- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- 10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในสมุทรสงคราม ประเทศไทย
10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในสมุทรสงคราม ประเทศไทย
- อ่าน (4,703)
- ByWebmaster
- 14:29:35 | 12 ม.ค. 2567
10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในสมุทรสงคราม ประเทศไทย
Top 10 Travel Destinations in Samutsongkhram, Thailand
สมุทรสงคราม จังหวัดเล็กๆ ที่มีพื้นที่น้อยที่สุดในประเทศไทย และมีวิถีชีวิตที่ผูกพันกับสายน้ำแม่กลองมาตั้งแต่อดีต แม้จะเป็นเพียงจังหวัดเล็กๆ ที่ประกอบด้วย 3 อำเภอเท่านั้น ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภออัมพวา และอำเภอบางคนที ทว่าสมุทรสงครามก็มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายและน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นตลาดบก ตลาดน้ำ วัดวาอาราม พิพิธภัณฑ์ หรือที่เที่ยวป่าชายเลน ที่ยังรอต้อนรับนักท่องเที่ยวให้ได้เดินทางไปรู้จักและสัมผัสจังหวัดเล็กๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ แห่งนี้ด้วยตัวเอง
แผนที่แสดงตำแหน่งของ 10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในสมุทรสงคราม
1. ตลาดร่มหุบ
เมื่อเอ่ยถึงสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดสมุทรสงคราม สถานที่อันดับต้นๆ ที่จะไม่เอ่ยถึงเลยไม่ได้ก็คือ ตลาดร่มหุบ (Maeklong Railway Market) ตลาดที่ตั้งอยู่ระยะประชิดล้อรถไฟ ที่เต็มไปด้วยสีสัน ชีวิตชีวา และความหวาดเสียว ซึ่งดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกอยากเดินทางมาสัมผัสและบันทึกภาพเก็บไว้ ชาวบ้านมักเรียกตลาดแห่งนี้ว่า “ตลาดเสี่ยงตาย” เป็นตลาดที่มีมาตั้งแต่ราวปี พ.ศ. 2527 ตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟแม่กลองและเป็นส่วนหนึ่งของตลาดเทศบาลจังหวัดสมุทรสงคราม เอกลักษณ์อันโดดเด่นของตลาดแห่งนี้คือพ่อค้าแม่ค้าจะตั้งแผงค้าที่สองข้างทางรถไฟความยาวกว่า 500 เมตร ส่วนลูกค้าก็ใช้ทางรถไฟเป็นถนนสำหรับซื้อของ เมื่อได้ยินเสียงระฆังหรือธงที่โบกสะบัดจากนายสถานีพ่อค้าแม่ค้าก็จะรีบหุบร่มและเก็บแผงขายของทันที จากนั้นเมื่อรถไฟผ่านไปจึงค่อยกลับมาตั้งแผงใหม่อีกครั้ง ในแต่ละวันนั้นรถไฟที่จะแล่นผ่านตลาดร่มหุบมีจำนวน 8 เที่ยวด้วยกัน โดยจะเข้าสถานีแม่กลองเวลา 08.30, 11.10, 14.30, 17.40 น. และออกจากสถานีแม่กลองเวลา 06.20, 09.00, 11.30, 15.30 น.
ข้อมูลการเดินทาง
ตลาดร่มหุบ ตั้งอยู่ที่ตำบลแม่กลอง อำเภอเมืองสมุทรสงคราม ห่างจากสถานีขนส่งประจำจังหวัด 600 เมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ 3 นาที
เวลาทำการเปิด – ปิด : ตลาดร่มหุบเปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 04.00 – 17.00 น.
