- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- ชิงช้าต้นไม้ บ้านสวนชมวิวภูรักไทย จังหวัดพิษณุโลก ประเทศไทย
ชิงช้าต้นไม้ บ้านสวนชมวิวภูรักไทย จังหวัดพิษณุโลก ประเทศไทย

- อ่าน (1,066)
- ByWebmaster Webmaster
- 02:31:50 | 3 มี.ค. 2566
ชิงช้าต้นไม้ บ้านสวนชมวิวภูรักไทย จังหวัดพิษณุโลก ประเทศไทย
Wooden Swing at Ban Suan Chom View, Pitsanulok, Thailand
ชิงช้าต้นไม้ บ้านสวนชมวิวภูรักไทย (Wooden Swing at Ban Suan Chom View) จุดชมวิวบนต้นไม้ที่สามารถชมวิวสวยๆ ของทิวเขาและพื้นที่ราบรอยต่อของ 5 จังหวัด
ประวัติ
ชิงช้าต้นไม้รูปหัวใจแห่งนี้ตั้งอยู่ในบ้านสวนชมวิวภูรักไทย อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก ห่างจากตัวเมืองออกไป 58 กิโลเมตร บ้านสวนชมวิวภูรักไทยเป็นหนึ่งในโฮมสเตย์ของหมู่บ้านรักไทย ที่ชาวบ้านร่วมกันจัดตั้งกลุ่มขึ้นมา เปิดให้นักท่องเที่ยวได้มาพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ และได้ลองสัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่นแบบเป็นกันเอง มีบริการทั้งลานกางเต็นท์และบ้านพักแบบโฮมสเตย์อยู่หลายแห่ง แต่หากต้องการนั่งชิงช้าชมวิวสวยๆ ต้องมาที่บ้านสวนชมวิวภูรักไทยเท่านั้น
จุดชมวิวบนต้นไม้สามารถมองออกไปเห็นทิวเขาและพื้นที่ราบรอยต่อของ 5 จังหวัดคือ นครสวรรค์ ลพบุรี พิจิตร เพชรบูรณ์ และพิษณุโลก ไกลสุดสายตา การได้ขึ้นไปชมวิวบนต้นไม้ นั่งเล่นบนชิงช้า ลมเย็นสบาย หากมาเที่ยวในช่วงปลายฝนต้นหนาวเวลาจะได้สัมผัสทั้งทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า
ป้าย “แลนด์มาร์ครักไทย” ต้นไม้รูปหัวใจ
ต้นไม้รูปหัวใจ
ชิงช้าต้นไม้ จุดที่ใครๆ ก็ต้องมาถ่ายรูปเช็กอิน
การเดินทางจากกรุงเทพไปยังจังหวัดพิษณุโลก
- รถยนต์ (Car) จากกรุงเทพ ไปยังจังหวัดพิษณุโลกโดยรถยนต์มีระยะทางประมาณ 426 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง 50 นาที
- รถไฟ (Train) จากกรุงเทพขึ้นรถไฟที่สถานีหัวลำโพงหรือสถานีบางซื่อ ลงที่สถานีพิษณุโลก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง 30 นาที โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลเวลาเดินรถ และค่าโดยสารได้ที่เว็บไซต์การรถไฟแห่งประเทศไทย https://www.dticket.railway.co.th/DTicketPublicWeb/home/Home
- เครื่องบิน (Flight) จากกรุงเทพขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมืองหรือสนามบินสุวรรณภูมิ และลงเครื่องที่สนามบินพิษณุโลก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
- อื่นๆ (others) หากต้องการเดินทางโดยรถทัวร์ ให้ไปขึ้นรถที่สถานีขนส่งหมอชิต2 แล้วลงที่สถานีขนส่งพิษณุโลก โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลเวลาเดินรถ และค่าโดยสารได้ที่ เว็บไซต์บริษัทขนส่งจำกัด (บขส) https://ticket.transport.co.th/
การเดินทางไปชิงช้าต้นไม้ บ้านสวนชมวิวภูรักไทย
ชิงช้าต้นไม้ บ้านสวนชมวิวภูรักไทย ตั้งอยู่ที่ ตำบลชมพู อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก ห่างจากตัวจังหวัด 58 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 1 ชั่วโมง โดยขับจากถนนหมายเลข 12, AH16, ถนนหมายเลข 11 และ ถนนหมายเลข 1295 ไปตำบลชมพู
เวลาทำการเปิด-ปิด
เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
มองออกไปจากตรงนี้จะเห็นทัศนียภาพที่สวยงามของทิวเขาเขียวขจี
อัตราค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าเข้าชม
ป้ายแจ้งให้นักท่องเที่ยวทราบเกี่ยวกับการขึ้นต้นไม้รูปหัวใจ
