เกาะกูด – พัทยา 3 วัน 2 คืน…เที่ยวฟิน กินอร่อย

  • อ่าน (5,256)
  • ByWebmaster
  • 14:08:54 | 15 ม.ค. 2564

เกาะกูด – พัทยา 3 วัน 2 คืน…เที่ยวฟิน กินอร่อย

 

             ทริปนี้ เราจะพาออกเดินทางไปยังสวรรค์ของคนรักทะเลที่สุดแดนภาคตะวันออก ท่ามกลางความสงบงาม และวิถีชีวิตเรียบง่ายของชาวประมงบนเกาะกูด จังหวัดตราด เกาะที่ว่ากันว่าสวยราวกับเป็นอันดามันตะวันออก ด้วยน้ำทะเลที่ใส หาดทรายสีขาวนุ่ม และสงบห่างไกลจากความวุ่นวาย จึงทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่มีใจรักในท้องทะเลมารุ่นต่อรุ่น เรียกว่ามีเวลาสัก 3 วัน 2 คืน ก็สามารถหลีกหนีจากเมืองกรุงมาพักผ่อน หย่อนใจลงในน้ำทะเลใสๆ ที่เกาะกูดได้โดยอย่างเต็มอิ่มอย่างไม่มีตกหล่น แถมนอกจากจากเกาะกูด จังหวัดตราดแล้ว ขากลับจะแวะไหว้พระ ชมวัดสวยๆ และหาของอร่อยๆ รับประทานที่ชลบุรีก่อนกลับกรุงเทพฯ ก็ยังทำได้


แผนที่ประเทศไทย แสดงตำแหน่งของจังหวัดตราด และจังหวัดชลบุรี


แผนที่แสดงตำแหน่งของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ทั้ง 3 วันในจังหวัดตราดและชลบุรี
(โดย วันที่ 1 เส้นสีแดง วันที่ 2 เส้นสีเหลือง วันที่ 3 เส้นสีส้ม)

--- วันที่ 1 ---

(กรุงเทพฯ - ตราด : ท่าเรือแหลมศอก, เล่นน้ำ ดูพระอาทิตย์ตกที่เกาะกูดรีสอร์ท)

             เราออกเดินทางจากกรุงเทพในช่วงเช้า ผ่านทางหลวงหมายเลข 3 เข้าสู่จังหวัดตราดโดยปักหมุดไว้ที่ท่าเรือแหลมศอก ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงก็เดินทางมาถึง เรามาถึงท่าเรือแหลมศอกในเวลาราวๆ เที่ยง  และรอขึ้นเรือของเกาะกูดเอ๊กซ์เพรสรอบเวลา 13.00 น. ซึ่งเรือที่ข้ามไปเกาะกูดมีเพียงวันละหนึ่งรอบเท่านั้น อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรือเกาะกูดเอ๊กซ์เพรส ได้ที่  https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=311


ท่าเรือแหลมศอก

             ท่าเรือแหลมศอกเป็นท่าเทียบเรือซึ่งให้บริการเรือข้ามไปเกาะกูดเป็นหลัก  โดยท่าเรือจะอยู่ห่างจากตัวเมืองตราดประมาณ 27 กิโลเมตร บริเวณท่าเรือมีที่สำหรับจอดรถ โดยคิดค่ารับฝากวันละ 100 บาท บริษัทเดินเรือที่ให้บริการมีอยู่สองสามเจ้าด้วยกัน หนึ่งในนั้นก็คือ เกาะกูดเอ๊กซ์เพรส (Ko Kut Express)

             เกาะกูดเอ๊กซ์เพรส (Ko Kut Express) เป็นบริษัทเดินเรือที่ให้บริการรับ-ส่งลูกค้าระหว่างท่าเรือ แหลมศอก และ เกาะกูด โดยที่เรือจะออกจากท่าเรือแหลมศอก จังหวัดตราด แล้วตรงไปที่ท่าเรือหลักบนเกาะกูด ไม่ได้เเวะรับ-ส่งลูกค้าตามท่าเรือส่วนตัวของรีสอร์ทต่างๆ เหมือนสปีดโบ๊ททั่วไป เรือของเกาะกูดเอ๊กซ์เพรสจะใช้เวลาเดินทางจากท่าเรือแหลมศอกไปถึงเกาะกูดด้วยเวลาราวๆ 75 นาที ซึ่งถือว่าเร็วกว่าเรือสปีดโบ๊ทโดยสารทั่วไปที่รับส่งนักท่องเที่ยวบนเกาะกูด เรือด่วนเฟอรี่ (Fast Ferry) ของเกาะกูดเอ๊กซ์เพรสมีให้บริการในทุกฤดู ส่วนเรือสปีดโบ๊ท (Speed Boat) จะมีเฉพาะช่วงไฮ ซีซัน เท่านั้น                    

เวลาเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง

พิกัด GPS : 12°02'42.9"N 102°35'04.2"E 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ท่าเรือแหลมศอก เกาะกูดเอ็กซ์เพรส ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=311


เล่นน้ำ ดูพระอาทิตย์ตกที่เกาะกูดรีสอร์ท

             มาถึงเกาะกูดก็เป็นเวลาบ่ายคล้อยแล้ว แพลนในวันแรกของเราจึงยังไม่มีอะไรมาก นอกจากการเล่นน้ำทะเลผ่อนคลายร่างกายจากการเดินทางเป็นเวลาหลายชั่วโมง และเฝ้ารอชมแสงสุดท้ายของวันกับพระอาทิตย์ตกสวยๆ ที่เกาะกูดรีสอร์ท ซึ่งเป็นที่พักของเราสำหรับค่ำคืนนี้ด้วยนั่นเอง

             เกาะกูดรีสอร์ท (Ko Kut Resort) หลายๆ คนมาเกาะกูดก็เพราะอยากชมภาพความสวยงามของพระอาทิตย์ตกที่ทะเล ซึ่งเป็นหนึ่งในภาพที่งดงามมากที่สุดของเกาะแห่งนี้ สถานที่ที่สามารถชมพระอาทิตย์ตกได้อย่างงดงามมากๆ แห่งหนึ่งก็คือ เกาะกูดรีสอร์ท ซึ่งตั้งอยู่บนหาดบางเบ้าทางฝั่งตะวันตกของเกาะ ด้วยลักษณะที่โค้งสวยงามรูปร่างคล้ายพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวของหาดบวกกับที่ตั้งทางทิศตะวันตก ทำให้การชมพระอาทิตย์ตกที่นี่ เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ใครๆ จะต้องไม่พลาดเมื่อมาเที่ยวเกาะกูด เพราะสามารถชมพระอาทิตย์ตกได้อย่างชัดเจน สวยงาม ไร้สิ่งบดบัง นอกจากนี้บริเวณด้านหน้าเกาะกูดรีสอร์ทยังมีสะพานไม้ทอดยาวยื่นเข้าไปในทะเล นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเกาะกูดจึงนิยมมาเดินเล่น ยืนโพสต์ท่า นั่งห้อยขาถ่ายรูปกันที่สะพานแห่งนี้ โดยเฉพาะในช่วงเย็นๆ ที่พระอาทิตย์ตกซึ่งมีบรรยากาศสวยงามมาก                                                      

เวลาเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง

พิกัด GPS : 11°34'37.6"N 102°34'45.8"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พระอาทิตย์ตกที่เกาะกูดรีสอร์ท ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=322 


--- วันที่ 2 ---

(ตราด : ต้นมะค่ายักษ์, อ่าวพร้าวบีชรีสอร์ท, น้ำตกคลองเจ้า, ต้นมะพร้าวคู่ที่หาดคลองเจ้า, หมู่บ้านชาวประมง กินซีฟู๊ดที่นุชชี่ซีฟู๊ด)

             วันที่ 2 เป็นวันที่ได้ชาร์จพลังกันมาอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับแพลนการเที่ยวเกาะกูดของเราในวันนี้ที่ปักหมุดเอาไว้ทั้งหมด 5 ที่ด้วยกัน มีทั้งเที่ยวป่า น้ำตก ทะเล และหมู่บ้านชาวประมงซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านอร่อยที่เราอยากแนะนำด้วย เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาไปเริ่มที่แรกสำหรับวันนี้กันเลย


ต้นมะค่ายักษ์

 

             เส้นทางจากเกาะกูดรีสอร์ทที่พักของเรา ไปยังต้นมะค่ายักษ์ มีระยะทาง 4 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที ก็นำเรามาสู่ผืนป่าสีเขียวอันอุดมสมบูรณ์ของเกาะกูด โดยก่อนถึงต้นมะค่ายักษ์นี้จะผ่านสวนยางก่อนเข้าแนวป่า แต่ถนนเป็นเส้นทางตัดตรงและมีป้ายบอกทางชัดเจน  หาไม่ยาก

