วัดวังคำ จังหวัดกาฬสินธุ์ ประเทศไทย

  • อ่าน (9,540)
  • ByWebmaster
  • 17:41:37 | 14 ธ.ค. 2563

วัดวังคำ จังหวัดกาฬสินธุ์ ประเทศไทย

Wat Wang Kham, Kalasin, Thailand

             วัดวังคำ (Wat Wang Kham) เป็นวัดที่งดงามวิจิตร โดยสถาปัตยกรรมนั้นจำลองแบบมาจากวัดเชียงทอง ประเทศลาว วัดแห่งนี้ถูกยกให้เป็นอันซีนแห่งใหม่ในกาฬสินธุ์ ที่แม้แต่คนกาฬสินธุ์จำนวนไม่น้อยก็ยังไม่เคยมาก่อนทราบว่ามีวัดที่สวยงามแห่งนี้อยู่ด้วย


ประวัติ

             วัดวังคำ ตั้งอยู่ที่ บ.นาวี ต.สงเปลือย อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ ตามประวัติวัดวังคำระบุไว้ว่าเริ่มก่อสร้างวัดแห่งนี้อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2539 โดยคณะชาวบ้านนาวีและหมู่บ้านใกล้เคียง แรกเริ่มที่สร้างวัดแห่งนี้ได้เริ่มจากการสร้างกุฏิเล็ก และศาลาเล็กๆ หลังคามุงหญ้าคาเท่านั้น แต่ด้วยแรงศรัทธาจากญาติโยมทำให้ทางวัดได้ขยับขยายพื้นที่เพิ่มขึ้น พร้อมทั้งมีการก่อสร้างสิ่งก่อสร้างสำคัญต่างๆ ของทางวัดเพิ่มเติม โดยเฉพาะอาคารโบสถ์หลังงดงามที่จำลองแบบมาจากโบสถ์หรือสิมวัดเชียงทอง ประเทศลาว และด้วยความที่ชาวภูไท จ.กาฬสินธุ์ ไม่ได้มีเฉพาะที่เมืองไทยเท่านั้น ทว่ายังมีที่ประเทศลาว

             พระครูสังวรสมาธิวัตร (จรัญ ขันติปาโล) เจ้าอาวาสวัดและเป็นผู้ก่อตั้งวัดวังคำจึงคิดได้เกิดแนวความคิดที่จะนำศิลปะล้านช้างของลาวที่มีอิทธิพลอย่างมากในภาคอีสานมาผูกโยงกับเรื่องราววิถีชาวภูไทและความเชื่อโบราณของทางชุมชน จนผสมผสานเกิดเป็นโบสถ์ที่โบสถ์ที่งดงามแห่งนี้ ซึ่งเหตุผลที่เลือกวัดเชียงทองมาเป็นต้นแบบนั้น ก็เนื่องจากวัดเชียงทองได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดแห่งสถาปัตยกรรมล้านช้างที่งดงามที่สุดในดินแดนลาว วัดวังคำได้รับการประกาศตั้งเป็นวัดในพระพุทธศาสนามีนามว่า “วัดวังคำ” สังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุตนิกายเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2543 ต่อมาภายหลังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานเขตวิสุงคามสีมาแก่วัดวังคำเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2545

             สถาปัตยกรรมของวัดวังคำนั้นสะท้อนถึงวิถีชีวิตของชนเผ่าภูไทได้เป็นอย่างดี และจำลองแบบของวัดเชียงทอง ในหลวงพระบางมาได้อย่างใกล้เคียงที่สุด โดยมีลักษณะเป็นอาคารโบสถ์ หลังคามุข 3 ชั้น และมีฉัตรตรงกลาง 9 ยอด ส่วนหลังคาที่โค้งยาวลงมาก็มีความวิจิตรงดงาม จนทำให้วัดแห่งนี้ได้รับการยกให้เป็น “อันซีนแห่งกาฬสินธุ์”

             เมื่อเดินเข้าไปภายในวัดจะพบกับพระอุโบสถที่โดดเด่น ล้อมรอบด้วยระเบียงทั้งสี่ด้าน ด้านในตัวโบสถ์เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางสะดุ้งมาร ส่วนรอบโบสถ์นั้นประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยหลายองค์ วัดวังคำยังมีงานพุทธศิลป์อิทธิพลศิลปะล้านช้างปรากฏให้เห็นในหลายจุดด้วยกัน อาทิ องค์พระธาตุสีทองอร่ามที่ได้รับอิทธิพลมาจากธาตุหลวง เมืองเวียงจันทน์ ประเทศลาว และศาลาการเปรียญหลังใหญ่ที่ภายในประดิษฐาน “หลวงปู่วังคำ” พระประธานศิลปะล้านช้างอันงดงามซึ่งมีพระพักตร์อมยิ้มเล็กน้อย นอกจากความสวยงามของศิลปะแบบล้านช้างที่มีให้นักท่องเที่ยวได้ชมและเก็บภาพประทับใจแล้ว ภายในวัดวังคำยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง รวมถึงมีการจัดนิทรรศการต่างๆ เกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวภูไทด้วย 


ความงดงามขององค์เจดีย์สีทองภายในวัดวังคำ


บรรยากาศสวยงามรอบๆ วังวังคำ


หลังคาโบสถ์อ่อนช้อยโค้งงามทรงปีกนกปกคลุมต่ำซ้อน ลดหลั่นกันลงมา 3 ชั้น หรือที่เรียกว่าสถาปัตยกรรมแบบม้าต่างไหม


