- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- วัดไชโยวรวิหาร จังหวัดอ่างทอง ประเทศไทย
วัดไชโยวรวิหาร จังหวัดอ่างทอง ประเทศไทย
- อ่าน (3,027)
- ByWebmaster Webmaster
- 18:02:48 | 9 มี.ค. 2566
วัดไชโยวรวิหาร จังหวัดอ่างทอง ประเทศไทย
Wat Chaiyo Worawihan, Ang Thong, Thailand
วัดไชโยวรวิหาร (Wat Chaiyo Worawihan) วัดเก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และต่อมาสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ได้มาสร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 ทำให้“พระมหาพุทธพิมพ์” หรือ หลวงพ่อโต และวัดไชโยวรวิหารกลายเป็นที่รู้จักและเคารพศรัทธาสืบมาจนปัจจุบัน
ประวัติ
วัดไชโยวรวิหาร ตั้งอยู่ที่ตำบลไชโย อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง เป็นพระอารามหลวงชั้นโท เดิมเป็นวัดราษฎร์เก่าแก่มีนามว่า “วัดไชโย” ครั้นเมื่อสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เจ้าอาวาสวัดระฆังโฆษิตาราม ได้เลือกวัดนี้เป็นที่สร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ โดยใช้เวลาสร้างนานเกือบ 3 ปีจึงแล้วเสร็จในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 จากนั้นสมเด็จพุฒาจารย์ได้ถวายวัดไชโยเป็นวัดหลวง ได้รับพระราชทานนามว่า “วัดเกษไชโย”
ใน พ.ศ.2430 มีการปฏิสังขรณ์วัดเกษไชโยทั้งพระอาราม ทำให้พระพุทธรูปได้รับแรงกระเทือนจากการก่อสร้าง พระวิหารจึงพังทลายลง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระพุทธรูปขึ้นใหม่ทดแทนองค์เดิม โดยพระราชทานนามว่า “พระมหาพุทธพิมพ์” หรือที่เรียกว่า หลวงพ่อโต และในการนี้พระองค์ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกฐานะวัดไชโยเป็นพระอารามหลวง รวมถึงมีการก่อสร้างพระวิหาร พระอุโบสถ ศาลาราย กำแพงแก้ว ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ หอสวดมนต์ หอระฆัง ศาลารายกลางวัด ศาลาท่าน้ำ รวมเวลาการปฏิสังขรณ์นานถึง 8 ปี โดยพระวิหารของวัดไชโยวรวิหารนั้นถือเป็นพระวิหารที่มีความสูงใหญ่มากแห่งหนึ่ง รูปทรงแปลกตา ด้านนอกมีรูปทวารบาลลายรดน้ำเป็นรูปเสี้ยวกวาง ส่วนอุโบสถเป็นมุขลดยื่นออกมาทางด้านหน้า ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังเรื่องราวพุทธประวัติภาพเหล่าทวยเทพที่วิจิตรงดงามและยังอยู่ในสภาพดี ฝีมือช่างสมัยรัชกาลที่ 5
“พระมหาพุทธพิมพ์” หรือ หลวงพ่อโต มีขนาดหน้าตักกว้าง 8 วา 6 นิ้ว สูงสุดยอดพระรัศมี 11 วา 1 ศอก 7 นิ้ว ก่ออิฐถือปูนลงรักปิดทองอย่างสวยงาม เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิที่มีพุทธลักษณะที่โดดเด่น โดยพระพักตร์และพระกรรณนั้นมีลักษณะเหมือนคนธรรมดา มีริ้วรอยย่นของ สบง จีวร ชัดเจน เป็นฝีพระหัตถ์การรังสรรค์ของพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐ์วรการ หลวงพ่อโตนั้นมีความศักดิ์สิทธิ์มาก กล่าวกันว่า ผู้ที่ก่อกรรมทำชั่วไว้มากจะไม่สามารถเข้าไปกราบนมัสการหลวงพ่อโตได้ โดยเมื่อเข้าใกล้องค์พระ จะมองเห็นหลวงพ่อโตกำลังจะล้มลงมาทับนั่นเอง
