14 จุดชมวิวพระอาทิตย์ตก สุด Wow ทั่วไทย

  • อ่าน (2,762)
  • ByWebmaster
  • 14:46:27 | 27 เม.ย. 2566

14 จุดชมวิวพระอาทิตย์ตก สุด Wow ทั่วไทย

                เวลาที่เราได้เดินทางออกท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ เรามักจะพบอะไรๆที่แปลกใหม่อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนใหม่ วิถีชีวิตใหม่ๆ อาหารท้องถิ่นที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ แถมยังได้สัมผัสบรรยากาศ ที่ต่างจากที่เราได้สัมผัสเป็นประจำ วันนี้ Palanla เลยจะพาไปสัมผัสวิวพระอาทิตย์ตกดินทั่วไทย ทั้ง 14 จุด ที่เค้าว่ากันว่า เวลาที่พระอาทิตย์ตกในแต่ละที่นั้น มันจะเผยความงามออกมาไม่เหมือนกัน  ล้วนแต่แสดงเอกลักษณ์ที่ต่างกัน ทั้งแสง สี ก้อนเมฆ และทิวทัศน์ที่เป็นฉากหลัง


แผนที่ตั้ง 14 จุดชมวิวพระอาทิตย์ตก สุด Wow ทั่วไทย


1. แหลมพรหมเทพ

                แหลมพรหมเทพ (Promthep Cape) ตั้งอยู่ที่ ต.ราไวย์ จ.ภูเก็ต มีลักษณะเป็นแหลมโค้งไล่ระดับทอดลงสู่ทะเล  ถือเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่งดงามของภูเก็ต และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย ไม่ว่านักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวภูเก็ต จะไปพักผ่อนที่หาดใด แต่พอพระอาทิตย์ตกดินก็จะนิยมมากันที่นี่ เพื่อชมความงามของพระอาทิตย์ตก โดยเฉพาะในวันที่อากาศดี ท้องฟ้าแจ่มใส เราจะยิ่งเห็นความงามของพระอาทิตย์ตกดินที่แหลมแห่งนี้ได้อย่างแจ่มชัด

เวลาทำการเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง

พิกัด GPS : 7°45'42.3"N 98°18'18.3"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ แหลมพรหมเทพ ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=115


2. หาดกมลา

                หาดกมลา (Kamala Beach) ชายหาดแสนสวย ชื่อไพเราะ ตั้งอยู่ที่ ต.กมลา จ.ภูเก็ต เป็นอีก 1 ชายหาดที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการชมพระอาทิตย์ตกที่งดงามของจังหวัดภูเก็ต บรรยากาศรอบๆค่อนข้างสงบเงียบ มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามเป็นธรรมชาติ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึง เดือนเมษายน บริเวณทางตอนเหนือของชายหาด ยังเป็นจุดที่สามารถดำน้ำตื้นชมโลกใต้ทะเลสวยๆ ได้ด้วย หาดกมลาจะคึกคักเป็นพิเศษในช่วงกลางคืนเพราะนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติจะนิยมมาชมการแสดงที่ภูเก็ตแฟนตาซี ซึ่งรวมเอาการแสดงไทยดั้งเดิมระดับประเทศ กับฉากอันตระการตา กายกรรม และการแสดงช้างเข้าไว้ด้วยกัน

เวลาทำการเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง

พิกัด GPS : 7°57'25.9"N 98°16'59.5"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ หาดกมลา ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=618


3. หาดบางเทา

                หาดบางเทา (Bang Tao Beach) หรือที่รู้จักกันในชื่อลากูน่าบีช (Laguna Beach) เป็นชายหาดที่อยู่ในบริเวณของอ่าวบางเทา มีความยาวราว 8 กิโลเมตร ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะภูเก็ต ครั้งหนึ่งหาดแห่งนี้เคยเป็นเหมืองแร่ดีบุก ปัจจุบันกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม เป็นหาดที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา และสีสัน รวมถึงเป็นจุดนั่งชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดภูเก็ต นอกจากนี้ ยังเป็นสถานที่ตั้งของโรงแรม และรีสอร์ทหรูหลายแห่งของภูเก็ต บริเวณที่บรรยากาศคึกคักที่สุดของหาดบางเทาอยู่ช่วงกลาง เต็มไปด้วยร้านอาหาร และบาร์ริมชายหาด โดยในช่วงกลางวันก็จะมีนักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นเรือใบ และเจ็ทสกีกันอย่างเพลิดเพลิน ทางเหนือของหาดบางเทานั้นยังคงวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวบ้านในพื้นที่อยู่ ดังนั้นหากชื่นชอบความสงบ และวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ตอนเหนือของหาดบางเทาจึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการมาพักเช่นกัน ส่วนอีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่คือการนั่งชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยสดงดงามตราตรึงใจอย่างแน่นอน

เวลาทำการเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง

พิกัด GPS : 8°00'08.4"N 98°17'33.1"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ หาดบางเทา ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=611


4. หาดถ้ำพระนาง

                หาดถ้ำพระนาง (Phra Nang Cave Beach) อยู่ในพื้นที่ของ ต.อ่าวนาง จ.กระบี่ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหาดไร่เลย์มากนัก หาดถ้ำพระนางเป็นชายหาดอีกแห่งของจังหวัดกระบี่ที่มีความสวยงามของท้องทะเล และภูเขาหินปูน มีกิจกรรมให้เล่นมากมายทั้งกิจกรรมทางน้ำอย่างการพายเรือคายัค และการปีนหน้าผา และยังเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกอีกแห่งที่มีความสวยงามน่าประทับใจ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนสามารถเดินไปเที่ยวชมถ้ำพระนางที่อยู่บริเวณสุดหาด ภายในโถงถ้ำมีหินงอกหินย้อย และศาลพระนาง ที่ชาวบ้าน และชาวประมงตั้งไว้เพื่อบูชาพระนางซึ่งเชื่อกันว่าเป็นผู้ปกปักรักษาพื้นที่บริเวณนี้

เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดตลอดเวลา

พิกัด GPS : 8°00'18.5"N 98°50'22.2"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ หาดถ้ำพระนาง ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=628


5. หมู่เกาะสิมิลัน

                หมู่เกาะสิมิลัน (Mu Ko Similan) จ.พังงา หมู่เกาะเล็กๆ 9 เกาะในทะเลอันดามัน แหล่งดำน้ำลึกที่สวยงาม ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก ขึ้นชื่อเรื่องน้ำทะเลใส ทรายสวยละเอียด มีแนวปะการังน้ำลึกที่มีความสวยงาม และหลากหลาย บางชนิดไม่สามารถพบได้ที่หมู่เกาะอื่น รวมถึงปลาหายากหลายชนิดก็สามารถพบได้ที่นี่ เกาะที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาหมู่เกาะทั้ง 9 ของสิมิลันคือ เกาะแปด ซึ่งมีสัญลักษณ์เป็นหินเรือใบ เป็นเกาะที่มีหาดทรายขาวละเอียด ใต้ทะเลมีปะการังหลายชนิด ถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางในฝันของผู้ที่ชื่นชอบความงามแห่งท้องทะเล ไม่เพียงเท่านั้นความงดงามบนผืนฟ้ายามพระอาทิตย์ตก ให้ความรู้สึกพิเศษไม่แพ้ที่อื่นเช่นกัน ช่วงเวลาที่สามารถเที่ยวสิมิลันได้ คือ ช่วงกลางเดือนตุลาคม ถึง กลางเดือนพฤษภาคม หลังจากนั้นจะประกาศปิดเกาะ เนื่องจากเข้าสู่ฤดูมรสุม และเพื่อให้ธรรมชาติได้ฟื้นฟู

เวลาทำการเปิด – ปิด : ระหว่างวันที่ 15 ตุลาคม - 15 พฤษภาคม ของทุกปี ตั้งแต่เวลา 09.00 - 18.00 น.

พิกัด GPS : 8°39'26.6"N 97°38'47.0"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ หมู่เกาะสิมิลัน ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=128


