- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- เที่ยว 9 วัด อยุธยา : ไหว้พระเสริมมงคล ยลพุทธศิลป์ถิ่นกรุงเก่า
เที่ยว 9 วัด อยุธยา : ไหว้พระเสริมมงคล ยลพุทธศิลป์ถิ่นกรุงเก่า
- อ่าน (26,358)
- ByWebmaster
- 15:17:44 | 18 ต.ค. 2565
เที่ยว 9 วัด อยุธยา
ไหว้พระเสริมมงคล ยลพุทธศิลป์ถิ่นกรุงเก่า
จังหวัดพระนครศรีอยุธยาราชเป็นธานีเก่าที่เคยเป็นศูนย์กลางของสยามประเทศมายาวนานถึง 417 ปี ปัจจุบันได้ชื่อว่าเป็นเมืองประวัติศาสตร์และยังเป็นเมืองท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ โดยเฉพาะทริปไหว้พระและชมโบราณสถานสำคัญต่างๆ นั้นถือเป็นกิจกรรมยอดนิยมของการท่องเที่ยวอยุธยาเลยทีเดียว วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวมวัดจำนวน 9 แห่งที่เป็นหนึ่งในวัดสำคัญของอยุธยามาฝากทุกท่าน โดยเราจะเดินทางไปตามเส้นทางที่ต่อเนื่องกันเพื่อความสะดวกและเพื่อที่จะได้ใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่าที่สุดอีกด้วย
แผนที่เที่ยว 9 วัดอยุธยา ไหว้พระเสริมมงคล ยลพุทธศิลป์ถิ่นกรุงเก่า
1. วัดใหญ่ชัยมงคล
วัดใหญ่ชัยมงคล (Wat Yai Chai Mongkhon) ตั้งอยู่ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา บริเวณนอกเกาะเมือง ภายในวัดใหญ่ชัยมงคลเป็นที่ตั้งของเจดีย์องค์ใหญ่อายุหลายร้อยปีที่สูงที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจดีย์องค์นี้มีนามว่าเจดีย์ชัยมงคลซึ่งเป็นเจดีย์ที่สันนิษฐานว่าได้รับการปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะครั้งใหญ่หลังจากทรงรบชนะมังกะยอชวาพระมหาอุปราชาของหงษาวดี นักท่องเที่ยวนิยมเดินขึ้นไปสักการะบริเวณด้านบนองค์เจดีย์ และเดินชมวิวเมืองอยุธยาบริเวณระเบียงด้านบน ซึ่งนอกจากองค์เจดีย์ชัยมงคลแล้วนักท่องเที่ยวก็ยังนิยมเข้าไปกราบสักการะพระพุทธชัยมงคลที่ประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถ รวมถึงองค์พระนอนที่ประดิษฐานอยู่ภายในวิหารพระพุทธไสยาสน์ และศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
การเดินทาง : จาก กรุงเทพฯ ไปยัง วัดใหญ่ชัยมงคล มีระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที
เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 07:00 น. – 17:00 น.
พิกัด GPS : 14°20'44.1"N 100°35'32.8"E
อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วัดใหญ่ชัยมงคล ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=103
2. วัดพนัญเชิงวรวิหาร
วัดพนัญเชิงวรวิหาร (Wat Phanan Choeng Worawihan) เป็นวัดที่ตั้งอยู่ตำบลคลองสวนพลูเช่นกัน วัดแห่งนี้เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร เอกลักษณ์แห่งนี้คือ พระพุทธไตรรัตนนายก หรือหลวงพ่อซำปอกง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา องค์พระพุทธรูปนี้มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยที่มีขนาดหน้าตักกว้างประมาณ 20 เมตร สูงประมาณ 19 เมตร ถือเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองมาตั้งแต่แรกสร้างกรุง นอกจากนี้ภายในวัดยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญอีกหลายอย่างที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะไปสักการะขอพร เช่น พระพุทธรูปทองคำสามองค์ในพระอุโบสถซึ่งเป็นพระพุทธรูปโบราณในสมัยสุโขทัย และศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมากที่นิยมมาขอพรเรื่องความรัก
การเดินทาง : จาก วัดใหญ่ชัยมงคล ไปยัง วัดพนัญเชิงวรวิหาร มีระยะทางประมาณ 1.7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 นาที
เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 07:00 น. – 17:00 น.