นอกจากวัดไชโยวรวิหารจะเป็นวัดสำคัญของอำเภอไชโยแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ประชาชนรู้จักวัดนี้เป็นอย่างดีก็คือ “พระสมเด็จเกษไชโย” พระเครื่องที่สร้างโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ซึ่งเปี่ยมไปด้วยพุทธคุณนานัปการนั่นเอง
บรรยากาศรอบๆ วัดไชโยวรวิหาร
วัดไชโยวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นโท เดิมเป็นวัดราษฎร์เก่าแก่มีนามว่า “วัดไชโย”
รูปหล่อสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)
“พระมหาพุทธพิมพ์” หรือ หลวงพ่อโต หน้าตักกว้าง 8 วา 6 นิ้ว สูงสุดยอดพระรัศมี 11 วา 1 ศอก 7 นิ้ว
พระพุทธรูปองค์รอง
ประตูพระอุโบสถลงรักปิดทองลวดลายงดงาม
การเดินทางไปจากกรุงเทพมหานครไปจังหวัดอ่างทอง
- รถยนต์ จากกรุงเทพมหานครไปยังจังหวัดอ่างทอง ระยะทางประมาณ 105 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง โดยสามารถเดินทางได้หลายเส้นทาง คือ
เส้นทางที่ 1 ใช้เส้นทางสายพหลโยธิน ทางหลวงหมายเลข 32 จากกรุงเทพฯ แยกเข้าเส้นทางสายเอเชีย ผ่านอำเภอบางปะอิน - พระนครศรีอยุธยา - อำเภอบางปะหัน - อ่างทอง รวมระยะทาง 105 กิโลเมตร
เส้นทางที่ 2 ใช้เส้นทางตัดใหม่ ข้ามสะพานพระปิ่นเกล้า - ตลิ่งชัน เข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 340 ผ่านจังหวัดนนทบุรี - ปทุมธานี - พระนครศรีอยุธยา - สุพรรณบุรี - อ่างทอง รวมระยะทางประมาณ 150 กิโลเมตร
เส้นทางที่ 3 ใช้เส้นทางกรุงเทพฯ - ปทุมธานี ผ่านปากเกร็ด เข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3111 ผ่านอำเภอบางไทร - อำเภอเสนา - พระนครศรีอยุธยา จากนั้นใช้เส้นทางหมายเลข 3263 และต่อเข้าทางหลวงหมายเลข 309 เข้าอำเภอป่าโมก - อ่างทอง รวมระยะทาง 140 กิโลเมตร หรือใช้ทางพิเศษอุดรรัถยา (ทางด่วนสายบางปะอิน - ปากเกร็ด) สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 1543
- รถโดยสารประจำทาง บริษัท ขนส่ง จำกัด มีบริการรถโดยสารประจำทางระหว่างกรุงเทพฯ - อ่างทอง ทั้งรถธรรมดาและรถปรับอากาศทุกวัน สามารถขึ้นรถได้ที่ขนส่งสายเหนือ ถนนกำแพงเพชร 2 ไปยังสถานีขนส่ง จังหวัดอ่างทอง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 1490 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://home.transport.co.th/index.php/th/
การเดินทางไปวัดไชโยวรวิหาร
จากสถานีขนส่งจังหวัดอ่างทอง ไปยังวัดไชโยวรวิหาร มีระยะทาง 16 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 17 นาที โดยจากอ่างทองใช้ทางหลวงหมายเลข 309 (อ่างทอง-สิงห์บุรี) แล้วเลี้ยวขวาบริเวณสถานีตำรวจภูธรตำบลไชโย อีกประมาณ 300 เมตรถึงวัดไชโยวรวิหาร
เวลาทำการเปิด – ปิด
เปิดทุกวัน เวลา 7.00 - 17.00 น.
