เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ คุณสามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ โดยคลิก "การตั้งค่าคุกกี้"
ทะเลบัวแดง จังหวัดอุดรธานี ประเทศไทย
Red Lotus Lake, Udon Thani, Thailand
ทะเลบัวแดง (Red Lotus Lake) บึงหนองหาน กุมภวาปี บึงดอกไม้ตามธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ที่สวยงามละลานตาด้วย “บัวสาย” หรือ “บัวแดง” นับล้านๆ ดอก และยังเป็นสถานที่สำคัญประจำ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ซึ่งมีตำนานผาแดงนางไอ่ที่ยังคงเล่าขานต่อเนื่องกันมาจนถึงทุกวันนี้
ประวัติ
หนองหาน ถือเป็นบึงน้ำจืดที่มีความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายทางชีวภาพ ภายในบึงประกอบไปด้วยพืชน้ำ พันธุ์นก และพันธุ์ปลาหลากหลายชนิด ซึ่งพันธุ์ไม้น้ำที่โดดเด่นของบึงหนองหานก็คือ “บัวสาย” หรือ “บัวแดง” นับล้านที่ธรรมชาติได้เนรมิตความงามสุดอลังการนี้ขึ้นมา เป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาเยือนและสัมผัสกับความงดงามของ “ทะเลบัวแดง” นี้ในทุกฤดูหนาว
การมาชมทะเลบัวแดงควรมาชมในช่วงเช้าเวลาประมาณ 06.00 - 11.00 น. เพราะเป็นช่วงเวลาที่ดอกบัวจะยังไม่หุบ โดยดอกบัวจะเบ่งบานตั้งแต่เช้าและเป็นโอกาสที่นักท่องเที่ยวจะได้ชมหรือเก็บภาพพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามสุดแสน ประทับใจด้วย โดยหลังจากที่พระอาทิตย์โผล่พ้นขึ้นจากขอบฟ้า และแสงแดดค่อยๆ ส่องสว่าง ก็ยิ่งขับให้สีชมพู สีแดงระเรื่อของดอกบัวนับล้านๆ ดอกในบึงหนองหานยิ่งชัดเจนและสวยงามยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเรือแล่นเข้าไปใกล้ๆ ก็จะเห็นดอกบัวสีชมพูเบ่งบานละลานตาอยู่เหนือผิวน้ำ รวมถึงเงาสะท้อนซึ่งเป็นภาพที่งดงามไม่แพ้กัน
การล่องเรือจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที โดยระหว่างที่เรือแล่นไปเรื่อยๆ นักท่องเที่ยวก็จะได้ชมความงดงามของดอกบัวอย่างใกล้ชิดพร้อมเก็บภาพอย่างเพลิดเพลิน ซึ่งนอกจากความงดงามของดอกบัวแล้ว ภายในบึงหนองหานยังเต็มไปด้วยนกนานาชนิดที่คอยบินวนเวียนไปมาหาอาหารตามแหล่งบัว ให้นักท่องเที่ยวได้ชมอย่างน่าตื่นตาตื่นใจด้วย เรือที่ให้บริการชมบัวแดงนั้นมีทั้งเรือขนาดเล็กและเรือขนาดใหญ่ เรือเล็กเป็นเรือท้องแบนสามารถนั่งได้ 2 คน ราคาคนละ 150 บาท และเรือใหญ่มีหลังคา สามารถนั่งได้ 6 คน ราคาลำละ 500 บาท
ช่วงเวลาที่สามารถสัมผัสความงดงามของทะเลบัวแดงนั้นจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เดือนธันวาคม จนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ หรือต้นเดือนมีนาคม ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศแต่ละปี ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวทางจังหวัดจะจัดเทศกาลทะเลบัวแดงบาน ในทุกๆ ปี โดยภายในงานก็จะมีกิจกรรมมากมาย อาทิ การประกวดวาดภาพและภาพถ่ายทะเลบัวแดง, การประกวดวงดนตรีโปงลาง พร้อมร่วมกันสักการะพระมหาธาตุเทพจินดาหรือพระธาตุบ้านเดียม สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองของชาวบ้านเดียมเพื่อความเป็นสิริมงคล นอกจากนี้สำหรับคู่รักที่เตรียมจะเข้าพิธีวิวาห์ ที่ทะเลบัวแดงก็ได้มีการเนรมิตให้กลายเป็นสถานที่จัดงานสมรสที่แสนโรแมนติก งดงามตระการตา สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการค้างคืนก็สามารถติดต่อบ้านพักโฮมสเตย์ของชาวบ้านที่มีให้บริการได้เช่นกัน
ความงดงามของพระอาทิตย์ยามเช้าที่ทะเลบัวแดง อำเภอกุมภวาปี
นักท่องเที่ยวนั่งเรือเล็กท้องแบนชมทะเลบัวแดง
“บัวแดง” หรือ “บัวสาย”
ทะเลบัวแดง อุดรธานี
บรรยากาศของท้องทุ่งทะเลบัวแดง
การเดินทางไปจังหวัดอุดรธานี
- เครื่องบิน (Flight) การเดินทางโดยเครื่องบินจากสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ไปสนามบินจังหวัดอุดรธานีใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
- รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดอุดรธานี มีระยะทาง 576 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง
- รถไฟ (Train) การเดินทางโดยรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดอุดรธานี ใช้เวลาเร็วสุดประมาณ 10 ชั่วโมง ทั้งนี้อาจใช้เวลานานกว่านี้ขึ้นอยู่กับประเภทของรถไฟ
การเดินทางไปทะเลบัวแดง
ทะเลบัวแดง กุมภวาปี อยู่ห่างจากตัวจังหวัดอุดรธานีประมาณ 45 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 50 นาที หากไม่ได้เดินทางโดยรถส่วนตัวสามารถนั่งรถประจำทางมาลงที่อำเภอกุมภวาปี จากนั้นเหมารถสองแถวในอำเภอเพื่อไปยังทะเลบัวแดง
เวลาทำการเปิด – ปิด
ทะเลบัวแดงมีให้ชมทุกวันในช่วงต้นเดือนธันวาคม - สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ การมาชมทะเลบัวแดงควรมาชมในช่วงเช้าเวลาประมาณ 06.00 - 11.00 น. เพราะดอกบัวจะเบ่งบานเต็มที่และยังไม่หุบ