พิกัด GPS : 14°20'39.1"N 100°34'44.0"E
อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วัดพนัญเชิงวรวิหาร ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=98
3. วัดมหาธาตุ
วัดมหาธาตุ (Wat Mahathat) เป็นวัดที่ตั้งอยู่ในเกาะเมือง ในพื้นที่ของตำบลท่าวาสุกรี ภายในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีกลุ่มโบราณสถานสำคัญอยู่หลายแห่ง โดยวัดมหาธาตุก็เป็นหนึ่งในนั้น เนื่องจากในอดีตวัดมหาธาตุเป็นวัดที่ประดิษฐานพระบรมธาตุใจกลางพระนคร และเป็นที่พำนักของสมเด็จพระสังฆราชฝ่ายคามวาสีอีกด้วย จึงเป็นวัดที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งนอกจากเราจะได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดนี้เพื่อความเป็นสิริมงคลกันแล้ว เรายังสามารถเดินชมโบราณสถานที่ยังคงเหลือเค้าโครงความยิ่งใหญ่ของสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ให้ได้เห็น เช่น พระปรางค์องค์ใหญ่ พระปรางค์องค์กลาง พระปรางค์องค์เล็ก เจดีย์แปดเหลี่ยม และวิหาร นอกจากนี้ อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจคือ เศียรพระหน้าวิหารเล็ก ที่มีลักษณะเป็นเศียรพระที่ถูกปกคลุมด้วยรากต้นไม้ขนาดใหญ่ที่สร้างความอัศจรรย์ใจให้กับผู้ที่ได้พบเห็นเป็นอย่างมาก
การเดินทาง : จาก วัดพนัญเชิงวรวิหาร ไปยัง วัดมหาธาตุ มีระยะทางประมาณ 4.2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที
เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08:00 น. – 18:30 น.
พิกัด GPS : 14°21'25.1"N 100°34'03.0"E
อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วัดมหาธาตุ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=101
4. วัดพระศรีสรรเพชญ์
วัดพระศรีสรรเพชญ์ (Wat Phra Si Sanphet) ตั้งอยู่ที่ตำบลประตูชัย เป็นวัดอีกแห่งหนึ่งภายในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาซึ่งเป็นโบราณสถานสำคัญ เพราะในอดีตนั้นวัดแห่งนี้มีฐานะเป็นวัดหลวงของกรุงศรีอยุธยา ความยิ่งใหญ่ของวัดนี้จึงเทียบได้กับวัดพระศรีรัตนศาสดารามของกรุงเทพมหานครในยุครัตนโกสินทร์นั่นเอง สิ่งที่โดดเด่นที่สุดภายในวัดแห่งนี้ก็คือ องค์พระเจดีย์สามองค์ ซึ่งมีลักษณะเป็นเจดีย์ใหญ่ทรงลังกาจำนวนสามองค์ที่ทอดตัวเรียงกันจากทิศตะวันออกไปยังทิศตะวันตก ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์กของวัดพระศรีสรรเพชญ์ และเมื่อเราสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดเสร็จแล้วก็ยังสามารถเดินชมความงดงามทางสถาปัตยกรรมของกลุ่มโบราณสถานอื่นๆ ที่อยู่โดยรอบได้อีกด้วย เช่น อุโบสถ วิหาร พระพุทธรูปเก่าแก่ และแนวกำแพงเก่า
การเดินทาง : จาก วัดมหาธาตุ ไปยัง วัดพระศรีสรรเพชญ์ มีระยะทางประมาณ 1.3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 นาที
เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08:00 น. – 18:30 น.