อัตราค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม วัดไชโยวรวิหาร สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
วัดไชโยวรวิหาร จังหวัดอ่างทอง ประเทศไทย
(Wat Chaiyo Worawihan, Ang Thong, Thailand)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 7.00 - 17.00 น.
ตั้งอยู่ที่ : ทางหลวงหมายเลข 309 ตำบลไชโย อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง
โทรศัพท์ : (+66) 081 295 4433
เว็บไซต์ : -
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com
ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวจังหวัดอ่างทอง http://www.angthong.go.th/atg-tour/travel.html
ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org
เว็บไซต์บริการรถโดยสารสาธารณะ http://home.transport.co.th/index.php/th/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
คู่มือการดำเนินการตามกระบวนการเคลมประกันรถยนต์ฉบับสมบูรณ์
การมีส่วนร่วมในอุบัติเหตุทางรถยนต์หรือประสบความเสียหายต่อยานพาหนะของคุณอาจเป็นประสบการณ์ที่ตึงเครียดและท่วมท้น อย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจขั้นตอนการเคลมประกันรถยนต์สามารถช่วยบรรเทาความวิตกกังวลและแก้ไขปัญหาได้ราบรื่นยิ่งขึ้น
อ่านต่อสวนสาธารณะเทศบาลโพธาราม จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย
สวนสาธารณะเทศบาลโพธาราม (Muang Photharam Municipal Public Park) เป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ริมเขื่อนแม่น้ำแม่กลองในอำเภอโพธาราม ภายในสวนมีบรรยากาศร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่ และยังมีส่วนของจุดชมวิว สนามหญ้า ทางวิ่งออกกำลังกาย ลานกีฬา เครื่องออกกำลังกาย และสนามเด็กเล่น สวนสาธาณะแห่งนี้เหมาะกับคนทุกวัยที่ต้องการมาเดินเล่น พักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกาย และชมวิวแม่น้ำแม่กลองที่เป็นแม่น้ำสายหลักของจังหวัดราชบุรี และที่นี่ยังใช้เป็นสถานที่จัดงานกิจกรรมและงานประเพณีต่างๆ ของเมืองโพธารามอีกด้วย
อ่านต่อพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี (Ratchaburi National Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์จากการใช้ศาลากลางหลังเก่าของจังหวัดราชบุรีมาก่อตั้งขึ้นเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อาคารแห่งนี้เป็นอาคารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามและอยู่คู่กับจังหวัดราชบุรีมาอย่างนาวนาน และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติอีกด้วย ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรีมีนิทรรศการท้องถิ่นที่น่าสนใจของจังหวัดราชบุรีให้เที่ยวชม โดยจัดแสดงเรื่องราวทางสภาพภูมิศาสตร์และธรรมชาติวิทยา ประวัติศาสตร์และโบราณคดี ชนเผ่าชาติพันธุ์วิทยา มรดกทางธรรมชาติและวัฒนธรรม และบุคคลสำคัญ ไปจนถึงคลังโบราณวัตถุที่หาชมได้ยากตั้งแต่เครื่องปั้นดินเผาไปจนถึงพระพุทธรูปในยุคต่างๆ
อ่านต่อน้ำตกเก้าชั้น จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย
น้ำตกเก้าชั้น (Kaew Chan Waterfalls) เป็นน้ำตกกลางหุบเขาที่มีความสูง 9 ชั้น โดยแต่ละชั้นมีความสวยงามแตกต่างกันไป ชั้นที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดคือบริเวณชั้นที่ 6 น้ำตกเก้าชั้นสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะมีน้ำไหลทุกฤดูกาล โดยจะมีน้ำมากที่สุดและสวยที่สุดในช่วงฤดูฝน เพราะจะมองเห็นสายน้ำตกสีขาวขนาดใหญ่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงท่ามกลางป่าไม้อันเขียวขจีและเสียงของน้ำตก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่งของอำเภอสวนผึ้ง
