วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร จังหวัดน่าน ประเทศไทย

  • อ่าน (3,873)
  • ByWebmaster
  • 21:57:26 | 22 ธ.ค. 2564

วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร จังหวัดน่าน ประเทศไทย

Wat Phrathat Chang Kham Worawihan, Nan, Thailand


วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร 

             วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร (Wat Phrathat Chang Kham Worawihan) เป็นวัดเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดน่าน ภายในเป็นที่ประดิษฐานขององค์พระธาตุเจดีย์ช้างคำที่ประดับด้วยรูปปั้นช้างในลักษณะที่ค้ำพระธาตุเจดีย์แห่งนี้อยู่ซึ่งเป็นที่มาของชื่อวัดแห่งนี้นั่นเอง นอกจากนี้ภายในวัดยังมีสิ่งปลูกสร้างที่มีความงดงามอย่างพระวิหารหลวงที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมล้านนา นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมไปนมัสการพระธาตุ และกราบสักการะองค์พระพุทธรูปภายในวัดเพื่อความเป็นสิริมงคล


แผนที่ตั้ง วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร (Wat Phrathat Chang Kham Worawihan) จังหวัดน่าน ประเทศไทย


ประวัติ

             วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหารตั้งอยู่ที่ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่านบริเวณตรงข้ามกับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานพระธาตุเจดีย์ช้างค้ำซึ่งเป็นเจดีย์เก่าแก่ที่สร้างขึ้นประมาณพุทธศตวรรษที่ 20 โดยสร้างขึ้นแบบก่ออิฐถือปูนด้วยศิลปะสมัยสุโขทัย มีลักษณะฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัสซ้อนกัน 3 ชั้น กว้างด้านละ 9 วา โดยมีรูปปั้นช้างครึ่งตัวบนประดับอยู่บริเวณฐานชั้นแรกกับชั้นที่สองด้านละ 6 เชือก รวมทั้งหมด 24 เชือก  เหนือขึ้นไปเป็นฐานบัวซ้อนกัน 3 ชั้น และเป็นทรงเจดีย์ทรงระฆังแบบลังกา ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

             ในบริเวณวัดยังเป็นที่ตั้งของพระวิหารหลวงวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหารที่มีความงดงามจากสถาปัตยกรรมล้านนา โดยบริเวณด้านหน้าวิหารมีสิงห์คู่อยู่บริเวณเชิงบันใดด้านละตัว ภายในพระวิหารมีความกว้างขวางและมีเสาปูนกลมขนาดใหญ่ ขนาด 2 คนโอบรอบจำหลักลวดลายปูนปั้นนูนสูงไว้อย่างงดงามเหมือนลวดลายที่เสาในวิหารวัดภูมินทร์ และเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปพระเจ้าหลวงซึ่งเป็นเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 4.50 เมตร สูง 6 เมตรสร้างด้วยศิลปะสมัยล้านนา

             นอกจากนี้ภายในวัดยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำปางลีลาที่มีนามว่า "พระพุทธนันทบุรี ศรีศากยมุนี" ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่ใช้ศิลปะสุโขทัยและทำจากทองคำ 65% มีความสูง 145 เซนติเมตร ทองคำมีน้ำหนัก 69 บาท โดยเจ้างั่วฬารผาสุม เจ้าผู้ครองนครน่านองค์ที่ 14 แห่งราชวงค์ภูคาเป็นผู้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1969 พระพุทธรูปองค์นี้ประดิษฐานอยู่ที่หอพระไตรปิฎกซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหอพระไตรปิฎกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย


วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหารตั้งอยู่ตรงข้ามกับพิพิธสถานแห่งชาติน่าน คั่นกลางด้วยซุ้มลีลาวดี