พิกัด GPS : 14°21'20.8"N 100°33'29.3"E
อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วัดพระศรีสรรเพชญ์ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=100
5. วิหารพระมงคลบพิตร
วิหารพระมงคลบพิตร (Wihan Phra Mongkhon Bophit) ตั้งอยู่ใกล้กับวัดพระศรีสรรเพชญ์ในระยะที่เดินถึงกันได้ วิหารพระมงลบพิตรมีฐานะเป็นวัดอารามหลวง เอกลักษณ์ของวัดแห่งนี้คือ วิหารเก่าแก่ในเขตกำแพงเมืองที่ได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ไว้เป็นอย่างดีมาหลายยุคหลายสมัย ภายในบริเวณมีทางเดินทอดยาวเข้าสู่วิหารสีขาว นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมเข้าไปกราบสักการะพระพุทธรูปพระมงคลบพิตร ซึ่งเป็นพระประธานที่ประดิษฐานอยู่ในวิหารซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวเมืองมาอย่างช้านาน โดยพระมงคลบพิตรนี้เป็นพระพุทธรูปโบราณปางมารวิชัยองค์ใหญ่ที่สร้างขึ้นด้วยศิลปะสุโขทัยในสมัยสมเด็จพระไชยราชา มีความสูงประมาณ 12.54 เมตร หน้าตักกว้าง 9.55 เมตร นอกจากนี้ภายในบริเวณยังมีจุดบริการนั่งช้างชมเมืองเก่าอีกด้วย
การเดินทาง : จาก วัดพระศรีสรรเพชญ์ ไปยัง วิหารพระมงคลบพิตร มีระยะทางประมาณ 300 เมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 นาที
เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 07:00 น. – 17:00 น.
พิกัด GPS : 14°21'17.8"N 100°33'27.9"E
อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วิหารพระมงคลบพิตร ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=175
6. วัดธรรมิกราช
วัดธรรมิกราช (Wat Thammikarat) ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าวาสุกี ใกล้กับพระราชวังโบราณในพื้นที่ของเกาะเมือง สันนิษฐานว่าถูกสร้างขึ้นก่อนที่จะสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี วัดแห่งนี้เป็นที่รู้จักเนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีการพบเศียรพระธรรมิกราชซึ่งเป็นเศียรพระพุทธรูปสำริดที่มีขนาดใหญ่สุด และมีความสำคัญมากที่สุดองค์หนึ่งในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมเข้าไปกราบสักการะองค์พระนอนภายในวิหารเพื่อความเป็นสิริมงคล และเดินชมโบราณสถานสำคัญต่างๆ อย่างเช่น วิหารเก้าห้อง พระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และเจดีย์ทรงกลมที่บริเวณฐานประดับด้วยปูนปั้นรูปสิงห์ล้อมที่หาชมได้ยาก เพราะในสมัยโบราณนิยมสร้างเป็นรูปปั้นช้างล้อมมากกว่า
การเดินทาง : จาก วิหารพระมงคลบพิตร ไปยัง วัดธรรมิกราช มีระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 นาที
เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08:00 น. – 17:00 น.
พิกัด GPS : 14°21'33.9"N 100°33'41.4"E
อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วัดธรรมิกราช ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=1019
7. วัดหน้าพระเมรุ
วัดหน้าพระเมรุ (Wat Na Phra Meru) หรือวัดหน้าพระเมรุราชิการามวรวิหาร ตั้งอยู่ที่ตำบลลุมพลี บริเวณนอกเกาะเมือง ทางด้านคูเมืองฝั่งเหนือ วัดหน้าพระเมรุเป็นวัดแห่งเดียวในกรุงศรีอยุธยาที่ไม่ถูกทำลายเมื่อตอนที่เสียกรุงครั้งที่ 2 และยังมีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ นักท่องเที่ยวนิยมเข้าไปกราบสักการะพระพุทธรูปทรงเครื่องใหญ่ภายในพระอุโบสถเพื่อความเป็นสิริมงคลกันก่อน หลังจากนั้นสามารถเดินชมความงดงามของสถาปัตกรรมและศิลปกรรมภายในวัด เช่น บริเวณหน้าบันของพระอุโบสถที่แกะสลักเป็นรูปนารายณ์ทรงครุฑและเหล่าเทวดา และลูกกรงมะหวดเหลี่ยมบริเวณผนังของวิหารที่ใช้ศิลปะอยุธยาตอนต้น
การเดินทาง : จาก วัดธรรมิกราช ไปยัง วัดหน้าพระเมรุ มีระยะทางประมาณ 650 เมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 นาที
เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 07:00 น. – 17:00 น.