             นอกจากเกาะกูดจะเป็นเกาะที่ขึ้นชื่อในเรื่องของเกาะที่น้ำทะเลใส หาดทรายสวยแล้ว ธรรมชาติบนเกาะยังอุดมสมบูรณ์อย่างน่าทึ่ง ป่าใหญ่ ร่มรื่นเขียวขจี โดยเฉพาะพระเอกของป่าบนเกาะกูดอย่างต้นมะค่ายักษ์ (Makayuk - The Old Tree) อายุหลายร้อยปีต้นนี้ที่เมื่อใครไปเกาะกูดก็จะต้องไปเยี่ยมชมและถ่ายรูปกับคุณทวดต้นไม้ต้นนี้ ต้นมะค่ายักษ์ที่ว่านี้มีอายุอายุเก่าแก่กว่า 500 ปี ยืนตระหง่านอยู่กลางป่าที่สวยงามและเงียบสงบบนเขาดินแดงบริเวณตอนกลางของเกาะ ต้นมะค่ายักษ์บนเกาะกูดต้นนี้มีลักษณะที่น่าทึ่ง ด้วยรากขนาดใหญ่ บ่งบอกถึงอายุที่เก่าแก่หลายร้อยปีของต้นไม้ต้นนี้ นักท่องเที่ยวนิยมมายืนแหงนคอถ่ายรูปเทียบขนาดความยิ่งใหญ่ของต้นมะค่ายักษ์ที่มีความสูงกว่า 40 เมตร และใหญ่ขนาดใช้คนโอบหลายคน

เวลาเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง

พิกัด GPS : 11°39'35.6"N 102°34'19.1"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ต้นมะค่ายักษ์ ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=319


อ่าวพร้าวบีชรีสอร์ท
                                         

             จากต้นมะค่ายักษ์เรามาต่อกันที่ อ่าวพร้าวบีชรีสอร์ท   ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 14 กิโลเมตรกว่าๆ ขับรถประมาณ 28 นาทีถึง อ่าวพร้าวบีช รีสอร์ท (Ao Phrao Beach Resort) เป็นรีสอร์ทที่มีความสวยงามท่ามกลางทิวต้นมะพร้าวและชายหาดทอดยาวกว่า 800 เมตร รีสอร์ทนี้ถือเป็นหนึ่งในรีสอร์ทแห่งแรกๆ ของอ่าวพร้าวซึ่งเป็นหาดสุดท้ายบนเกาะกูด หาดทรายบริเวณอ่าวพร้าวบีช รีสอร์ททั้งสวยงาม น้ำทะเลใส ตื้น และไม่มีหิน จึงเหมาะแก่การเล่นน้ำทะเล โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเล่นน้ำทะเลแบบทั้งวัน หรือเพียงต้องการนั่งชมทะเลและพระอาทิตย์ตกเพลินๆ การมาพักที่นี่ก็นับว่าเหมาะเจาะและลงตัวมาก บ้านพักของอ่าวพร้าวบีช รีสอร์ทมีลักษณะกระท่อมเล็กๆ และมีการตกเเต่งอย่างสวยงาม แบ่งเป็นโซนต่างๆ อย่างเป็นสัดส่วนชัดเจน ท่ามกลางธรรมชาติที่สงบและสวยงาม นอกจากนี้ทะเลบริเวณด้านหน้ารีสอร์ทยังมีสะพานไม้ที่ทอดยาวไปในทะเลโดยมีตัวอักษรคำว่า Ao Phrao Beach ประดับอยู่ บรรยากาศสวยงามและโรแมนติก

เวลาเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง

พิกัด GPS : 11°35'33.2"N 102°34'08.0"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ อ่าวพร้าวบีชรีสอร์ท ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=323 


น้ำตกคลองเจ้า

             จากอ่าวพร้าวบีช รีสอร์ทเราจะไปต่อกันที่น้ำตกคลองเจ้า น้ำตกซึ่งเป็นเหมือนนางเอกผู้งดงามท่ามกลางผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ของเกาะกูด ซึ่งอยู่ห่างจากอ่าวพร้าวไปประมาณ 11 กิโลเมตร