ทางเดินที่ตกแต่งอย่างสวยงามทอดยาวสู่วิหารหลวง


วิหารหลวงภายในวัดพระธาตุช้างค้ำ


พระพุทธรูปพระเจ้าหลวงที่ประดิษฐานอยู่ด้านในวิหารหลวง


บริเวณหอพระไตรปิฎกภายในวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร


พระพุทธนันทบุรี ศรีศากยมุนี พระพุทธรูปทองคำปางลีลาและของมีค่าอื่นๆ ที่ประดิษฐานอยู่ภายในหอพระไตรปิฎก


ความงดงามของพระธาตุช้างค้ำ


ปูนปั้นนูนสูงรูปช้างประดับอยู่โดยรอบพระธาตุ


วิหารพระเจ้าทันใจตั้งอยู่บริเวณด้านข้างของพระธาตุ


ความสวยงามภายในวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหารในยามค่ำคืน 


การเดินทางจากกรุงเทพไปยังจังหวัดน่าน

             - รถยนต์ (Car) จากกรุงเทพไปยังจังหวัดน่านโดยรถยนต์มีระยะทางประมาณ 676 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 ชั่วโมง

             - เครื่องบิน (Flight) จากกรุงเทพขึ้นเครื่องบินที่สนามบินดอนเมืองหรือสนามบินสุวรรณภูมิ และลงเครื่องที่สนามบินน่าน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง

             - ไม่มีสถานีรถไฟในจังหวัดน่าน แต่สามารถไปลงที่สถานีเด่นชัยในจังหวัดแพร่ แล้วต่อรถตู้หรือเหมารถมายังจังหวัดน่านได้

             - หากต้องการเดินทางโดยรถทัวร์ ให้ไปขึ้นรถที่สถานีขนส่งหมอชิต2 แล้วลงที่สถานีขนส่งน่าน โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลเวลาเดินรถ และค่าโดยสารได้ที่ https://ticket.transport.co.th/


การเดินทางไปวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร

             - รถยนต์ (Car) จากตัวเมืองน่าน ไปยัง วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร มีระยะทางประมาณ 200 เมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 นาที 

             - เดิน (Footpath) จากตัวเมืองน่าน ไปยัง วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร มีระยะทางประมาณ 200 เมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 3 นาที

             สามารถเช่ารถขับหรือเหมารถโดยสารท้องถิ่นไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดน่านได้ตามความสะดวก


เวลาทำการเปิด-ปิด

             เปิดทุกวัน 06:00 น. - 18:00 น.


อัตราค่าเข้าชม

             ไม่เสียค่าเข้าชม


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

             ตลอดทั้งปี 


             
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                       วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร จังหวัดน่าน ประเทศไทย

                       (Wat Phrathat Chang Kham Worawihan, Nan, Thailand)

                       ระดับความนิยม : 

                       อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม

                       เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06:00 น. - 18:00 น.

                       ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

                       สถานที่ตั้ง : จังหวัดน่าน ประเทศไทย

                       โทรศัพท์ : (+66) 054-710-038

                       เว็บไซต์ : http://nantourism.go.th/travel-detail.php?id=72

                       ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com   

                                         เว็บไซต์สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดน่าน http://www.nantourism.go.th

                                         เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org  

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

วัดจามเทวี จังหวัดลำพูน ประเทศไทย

วัดจามเทวี (Wat Chamdhevi) วัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดลำพูน ภายในวัดมีเจดีย์บรรจุอัฐิของพระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญไชย วัดแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์โบราณคดีที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทยด้วย

อ่านต่อ

กู่ช้าง กู่ม้า จังหวัดลำพูน ประเทศไทย

กู่ช้าง กู่ม้า (Khu Chang – Khu Ma) เป็นโบราณสถานที่สำคัญของจังหวัดลำพูน โดยเชื่อว่ากู่ช้าง เป็นสุสานช้างศึกคู่บารมีของพระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญชัย ส่วนกู่ม้า เป็นสุสานม้าทรงของพระโอรสในพระนางจามเทวี