พิกัด GPS : 14°21'45.2"N 100°33'31.6"E
อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วัดหน้าพระเมรุ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=102
8. วัดภูเขาทอง
วัดภูเขาทอง (Wat Phu Khao Thong) ตั้งอยู่ตำบลภูเขาทอง วัดแห่งนี้เป็นวัดโบราณอีกแห่งหนึ่งของอยุธยา สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในรัชสมัยสมเด็จพระราเมศวร มีอายุราวหกร้อยปี ชื่อของวัดตั้งตามเอกลักษณ์ของวัดแห่งนี้ซึ่งก็คือมหาเจดีย์สีขาวที่มีนามว่า เจดีย์ภูเขาทอง องค์เจดีย์มีความสูงประมาณ 90 เมตร ตั้งอยู่บริเวณกลางทุ่ง ซึ่งสามารถมองเห็นได้จากในระยะไกล สามารถเดินขึ้นไปกราบสักการะสิงศักดิ์สิทธิ์และเดินชมทัศนียภาพของท้องทุ่งนาจากบริเวณระเบียงแต่ละชั้นได้โดยรอบ นอกจากนี้ยังสามารถแวะสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงม้าบริเวณหน้าวัดได้อีกด้วย
การเดินทาง : จาก วัดหน้าพระเมรุ ไปยัง วัดภูเขาทอง มีระยะทางประมาณ 4.4 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 นาที
เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 07:00 น. – 17:00 น.
พิกัด GPS : 14°22'08.8"N 100°32'23.1"E
อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วัดภูเขาทอง ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=260
9. วัดไชยวัฒนาราม
วัดไชยวัฒนาราม (Wat Chaiwatthanaram) ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านป้อม ริมแม่น้ำเจ้าพระยา วัดแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งวัดสำคัญของพระนครศรีอยุธยา โดยจะเห็นปราฏอยู่ในหลายฉากของละครและภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์หลายเรื่อง วัดไชยวัฒนารามเป็นวัดเก่าแก่สมัยอยุธยาตอนปลายที่สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง เพื่ออุทิศผลบุญให้กับพระราชมารดาของพระองค์ และเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะหลังรบชนะเขมร ด้วยเหตุนี้สถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของวัดส่วนหนึ่งจึงมีรูปแบบมาจากปราสาทนครวัดนั่นเอง โดยหลังจากสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคลกันแล้ว ก็ไม่ควรพลาดเดินชมโบราณสถานสำคัญต่างๆ เช่น พระปรางค์ศรีรัตนมหาธาตุ และพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยที่เรียงรายอยู่ตามแนวระเบียงคต นอกจากนี้ยังสามารถใช้บริการล่องเรือชมวิวได้อีกด้วย โดยเฉพาะในช่วงใกล้ค่ำก็จะได้ชมบรรยากาศของวัดไชยวัฒนารามที่สวยงามไปอีกแบบหนึ่ง
การเดินทาง : จาก วัดภูเขาทอง ไปยัง วัดไชยวัฒนาราม มีระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที
เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 07:00 น. – 17:00 น.
