วนอุทยานภูเขาไฟกระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย

  • อ่าน (7,713)
  • ByWebmaster
  • 10:40:41 | 25 พ.ย. 2563

วนอุทยานภูเขาไฟกระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย

Khao Kradong Forest Park, Buriram, Thailand

             วนอุทยานภูเขาไฟกระโดง (Khao Kradong Forest Park) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจและศึกษาประวัติศาสตร์ ธรณีวิทยาและชีววิทยาที่น่าสนใจแห่งหนึ่งของจังหวัดบุรีรัมย์ และที่สำคัญคือเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟที่ยังคงปรากฏร่องรอยปากปล่องปะทุให้เห็นได้ชัดเจนแม้ว่าจะดับสนิทแล้วก็ตาม


ประวัติ

             วนอุทยานเขากระโดง ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นปากปล่องภูเขาไฟที่ดับสนิทโดยมีอายุ 3 แสนถึง 9 แสนปีมาแล้ว เช่นเดียวกับปากปล่องภูเขาไฟที่อื่นๆ ในจังหวัดบุรีรัมย์ อาทิ ปากปล่องภูเขาไฟที่เขาพนมรุ้ง ปากปล่องภูเขาไฟที่เขาอังคาร เดิมชาวบ้านเรียกเขากระโดงว่า “พนมกระดอง” เป็นภาษาเขมร แปลว่า ภูเขากระดอง (เต่า) เพราะมีรูปลักษณ์คล้ายกระดองเต่า ต่อมาจึงเรียกเพี้ยนเป็นกระโดง

             วนอุทยานเขากระโดงเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟโบราณซึ่งยังคงปรากฏร่องรอยปากปล่องให้เห็นได้ชัดเจนโดยมีลักษณะเป็นแอ่งลึก ยอดเขาสูงสุดประมาณ 265 เมตรจากระดับน้ำทะเล รอบๆ บริเวณเป็นป่าไม้อุดมสมบูรณ์ เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าขนาดเล็กโดยเฉพาะนกนานาชนิด และยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าเต็งรังครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1,450 ไร่ด้วย

             ที่วนอุทยานเขากระโดงยังมีพันธุ์ไม้พื้นเมืองน่าศึกษาหลายชนิด รวมถึงผลของต้นโยนีปีศาจ ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้หายากที่มักพบในบริเวณเขตภูเขาไฟ บนเขากระโดงยังมีปรางค์กู่โบราณศิลปะแบบขอม รอยพระพุทธบาทจำลอง และมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ประดิษฐานอยู่คือพระสุภัทรบพิตร ซึ่งเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่คู่เมืองบุรีรัมย์ นอกจากนี้ยังมีสะพานแขวนซึ่งสามารถชมทัศนียภาพบริเวณปากปล่องภูเขาไฟได้

             นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปชมทิวทัศน์ของตัวเมืองบุรีรัมย์และไหว้พระเพื่อเป็นสิริมงคลบนเขากระโดง การขึ้นไปยังเขากระโดงสามารถทำได้สองวิธี คือ เดินขึ้นบันได 297 ขั้น หรือ ขับรถขึ้นไปถึงยอดเขา โดยระหว่างทางมีพระพุทธรูปปางต่างๆ ประดิษฐานเรียงรายอยู่เป็นระยะ บรรยากาศโดยรอบนั้นทั้งร่มรื่นและสงบผ่อนคลาย เหมาะสำหรับการมาท่องเที่ยวพักผ่อนจิตใจอย่างยิ่ง


ปากปล่องภูเขาไฟที่ยังคงปรากฏร่องรอยชัดเจนโดยมีลักษณะเป็นแอ่งลึก


วนอุทยานภูเขาไฟกระโดงเป็นที่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด


สะพานแขวนที่สามารถชมทัศนียภาพที่สวยงามรอบๆ ปากปล่องภูเขาไฟได้


พระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่บนเขาคือพระสุภัทรบพิตร


บรรยากาศภายในวนอุทยานภูเขาไฟกระโดง 


การเดินทางไปจังหวัดบุรีรัมย์

             - เครื่องบิน (Flight) การเดินทางโดยเครื่องบินจากสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ไปสนามบินจังหวัดบุรีรัมย์ใช้เวลาเดินทางประมาณ 55 นาที  

             - รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดบุรีรัมย์ มีระยะทาง 400 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง   

             - รถไฟ (Train) การเดินทางโดยรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดบุรีรัมย์ ใช้เวลาเร็วสุดประมาณ 6ชั่วโมง ทั้งนี้อาจใช้เวลานานกว่านี้ขึ้นอยู่กับประเภทของรถไฟ   