อ่านต่อ

พระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชราชานุสรณ์ จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย

พระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชราชานุสรณ์ (King Naresuan Stupa) เป็นอนุสรณ์สถานที่สร้างขึ้นในรูปแบบของสถูปเจดีย์พร้อมกับพระบรมรูปเพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และรำลึกเหตุการณ์ครั้งที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเคยเสด็จมาประทับแรมที่เมืองงายแห่งนี้ก่อนกรีฑาทัพต่อไปยังเมืองอังวะของพม่าเมื่อปี พ.ศ. 2147 โดยสร้างขึ้นในบริเวณที่เคยเป็นเส้นทางเดินทัพเมื่อในอดีต นักท่องเที่ยวและชาวเมืองเชียงใหม่นิยมมาสักการะและขอพร นอกจากนี้ ภายในบริเวณยังมีส่วนนิทรรศการค่ายหลวงจำลองที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชซึ่งกรมศิลปากรจัดสร้างขึ้นเพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้เที่ยวชมและเรียนรู้ประวัติศาสตร์อีกด้วย

อ่านต่อ

น้ำตกแม่สา จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย

น้ำตกแม่สา (Mae Sa Waterfall) เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติยอดนิยมในอำเภอแม่ริม น้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกขนาดใหญ่มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 10 ชั้น สามารถเดินขึ้นไปชมความงดงามในแต่ละชั้นได้ตามทางเดินที่ทางอุทยานจัดทำไว้ให้ และหากใครสนใจเล่นน้ำคลายร้อนก็สามารถลงเล่นน้ำได้เช่นกัน โดยชั้นที่เป็นที่นิยมคือชั้นที่ 3-6 เพราะค่อนข้างปลอดภัยและสามารถเล่นได้ทั้งครอบครัว นอกจากนี้ภายในบริเวณยังมีร้านค้า ร้านอาหาร และห้องน้ำให้บริการอีกด้วย

อ่านต่อ

อนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง จังหวัดพะเยา ประเทศไทย

อนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง (Pho Khun Ngam Muang Monument) เป็นอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่หน้ากว๊านพะเยา สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงพ่อขุนงำเมือง กษัตริย์ลำดับที่ 9 แห่งเมืองภูกามยาวหรือพะเยาในปัจจุบัน โดยในสมัยที่พ่อขุนงำเมืองปกครองอาณาจักรพะเยานั้นทำให้พะเยาเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก จนกลายเป็นอาณาจักรใหญ่ 1 ใน 3 อาณาจักรของชนเผ่าไทยในแถบนี้ ได้แก่ อาณาจักรล้านนา อาณาจักรสุโขทัย และอาณาจักรพะเยา นั่นเอง เมื่อพะเยาได้รับการยกฐานะให้เป็นจังหวัดที่ 72 ในปีพ.ศ.2520 ชาวพะเยาจึงร่วมใจกันสร้างอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมืองขึ้น บริเวณสวนสาธารณะริมกว๊านพะเยา และกลายเป็นศูนย์รวมใจของชาวพะเยานับแต่นั้นเป็นต้นมา

อ่านต่อ

วัดศรีโคมคำ จังหวัดพะเยา ประเทศไทย

วัดศรีโคมคำ (Wat Si Khom Kham) เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองพะเยามาอย่างช้านาน ไฮไลท์ของวัดแห่งนี้คือองค์พระพุทธรูปที่มีนามว่าพระเจ้าตนหลวง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศิลปะเชียงแสนองค์ใหญ่ที่สุดในล้านนา มีขนาดหน้าตักกว้าง 14 เมตร สูง 16 เมตร พระพุทธรูปพระเจ้าตนหลวงนอกจากจะเป็นเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองพะเยาแล้ว ยังเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของอาณาจักรล้านนาอีกด้วย โดยทุกวันวิสาขบูชาของทุกปี จะมีการจัดงานประเพณีนมัสการพระเจ้าตนหลวงเดือนแปดเป็งขึ้นที่วัดศรีโคมคำแห่งนี้ นอกจากนี้ภายในวัดยังมีผลงานจิตรกรรมฝาผนังอันวิจิตรงดงามจากฝีมือของศิลปินแห่งชาติอย่างท่านอังคาร กัลยาณพงศ์ให้เที่ยวชมอีกด้วย