พิกัด GPS : 13°24'28.1"N 100°00'02.3"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ตลาดร่มหุบ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=242
2. วัดบางกุ้ง
วัดบางกุ้ง (Wat Bang Kung) หนึ่งใน Unseen Thailand ประจำจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นวัดที่มักจะมีภาพของโบสถ์อิฐเก่าแก่เกือบทั้งหลังปกคลุมไปด้วยรากของต้นโพธิ์ปรากฏให้ได้เห็นตามสื่อต่างๆ อยู่บ่อยครั้ง รวมถึงรูปปั้นนักมวยที่เรียงรายอยู่เป็นจำนวนมากในบริเวณไม่ไกลกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถบ่งบอกได้ดีถึงความเก่าแก่และความสำคัญในอดีตของสถานที่แห่งนี้ วัดบางกุ้งถือเป็นวัดที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์สมัยกรุงศรีอยุธยาอย่างมาก เนื่องจากในอดีตเมืองแม่กลองเป็นเส้นทางที่กองทัพพม่าใช้ในการเดินทัพ และหลังจากเหตุการณ์เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เมื่อพ.ศ. 2310 สมเด็จพระเจ้าตากสินจึงได้โปรดเกล้าฯ ให้ยกกองทัพเรือมาตั้งค่ายที่นี่ โดยได้สร้างกำแพงล้อมวัดบางกุ้งให้อยู่กลางค่ายเพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและเป็นที่เคารพบูชาของทหาร พร้อมกับตั้งชื่อค่ายว่า “ค่ายบางกุ้ง” ค่ายแห่งนี้นับเป็นค่ายทหารไทยที่สร้างความเกรงขามให้กองทัพพม่า และสามารถสร้างขวัญกำลังใจให้คนไทยกลับคืนมา และยังเป็นสงครามครั้งแรกที่ไทยทำกับพม่าหลังจากที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานี
ข้อมูลการเดินทาง
วัดบางกุ้ง ตั้งอยู่ที่ตำบลบางกุ้ง อำเภอบางคนที ห่างจากสถานีขนส่งประจำจังหวัด 11 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ 16 นาที
เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 16.30 น.
พิกัด GPS : 13°26'45.5"N 99°56'25.6"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดบางกุ้ง ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=243
3. วัดเพชรสมุทรวรวิหาร
วัดเพชรสมุทรวรวิหาร (Wat Phet Samut Worawihan) หรือ วัดบ้านแหลม ถือเป็นวัดสำคัญประจำจังหวัดและเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวสมุทรสงครามมายาวนาน จนคล้ายเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของจังหวัดลุ่มแม่น้ำกลองแห่งนี้ และมีคำกล่าวที่ว่า “ถ้ามาเมืองสมุทรสงครามแล้วไม่ได้มานมัสการหลวงพ่อบ้านแหลม ก็เหมือนมาไม่ถึง” วัดแห่งนี้สร้างขึ้นราวรัชสมัยพระเจ้าปราสาททองแห่งกรุงศรีอยุธยา ตามตำนานเล่าว่า ในปี พ.ศ.2307 ชาวบ้านแหลมในเขตเมืองเพชรบุรีได้อพยพหนีพม่ามาตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณตำบลแม่กลองเหนือวัดศรีจำปา และเรียกหมู่บ้านนี้ว่า "บ้านแหลม" ตามชื่อหมู่บ้านเดิมของตน จากนั้นชาวบ้านแหลมได้ช่วยกันบูรณะวัดศรีจำปาและเรียกวัดนี้ใหม่ว่า "วัดบ้านแหลม" ภายหลังวัดบ้านแหลมได้ยกฐานะขึ้นเป็นอารามหลวงชั้นวรวิหาร
ข้อมูลการเดินทาง
วัดเพชรสมุทรวรวิหาร หรือ วัดบ้านแหลม ตั้งอยู่ที่ตำบลแม่กลอง อำเภอเมืองสมุทรสงคราม ห่างจากสถานีขนส่งประจำจังหวัด 500 เมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ 3 นาที
เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 06.00 – 17.00 น.