การเดินทางไปวนอุทยานภูเขาไฟกระโดง

             วนอุทยานภูเขาไฟกระโดง อยู่ห่างจากตัวเมืองบุรีรัมย์ 7.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 15 นาที มีรถสองแถวที่วิ่งผ่านคือรถสองแถวสีชมพูสาย 1 ค่าบริการ 10 บาทตลอดสาย http://www.buriramguru.com/pink-transport-line-1


เวลาทำการเปิด
– ปิด

             เปิดทุกวัน เวลา 8.00 – 18.00 น.


จุดถ่ายภาพที่ระลึก และร้านจำหน่ายสินค้า


อัตราค่าเข้าชม

             ไม่เสียค่าเข้าชม


สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยววนอุทยานภูเขาไฟกระโดง

             ชมปากปล่องภูเขาไฟ ลักษณะเป็นรูปพระจันทร์ครึ่งซีกที่มีอายุประมาณ 3 แสนถึง 9 แสนปี และชมต้นโยนีปีศาจซึ่งเป็นพันธุ์ไม้หายากที่มักพบในบริเวณเขตภูเขาไฟ ชมปรางค์กู่โบราณศิลปะแบบขอม สักการะพระสุภัทรบพิตรและรอยพระพุทธบาทจำลองบนเขากระโดง


ต้นโยนีปีศาจเป็นพันธุ์ไม้หายากที่มักพบในบริเวณเขตภูเขาไฟ


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

             สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี


จุดถ่ายภาพที่ระลึก


ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้

             ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 ของทุกปี จะมีประเพณีขึ้นเขากระโดง โดยพุทธศาสนิกชนจะร่วมกันเชิญผ้าอังสะ ขึ้นไปเปลี่ยนให้องค์พระสุภัทรบพิตรที่ประดิษฐานอยู่บนเขา


             
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม วนอุทยานภูเขาไฟกระโดง สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                        วนอุทยานภูเขาไฟกระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย

                        (Khao Kradong Forest Park, Buriram,  Thailand)

                        ระดับความนิยม : 

                        อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม  

                        เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทำการทุกวัน เวลา 8.00 – 18.00 น.

                        ตั้งอยู่ที่ : บ้านน้ำซับ ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์

                        โทรศัพท์ : (+66) 044 637 349    

                        เว็บไซต์ : -   

                        ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                                        ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์ https://buriram.mots.go.th

                                        ศูนย์ข้อมูลการเดินทางจังหวัดบุรีรัมย์ http://www.buriram.go.th/visitdata/tran.htm

                                        ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ จังหวัดมุกดาหาร ประเทศไทย

อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ (Phu Pha Toep National Park) หรือ อุทยานแห่งชาติมุกดาหาร เป็นหนึ่งในอุทยานที่มีขนาดพื้นที่เล็กที่สุดในประเทศไทย โดยอุทยานแห่งนี้เป็นที่ตั้งของหินรูปทรงประหลาดและถ้ำที่มีจิตรกรรมวาดด้วยมือ

อ่านต่อ

ภูห้วยอีสัน จังหวัดหนองคาย ประเทศไทย

ภูห้วยอีสัน (Phu Huai Isan) เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกแห่งใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงปลายฝนต้นหนาว ด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลหมอกลอยละล่องเหนือสายน้ำโขง และขุนเขาสลับซับซ้อน ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาจังหวัดหนองคาย

อ่านต่อ

อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิ ประเทศไทย

อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม (Pa Hin Ngam National Park) จังหวัดชัยภูมิ เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีสภาพป่าสมบูรณ์และมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง โดยเฉพาะทุ่งดอกกระเจียวที่จะออกดอกสีชมพูอมม่วงบานสะพรั่งไปทั่วผืนป่าในช่วงต้นฤดูฝน ประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมของทุกปี

อ่านต่อ

ปราสาทพนมวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

ปราสาทพนมวัน (Prasat Phanom Wan) อีกหนึ่งปราสาทหินเก่าแก่ในจังหวัดนครราชสีมาที่สร้างขึ้นครั้งแรกตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 15 เพื่อเป็นเทวสถาน ปราสาทหินแห่งนี้ถือเป็นปราสาทหินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย

อ่านต่อ

5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย

จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้

อ่านต่อ

วัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย

วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้

อ่านต่อ

ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

น้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน

อ่านต่อ

เกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