วัดกลาง พระอารามหลวง จังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย

  • อ่าน (5,954)
  • ByWebmaster
  • 10:52:41 | 25 พ.ย. 2563

วัดกลาง พระอารามหลวง จังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย

Wat Klang Phra Aram Luang, Buriram, Thailand

             วัดกลาง พระอารามหลวง (Wat Klang Phra Aram Luang) วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองจังหวัดบุรีรัมย์มาตั้งแต่สมัยโบราณและเป็นพระอารามหลวงแห่งแรกของจังหวัด มีสระน้ำโบราณศักดิ์สิทธิ์อยู่ภายในวัด ที่เชื่อกันว่ามีอายุกว่า 3,000 ปี


ประวัติ

             ตามตำนานเล่าว่าเดิมวัดแห่งนี้เป็นวัดร้างโบราณ สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก (สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ในขณะนั้น) เสด็จผ่านขณะนำทัพไปปราบเจ้าเมืองนางรองซึ่งเป็นกบฏ และได้หยุดพักทัพบริเวณนี้ซึ่งเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ เชื่อกันว่าคือสระน้ำโบราณซึ่งเป็นร่องรอยอารยะธรรมขอม จึงโปรดเกล้าให้ยกวัดร้างเป็นวัด มีพระสงฆ์ให้ชื่อว่า "วัดแปะใหญ่" ในสมัยกรุงธนบุรี และตั้งเป็นวัดโดยสมบูรณ์เมื่อประมาณ พ.ศ. 2329 โดยต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ได้ทรงเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดกลาง”

             ในอดีตชาวเมืองยังอาศัยน้ำจากสระน้ำโบราณที่อยู่ภายในวัดกลางสำหรับดื่มกินและใช้ในพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาด้วย โดยการนำน้ำในสระไปทำพิธีดื่มกินในพระอุโบสถหลังเก่าซึ่งเป็นที่ตั้งของพระอุโบสถในปัจจุบันนี้เอง

             พระอุโบสถของวัดกลางได้มีการสร้างแล้วรื้อบูรณะหลายครั้ง ทว่าสิ่งที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงคือพระประธาน หรือหลวงพ่อโตซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารมิชัยทำจากหินศิลาแลงลงรักปิดทองนั้นยังคงประดิษฐานอยู่ดังเดิมมาโดยตลอด เชื่อกันว่ามีหลวงพ่อโตมีพระพุทธคุณเมตตาเรื่องการขอบุตรธิดาและให้โชคลาภ จึงมีผู้คนที่ศรัทธาเดินทางมาสักการะขอพรเป็นจำนวนมาก โดยทางวัดจะให้เปิดเข้าสักการะในวันพระเท่านั้น


วัดกลาง พระอารามหลวงและสระน้ำโบราณด้านข้าง


สระน้ำโบราณ


ภายในพระอุโบสถมีพระประธานคือหลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปปางมารมิชัยหินศิลาแลงลงรักปิดทอง


การเดินทางไปจังหวัดบุรีรัมย์

             - เครื่องบิน (Flight) การเดินทางโดยเครื่องบินจากสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ไปสนามบินจังหวัดบุรีรัมย์ใช้เวลาเดินทางประมาณ 55 นาที  

             - รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดบุรีรัมย์ มีระยะทาง 400 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง   

             - รถไฟ (Train) การเดินทางโดยรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดบุรีรัมย์ ใช้เวลาเร็วสุดประมาณ 6ชั่วโมง ทั้งนี้อาจใช้เวลานานกว่านี้ขึ้นอยู่กับประเภทของรถไฟ 


การเดินทางไปวัดกลางพระอารามหลวง

             วัดกลาง พระอารามหลวง ตั้งอยู่ที่ ถ. หลักเมือง เยื้องๆ กับศาลหลักเมืองบุรีรัมย์ มีรถสองแถวที่วิ่งผ่านหลายสาย ค่าบริการ 10 บาทตลอดสาย


เวลาทำการเปิด – ปิด

             เปิดทุกวัน เวลา 06.00 – 20.00 น.


อัตราค่าเข้าชม

             ไม่เสียค่าเข้าชม


สระน้ำศักดิ์สิทธิ์ เชื่อกันว่ามีอายุเก่าแก่กว่า 3,000 ปี


สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยววัดกลางพระอารามหลวง

             กราบสักการะหลวงพ่อโตเพื่อความเป็นสิริมงคล และชมบ่อน้ำโบราณอายุเก่าแก่กว่า 3,000 ปี

             ในอดีตชาวเมืองอาศัยน้ำจากสระน้ำสำหรับดื่มกินและใช้ในพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา โดยนำน้ำในสระไปทำพิธีดื่มกินในพระอุโบสถหลังเก่าซึ่งเป็นที่ตั้งของพระอุโบสถในปัจจุบัน


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

             สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี


บริเวณประตูทางเข้าวัด


             
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม วัดกลางพระอารามหลวง สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                        วัดกลางพระอารามหลวง จังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย

                        (Wat Klang Phra Aram Luang, Buriram, Thailand)

                        ระดับความนิยม : 

                        อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม    

                        เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 06.00 – 20.00 น.  

                        ตั้งอยู่ที่ : 29/8 ถนนหลักเมือง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์

                        โทรศัพท์ : (+66) 044 621 688    

                        เว็บไซต์ : -   

                        ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                                        ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์ https://buriram.mots.go.th

                                        ศูนย์ข้อมูลการเดินทางจังหวัดบุรีรัมย์ http://www.buriram.go.th/visitdata/tran.htm

                                        ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ จังหวัดมุกดาหาร ประเทศไทย

อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ (Phu Pha Toep National Park) หรือ อุทยานแห่งชาติมุกดาหาร เป็นหนึ่งในอุทยานที่มีขนาดพื้นที่เล็กที่สุดในประเทศไทย โดยอุทยานแห่งนี้เป็นที่ตั้งของหินรูปทรงประหลาดและถ้ำที่มีจิตรกรรมวาดด้วยมือ

อ่านต่อ

ภูห้วยอีสัน จังหวัดหนองคาย ประเทศไทย

ภูห้วยอีสัน (Phu Huai Isan) เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกแห่งใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงปลายฝนต้นหนาว ด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลหมอกลอยละล่องเหนือสายน้ำโขง และขุนเขาสลับซับซ้อน ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาจังหวัดหนองคาย

อ่านต่อ

อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิ ประเทศไทย

อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม (Pa Hin Ngam National Park) จังหวัดชัยภูมิ เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีสภาพป่าสมบูรณ์และมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง โดยเฉพาะทุ่งดอกกระเจียวที่จะออกดอกสีชมพูอมม่วงบานสะพรั่งไปทั่วผืนป่าในช่วงต้นฤดูฝน ประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมของทุกปี

อ่านต่อ

ปราสาทพนมวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

ปราสาทพนมวัน (Prasat Phanom Wan) อีกหนึ่งปราสาทหินเก่าแก่ในจังหวัดนครราชสีมาที่สร้างขึ้นครั้งแรกตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 15 เพื่อเป็นเทวสถาน ปราสาทหินแห่งนี้ถือเป็นปราสาทหินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย

อ่านต่อ

5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย

จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้

อ่านต่อ

วัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย

วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้

อ่านต่อ

ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

น้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน

อ่านต่อ

เกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