- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- ปรางค์กู่ (ปราสาทหนองกู่) จังหวัดร้อยเอ็ด ประเทศไทย
ปรางค์กู่ (ปราสาทหนองกู่) จังหวัดร้อยเอ็ด ประเทศไทย
- อ่าน (6,200)
- ByWebmaster
- 18:30:33 | 15 ธ.ค. 2563
ปรางค์กู่ (ปราสาทหนองกู่) จังหวัดร้อยเอ็ด ประเทศไทย
Prang Ku, Roi Et Province, Thailand
ปรางค์กู่ (Prang Ku) หรือ ปราสาทหนองกู่ เป็นกลุ่มอาคารสถาปัตยกรรมแบบขอมโบราณ ที่มีลักษณะแบบเดียวกันกับอาคารที่เชื่อกันว่า คือ “อโรคยาศาล” ตามที่ปรากฏในจารึกปราสาทตาพรหม ประเทศกัมพูชา ซึ่งได้กล่าวถึงการสร้างอโรคยาศาลจำนวน 102 แห่งในรัชสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7
ประวัติ
ปรางค์กู่ หรือ ปราสาทหนองกู่ สร้างในพุทธศตวรรษที่ 18 ตามแบบศิลปะเขมรสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ปัจจุบันตั้งอยู่ที่วัดศรีรัตนาราม บ้านยางกู่ ตำบลมะอี จังหวัดร้อยเอ็ด ปรางค์กู่ คือ กลุ่มอาคารที่มีลักษณะแบบเดียวกันกับอาคารที่เชื่อกันว่า คืออโรคยาศาลตามที่ปรากฏในจารึกปราสาทตาพรหม อันประกอบด้วย ปรางค์ประธาน บรรณาลัย กำแพงพร้อมซุ้มประตูและสระน้ำนอกกำแพง กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนปรางค์กู่เป็นโบราณสถานใน พ.ศ.2478 โดยในปัจจุบันได้สำรวจพบอโรคยาศาลในพื้นที่ภาคอีสานทั้งหมดรวมแล้ว 31 แห่ง
ปรางค์กู่มีลักษณะผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าย่อเก็จ มีมุขโถงยื่นออกมาทางทิศตะวันออกเป็นประตูทางเข้า อีก 3 ด้านที่เหลือเป็นประตูหลอก โดยทั่วไปนับว่าปรางค์กู่ยังคงสภาพเดิมไว้อย่างค่อนข้างสมบูรณ์ โดยเฉพาะปรางค์ประธานศิลาแลงชั้นหลังคาคงเหลือ 3 ชั้น และมีฐานบัวยอดปรางค์อยู่ตอนบน นอกจากนี้ภายในกำแพงด้านหน้าทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ยังพบโบราณวัตถุอีกหลายชิ้นวางเก็บรักษาไว้ใต้อาคารไม้ ได้แก่ ทับหลังสลักรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณภายในซุ้มเรือนแก้วหน้ากาล
กล่าวกันว่าทับหลังนี้เป็นทับหลังหน้าประตูมุขของปรางค์ประธาน เสากรอบประตู 2 ชิ้น ชิ้นหนึ่งมีภาพสลักรูปฤาษีที่โคนเสาศิวลึงค์ขนาดใหญ่พร้อมฐานที่ได้จากทุ่งนาด้านนอกออกไป และชิ้นส่วนบัวยอดปรางค์ ซึ่งถูกดัดแปลงเป็นฐานของพระสังกัจจายน์ปูนปั้น คะเนอายุว่าสร้างราวพุทธศตวรรษที่ 18
สำหรับบรรณาลัยเป็นอาคารก่อด้วยศิลาแลง ในผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หันหน้าไปทางทิศตะวันตก หน้าอาคารมีห้องมุข หน้าห้องมุขมีประตู ส่วนกำแพงเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กึ่งกลางกำแพงด้านทิศตะวันออกเป็นซุ้มประตู (โคปุระ) รูปกากบาท กึ่งกลางกำแพงด้านทิศเหนือและใต้มีห้องเล็กๆ ด้านละหนึ่งห้อง หน้าประตูพบฐานอาคารก่อด้วยศิลาแลงในผังรูปกากบาท สันนิษฐานว่าเป็นพลับพลาเครื่องไม้จากการพบหลักฐานหลุมเสารอบอาคาร
แม้อาคารอื่นๆ ของปรางค์กู่ ได้หักพังไปบ้างแล้ว ทว่าทางวัดก็ได้จัดบริเวณให้ดูร่มรื่นสะอาดตา และน่าเดินชมรอบๆ นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญและเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดร้อยเอ็ดที่ควรค่าแก่การไปเยือน
ปรางค์กู่ หรือ ปราสาทหนองกู่ ตั้งอยู่ที่วัดศรีรัตนาราม บ้านยางกู่ ตำบลมะอี จังหวัดร้อยเอ็ด
บรรณาลัยเป็นอาคารก่อด้วยศิลาแลง ในผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า
ศิวลึงก์โบราณ
การเดินทางไปจังหวัดร้อยเอ็ด
- เครื่องบิน (Flight) การเดินทางโดยเครื่องบินจากสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ไปสนามบินจังหวัดร้อยเอ็ดใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
- รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดร้อยเอ็ด มีระยะทาง 500 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง 30 นาที
