- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- วัดศีรษะทอง (วัดพระราหู) จังหวัดนครปฐม ประเทศไทย
วัดศีรษะทอง (วัดพระราหู) จังหวัดนครปฐม ประเทศไทย

- อ่าน (9,667)
- ByWebmaster
- 11:38:07 | 19 พ.ค. 2565
วัดศีรษะทอง (วัดพระราหู) จังหวัดนครปฐม ประเทศไทย
Wat Sisa Thong, Nakhonpathom, Thailand
วัดศีรษะทอง (Wat Sisa Thong) หรือวัดพระราหู วัดเก่าแก่แห่งหนึ่งในอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ที่สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น และมีสิ่งที่โดดเด่นคือ “พระราหู” ดึงดูดให้ประชาชนจากทั่วสารทิศเดินทางมากราบไหว้ขอพรอยู่โดยตลอด
ประวัติ
วัดศีรษะทอง (วัดพระราหู) เป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งในอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม สร้างขึ้นสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น เมื่อ พ.ศ. 2358 โดยความร่วมแรงร่วมใจของชาวบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวลาวที่อพยพมาจากเวียงจันทน์มาตั้งถิ่นฐานในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
ในขณะที่มีการขุดดินสำหรับสร้างวัดนั้นได้พบเศียรพระทองจมอยู่ในดิน จึงตั้งชื่อวัดแห่งนี้ว่า “วัดหัวทอง” ภายหลังมีการขุดคลองจากแม่น้ำท่าจีนที่ตลาดต้นสน เพื่อเป็นทางเสด็จพระราชดำเนินไปนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ ประชาชนจึงย้ายมาอยู่ริมคลองเจดีย์บูชา ในการนี้ได้ย้ายวัดมาด้วยเพื่อสะดวกต่อการสัญจร และเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดศีรษะทอง” จนถึงปัจจุบัน
ภายในวัดศีรษะทองมีโบราณวัตถุและโบราณสถานสำคัญหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ “พระราหู” ที่ประดิษฐานอยู่ในศาลาแปดเหลี่ยมด้านหน้าพระอุโบสถ ซึ่งมีประชาชนจากทั่วสารทิศเดินทางมากราบไหว้บูชาอยู่โดยตลอด
การไหว้พระราหูนั้นสามารถจัดเตรียมของดำมาถวายเองก็ได้ หรือซื้อชุดบูชาที่มีจำหน่ายบริเวณด้านข้างศาลาก็ได้เช่นกัน โดยจะมีชุดบูชาใส่พานเป็นชุดๆ ไว้จำหน่าย ประกอบด้วยของดำ 8 อย่าง ได้แก่ เหล้าดำ กาแฟดำ ซุบไก่สกัด เฉาก๊วย ถั่วดำ ข้าวเหนียวดำ ขนมเปียกปูนสีดำ งาดำ
การถวายของดำก็เพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์ เสริมดวงเสริมบารมีให้แก่ผู้มาไหว้และครอบครัวประสบความสุข ความสำเร็จ ให้พระราหูประทานพรด้านโชคลาภ รวมถึงให้แคล้วคลาดจากภัยอันตรายต่างๆ
บรรยากาศโดยรอบวัดศีรษะทอง หรือ วัดพระราหู
สถาปัตยกรรมสวยๆ
พระพุทธรูปปางต่างๆ
ศาลาแปดเหลี่ยมที่ประดิษฐาน “พระราหู”
“พระสีวลี” พระอรหันต์แห่งโชคลาภ เป็นพระภิกษุสาวกเอตทัคคะของพระพุทธเจ้า
การเดินทางไปจังหวัดนครปฐม
- รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปยังจังหวัดนครปฐมมีระยะทางประมาณ 57 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที
- รถไฟ (Train) จากสถานีรถไฟหัวลำโพงไปจังหวัดนครปฐม ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที
การเดินทางไปวัดศีรษะทอง (วัดพระราหู)
วัดศีรษะทอง (วัดพระราหู) ตั้งอยู่ที่ ตำบลศีรษะทอง อำเภอนครชัยศรี ห่างจากตัวเมืองนครปฐม 15 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 20 นาที
เวลาทำการเปิด – ปิด
เปิดทุกวัน เวลา 7.00 – 17.00 น.