พิกัด GPS : 14°20'34.9"N 100°32'30.7"E
อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วัดไชยวัฒนาราม ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=87
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : เว็บไซต์พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com
เว็บไซต์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา https://www.ayutthaya.go.th
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) https://thai.tourismthailand.org
บริการขนส่ง (รถทัวร์ประจำทาง) http://www.busticket.in.th , http://www.thairoute.com
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
พิจิตร จังหวัดเล็กๆ ที่ซ่อนเสน่ห์เอาไว้มากมาย และไม่ได้มีแค่บึงสีไฟเพียงอย่างเดียว เพราะเมืองชาละวันแห่งนี้มีทั้งธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ วัดวาอารามเก่าแก่ และวิถีชีวิตของผู้คนท้องถิ่นที่น่าสนใจ บทความนี้ Palanla จะพาไปเปิดมุมมองใหม่กับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนพิจิตร
อ่านต่อวัดหิรัญญาราม (วัดบางคลาน) จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
วัดหิรัญญาราม (Wat Hiranyaram) หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันดีในชื่อ วัดบางคลาน (Wat Bang Khlan) เป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากแห่งหนึ่งของจังหวัดพิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นที่รู้จักจาก หลวงพ่อเงิน พระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่มีผู้คนให้ความเคารพนับถืออย่างมาก
อ่านต่ออุทยานเมืองเก่าพิจิตร จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
อุทยานเมืองเก่าพิจิตร (Pichit Historical Park) เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัด เชื่อกันว่าเดิมทีบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของเมืองพิจิตรเก่า
อ่านต่อวัดนครชุม จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
วัดนครชุม (Wat Nakhon Chum) หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า "วัดใหญ่" ตั้งอยู่ที่ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เป็นวัดเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย โดยเคยเป็นวัดสำคัญของเมืองพิจิตรในอดีต
อ่านต่อวัดเขารูปช้าง จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
วัดเขารูปช้าง (Wat Khao Rup Chang) อีกหนึ่งวัดเก่าแก่ของจังหวัดพิจิตรที่สร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา บนยอดเขาที่มีหินสีขาวซ้อนกันเป็นรูปช้างคุกเข่าโดดเด่นด้วยเจดีย์แบบลังกา ประดับกระเบื้องเคลือบสีทองทั้งองค์
อ่านต่อทุ่งดอกกระเจียวยักษ์บ้านเขาโล้น จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
ทุ่งดอกกระเจียวยักษ์บ้านเขาโล้น (Giant Siam Tulip Field Baan Khao Loan) ตั้งอยู่ที่ตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน เมื่อดอกกระเจียวสีชมพูบานสะพรั่งทั่วทั้งทุ่ง
อ่านต่อตลาดย่านเก่าวังกรด จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
ตลาดย่านเก่าวังกรด ( Yan Kao Wang Krot Market) ตลาดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ณ ย่านเก่าวังกรด จังหวัดพิจิตร เป็นแหล่งรวมอาหารอร่อยที่เรียงรายด้วยสถาปัตยกรรมอาคารไม้เก่าแก่สวยงาม พร้อมทั้งหอนาฬิกาที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของชุมชน
อ่านต่อน้ำตกไทรโยคใหญ่ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย
น้ำตกไทรโยคใหญ่ (Sai Yok Yai Waterfall) เปรียบเสมือนอัญมณีแห่งเมืองกาญจนบุรี ด้วยความงามของม่านน้ำอันยิ่งใหญ่ที่ไหลรินลงมาจากหน้าผาสูงและกลายเป็นสายน้ำที่ทอดยาว รายล้อมไปด้วยป่าไม้ร่มรื่น ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของจังหวัดกาญจนบุรี
อ่านต่อต้นจามจุรียักษ์ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย
ต้นจามจุรียักษ์ (Giant Monkey Pod Tree) อายุกว่า 100 ปี ที่ยืนตระหง่าน แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาแก่ผู้คนที่มาพักผ่อนหย่อนใจ คืออีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองกาญจนบุรีในปัจจุบัน
อ่านต่อคู่มือการดำเนินการตามกระบวนการเคลมประกันรถยนต์ฉบับสมบูรณ์
การมีส่วนร่วมในอุบัติเหตุทางรถยนต์หรือประสบความเสียหายต่อยานพาหนะของคุณอาจเป็นประสบการณ์ที่ตึงเครียดและท่วมท้น อย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจขั้นตอนการเคลมประกันรถยนต์สามารถช่วยบรรเทาความวิตกกังวลและแก้ไขปัญหาได้ราบรื่นยิ่งขึ้น
อ่านต่อ