6. หมู่เกาะสุรินทร์

                หมู่เกาะสุรินทร์ (Mu Ko Surin) จ.พังงา เป็นหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ในทะเลอันดามัน และอยู่ติดชายแดนประเทศพม่า ห่างจากฝั่งทะเลด้านตะวันตกของไทยประมาณ 70 กิโลเมตร ประกอบด้วยเกาะ 5 เกาะ คือ เกาะสุรินทร์เหนือ เกาะสุรินทร์ใต้ มีพื้นน้ำตื้นๆ กว้างประมาณ 200 เมตร กั้นอยู่ ในช่วงน้ำลงสามารถข้ามไปยังอีกเกาะได้ เรียกว่า อ่าวช่องขาด  ส่วนเกาะขนาดเล็กอีกสามเกาะ (เกาะรี เกาะไข่ และเกาะกลาง) เป็นเกาะหินที่มีต้นไม้แคระแกร็นขึ้นอยู่ไม่หนาแน่นนัก พืชพรรณที่พบเป็นพืชป่าดิบชื้น เป็นแหล่งกำเนิดของแนวปะการังน้ำตื้นขนาดใหญ่ และสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย สิงที่ไม่ควรพลาด เมื่อท่องเที่ยวที่หมู่เกาะสุรินทร์ คือไปชมวิถีชีวิตชาวมอแกน ดำน้ำตื้น เดินชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติ และอีกหนึ่งไฮไลท์ คือลองเรือชมความงามพระอาทิตย์ตกรอบๆหมู่เกาะสุรินทร์

เวลาทำการเปิด – ปิด : ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน - 30 เมษายน ของทุกปี ตั้งแต่เวลา 08.30 - 16.30 น.

                               ช่วงปิดฤดูกาล ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม - 31 ตุลาคม ของทุกปี

พิกัด GPS : 9°25'22.3"N 97°52'10.3"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ หมู่เกาะสุรินทร์ ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=1092


7. หาดบางแสน

             หาดบางแสน (Bang Saen Beach) ชายหาดที่มีความยาวรวมประมาณ 2.5 กิโลเมตร ตั้งอยู่ที่ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี แม้จะเป็นทะเลฝั่งอ่าวไทยแต่บางแสนก็มีน้ำทะเลที่ใส และหาดทรายขาวละเอียด โดยเฉพาะหลังจากที่ได้รับการปรับภูมิทัศน์ และจัดระเบียบริมชายหาดใหม่ ก็มีความสวยงาม และน่าเที่ยวไม่น้อยไปกว่าทะเลแห่งอื่นๆ จนมีการเอาไปเทียบกับชายหาดไมอามีที่อเมริกาเลยทีเดียว ชายหาดบางแสน ประกอบด้วยสามหาดด้วยกันคือ 1. หาดบางแสนช่วงกลาง 2. หาดบางแสนช่วงใต้หรือที่เรียกกันว่าหาดวอนนภา และ 3. แหลมแท่นที่ขึ้นไปทางเหนืออยู่ใกล้เขาสามมุข ทั้งสามหาดนี้ มีลักษณะที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง นักท่องเที่ยวจะไปเที่ยวที่หาดใดก็ขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่ชอบ ด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยงามตลอดชายหาดบางแสน ถือเป็นอีกหนึ่งเป็นจุดยอดนิยมในการไปนั่งกินลม ชมวิวดูพระอาทิตย์ตกลาลับขอบฟ้าในยามเย็น แม้ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย ชายหาดบางแสนก็ยังอ้าแขนรอต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยความเป็นมิตร และเป็นกันเองอยู่เสมอ

เวลาทำการเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง

พิกัด GPS : 13°17'46.5"N 100°54'16.1"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ หาดบางแสน ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=233


8. หาดพัทยา

             หาดพัทยา (Pattaya Beach) อีกหนึ่งชายหาดที่มีชื่อเสียงของจ.ชลบุรี อยู่ในเขตเมืองพัทยา อ.บางละมุง ชายหาดมีความยาวประมาณ 3 กิโลเมตรเศษ ประกอบไปด้วย พัทยาเหนือ พัทยากลาง และ พัทยาใต้ ซึ่งแต่ละช่วงของชายหาดนั้นก็ให้บรรยากาศที่แตกต่างกันไป บริเวณเลียบชายหาด มีถนนร่มรื่น เรียงรายด้วยโรงแรม ร้านอาหาร โดยบริเวณชายหาดทางด้านเหนือจะมีบรรยากาศที่ค่อนข้างเงียบสงบ นักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นน้ำ และนั่งพักผ่อน ชมวิวพระอาทิตย์ตก ส่วนพัทยากลาง และพัทยาใต้ผู้คนจะค่อนข้างพลุกพล่าน บรรยากาศคึกคักด้วยสถานบันเทิง และแหล่งท่องเที่ยว รวมถึงที่พักหลากหลายระดับตั้งแต่ราคาหลักร้อยไปจนถึงระดับ 5 ดาว หาดพัทยาเรียกได้ว่าเป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของเมืองพัทยา และถือเป็นศูนย์กลางกิจกรรมทางทะเลสำหรับผู้ที่มาพักผ่อน ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมทางน้ำอย่างบานาน่าโบ๊ท เจ็ทสกี เครื่องร่อนพาราเซลล์ ไปจนถึงนอนอาบแดด และกิจกรรมสุดคึกคักในยามค่ำคืน

เวลาทำการเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง

พิกัด GPS : 12°56'16.7"N 100°52'59.4"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ หาดพัทยา ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=946


9. จุดชมวิวเนินนางพญา

            จุดชมวิวเนินนางพญา (Noen Nangphaya View Point)  แลนด์มาร์คสำคัญของจันทบุรี ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดที่จะมาชมวิว และถ่ายรูป โดยจุดชมวิวเนินนางพญานี้อยู่ที่ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต เป็นถนนเลียบทะเลเมืองจันทบุรีที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ตั้งแต่ชายทะเลด้านเหนือสุดไปยังชายทะเลด้านใต้สุดของจังหวัดจันทบุรี เมื่อมองจากจุดชมวิวก็จะเห็นทัศนียภาพที่สวยงามของท้องทะเลกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาจรดกับเส้นขอบฟ้า บวกกับถนนที่มีลักษณะคดโค้งสวยงาม โดยเฉพาะในช่วงเวลาเย็นๆ ที่พระอาทิตย์ตก บริเวณนี้จะมีทัศนียภาพที่สวยงาม และน่าประทับใจมาก นอกจากนี้ ไม่ไกลจากจุดชมวิวเนินพญายังเป็นหมู่บ้านชาวประมงบ้านหัวแหลม ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้เห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านที่ประกอบอาชีพประมงชายฝั่ง และสามารถชมทัศนียภาพที่สวยงามของอ่าวคุ้งกระเบนจากบริเวณบ้านหัวแหลมได้ด้วย

เวลาทำการเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง

พิกัด GPS : 12°35'28.8"N 101°52'51.9"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ จุดชมวิวเนินนางพญา ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=445


10. เกาะกูด รีสอร์ท

                เกาะกูด รีสอร์ท (Koh Kood Resort) จ.ตราด เป็น 1 ในจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม และได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของเกาะไม่เพียงเท่านี้ เพราะรีสอร์ทแห่งนี้ยังมีธรรมชาติที่สวยงามมากที่สุดของเกาะกูด ด้วยน้ำทะเลที่ใสสะอาด น้ำเป็นสีฟ้าเทอร์ควอยซ์เหมือนน้ำทะเลฝั่งอันดามันอย่างเกาะพีพี หรือ สิมิลัน บวกกับความเขียวชอุ่ม และพรรณไม้หลากหลายที่จะทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติ   ซึ่งไฮไลต์สำคัญของรีสอร์ทแห่งนี้ก็ คือ เป็นจุดที่สามารถชมความงามของพระอาทิตย์ตกได้อย่างชัดเจน และชวนประทับใจ บริเวณด้านหน้าเกาะกูดรีสอร์ทยังมีสะพานไม้ทอดยาวยื่นเข้าไปในทะเล นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเกาะกูดจึงนิยมมาเดินเล่น ยืนโพสต์ท่า นั่งห้อยขาถ่ายรูปกันที่สะพานแห่งนี้ โดยเฉพาะในช่วงเย็นๆ ที่พระอาทิตย์ตกซึ่งมีบรรยากาศที่สวยงามมาก 

เวลาทำการเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง

พิกัด GPS : 12°35'28.8"N 101°52'51.9"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เกาะกูด รีสอร์ท ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=322


11. สถานตากอากาศบางปู

             สถานตากอากาศบางปู (Bang Pu Recreation Centre) เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวสมุทรปราการที่มีชื่อเสียง นักท่องเที่ยวจะได้เดินกินลมชมวิว และชมฝูงนกนางนวลที่อพยพมาในช่วงฤดูหนาวตลอดทางเดินบนสะพานสุขตา ซึ่งเป็นสะพานที่ทอดยาวเข้าไปในอ่าว นักท่องเที่ยวสามารถชมทัศนียภาพทางธรรมชาติที่สวยงามได้ทั้งสองฝั่งของสะพาน และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ปลายสะพานยังเป็นที่ตั้งของศาลาสุขใจที่เป็นร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารทะเลสดใหม่ และมีโซนนั่งรับลมชมวิว หรือจะนั่งในห้องแอร์เย็นๆ ก็สามารถเลือกได้ตามอัธยาศัย

เวลาทำการเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน สะพานสุขตาเปิด 24 ชม./ ศาลาสุขใจ เปิดตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น.