ช่วงเช้าๆ เป็นโอกาสที่นักท่องเที่ยวจะได้ชมและเก็บภาพพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามที่สุด
แสงสีทองของพระอาทิตย์ฉาบทอกับผืนน้ำท่ามกลางเหล่าดอกบัวสีชมพูสด
อัตราค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าเข้าชม
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวทะเลบัวแดง
ดื่มด่ำกับความงามของดอกบัวแดงนับล้านที่บานสะพรั่ง และชมฝูงนกน้อยใหญ่นานาชนิดที่หากินบินไปมาอยู่ภายในบึงหนองหาน
บรรยากาศแสนงดงามที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัส
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ช่วงต้นเดือนธันวาคม – สิ้นเดือนกุมภาพันธ์
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม ทะเลบัวแดง สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ทะเลบัวแดง จังหวัดอุดรธานี ประเทศไทย
(Red Lotus Lake, Udon Thani Province, Thailand)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาทำการเปิด – ปิด : ทะเลบัวแดงมีให้ชมทุกวันในช่วงต้นเดือนธันวาคม - สิ้นเดือนกุมภาพันธ์
การมาชมทะเลบัวแดงควรมาชมในช่วงเช้าเวลาประมาณ 06.00 - 11.00 น.
ตั้งอยู่ที่ : บึงหนองหาน อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี
โทรศัพท์ : (+66) 0 4232 5407
เว็บไซต์ : -
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com
ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวจังหวัดอุดรธานี https://udonthani.mots.go.th
ศูนย์ข้อมูลการเดินทางจังหวัดอุดรธานี https://www.dlt.go.th/site/udonthani/m-about/6907
ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org
ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อน้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน
อ่านต่อเกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก
อ่านต่ออุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ (Phu Pha Toep National Park) หรือ อุทยานแห่งชาติมุกดาหาร เป็นหนึ่งในอุทยานที่มีขนาดพื้นที่เล็กที่สุดในประเทศไทย โดยอุทยานแห่งนี้เป็นที่ตั้งของหินรูปทรงประหลาดและถ้ำที่มีจิตรกรรมวาดด้วยมือ
อ่านต่อภูห้วยอีสัน (Phu Huai Isan) เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกแห่งใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงปลายฝนต้นหนาว ด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลหมอกลอยละล่องเหนือสายน้ำโขง และขุนเขาสลับซับซ้อน ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาจังหวัดหนองคาย
อ่านต่ออุทยานแห่งชาติป่าหินงาม (Pa Hin Ngam National Park) จังหวัดชัยภูมิ เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีสภาพป่าสมบูรณ์และมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง โดยเฉพาะทุ่งดอกกระเจียวที่จะออกดอกสีชมพูอมม่วงบานสะพรั่งไปทั่วผืนป่าในช่วงต้นฤดูฝน ประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมของทุกปี
อ่านต่อปราสาทพนมวัน (Prasat Phanom Wan) อีกหนึ่งปราสาทหินเก่าแก่ในจังหวัดนครราชสีมาที่สร้างขึ้นครั้งแรกตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 15 เพื่อเป็นเทวสถาน ปราสาทหินแห่งนี้ถือเป็นปราสาทหินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย
อ่านต่อจังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้
อ่านต่อวัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อจังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้
อ่านต่อผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อน้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน
อ่านต่อเกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก
อ่านต่ออุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ (Phu Pha Toep National Park) หรือ อุทยานแห่งชาติมุกดาหาร เป็นหนึ่งในอุทยานที่มีขนาดพื้นที่เล็กที่สุดในประเทศไทย โดยอุทยานแห่งนี้เป็นที่ตั้งของหินรูปทรงประหลาดและถ้ำที่มีจิตรกรรมวาดด้วยมือ
อ่านต่อภูห้วยอีสัน (Phu Huai Isan) เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกแห่งใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงปลายฝนต้นหนาว ด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลหมอกลอยละล่องเหนือสายน้ำโขง และขุนเขาสลับซับซ้อน ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาจังหวัดหนองคาย
อ่านต่ออุทยานแห่งชาติป่าหินงาม (Pa Hin Ngam National Park) จังหวัดชัยภูมิ เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีสภาพป่าสมบูรณ์และมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง โดยเฉพาะทุ่งดอกกระเจียวที่จะออกดอกสีชมพูอมม่วงบานสะพรั่งไปทั่วผืนป่าในช่วงต้นฤดูฝน ประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมของทุกปี
อ่านต่อ