การเดินทางไปปรางค์กู่ (ปราสาทหนองกู่)
ปรางค์กู่ หรือ ปราสาทหนองกู่ ตั้งอยู่ที่ วัดศรีรัตนาราม วิปัสสนากู่ บ้านยางกู่ ต.มะอึ อ.ธวัชบุรี อยู่ห่างจากตัวเมืองร้อยเอ็ดประมาณ 14 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ราวๆ 20 นาที
เวลาทำการเปิด – ปิด
เปิดทุกวัน เวลา 8.00 -18.00 น.
ปรางค์กู่สร้างมาตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 18
อัตราค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าเข้าชม
บรรยากาศรอบๆ วัดศรีรัตนารามซึ่งเป็นที่ตั้งของปรางค์กู่
อุโบสถวัดศรีรัตนาราม
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวปรางค์กู่ (ปราสาทหนองกู่)
ชมอโรคยาศาลา โบราณสถานของขอม
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม ปรางค์กู่ (ปราสาทหนองกู่) สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ปรางค์กู่ (ปราสาทหนองกู่) จังหวัดร้อยเอ็ด ประเทศไทย
(Prang Ku, Roi Et Province, Thailand)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 8.00 -18.00 น.
ตั้งอยู่ที่ : วัดศรีรัตนาราม วิปัสสนากู่ บ้านยางกู่ ต.มะอึ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด
โทรศัพท์ : (+66) 043-650138
เว็บไซต์ : -
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com
ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวจังหวัดร้อยเอ็ด https://roiet.mots.go.th
ศูนย์ข้อมูลการเดินทางจังหวัดร้อยเอ็ด http://www.roiet.go.th/pagein-99.html
ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ จังหวัดมุกดาหาร ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ (Phu Pha Toep National Park) หรือ อุทยานแห่งชาติมุกดาหาร เป็นหนึ่งในอุทยานที่มีขนาดพื้นที่เล็กที่สุดในประเทศไทย โดยอุทยานแห่งนี้เป็นที่ตั้งของหินรูปทรงประหลาดและถ้ำที่มีจิตรกรรมวาดด้วยมือ
อ่านต่อภูห้วยอีสัน จังหวัดหนองคาย ประเทศไทย
ภูห้วยอีสัน (Phu Huai Isan) เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกแห่งใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงปลายฝนต้นหนาว ด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลหมอกลอยละล่องเหนือสายน้ำโขง และขุนเขาสลับซับซ้อน ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาจังหวัดหนองคาย
อ่านต่ออุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิ ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม (Pa Hin Ngam National Park) จังหวัดชัยภูมิ เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีสภาพป่าสมบูรณ์และมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง โดยเฉพาะทุ่งดอกกระเจียวที่จะออกดอกสีชมพูอมม่วงบานสะพรั่งไปทั่วผืนป่าในช่วงต้นฤดูฝน ประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมของทุกปี
อ่านต่อปราสาทพนมวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย
ปราสาทพนมวัน (Prasat Phanom Wan) อีกหนึ่งปราสาทหินเก่าแก่ในจังหวัดนครราชสีมาที่สร้างขึ้นครั้งแรกตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 15 เพื่อเป็นเทวสถาน ปราสาทหินแห่งนี้ถือเป็นปราสาทหินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย
อ่านต่อ5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย
จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้
อ่านต่อวัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย
วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อ8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้
อ่านต่อผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อน้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน
อ่านต่อเกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