อ่านต่อ

วัดพระธาตุจอมทอง จังหวัดพะเยา ประเทศไทย

วัดพระธาตุจอมทอง (Wat Phra That Chom Thong) เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองพะเยาที่ตั้งอยู่บนดอยจอมทอง และเป็นที่ประดิษฐานพระธาตุจอมทองซึ่งเป็นเจดีย์สีทองอร่ามองค์ใหญ่ที่สร้างด้วยศิลปะล้านนาอย่างงดงาม ภายในบรรจุเส้นพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า ที่นี่จึงเป็นปูชนียสถานที่ชาวพะเยาเคารพศรัทธากันมาอย่างช้านาน นอกจากนี้ จากบริเวณด้านบนดอยยังเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่สามารถมองเห็นป่าไม้และกว๊านพะเยาได้อย่างชัดเจนอีกด้วย

อ่านต่อ

วัดนันตาราม จังหวัดพะเยา ประเทศไทย

วัดนันตาราม (Wat Nantaram) เป็นวัดที่สร้างขึ้นจากความศรัทธาในพระพุทธศาสนาของชาวไทใหญ่เมื่อในอดีต มีเอกลักษณ์จากวิหารไม้สักทั้งหลังที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมพม่าแท้อย่างวิจิตรงดงาม ภายในบริเวณมีบรรยากาศที่เงียบสงบ และมีส่วนของพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงธนบัตรเก่าและข้าวของเครื่องใช้โบราณ นอกจากนี้ในช่วงวันสำคัญทางศาสนายังมีการแสดงทางวัฒนธรรมของชาวไทใหญ่บริเวณหน้าวิหารให้ได้ชมอีกด้วย

อ่านต่อ

วัดติโลกอาราม จังหวัดพะเยา ประเทศไทย

วัดติโลกอาราม (Wat Tilok Aram) เป็นวัดเก่าแก่ที่จมอยู่ใต้กว๊านพระเยา มีเพียงยอดเจดีย์เท่านั้นที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมา นักท่องเที่ยวนิยมนั่งเรือไปชมวัดแห่งนี้ พร้อมสักการะพระพุทธรูปหลวงพ่อศิลาที่ได้อัญเชิญขึ้นมาประดิษฐานไว้บนพื้นที่ด้านบน โดยไฮไลท์จะอยู่ในช่วงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาอย่างเช่น วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา และวันอาสาฬหบูชา ที่จะมีการเวียนเทียนกลางน้ำรอบพระธาตุเจดีย์วัดติโลกอารามกลางกว๊านพะเยา ซึ่งถือเป็นกิจกรรมเวียนเทียนกลางน้ำหนึ่งเดียวในโลกที่มีความงดงามเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ

กว๊านพะเยา จังหวัดพะเยา ประเทศไทย

กว๊านพะเยา (Phayao Lake) เป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดในภาคเหนือที่รองรับน้ำจากลำห้วยต่างๆ ไว้กว่า 18 สาย และเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองพะเยา ภายในบริเวณมีความสวยงามจากทิวทัศน์ทางธรรมชาติของบึงน้ำขนาดใหญ่และทิวเขาที่โอบล้อม บริเวณริมฝั่งเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ โดดเด่นด้วยรูปปั้นองค์พญานาคคู่สีขาวสององค์ เป็นจุดแลนด์มาร์กแห่งกว๊านพะเยา ผู้คนนิยมมาชมวิว ถ่ายภาพ และชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามน่าประทับใจเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