- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช จังหวัดสุโขทัย ประเทศไทย
พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช จังหวัดสุโขทัย ประเทศไทย
- อ่าน (6,410)
- ByWebmaster
- 15:24:55 | 9 ส.ค. 2565
พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช จังหวัดสุโขทัย ประเทศไทย
King Ramkhamhaeng Monument, Sukothai, Thailand

พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราชภายในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช (King Ramkhamhaeng Monument) ตั้งอยู่ภายในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เป็นพระบรมราชานุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นโดยกรมศิลปากรเพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีและพระราชกรณียกิจอันทรงคุณค่าของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช หนึ่งในกษัตริย์แห่งราชวงศ์พระร่วงในสมัยสุโขทัยที่สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับกรุงสุโขทัยเป็นอย่างมาก

แผนที่ตั้ง พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช (King Ramkhamhaeng Monument) จังหวัดสุโขทัย ประเทศไทย
ประวัติ
พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ตั้งอยู่ภายในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองสุโขทัย สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2518 โดยกรมศิลปากร พระบรมราชานุสาวรีย์แห่งนี้มีลักษณะเป็นพระบรมรูปที่หล่อด้วยโลหะทองเหลืองผสมทองแดงรมดำ มีขนาดใหญ่เป็นสองเท่าขององค์จริง มีความสูง 3 เมตร อยู่ในอิริยาบทประทับนั่งห้อยพระบาทบนแท่นมนังคศิลาบาตร พระหัตถ์ขวาถือคัมภีร์ พระหัตถ์ซ้ายอยู่ในท่าทรงสั่งสอนประชาชน แท่นด้านซ้ายมีพานวางพระขรรค์ ลักษณะพระพักตร์ใช้ศิลปะเดียวกันกับพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยตอนต้น บริเวณใกล้กับแท่นฐานประดับด้วยภาพแผ่นจำหลักนูนที่จารึกเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับพระกรณียกิจของพระองค์ในสมัยสุโขทัย โดยมีภาพจำหลักดังกล่าวมีอยู่ด้วยกันสี่ภาพ ดังนี้
ภาพที่ 1 เป็นภาพพ่อขุนรามคำแหงทรงช้างเผือกชื่อ อรูจาครี ไปนบพระอัฏฐารส ณ วัดตะพานหิน ในวันพระขึ้น 15 ค่ำ
ภาพที่ 2 เป็นภาพจำลองจากเนื้อหาในศิลาจารึกว่า จูงวัวไปค้า ขี่ม้าไปขาย ใครจักใคร่ค้าช้าง ค้า ใครจักใคร่ค้าม้า ค้า

ภาพจำหลักนูนและข้อความจากศิลาจารึก
ภาพที่ 3 เป็นภาพพ่อขุนรามคำแหงชนช้างกับขุนสามชน
ภาพที่ 4 เป็นภาพชาวเมืองสุโขทัย บำเพ็ญศีล ทาน

ภาพจำหลักพระกรณียกิจ และวิถีชีวิตของชาวสุโขทัยในอดีต

ภายในบริเวณยังมีภาพจำหลักอีกภาพซึ่งเป็นภาพของพ่อขุนรามคำแหงมหาราชขณะทรงรับเรื่องราวร้องทุกข์ของราษฎร
อนุสาวรีย์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นราชสักการะแด่พ่อขุนรามคำแหงมหาราช พระมหากษัตริย์ในสมัยสุโขทัยผู้มีพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่และทรงมีพระปรีชาสามารถนานัปการ อาทิเช่น การประดิษฐ์อักษรไทย การปกครองแบบพ่อปกครองลูก และการให้ประชาชนได้ค้าขายอย่างเสรี
ประวัติพ่อขุนรามคำแหงมหาราชโดยย่อ
พ่อขุนรามคำแหงมหาราชเป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 3 ของพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์พระร่วงแห่งราชอาณาจักรสุโขทัย พ่อขุนรามคำแหงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 3 ในราชวงศ์พระร่วง ขึ้นครองราชย์ประมาณปี พ.ศ. 1822 ถึง พ.ศ. 1842 ทรงเป็นกษัตริย์พระองค์แรกของไทยที่ได้รับการยกย่องด้วยการต่อท้ายพระนามด้วยคำว่า "มหาราช" เนื่องจากทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอันทรงคุณประโยชน์แก่แผ่นดิน โดยพระราชกรณียกิจที่เป็นที่รู้จักไปทั่วคือการประดิษฐ์ตัวอักษรไทย และการรวบรวมอาณาจักรต่างๆ ในสมัยนั้นให้เป็นหนึ่งเดียว ซึ่งในรัชสมัยของพ่อขุนรามคำแหงมหาราชเป็นยุคที่กรุงสุโขทัยเจริญรุ่งเรืองขึ้นกว่าเดิมเป็นอันมากทั้งในด้านความสงบของบ้านเมือง การเมืองการปกครอง ปากท้องของประชาชน เศรษฐกิจ และศาสนา อีกทั้งอาณาเขตของกรุงสุโขทัยยังได้ขยายออกไปอย่างกว้างใหญ่ไพศาล พ่อขุนรามคำแหงสวรรคตในปี พ.ศ. 1842