พิกัด GPS : 13°24'33.3"N 99°59'54.9"E"
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดเพชรสมุทรวรวิหาร ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=577
4. ตลาดน้ำอัมพวา
ตลาดน้ำอัมพวา (Amphawa Floating Market) ตั้งอยู่ริมคลองใกล้วัดอัมพวันเจติยาราม จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นตลาดน้ำที่เก่าแก่และโด่งดังเป็นอันดับต้นๆ มาอย่างยาวนานของเมืองไทย ตลาดริมคลองแห่งนี้จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวซึ่งมีชื่อเสียงมากที่สุดของจังหวัดสมุทรสงคราม ทุกๆ เย็นวันศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ ตลาดน้ำแห่งนี้จะคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว ถือเป็นตลาดน้ำที่เปิดในช่วงเย็นแห่งแรกของเมืองไทย ต่างจากตลาดน้ำแห่งอื่นๆ ที่จะเปิดแต่เช้าตรู่และตลาดเริ่มซาในช่วงบ่ายๆ ตลาดน้ำอัมพวาเรียกว่าเป็นสวรรค์ของนักกินอีกแห่งหนึ่ง โดยนอกจากของกินอร่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ผัก ผลไม้ ขนมไทยนานาประเภท ที่บางอย่างนั้นเป็นสูตรโบราณที่ไม่ค่อยมีให้เห็นแล้วในปัจจุบัน รวมไปถึงของใช้เบ็ดเตล็ดที่พ่อค้า แม่ค้า นำมาขายทั้งทางเรือและบนบกแล้ว สิ่งที่เป็นเสน่ห์ดึงดูดของตลาดน้ำแห่งนี้ก็คือความสวยงามของวิถีชีวิตสองฟากฝั่งคลองที่ยังคงความดั้งเดิมไว้เป็นอย่างดี
ข้อมูลการเดินทาง
ตลาดน้ำอัมพวา ตั้งอยู่ที่ตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ห่างจากตัวจังหวัด 7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 10 นาที
ทั้งนี้จากกรุงเทพฯ สามารถนั่งรถโดยสารประจำทางสายกรุงเทพฯ-ดำเนินสะดวกมาลงที่ตลาดอัมพวาได้เลย
เวลาทำการเปิด – ปิด : วันเปิดทำการทุกวันศุกร์ เสาร์ และวันอาทิตย์ เวลาประมาณ 14.00 - 20.00 น.
พิกัด GPS : 13°25'30.0"N 99°57'17.9"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ตลาดน้ำอัมพวา ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=574
5. วัดภุมรินทร์กุฎีทอง
วัดภุมรินทร์กุฎีทอง (Wat Phumarin Kudeethong) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง บริเวณปากคลองประชาชื่นฝั่งตะวันตก ตรงข้ามกับเทศบาลตำบลอัมพวา เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นมาในสมัยรัชกาลที่ 5 ราวปี พ.ศ. 2431 มีจุดเด่นคือกุฏิเป็นเรือนไม้ทั้งหลังตกแต่งด้วยลวดลายสวยงาม ฝาปะกน 5 ห้อง หลังคามุงกระเบื้องดินเผาแบบมอญ และมีหลังคาปีกนกคลุมตลอดทั้งหลัง ประดับด้วยช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ โดยภายนอกของกุฏินั้นตกแต่งด้วยด้วยทองทั้งหมด อันเป็นที่มาของชื่อกุฏิทอง หรือ “กุฎีทอง” แห่งนี้ ภายในวัดยังมีพิพิธภัณฑ์วัดภุมรินทร์และอุทยานการศึกษา เป็นสถานที่เก็บรวบรวมโบราณวัตถุล้ำค่าสมควรแก่การศึกษาและอนุรักษ์ ไว้ เช่น พระพุทธรูป หนังสือไทย โถลายคราม และเครื่องทองเหลือง พระพุทธรูปเก่าแก่อายุกว่า 300 ปี เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปิดทอง ปางมารวิชัย นามว่า “พระพุทธรัตนมงคล” หรือ หลวงพ่อโต และ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยประดิษฐานอยู่
ข้อมูลการเดินทาง
วัดภุมรินทร์กุฎีทอง ตั้งอยู่ที่ตำบลสวนหลวง อัมเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ห่างจากสถานีขนส่งประจำจังหวัด 7.7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ 12 นาที
เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 16.00 น.