พิกัด GPS : 13°31'02.1"N 100°39'17.7"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ สถานตากอากาศบางปู ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=534 


12. วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร

                วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร (Wat Arun Ratchawararam Ratchawaramahawihan) หรือ วัดอรุณฯ ตั้งอยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เขตบางกอกใหญ่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย ด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม มีพระปรางค์องค์ใหญ่ประดับด้วยกระเบื้องสีตั้งเด่นริมแม่น้ำเจ้าพระยา อันเป็นจุดเด่นของวัด ที่แห่งนี้ยังเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ที่ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน ภาพพระอาทิตย์ตกด้านหลังพระปรางค์ วัดอรุณฯ ณ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ยามเย็นมีความอบอุ่น และแสนสงบน่าประทับใจ

เวลาทำการเปิด - ปิด : บริเวณพระปรางค์ เปิดตั้งแต่ 08.00 – 18.00 น. สำหรับเวลาเปิด - ปิดของจุดอื่นๆสามารถตรวจสอบเพิ่มเติมได้ที่ http://www.watarun.org/

พิกัด GPS : 13°44'39.2"N 100°29'19.8"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=85


13. ปราสาทพนมรุ้ง

             ปราสาทพนมรุ้ง (Panom Rung Historical Park) จ.บุรีรัมย์ เป็นปราสาทหินเก่าแก่ศิลปะขอมที่มีอายุผ่านกาลเวลามาร่วมพันปี จากการรังสรรค์ด้วยภูมิปัญญาอันแยบยลของคนโบราณที่ถ่ายทอดความเชื่อและความศรัทธาในศาสนาฮินดูไศวนิกาย ผ่านลายสลักบนหินนับร้อยนับพันก้อนอย่างวิจิตรงดงาม จนเกิดเป็นเทวสถานอันยิ่งใหญ่บนยอดภูเขาไฟสูงที่ดับสนิทแล้วของจังหวัดบุรีรัมย์ นอกจากความงดงาม และยิ่งใหญ่ของสถาปัตยกรรมแล้ว ความน่าอัศจรรย์อย่างหนึ่งของปราสาทพนมรุ้งคือ ปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์ส่องแสงลอดช่องประตูทั้ง 15 บาน โดยในหนึ่งปีจะมีเพียง 4 ครั้งเท่านั้น ช่วงพระอาทิตย์ตกส่องแสงลอดช่องประตูทั้ง 15 บาน ช่วงต้นเดือนมีนาคม และต้นเดือนตุลาคม เชื่อกันว่าการรับแสงอาทิตย์ที่สอดส่องผ่านช่องประตู และแสงอาทิตย์ที่ไปต้องกับศิวลึงค์ซึ่งเป็นตัวแทนของพระศิวะที่ตั้งอยู่กลางปราสาทเขาพนมรุ้งนั้น ช่วยเสริมพลังชีวิต เป็นสิ่งมงคลแก่ตนเอง และครอบครัวของผู้ที่ได้ชม

เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 06.00 - 18.00 น. (ช่วงพระอาทิตย์ตกส่องแสงลอดช่องประตูทั้ง 15 บาน ช่วงต้นเดือนมีนาคม และต้นเดือนตุลาคม)

พิกัด GPS : 14°31'54.4"N 102°56'25.0"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ปราสาทพนมรุ้ง ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=270


14. วัดสิรินธรวราราม (วัดภูพร้าว)

             วัดสิรินธรวราราม (วัดภูพร้าว) (Wat Sirindhorn Wararam (Wat Phu Prao)) ตั้งอยู่ที่อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี เป็นวัดป่าที่ตั้งอยู่บนเขาใกล้กับแม่น้ำโขง รู้จักกันในนามวัดเรืองแสงจากผลงานพุทธศิลป์ที่ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบจิตรกรรมภาพเขียนต้นกัลปพฤกษ์ที่อยู่บนผนังด้านหลังของอุโบสถซึ่งจะเรืองแสงสีเขียวในยามค่ำคืน ก่อให้เกิดภาพที่สวยงามแปลกตา ออกแบบโดยช่างคุณากร ปริญญาปุณโณ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากต้นไม้แห่งชีวิตในภาพยนตร์เรื่อง อวตาร นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่มองเห็นวิวแม่น้ำโขงสุดงดงาม และอ่างเก็บน้ำบริเวณเชิงเขาได้อย่างชัดเจน

เวลาทำการเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 06.00 – 21.00 น.