พระบรมรูปอยู่ในอิริยาบทประทับนั่งห้อยพระบาทบนแท่นมนังคศิลาบาตร พระหัตถ์ขวาถือคัมภีร์ พระหัตถ์ซ้ายอยู่ในท่าทรงสั่งสอนประชาชน

กระดิ่งพ่อขุนที่สร้างจำลองแบบตามกระดิ่งที่ขุดได้จากฐานเจดีย์กลางเมืองสุโขทัย เชื่อกันว่าเป็นกระดิ่งแห่งความสุข
การเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังจังหวัดสุโขทัย
- รถยนต์ (Car) จากกรุงเทพฯ ไปยัง จังหวัดสุโขทัยโดยรถยนต์มีระยะทางประมาณ 442 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5-6 ชั่วโมง
- รถไฟ (Train) จากกรุงเทพฯ ขึ้นรถไฟที่สถานีหัวลำโพงหรือสถานีบางซื่อ ไปลงที่สถานีพิษณุโลก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6-7 ชั่วโมง แล้วเดินทางด้วยรถยนต์ต่อไปยังจังหวัดสุโขทัยอีกประมาณ 1 ชั่วโมง โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลเวลาเดินรถ และค่าโดยสารได้ที่เว็บไซต์การรถไฟแห่งประเทศไทย https://www.dticket.railway.co.th/DTicketPublicWeb/home/Home
- เครื่องบิน (Flight) จากกรุงเทพฯ ขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมืองหรือสนามบินสุวรรณภูมิ และลงเครื่องที่สนามบินสุโขทัย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที
- อื่นๆ (others) หากต้องการเดินทางโดยรถทัวร์ ให้ไปขึ้นรถที่สถานีขนส่งหมอชิต2 แล้วลงที่สถานีขนส่งสุโขทัย โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลเวลาเดินรถ และค่าโดยสารได้ที่ เว็บไซต์บริษัทขนส่งจำกัด (บขส) https://ticket.transport.co.th/
การเดินทางไปพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช
- รถยนต์ (Car) จากตัวเมืองสุโขทัย ไปยัง พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช มีระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 17 นาที
สามารถเหมารถหรือเช่ารถรับจ้างไปยังสถานที่ต่างๆ ในจังหวัดสุโขทัยได้ตามความสะดวก
เวลาทำการเปิด-ปิด
เปิดทุกวัน 06:30 น. – 19:30 น.
อัตราค่าเข้าชม
ค่าเข้าชมอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย :
ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 40 บาท
ค่าบริการรถราง :
ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 20 บาท
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช จังหวัดสุโขทัย ประเทศไทย
(King Ramkhamhaeng Monument, Sukothai, Thailand)
ระดับความนิยม : ![]()
อัตราค่าเข้าชม: ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 40 บาท
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06:30 น. – 19:30 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย 64210 ประเทศไทย
โทรศัพท์ : (+66) 055-697-241
เว็บไซต์ : http://www.info.ru.ac.th/province/sukhotai/anusawaree1.htm
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com
เว็บไซต์จังหวัดสุโขทัย http://www.sukothai.go.th
เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org/Home
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
อุโมงค์ขุนตาน จังหวัดลำพูน ประเทศไทย
อุโมงค์ขุนตาน (Khun Tan Tunnel) เป็นอุโมงค์ทางรถไฟที่มีความสำคัญด้านประวัติศาสตร์วิศวกรรมการสร้างอุโมงค์ทางรถไฟของไทย โดยสร้างด้วยความยากลำบากและท้าทายกว่าจะแล้วเสร็จ อุโมงค์แห่งนี้ยังเคยเป็นอุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดในประเทศไทยถึง 106 ปี ก่อนจะถูกทำลายสถิติโดยอุโมงค์ผาเสด็จในปี พ.ศ. 2567
อ่านต่อ