พิกัด GPS : 13°25'10.0"N 99°57'03.0"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดภุมรินทร์กุฎีทอง ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=578
6. อุทยานพระบรมราชานุสรณ์ ร.2
อุทยานพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย หรือ อุทยานพระบรมราชานุสรณ์ ร.2 (King Rama II Memorial Park) ตั้งอยู่ในอำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ต้องมาเมื่อมาเที่ยวอัมพวา บรรยากาศโดยรอบนั้นร่มรื่นเขียวขจี อยู่ติดแม่น้ำแม่กลอง ภายในอาคารไม้ทรงไทยนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นอายวิถีชีวิตบรรยากาศแบบไทยๆ ที่ยังคงได้รับการอนุรักษ์เอาไว้ผ่านการจัดแสดงที่สวยงามและน่าสนใจ บริเวณที่ก่อสร้างอุทยานพระบรมราชานุสรณ์นี้ พระราชสมุทรเมธี เจ้าอาวาสวัดอัมพวันเจติยารามเป็นผู้น้อมเกล้าฯ ถวาย มีพื้นที่ประมาณ 11 ไร่ พื้นที่บริเวณนี้มีความสำคัญเพราะเป็นสถานที่พระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) ภายในอุทยานฯ มีสิ่งที่น่าสนใจ คือ พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย มีลักษณะเป็นอาคารทรงไทย แบ่งออกเป็นส่วนต่างๆ อาทิ หอกลาง หอชาย หอหญิง พิพิธภัณฑ์ขนมไทย โรงละครกลางแจ้งและสวนพฤกษชาติ
ข้อมูลการเดินทาง
อุทยานพระบรมราชานุสรณ์ ร.2 ตั้งอยู่ที่ ตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา จ.สมุทรสงคราม ห่างจากสถานีขนส่งประจำจังหวัด 8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ 12 นาที
เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน (ยกเว้นวันพุธ) เวลา 08.30 - 16.30 น.
พิกัด GPS : 13°25'30.7"N 99°57'08.9"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ อุทยานพระบรมราชานุสรณ์ ร.2 ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=580
7. อาสนวิหารแม่พระบังเกิด
อาสนวิหารแม่พระบังเกิด (Nativity of Our Lady Cathedral) ตั้งอยู่หมู่ที่ 7 ตำบลบางนกแขวก จังหวัดสมุทรสงคราม สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2433 เพื่อเป็นเกียรติแก่การบังเกิดของพระแม่มารีย์ สถานที่สักการะอันศักดิ์สิทธิ์ขอคริสต์ชนนิกายโรมันคาทอลิกประจำจังหวัดสมุทรสงครามแห่งนี้ เป็นอีกหนึ่งศาสนสถานที่มีสถาปัตยกรรมงดงามแบบตะวันตกท่ามกลางวิถีชีวิตลุ่มแม่น้ำแม่กลอง อาสนวิหารพระแม่บังเกิดที่บางนกแขวกได้ชื่อว่าเป็นวัดที่สวยงาม และเก่าแก่ที่สุดของชาวคาทอลิกในประเทศไทย ตัวอาคารของอาสนวิหารแม่พระบังเกิดเป็นสถาปัตยกรรมกอธิก (Gothic) สร้างด้วยอิฐเผา ผนังฉาบด้วยปูนตำกับน้ำเชื่อมจากอ้อยใสสีดำ ภายในประดับด้วยกระจกสี Stain Glass สวยงามจากประเทศฝรั่งเศสซึ่งถือเป็นไฮไลต์สำคัญของอาสนวิหารแห่งนี้ ที่แสดงเป็นเรื่องราวกับพระนางมารีย์พรหมจารีและภาพของบรรดานักบุญทั้งชายและหญิง โดยถือเป็นกระจกสีภาพประวัติของพระแม่มารีย์ที่ครบสมบูรณ์ที่สุดในไทย
ข้อมูลการเดินทาง
อาสนวิหารแม่พระบังเกิด ตั้งอยู่ที่ตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม ห่างจากสถานีขนส่งประจำจังหวัด 17 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ 24 นาที
เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดให้เข้าชม วันพุธ-อาทิตย์ เวลา 09.00 - 16.00 น.
