasi Charoen, Bangkok, Thailand)

                        ระดับความนิยม : 

                        อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม

                        เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 8.00 – 18.00 น.

                        ตั้งอยู่ที่ : ตั้งอยู่ที่ซอยเพชรเกษม 23 (ซอยปุณยฤทธิ์เสนีย์) ถนนเพชรเกษม กรุงเทพมหานคร

                        โทรศัพท์ : (+66) 02-4670811

                        เว็บไซต์ : -

                        ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                                         เว็บไซต์องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ http://www.bmta.co.th/?q=home

                                         เว็บไซต์รถไฟฟ้าบีทีเอส https://www.bts.co.th

                                         เว็บไซต์การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย https://www.mrta.co.th/th/

                                         เว็บไซต์กรุงเทพมหานคร http://www.bangkok.go.th/main/index.php?l=th

                                         เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org/Home

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

พิจิตร จังหวัดเล็กๆ ที่ซ่อนเสน่ห์เอาไว้มากมาย และไม่ได้มีแค่บึงสีไฟเพียงอย่างเดียว เพราะเมืองชาละวันแห่งนี้มีทั้งธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ วัดวาอารามเก่าแก่ และวิถีชีวิตของผู้คนท้องถิ่นที่น่าสนใจ บทความนี้ Palanla จะพาไปเปิดมุมมองใหม่กับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนพิจิตร

อ่านต่อ

วัดหิรัญญาราม (วัดบางคลาน) จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

วัดหิรัญญาราม (Wat Hiranyaram) หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันดีในชื่อ วัดบางคลาน (Wat Bang Khlan) เป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากแห่งหนึ่งของจังหวัดพิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นที่รู้จักจาก หลวงพ่อเงิน พระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่มีผู้คนให้ความเคารพนับถืออย่างมาก

อ่านต่อ

อุทยานเมืองเก่าพิจิตร จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

อุทยานเมืองเก่าพิจิตร (Pichit Historical Park) เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัด เชื่อกันว่าเดิมทีบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของเมืองพิจิตรเก่า

อ่านต่อ

วัดนครชุม จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

วัดนครชุม (Wat Nakhon Chum) หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า "วัดใหญ่" ตั้งอยู่ที่ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เป็นวัดเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย โดยเคยเป็นวัดสำคัญของเมืองพิจิตรในอดีต

อ่านต่อ

วัดเขารูปช้าง จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

วัดเขารูปช้าง (Wat Khao Rup Chang) อีกหนึ่งวัดเก่าแก่ของจังหวัดพิจิตรที่สร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา บนยอดเขาที่มีหินสีขาวซ้อนกันเป็นรูปช้างคุกเข่าโดดเด่นด้วยเจดีย์แบบลังกา ประดับกระเบื้องเคลือบสีทองทั้งองค์

อ่านต่อ

ทุ่งดอกกระเจียวยักษ์บ้านเขาโล้น จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

ทุ่งดอกกระเจียวยักษ์บ้านเขาโล้น (Giant Siam Tulip Field Baan Khao Loan) ตั้งอยู่ที่ตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน เมื่อดอกกระเจียวสีชมพูบานสะพรั่งทั่วทั้งทุ่ง

อ่านต่อ

ตลาดย่านเก่าวังกรด จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

ตลาดย่านเก่าวังกรด ( Yan Kao Wang Krot Market) ตลาดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ณ ย่านเก่าวังกรด จังหวัดพิจิตร เป็นแหล่งรวมอาหารอร่อยที่เรียงรายด้วยสถาปัตยกรรมอาคารไม้เก่าแก่สวยงาม พร้อมทั้งหอนาฬิกาที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของชุมชน

อ่านต่อ

น้ำตกไทรโยคใหญ่ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย

น้ำตกไทรโยคใหญ่ (Sai Yok Yai Waterfall) เปรียบเสมือนอัญมณีแห่งเมืองกาญจนบุรี ด้วยความงามของม่านน้ำอันยิ่งใหญ่ที่ไหลรินลงมาจากหน้าผาสูงและกลายเป็นสายน้ำที่ทอดยาว รายล้อมไปด้วยป่าไม้ร่มรื่น ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของจังหวัดกาญจนบุรี

อ่านต่อ

ต้นจามจุรียักษ์ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย

ต้นจามจุรียักษ์ (Giant Monkey Pod Tree) อายุกว่า 100 ปี ที่ยืนตระหง่าน แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาแก่ผู้คนที่มาพักผ่อนหย่อนใจ คืออีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองกาญจนบุรีในปัจจุบัน

อ่านต่อ

คู่มือการดำเนินการตามกระบวนการเคลมประกันรถยนต์ฉบับสมบูรณ์

การมีส่วนร่วมในอุบัติเหตุทางรถยนต์หรือประสบความเสียหายต่อยานพาหนะของคุณอาจเป็นประสบการณ์ที่ตึงเครียดและท่วมท้น อย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจขั้นตอนการเคลมประกันรถยนต์สามารถช่วยบรรเทาความวิตกกังวลและแก้ไขปัญหาได้ราบรื่นยิ่งขึ้น

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