อ่านต่อตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย
ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก (Lao Tuk Luck Floating Market) เป็นตลาดน้ำแห่งแรกของจังหวัดราชบุรีที่ก่อตั้งขึ้นมาก่อนตลาดน้ำดำเนินสะดวก มีลักษณะเป็นตลาดน้ำขนาดย่อมที่ตั้งอยู่บนเรือนไม้ริมน้ำที่ชุมชนชาวไทย-จีนอาศัยอยู่ ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลักมีบรรยากาศเรียบง่ายและคลาสสิก แต่มีความพลุกพล่านน้อยกว่าตลาดน้ำดำเนินสะดวก การเดินทางก็แสนง่าย แค่เพียงแค่ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำจากฝั่งตลาดน้ำดำเนินสะดวกมายังฝั่งตรงข้าม ก็จะได้พบกับเรือนไม้โบราณของชุมชนชาวจีนและลำคลองที่ตัดผ่าน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอาหารทานง่ายอร่อยๆ ให้เลือกมากมาย และมีมุมถ่ายรูปสวยๆ ให้เก็บความประทับใจ นอกจากนี้ในวันหยุดจะมีเสียงดนตรียุค 80 คลอเคล้าสร้างความเพลิดเพลินในการเดินตลาดอีกด้วย
อ่านต่อตลาดน้ำอโยธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย
ตลาดน้ำอโยธยา (Ayothaya Floating Market) ตลาดน้ำที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองเก่าแห่งนี้
อ่านต่อวัดราชบูรณะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย
วัดราชบูรณะ (Wat Ratchaburana) อนุสรณ์สถานแห่งการแย่งชิงราชบัลลังค์ เป็นอีกหนึ่งในวัดที่ใหญ่ และเก่าแก่มากที่สุดในพระนครศรีอยุธยา สร้างโดยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 หรือ เจ้าสามพระยา เมื่อปี พ.ศ. 1967
อ่านต่อวัดมเหยงคณ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย
วัดมเหยงคณ์ (Wat Mahaeyong) อดีตพระอารามหลวง และกลายเป็นวัดร้างไปภายหลังกรุงศรีอยุธยาแตกเมื่อ พ.ศ. 2310 ปัจจุบันวัดแห่งนี้ยังทำหน้าที่เป็นสถานปฏิบัติธรรม ใจกลางโบราณสถานที่เก่าแก่ของอยุธยาอีกด้วย
อ่านต่อ10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย
จังหวัดนครสวรรค์ตั้งอยู่บริเวณภาคกลางตอนบน เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่เป็นแหล่งเกษตรกรรมของไทย อีกทั้งยังได้รับสมญานามว่าเป็นประตูสู่ภาคเหนือ และเป็นพื้นที่ต้นกำเนิดของแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ จังหวัดนครสวรรค์จึงมีทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่สวยงาม และมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายโดยเฉพาะวัดและตลาดที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ของชาวนครสวรรค์ได้เป็นอย่างดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวม 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดนครสวรรค์มาฝากทุกท่านกันในบทความนี้
อ่านต่อหอชมเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย
หอชมเมืองนครสวรรค์ (Nakhon Sawan Observation Tower) เป็นหอชมเมืองที่ตั้งอยู่บนเขาคีรีวงศ์ จุดชมวิวจะตั้งอยู่บริเวณชั้น 10 ของหอชมเมืองซึ่งสามารถชมวิวเมืองนครสวรรค์จากมุมสูงได้โดยรอบ และมองเห็นทิวทัศน์ของธรรมชาติที่อยู่ไกลออกไปได้อย่างเต็มตา นอกจากนี้บริเวณชั้น 1 ยังมีร้านขายของที่ระลึกซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนท้องถิ่นให้เลือกซื้ออีกด้วย หอชมเมืองนครสวรรค์จึงเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองปากน้ำโพที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