พิกัด GPS : 13°29'43.0"N 99°55'25.8"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ อาสนวิหารแม่พระบังเกิด ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=579
8. โครงการอัมพวา-ชัยพัฒนานุรักษ์
โครงการอัมพวาชัยพัฒนานุรักษ์ (Amphawa – The Chaipattana Nurak) ตั้งอยู่ที่ถนนประชาอุทิศ ตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม บนพื้นที่รวม 21 ไร่ 12 ตารางวา เป็นโครงการสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี โดยมีพระราชดำริให้สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนานำที่ดินที่คุณประยงค์ นาคะวะรังค์ ชาวอัมพวา ได้น้อมเกล้าฯ ถวาย มาดำเนินการพัฒนาให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชนอัมพวา เพื่อสืบสานภูมิปัญญาชาวบ้าน และอนุรักษ์วิถีการดำเนินชีวิตของชาวอัมพวา ภายในพื้นที่ของโครงการเต็มไปด้วยกลิ่นอายวิถีชีวิตของคนอัมพวากับประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยาวนาน โดยการเข้ามามีส่วนร่วมในการประกอบอาชีพและประกอบกิจกรรมภายในพื้นที่ของชาวอัมพวาอย่างแท้จริง พื้นที่ส่วนต่างๆ ถูกแบ่งออกเป็น สวนสาธิตการเกษตร, ศูนย์ท่องเที่ยวชุมชน และห้องนิทรรศการวิถีชุมชน, ร้านชานชาลา, ลานวัฒนธรรมนาคะวะรังค์ และลานร้านค้าชุมชน, ร้านภัทรพัฒน์
ข้อมูลการเดินทาง
โครงการอัมพวา – ชัยพัฒนานุรักษ์ ตั้งอยู่ที่ตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม อยู่ห่างจากตัวเมืองสมุทรสงคราม 7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 8 นาที
เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.30 – 16.30 น.
พิกัด GPS : 13°25'38.5"N 99°57'19.6"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ โครงการอัมพวา-ชัยพัฒนานุรักษ์ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=572
9. วัดจุฬามณี
วัดจุฬามณี (Wat Chulamanee) ตั้งอยู่ที่ตำบลบางช้าง เป็นวัดโบราณริมฝั่งคลองอัมพวาต่อเนื่องกับคลองผีหลอก วัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ภายในวัดมีองค์ท่านพ่อท้าวเวสสุวรรณ หรือท้าวเวสสุวัณ ตามความเชื่อว่าเป็นเทพแห่งอสูรที่คอยปกปักรักษาโลกมนุษย์ ที่ผู้คนนิยมมาถวายไหว้และขอพร รวมถึงสังขารไม่เน่าเปื่อยของหลวงพ่อเนื่อง โกวิท อดีตเจ้าอาวาสวัดจุฬามณี สถาปัตยกรรมที่โดดเด่นภายในวัดคืออุโบสถจัตุรมุขหินอ่อน เป็นอุโบสถที่มีความสวยงาม ปูพื้นด้วยหินหยกสีเขียวจากเมืองการาจี ประเทศปากีสถาน ภายประดิษฐานพระประธานบนฐานสูง บานหน้าต่างด้านนอกลงรักฝังมุกเป็นภาพตราพระราชลัญจกร นอกจากนี้บริเวณฝาผนังโดยรอบพระอุโบสถ ยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติและนิทานชาดกที่ประณีต ฝีมือของจิตรกรหญิงนิตยา ศักดิ์เจริญ ซึ่งใช้เวลาในการวาดนานถึง 6 ปี เป็นภาพจิตรกรรมในศิลปะแบบอยุธยาผสมสานกับแบบรัตนโกสินทร์ที่เรียกว่าศิลปะแบบ “รัตโนธยา”
ข้อมูลการเดินทาง
วัดจุฬามณี ตั้งอยู่ที่ตำบลบางช้าง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ห่างจากตัวจังหวัด 8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 10 นาที
เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.00 - 17.00 น.