พิกัด GPS : 15°09'01.6"N 105°28'01.6"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วัดสิรินธรวราราม (วัดภูพร้าว) ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=397

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

พิจิตร จังหวัดเล็กๆ ที่ซ่อนเสน่ห์เอาไว้มากมาย และไม่ได้มีแค่บึงสีไฟเพียงอย่างเดียว เพราะเมืองชาละวันแห่งนี้มีทั้งธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ วัดวาอารามเก่าแก่ และวิถีชีวิตของผู้คนท้องถิ่นที่น่าสนใจ บทความนี้ Palanla จะพาไปเปิดมุมมองใหม่กับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนพิจิตร

อ่านต่อ

วัดหิรัญญาราม (วัดบางคลาน) จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

วัดหิรัญญาราม (Wat Hiranyaram) หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันดีในชื่อ วัดบางคลาน (Wat Bang Khlan) เป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากแห่งหนึ่งของจังหวัดพิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นที่รู้จักจาก หลวงพ่อเงิน พระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่มีผู้คนให้ความเคารพนับถืออย่างมาก

อ่านต่อ

อุทยานเมืองเก่าพิจิตร จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

อุทยานเมืองเก่าพิจิตร (Pichit Historical Park) เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัด เชื่อกันว่าเดิมทีบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของเมืองพิจิตรเก่า

อ่านต่อ

วัดนครชุม จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

วัดนครชุม (Wat Nakhon Chum) หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า "วัดใหญ่" ตั้งอยู่ที่ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เป็นวัดเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย โดยเคยเป็นวัดสำคัญของเมืองพิจิตรในอดีต

อ่านต่อ

วัดเขารูปช้าง จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

วัดเขารูปช้าง (Wat Khao Rup Chang) อีกหนึ่งวัดเก่าแก่ของจังหวัดพิจิตรที่สร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา บนยอดเขาที่มีหินสีขาวซ้อนกันเป็นรูปช้างคุกเข่าโดดเด่นด้วยเจดีย์แบบลังกา ประดับกระเบื้องเคลือบสีทองทั้งองค์

อ่านต่อ

ทุ่งดอกกระเจียวยักษ์บ้านเขาโล้น จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

ทุ่งดอกกระเจียวยักษ์บ้านเขาโล้น (Giant Siam Tulip Field Baan Khao Loan) ตั้งอยู่ที่ตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน เมื่อดอกกระเจียวสีชมพูบานสะพรั่งทั่วทั้งทุ่ง

อ่านต่อ

ตลาดย่านเก่าวังกรด จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

ตลาดย่านเก่าวังกรด ( Yan Kao Wang Krot Market) ตลาดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ณ ย่านเก่าวังกรด จังหวัดพิจิตร เป็นแหล่งรวมอาหารอร่อยที่เรียงรายด้วยสถาปัตยกรรมอาคารไม้เก่าแก่สวยงาม พร้อมทั้งหอนาฬิกาที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของชุมชน

อ่านต่อ

น้ำตกไทรโยคใหญ่ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย

น้ำตกไทรโยคใหญ่ (Sai Yok Yai Waterfall) เปรียบเสมือนอัญมณีแห่งเมืองกาญจนบุรี ด้วยความงามของม่านน้ำอันยิ่งใหญ่ที่ไหลรินลงมาจากหน้าผาสูงและกลายเป็นสายน้ำที่ทอดยาว รายล้อมไปด้วยป่าไม้ร่มรื่น ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของจังหวัดกาญจนบุรี

อ่านต่อ

ต้นจามจุรียักษ์ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย

ต้นจามจุรียักษ์ (Giant Monkey Pod Tree) อายุกว่า 100 ปี ที่ยืนตระหง่าน แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาแก่ผู้คนที่มาพักผ่อนหย่อนใจ คืออีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองกาญจนบุรีในปัจจุบัน

อ่านต่อ

คู่มือการดำเนินการตามกระบวนการเคลมประกันรถยนต์ฉบับสมบูรณ์

การมีส่วนร่วมในอุบัติเหตุทางรถยนต์หรือประสบความเสียหายต่อยานพาหนะของคุณอาจเป็นประสบการณ์ที่ตึงเครียดและท่วมท้น อย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจขั้นตอนการเคลมประกันรถยนต์สามารถช่วยบรรเทาความวิตกกังวลและแก้ไขปัญหาได้ราบรื่นยิ่งขึ้น

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