พระพุทธรูปภายในวัดศีรษะทอง หรือวัดพระราหู
อัตราค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าเข้าชม
“พระอุปคุต” พุทธคุณโดดเด่นด้านโชคลาภ
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยววัดศีรษะทอง (วัดพระราหู)
ชมโบราณวัตถุและโบราณสถานสำคัญภายในวัดศีรษะทอง และไหว้พระราหูเพื่อเสริมดวงเสริมบารมีและความเป็นสิริมงคล
“พระราหู”
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม วัดศีรษะทอง (วัดพระราหู) สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
วัดศีรษะทอง (วัดพระราหู) จังหวัดนครปฐม ประเทศไทย
(Wat Sisa Thong, Nakonpathom, Thailand)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 7.00 – 17.00 น.
ตั้งอยู่ที่ : ตำบลศรีษะทอง อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม
โทรศัพท์ : (+66) 034 227 462
เว็บไซต์ : -
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวจังหวัดนครปฐม https://nakhonpathom.mots.go.th/index.php
ศูนย์ข้อมูลการเดินทางจังหวัดนครปฐม https://www.dlt.go.th/site/nakhonpathom
ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

7 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดสมุทรสาคร ประเทศไทย
สมุทรสาครเป็นจังหวัดริมชายทะเลอ่าวไทยที่ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำท่าจีน มีชื่อเสียงในเรื่องอาหารทะเล และจุดชมวิวท้องทะเลที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ รวมทั้งมีวัดวาอารามที่น่าสนใจให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla จึงขอนำทุกท่านไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของสมุทรสาครเพื่อแนวทางในการท่องเที่ยว กันในบทความนี้
อ่านต่อ
วัดท่าไม้ จังหวัดสมุทรสาคร ประเทศไทย
วัดท่าไม้ (Wat Tha Mai) เป็นวัดที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของจังหวัดสมุทรสาคร วัดแห่งนี้ดังเรื่องการประกอบพิธีทางศาสนา การปฏิธรรม การดูดวง และการสะเดาะเคราะห์ ภายในวัดมีพื้นที่กว้างขวาง โดดเด่นด้วยพระอุโบสถที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบวัดทางเหนืออย่างงดงาม บริเวณด้านนอกเป็นพื้นที่สวนอันร่มรื่น และมีลานเลี้ยงโคกระบือให้ผู้มีจิตศรัทธาได้ทำบุญไถ่ชีวิต วัดท่าไม้เป็นวัดที่มีลูกศิษย์มากมายตั้งแต่ผู้มีชื่อเสียงไปจนถึงประชาชาชนทั่วไปดังจะเห็นได้จากสติ๊กเกอร์ท้ายรถที่มักพบเห็นตามท้องถนน ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดสมุทรสาครที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ
วัดโกรกกราก จังหวัดสมุทรสาคร ประเทศไทย
วัดโกรกกราก (Wat Krok Krak) เป็นวัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน เอกลักษณ์ของวัดแห่งนี้คือองค์พระประธานในอุโบสถที่สวมแว่นตาดำ ซึ่งมีที่มาจากการที่ในอดีตได้เกิดโรคตาแดงระบาดไปทั่วบ้านโกรกกราก แต่การแพทย์ในยุคนั้นยังไม่เจริญนัก จึงทำให้ผู้ป่วยมาบนบานศาลกล่าวว่าถ้าตาหายเป็นปกติจะนำแผ่นทองมาปิดที่ดวงตาขององค์พระศิลาแลง ผลปรากฏว่าหายตาแดงกันทั้งหมู่บ้าน ชาวบ้านจึงได้นำแผ่นทองมาปิดที่ตาขององค์พระศิลาแลงเต็มไปหมดจนเกิดความไม่สวยงามนัก พระครูธรรมสาคร เจ้าอาวาสในขณะนั้นจึงคิดกุศโลบายโดยนำแว่นตาดำมาใส่ให้พระประธาน จึงทำให้ชาวบ้านเปลี่ยนมาถวายแว่นตาแทนการปิดทองนับแต่นั้นมา
อ่านต่อ
ตลาดมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร ประเทศไทย
ตลาดมหาชัย (Mahachai Market) เป็นตลาดชื่อดังของสมุทรสาครที่เด่นเรื่องอาหารทะเลสดใหม่ในราคาที่ไม่แพง ถือเป็นตลาดปากอ่าวที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ และเป็นตลาดที่มีความสะดวกในการเดินทาง โดยสามารถมาได้ทั้งทางรถยนต์ เรือ และรถไฟ ทำให้ตลาดแห่งนี้เป็นแหล่งอาหารทะเลขนาดใหญ่ที่ได้รับความนิยมจากพ่อค้าแม่ค้าและคนทั่วไปเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ
หัวหินไนท์มาร์เก็ต จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประเทศไทย
หัวหินไนท์มาร์เก็ต (Hua Hin Night Market) เป็นตลาดกลางคืนที่เป็นแหล่งรวมสตรีทฟู้ดส์มากมาย โดยเฉพาะอาหารทะเลอย่างหอยทอด ผัดไท กุ้งเผา ปลาหมึกย่าง และบาร์บีคิว ไปจนถึงของหวานอย่างข้าวเหนียวมะม่วง ทุเรียน และน้ำผลไม้ปั่น นอกจากนี้ยังมีแผงขายสินค้าหลากหลายประเภท ตั้งแต่สินค้าแฮนด์เมดไปจนถึงของที่ระลึกอย่างเสื้อยืด และพวงกุญแจ หัวหินไนท์มาร์เก็ตมีบรรยากาศที่คึกคักและเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว เป็นสีสันยามราตรีของเมืองหัวหินที่ไม่ควรพลาด
อ่านต่อ
วนอุทยานปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประเทศไทย
วนอุทยานปราณบุรี (Pran Buri Forest Park) เป็นพื้นที่ป่าในเขตอนุรักษ์ที่มีความหลากหลายทางระบบนิเวศน์โดยมีทั้งป่าเบญจพรรณ ป่าชายเลน และป่าชายหาด นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเที่ยวชมธรรมชาติด้วยการเดินท่องเที่ยวไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่จะผ่านป่าไม้อันร่มรื่นไปจนถึงป่าชายเลนที่เต็มไปด้วยป่าโกงกาง และถ้าโชคดีก็อาจได้พบกับสัตว์หายากอย่างปูก้ามดาบและงูกะปะอีกด้วย วนอุทยานปราณบุรีจึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อ
แจกพิกัด 14 อุทยานแห่งชาติทั่วไทย
อุทยานแห่งชาติ (National Park) สถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ มีพี่ๆเจ้าหน้าที่ที่ใจดีคอยให้ข้อมูล มีที่พัก และอาหารไว้บริการในราคาย่อมเยา และยังมีจุดกางเต็นท์ให้นักท่องเที่ยวสายแคมปิ้งได้ดื่มด่ำธรรมชาติกันอย่างเพลิดเพลิน ในวันนี้ palanla เลยจะมาบอกพิกัด 14 อุทยานแห่งชาติที่กระจายอยู่ทั่วภูมิภาค และมีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศไทย ไว้ให้นักท่องเที่ยวสายธรรมชาติตามไปเช็คอินกัน
อ่านต่อ
อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติเอราวัณ (Erawan National Park) สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญของจังหวัดกาญจนบุรี โดยพื้นที่ภายในประกอบไปด้วย น้ำตกเอราวัณ ถ้ำพระธาตุ และถ้ำวังบาดาล อุทยานแห่งชาติเอราวัณเคยได้รับรางวัลยอดเยี่ยมประเภทแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ภาคกลาง จากการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 6 ประจำปี 2549
อ่านต่อ
7 เส้นทางประวัติศาสตร์ภาคกลาง
หากเอ่ยถึงเรื่องราวในอดีตของชาติไทย คงมีหลากหลายเหตุการณ์ที่คงไว้ซึ่งประวัติศาสตร์สำคัญๆ แม้ในปัจจุบันนั้น จะเหลือเพียงซากปรักหักพังของโบราณสถาน และอนุสรณ์ของวีรชนบรรพบุรุษไทย แต่ก็ล้วนเป็นสิ่งเตือนใจให้ลูกหลานรำลึกถึงคุณงามความดีของบรรพบุรุษไทย และสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญครั้นอดีตอยู่เสมอ วันนี้ Palanla จะพาท่อง 7 เส้นทางประวัติศาสตร์ที่อยู่ในภูมิภาคกลาง อีกทั้งไม่ไกลจากกรุงเทพฯ อีกด้วยนะคะ แต่ละสถานที่นั้นมีสิ่งที่น่าสนใจ และมีความเป็นมาอย่างไร พร้อมแล้วตามไปเที่ยวได้เลยค่ะ
อ่านต่อ
วัดไชโยวรวิหาร จังหวัดอ่างทอง ประเทศไทย
วัดไชโยวรวิหาร (Wat Chaiyo Worawihan) วัดเก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และต่อมาสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ได้มาสร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 ทำให้“พระมหาพุทธพิมพ์” หรือ หลวงพ่อโต และวัดไชโยวรวิหารกลายเป็นที่รู้จักและเคารพศรัทธาสืบมาจนปัจจุบัน
อ่านต่อ