อุทยานแห่งชาติแม่ปิง จังหวัดลำพูน ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติแม่ปิง (Mae Ping National Park) เป็นอุทยานแห่งชาติที่อยู่ในพื้นที่ของสามจังหวัดในภาคเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่ ตาก และลำพูน โดยมีที่ทำการอุทยานตั้งอยู่ที่ตำบลแม่ลาน อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน นอกจากธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์แล้ว อุทยานแห่งชาติแม่ปิงยังมีทิวทัศน์ที่สวยงาม และแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายๆ จุดด้วยกัน
อ่านต่อ
สะพานขาวทาชมภู จังหวัดลำพูน ประเทศไทย
สะพานขาวทาชมภู (Tha Chomphu White Bridge) สะพานทางรถไฟสีขาวที่โดดเด่น หนึ่งในแลนด์มาร์กของจังหวัดลำพูน ที่ทอดข้ามแม่น้ำทาและทอดยาวผ่านทุ่งโล่งที่มีทิวทัศน์งดงาม ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับอุโมงค์ขุนตาน ซึ่งเป็นสัญญาณว่าใกล้ถึงจุดหมายปลายทางแล้วสำหรับผู้ที่เดินทางโดยรถไฟสายกรุงเทพ-เชียงใหม่
อ่านต่อ
วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จังหวัดลำพูน ประเทศไทย
วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม (Wat Phrabhuddabat Huai Tom) เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดของอำเภอลี้ วัดแห่งนี้วัดมีตำนานความเป็นมาจากเมื่อครั้งพระพุทธกาล เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จมาที่ดงไม้ตาลและประทับบนดอยนางพี่ ภายในวัดมีพระธาตุเจดีย์ศิลปะล้านนาผสมพม่าโดดเด่นงดงาม
อ่านต่อ
วัดพระพุทธบาทตากผ้า จังหวัดลำพูน ประเทศไทย
วัดพระพุทธบาทตากผ้า (Wat Phrabhuddabat Tak Pha) เป็นปูชนียสถานสำคัญของจังหวัดลำพูน โดยนับถือกันว่ามีรอยพระบาทของพระพุทธเจ้าที่มาประทับไว้ตรงบริเวณที่นำผ้าจีวรมาตาก และมีรอยตารางบนผาหินที่เชื่อว่าคือรอยตากผ้าจีวรพระพุทธเจ้าอยู่
อ่านต่อ
พระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัย จังหวัดลำพูน ประเทศไทย
พระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัย (Phra Mahathat Chedi Si Wiang Chai) เป็นหนึ่งในวัดของจังหวัดลำพูนที่มีสถาปัตยกรรมงดงาม โดดเด่นด้วยพระมหาธาตุเจดีย์ฯ ที่สร้างโดยมีแนวคิดการจำลองแบบมาจากมหาธาตุเจดีย์ชเวดากองในพม่า
อ่านต่อ
ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยจังหวัดลำปาง จังหวัดลำปาง ประเทศไทย
ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยจังหวัดลำปาง (Thai Elephant Conservation Center) เคยเป็นสถานที่ฝึกลูกช้างที่แรกและแห่งเดียวในโลก เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์เพื่อให้ความรู้และได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของช้าง โดยมีกิจกรรมต่างๆ ที่นักท่องเที่ยวสามารถเลือกได้ตามความสนใจ
อ่านต่อ
วัดเชียงราย จังหวัดลำปาง ประเทศไทย
วัดเชียงราย (Wat Chiang Rai) ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เป็นวัดที่มีความโดดเด่นในด้านสถาปัตยกรรมและความงดงามของศิลปะ โดยมีจุดเด่นคือ การผสมผสานระหว่างศิลปะไทยล้านนาและศิลปะไทยประยุกต์ที่งดงามลงตัว
อ่านต่อ
น้ำตกทีลอซู จังหวัดตาก ประเทศไทย
น้ำตกทีลอซู (Thi Lor Su Waterfall) จังหวัดตาก เป็นหนึ่งในน้ำตกที่มีความโดดเด่นและสวยงามที่สุดของประเทศไทย
อ่านต่อ
ถ้ำสีฟ้า จังหวัดตาก ประเทศไทย
ถ้ำสีฟ้า (Blue Cave) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ลักษณะที่โดดเด่นของถ้ำแห่งนี้คือ เนื้อหินที่ผนังถ้ำจะมีสีฟ้าอมเทา ไม่เหมือนกับถ้ำอื่นๆ ที่มักพบสีแดงหรือสีส้ม ทำให้ชาวบ้านเรียกถ้ำนี้ว่า "ถ้ำสีฟ้า"
อ่านต่อ