พิกัด GPS : 13°25'33.9"N 99°57'57.7"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดจุฬามณี ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=576
10. ดอนหอยหลอด
ดอนหอยหลอด (Don Hoi Lot) เป็นสันดอนตั้งอยู่ปากแม่น้ำแม่กลองในตำบลบางจะเกร็ง ตำบลแหลมใหญ่ ตำบลบางแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวกันว่าเป็นแหล่งที่มีหอยหลอดชุกชุมมากที่สุดแห่งเดียวในประเทศไทย หรือแห่งเดียวในโลก ในเวลาปกติที่น้ำทะเลขึ้นน้ำจะท่วมและดอนจะจมหายไปในน้ำ แต่พอน้ำลงจะปรากฏพื้นที่ดอนหอยหลอดค่อยๆ โผล่ขึ้นทีละน้อยเป็นพื้นที่กว้างไกลสุดสายตา ชาวบ้านนิยมมาจับหอยหลอดที่นี่เนื่องมีหอยหลอดชุกชุมมาก ด้วยทัศนียภาพที่สวยงาม แปลกตา และกิจกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ที่นี่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมาอย่างยาวนานทุกยุคทุกสมัยด้วยเช่นกัน โดยช่วงเวลาเหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยวดอนหอยหลอดคือ ประมาณเดือนมีนาคม - พฤษภาคมเพราะเป็นช่วงที่น้ำทะเลจะลดลงนานกว่าช่วงเวลาอื่นและสามารถมองเห็นสันดอนโผล่ขึ้นมา บริเวณรอบๆ สองข้างทางของดอนหอยหลอดยังเรียงรายไปด้วยร้านอาหารทะเลและของฝาก ไม่ว่าจะเป็นน้ำปลา กะปิ น้ำตาลปึก น้ำตาลสด ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่พักผ่อนหย่อนใจชั้นดีที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพที่สามารถไปเที่ยวได้ตลอด
ข้อมูลการเดินทาง
ดอนหอยหลอด ตั้งอยู่ที่ตำบลบางจะเกร็ง อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม อยู่ห่างจากตัวเมืองสมุทรสงคราม 10 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 15 นาที
เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 13°21'42.4"N 100°01'22.0"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ดอนหอยหลอด ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=573
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ :
- เว็บไซต์พยากรณ์อากาศ
- ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวจังหวัดสมุทรสงคราม
https://samutsongkhram.mots.go.th/
- การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
https://thai.tourismthailand.org/
- บริการขนส่ง (รถทัวร์ประจำทาง)
http://www.busticket.in.th , http://www.thairoute.com
- สกุลเงินที่ใช้ : บาท (THB)
แอปพลิเคชัน "บริการรถแท็กซี่" ในประเทศไทย
- Grab สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
แอปพลิเคชัน "แผนที่ในการนำทาง" ในประเทศไทย
- Google Map สามารถดาวน์โหลดได้ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
พิจิตร จังหวัดเล็กๆ ที่ซ่อนเสน่ห์เอาไว้มากมาย และไม่ได้มีแค่บึงสีไฟเพียงอย่างเดียว เพราะเมืองชาละวันแห่งนี้มีทั้งธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ วัดวาอารามเก่าแก่ และวิถีชีวิตของผู้คนท้องถิ่นที่น่าสนใจ บทความนี้ Palanla จะพาไปเปิดมุมมองใหม่กับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนพิจิตร
อ่านต่อวัดหิรัญญาราม (วัดบางคลาน) จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