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว ชิงช้าต้นไม้ บ้านสวนชมวิวภูรักไทย สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ชิงช้าต้นไม้ บ้านสวนชมวิวภูรักไทย จังหวัดพิษณุโลก ประเทศไทย
(Wooden Swing at Ban Suan Chom View, Phitsanulok, Thailand)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : 177 ตำบล ชมพู อำเภอเนินมะปราง พิษณุโลก
โทรศัพท์ : (+66) 087 207 5736
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/BansuanChomview/
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com
เว็บไซต์จังหวัดพิษณุโลก http://www.phitsanulok.go.th
เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org/Home
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

7 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดสมุทรสาคร ประเทศไทย
สมุทรสาครเป็นจังหวัดริมชายทะเลอ่าวไทยที่ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำท่าจีน มีชื่อเสียงในเรื่องอาหารทะเล และจุดชมวิวท้องทะเลที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ รวมทั้งมีวัดวาอารามที่น่าสนใจให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla จึงขอนำทุกท่านไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของสมุทรสาครเพื่อแนวทางในการท่องเที่ยว กันในบทความนี้
อ่านต่อ
วัดท่าไม้ จังหวัดสมุทรสาคร ประเทศไทย
วัดท่าไม้ (Wat Tha Mai) เป็นวัดที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของจังหวัดสมุทรสาคร วัดแห่งนี้ดังเรื่องการประกอบพิธีทางศาสนา การปฏิธรรม การดูดวง และการสะเดาะเคราะห์ ภายในวัดมีพื้นที่กว้างขวาง โดดเด่นด้วยพระอุโบสถที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบวัดทางเหนืออย่างงดงาม บริเวณด้านนอกเป็นพื้นที่สวนอันร่มรื่น และมีลานเลี้ยงโคกระบือให้ผู้มีจิตศรัทธาได้ทำบุญไถ่ชีวิต วัดท่าไม้เป็นวัดที่มีลูกศิษย์มากมายตั้งแต่ผู้มีชื่อเสียงไปจนถึงประชาชาชนทั่วไปดังจะเห็นได้จากสติ๊กเกอร์ท้ายรถที่มักพบเห็นตามท้องถนน ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดสมุทรสาครที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ
วัดโกรกกราก จังหวัดสมุทรสาคร ประเทศไทย
วัดโกรกกราก (Wat Krok Krak) เป็นวัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน เอกลักษณ์ของวัดแห่งนี้คือองค์พระประธานในอุโบสถที่สวมแว่นตาดำ ซึ่งมีที่มาจากการที่ในอดีตได้เกิดโรคตาแดงระบาดไปทั่วบ้านโกรกกราก แต่การแพทย์ในยุคนั้นยังไม่เจริญนัก จึงทำให้ผู้ป่วยมาบนบานศาลกล่าวว่าถ้าตาหายเป็นปกติจะนำแผ่นทองมาปิดที่ดวงตาขององค์พระศิลาแลง ผลปรากฏว่าหายตาแดงกันทั้งหมู่บ้าน ชาวบ้านจึงได้นำแผ่นทองมาปิดที่ตาขององค์พระศิลาแลงเต็มไปหมดจนเกิดความไม่สวยงามนัก พระครูธรรมสาคร เจ้าอาวาสในขณะนั้นจึงคิดกุศโลบายโดยนำแว่นตาดำมาใส่ให้พระประธาน จึงทำให้ชาวบ้านเปลี่ยนมาถวายแว่นตาแทนการปิดทองนับแต่นั้นมา
อ่านต่อ
ตลาดมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร ประเทศไทย
ตลาดมหาชัย (Mahachai Market) เป็นตลาดชื่อดังของสมุทรสาครที่เด่นเรื่องอาหารทะเลสดใหม่ในราคาที่ไม่แพง ถือเป็นตลาดปากอ่าวที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ และเป็นตลาดที่มีความสะดวกในการเดินทาง โดยสามารถมาได้ทั้งทางรถยนต์ เรือ และรถไฟ ทำให้ตลาดแห่งนี้เป็นแหล่งอาหารทะเลขนาดใหญ่ที่ได้รับความนิยมจากพ่อค้าแม่ค้าและคนทั่วไปเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ
หัวหินไนท์มาร์เก็ต จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประเทศไทย
หัวหินไนท์มาร์เก็ต (Hua Hin Night Market) เป็นตลาดกลางคืนที่เป็นแหล่งรวมสตรีทฟู้ดส์มากมาย โดยเฉพาะอาหารทะเลอย่างหอยทอด ผัดไท กุ้งเผา ปลาหมึกย่าง และบาร์บีคิว ไปจนถึงของหวานอย่างข้าวเหนียวมะม่วง ทุเรียน และน้ำผลไม้ปั่น นอกจากนี้ยังมีแผงขายสินค้าหลากหลายประเภท ตั้งแต่สินค้าแฮนด์เมดไปจนถึงของที่ระลึกอย่างเสื้อยืด และพวงกุญแจ หัวหินไนท์มาร์เก็ตมีบรรยากาศที่คึกคักและเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว เป็นสีสันยามราตรีของเมืองหัวหินที่ไม่ควรพลาด
อ่านต่อ
วนอุทยานปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประเทศไทย
วนอุทยานปราณบุรี (Pran Buri Forest Park) เป็นพื้นที่ป่าในเขตอนุรักษ์ที่มีความหลากหลายทางระบบนิเวศน์โดยมีทั้งป่าเบญจพรรณ ป่าชายเลน และป่าชายหาด นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเที่ยวชมธรรมชาติด้วยการเดินท่องเที่ยวไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่จะผ่านป่าไม้อันร่มรื่นไปจนถึงป่าชายเลนที่เต็มไปด้วยป่าโกงกาง และถ้าโชคดีก็อาจได้พบกับสัตว์หายากอย่างปูก้ามดาบและงูกะปะอีกด้วย วนอุทยานปราณบุรีจึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อ
แจกพิกัด 14 อุทยานแห่งชาติทั่วไทย
อุทยานแห่งชาติ (National Park) สถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ มีพี่ๆเจ้าหน้าที่ที่ใจดีคอยให้ข้อมูล มีที่พัก และอาหารไว้บริการในราคาย่อมเยา และยังมีจุดกางเต็นท์ให้นักท่องเที่ยวสายแคมปิ้งได้ดื่มด่ำธรรมชาติกันอย่างเพลิดเพลิน ในวันนี้ palanla เลยจะมาบอกพิกัด 14 อุทยานแห่งชาติที่กระจายอยู่ทั่วภูมิภาค และมีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศไทย ไว้ให้นักท่องเที่ยวสายธรรมชาติตามไปเช็คอินกัน
อ่านต่อ
อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติเอราวัณ (Erawan National Park) สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญของจังหวัดกาญจนบุรี โดยพื้นที่ภายในประกอบไปด้วย น้ำตกเอราวัณ ถ้ำพระธาตุ และถ้ำวังบาดาล อุทยานแห่งชาติเอราวัณเคยได้รับรางวัลยอดเยี่ยมประเภทแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ภาคกลาง จากการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 6 ประจำปี 2549
อ่านต่อ
7 เส้นทางประวัติศาสตร์ภาคกลาง
หากเอ่ยถึงเรื่องราวในอดีตของชาติไทย คงมีหลากหลายเหตุการณ์ที่คงไว้ซึ่งประวัติศาสตร์สำคัญๆ แม้ในปัจจุบันนั้น จะเหลือเพียงซากปรักหักพังของโบราณสถาน และอนุสรณ์ของวีรชนบรรพบุรุษไทย แต่ก็ล้วนเป็นสิ่งเตือนใจให้ลูกหลานรำลึกถึงคุณงามความดีของบรรพบุรุษไทย และสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญครั้นอดีตอยู่เสมอ วันนี้ Palanla จะพาท่อง 7 เส้นทางประวัติศาสตร์ที่อยู่ในภูมิภาคกลาง อีกทั้งไม่ไกลจากกรุงเทพฯ อีกด้วยนะคะ แต่ละสถานที่นั้นมีสิ่งที่น่าสนใจ และมีความเป็นมาอย่างไร พร้อมแล้วตามไปเที่ยวได้เลยค่ะ
อ่านต่อ
วัดไชโยวรวิหาร จังหวัดอ่างทอง ประเทศไทย
วัดไชโยวรวิหาร (Wat Chaiyo Worawihan) วัดเก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และต่อมาสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ได้มาสร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 ทำให้“พระมหาพุทธพิมพ์” หรือ หลวงพ่อโต และวัดไชโยวรวิหารกลายเป็นที่รู้จักและเคารพศรัทธาสืบมาจนปัจจุบัน
อ่านต่อ