ลวดลายลงรักปิดทองอันงดงามของประตูและรูปปั้น


เรือนแบบชาวภูไท


สถาปัตยกรรมภายในวัดวังคำสะท้อนถึงวิถีชีวิตของชนเผ่าภูไทได้เป็นอย่างดี และจำลองแบบของวัดเชียงทอง ในหลวงพระบางมาได้อย่างใกล้เคียงที่สุด


การเดินทางไปจังหวัดกาฬสินธุ์

             - รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดกาฬสินธุ์ มีระยะทาง 520กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง 20 นาที    

             จังหวัดกาฬสินธุ์ไม่มีเส้นทางรถไฟตัดผ่าน และยังไม่มีสนามบิน สำหรับผู้ที่เดินทางโดยรถไฟและเครื่องบินนิยมนั่งไปลงที่จังหวัดใกล้เคียงคือ จังหวัดร้อยเอ็ด แล้วเดินทางโดยรถยนต์หรือรถโดยสารประจำทางต่อมาที่จังหวัดกาฬสินธุ์


การเดินทางไปวัดวังคำ

             วัดวังคำ ตั้งอยู่ที่ บ.นาวี ต.สงเปลือย อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ โดยอยู่ห่างจากตัวเมืองกาฬสินธุ์ประมาณ 90 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที ไม่มีรถสาธารณะไปถึง หากไม่ได้เดินทางโดยรถส่วนตัวนักท่องเที่ยวต้องเหมารถให้ไปส่ง


เวลาทำการเปิด – ปิด

             เปิดทุกวัน เวลา 08.30 - 16.30 น.


อัตราค่าเข้าชม

             ไม่เสียค่าเข้าชม


สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยววัดวังคำ

             ชมความสวยงามในพระอุโบสถซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระปางสะดุ้งมาร พระปางสะดุ้งกลับ และพระธาตุเจ้ากู สักการะพระพุทธรูปองค์ต่างๆ ภายในวัดวังคำเพื่อความเป็นสิริมงคล และชมนิทรรศการเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวภูไท


ผู้คนเดินทางมาเยี่ยมชมและกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดวังคำ


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

             สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี


ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้

             การเข้าชมวัดวังคำมีข้อปฏิบัติเกี่ยวกับการแต่งกายดังนี้

             สุภาพสตรี ใส่ผ้าถุงเท่านั้น ส่วนเสื้อเป็นเสื้อสุภาพ และห่มผ้าสไบ บ่าซ่าย

             สุภาพบุรุษ ใส่กางเกงขายาว โสร่ง (สำหรับกางเกงขาสั้นให้ใส่ผ้าโสร่ง) ส่วนเสื้อเป็นเสื้อสุภาพ และเฉียงผ้าสไบบ่าขวา

             สำหรับผู้ที่จะไปใช้วังวังคำเป็นสถานที่ถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง อนุญาตให้เข้าเฉพาะชุดผู้ไทเท่านั้น


             
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม วัดวังคำ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                         วัดวังคำ จังหวัดกาฬสินธุ์ ประเทศไทย

                         (Wat Wang Kham, Kalasin, Thailand)

                         ระดับความนิยม : 

                         อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม

                         เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.30 - 16.30 น.

                         ตั้งอยู่ที่ : บ้านนาวี ต.สงเปลือย อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์

                         โทรศัพท์ : (+66) 08 1871 6638

                         เว็บไซต์ : -

                         ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                                        ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวจังหวัดกาฬสินธุ์ https://kalasin.mots.go.th/

                                        ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ จังหวัดมุกดาหาร ประเทศไทย

อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ (Phu Pha Toep National Park) หรือ อุทยานแห่งชาติมุกดาหาร เป็นหนึ่งในอุทยานที่มีขนาดพื้นที่เล็กที่สุดในประเทศไทย โดยอุทยานแห่งนี้เป็นที่ตั้งของหินรูปทรงประหลาดและถ้ำที่มีจิตรกรรมวาดด้วยมือ

อ่านต่อ

ภูห้วยอีสัน จังหวัดหนองคาย ประเทศไทย

ภูห้วยอีสัน (Phu Huai Isan) เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกแห่งใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงปลายฝนต้นหนาว ด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลหมอกลอยละล่องเหนือสายน้ำโขง และขุนเขาสลับซับซ้อน ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาจังหวัดหนองคาย

อ่านต่อ

อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิ ประเทศไทย

อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม (Pa Hin Ngam National Park) จังหวัดชัยภูมิ เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีสภาพป่าสมบูรณ์และมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง โดยเฉพาะทุ่งดอกกระเจียวที่จะออกดอกสีชมพูอมม่วงบานสะพรั่งไปทั่วผืนป่าในช่วงต้นฤดูฝน ประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมของทุกปี

อ่านต่อ

ปราสาทพนมวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

ปราสาทพนมวัน (Prasat Phanom Wan) อีกหนึ่งปราสาทหินเก่าแก่ในจังหวัดนครราชสีมาที่สร้างขึ้นครั้งแรกตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 15 เพื่อเป็นเทวสถาน ปราสาทหินแห่งนี้ถือเป็นปราสาทหินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย

อ่านต่อ

5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย

จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้

อ่านต่อ

วัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย

วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้

อ่านต่อ

ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

น้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน

อ่านต่อ

เกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