วัดหิรัญญาราม (Wat Hiranyaram) หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันดีในชื่อ วัดบางคลาน (Wat Bang Khlan) เป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากแห่งหนึ่งของจังหวัดพิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นที่รู้จักจาก หลวงพ่อเงิน พระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่มีผู้คนให้ความเคารพนับถืออย่างมาก
อ่านต่ออุทยานเมืองเก่าพิจิตร จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
อุทยานเมืองเก่าพิจิตร (Pichit Historical Park) เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัด เชื่อกันว่าเดิมทีบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของเมืองพิจิตรเก่า
อ่านต่อวัดนครชุม จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
วัดนครชุม (Wat Nakhon Chum) หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า "วัดใหญ่" ตั้งอยู่ที่ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เป็นวัดเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย โดยเคยเป็นวัดสำคัญของเมืองพิจิตรในอดีต
อ่านต่อวัดเขารูปช้าง จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
วัดเขารูปช้าง (Wat Khao Rup Chang) อีกหนึ่งวัดเก่าแก่ของจังหวัดพิจิตรที่สร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา บนยอดเขาที่มีหินสีขาวซ้อนกันเป็นรูปช้างคุกเข่าโดดเด่นด้วยเจดีย์แบบลังกา ประดับกระเบื้องเคลือบสีทองทั้งองค์
อ่านต่อทุ่งดอกกระเจียวยักษ์บ้านเขาโล้น จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
ทุ่งดอกกระเจียวยักษ์บ้านเขาโล้น (Giant Siam Tulip Field Baan Khao Loan) ตั้งอยู่ที่ตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน เมื่อดอกกระเจียวสีชมพูบานสะพรั่งทั่วทั้งทุ่ง
อ่านต่อตลาดย่านเก่าวังกรด จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
ตลาดย่านเก่าวังกรด ( Yan Kao Wang Krot Market) ตลาดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ณ ย่านเก่าวังกรด จังหวัดพิจิตร เป็นแหล่งรวมอาหารอร่อยที่เรียงรายด้วยสถาปัตยกรรมอาคารไม้เก่าแก่สวยงาม พร้อมทั้งหอนาฬิกาที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของชุมชน
อ่านต่อน้ำตกไทรโยคใหญ่ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย
น้ำตกไทรโยคใหญ่ (Sai Yok Yai Waterfall) เปรียบเสมือนอัญมณีแห่งเมืองกาญจนบุรี ด้วยความงามของม่านน้ำอันยิ่งใหญ่ที่ไหลรินลงมาจากหน้าผาสูงและกลายเป็นสายน้ำที่ทอดยาว รายล้อมไปด้วยป่าไม้ร่มรื่น ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของจังหวัดกาญจนบุรี
อ่านต่อต้นจามจุรียักษ์ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย
ต้นจามจุรียักษ์ (Giant Monkey Pod Tree) อายุกว่า 100 ปี ที่ยืนตระหง่าน แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาแก่ผู้คนที่มาพักผ่อนหย่อนใจ คืออีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองกาญจนบุรีในปัจจุบัน
อ่านต่อคู่มือการดำเนินการตามกระบวนการเคลมประกันรถยนต์ฉบับสมบูรณ์
การมีส่วนร่วมในอุบัติเหตุทางรถยนต์หรือประสบความเสียหายต่อยานพาหนะของคุณอาจเป็นประสบการณ์ที่ตึงเครียดและท่วมท้น อย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจขั้นตอนการเคลมประกันรถยนต์สามารถช่วยบรรเทาความวิตกกังวลและแก้ไขปัญหาได้ราบรื่นยิ่งขึ้น
อ่านต่อ