             น้ำตกคลองเจ้า (Klong Jao Waterfall) หรือน้ำตกธารสนุก นอกจากจะเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามที่ขึ้นชื่อของเกาะกูดแล้ว ยังเป็นน้ำตกที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์กับคนเกาะกูดด้วย กล่าวกันว่าใครไปเที่ยวเกาะกูดแล้วไม่ได้ไปน้ำตกคลองเจ้าก็เท่ากับยังไปไม่ถึงเกาะกูด น้ำตกคลองเจ้าตั้งอยู่ด้านหลังอ่าวคลองเจ้า น้ำตกที่สวยงามและมีน้ำตลอดทั้งปีแห่งนี้เป็นน้ำตกขนาดกลาง ความสูงประมาณ 10 เมตร มีสายน้ำไหลผ่านผาหินลงสู่แอ่งน้ำกว้างด้านหน้า น้ำตกคลองเจ้ามีทั้งหมด 3 ชั้นด้วยกัน โดยชั้นบนสุดจะเป็นธารหิน ส่วนชั้นล่างเป็นลำธารจากน้ำตกขนาดใหญ่เหมาะแก่การเล่นน้ำ ด้านหน้ามีก้อนหินใหญ่จารึกพระปรมาภิไธยย่อ "วปร" โดยน้ำตกคลองเจ้านี้ถือได้ว่าเป็นน้ำตกประวัติศาสตร์ เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เคยเสด็จประพาสที่นี่เมื่อปีพ.ศ. 2554 และทรงพระราชทานนามว่า “น้ำตกอนัมก๊ก” เพื่อเป็นที่ระลึกถึงองค์เชียงสือ กษัตริย์ญวนที่เคยเข้ามาลี้ภัยจากการจลาจลในสมัยรัชกาลที่ 1 ทางฝั่งตะวันตกของเกาะ

เวลาเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง

พิกัด GPS : 11°38'47.9"N 102°33'22.8"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ น้ำตกคลองเจ้า ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=321


ต้นมะพร้าวคู่ที่หาดคลองเจ้า

             จากความสดชื่นของน้ำตกคลองเจ้าในช่วงบ่ายๆ พอตะวันคล้อยก็ย้ายกันมาต่อที่หาดคลองเจ้า ซึ่งอยู่ห่างกันเพียงราวๆ 2.5 กิโลเมตร  ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่เรียกว่าฮอตฮิตมากที่สุดของหาดแห่งนี้ก็คือต้นมะพร้าวคู่ เรียกว่าใครๆ มาเที่ยวเกาะกูดก็จะต้องมาถ่ายรูปต้นมะพร้าวคู่สองต้นนี้

             เชื่อว่าหนึ่งในภาพประทับใจของใครหลายๆ คนเมื่อเอ่ยถึงเกาะกูด ภาพของต้นมะพร้าวคู่ที่หาดคลองเจ้า (Twin coconut palm tree) สองต้น ซึ่งมีระยะห่างพอเหมาะพอดีและพร้อมใจกันโน้มเอนระนาบไปกับท้องทะเลมักจะเป็นภาพที่หลายๆ คนนึก ซึ่งต้นมะพร้าวคู่ที่หาดคลองเจ้านี้ถือเป็นหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของเกาะกูดที่เรามักจะได้เห็นนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเกาะกูดโพสต์รูปลงโซเชียลอยู่บ่อยๆ นอกจากต้นมะพร้าวต้นใหญ่สองต้นที่พร้อมใจกันโน้มเอนเข้าหาทะเลแล้วก็ยังมีชิงช้าไม้เรียบง่ายแต่สุดเก๋ผูกอยู่ ชวนให้ใครต่อใครอยากไปนั่งโล้ชิงช้าถ่ายรูปสวยๆ ที่นี่เป็นที่ระทึก โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิวพระอาทิตย์ตกยามเย็นตรงหน้าชิงช้านั้นเหมาะเจาะลงตัว งดงามและโรแมนติกมาก

เวลาเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง

พิกัด GPS : 11°37'58.4"N 102°32'42.4"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ต้นมะพร้าวคู่ที่หาดคลองเจ้า ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=320


อร่อยกับซีฟู้ดที่นุชชี่ซีฟู๊ด หมู่บ้านชาวประมง

             มาเที่ยวเกาะกูดทั้งทีก็ต้องกินอาหารทะเลสดและอร่อย หนึ่งในร้านดังและดีของเกาะกูดที่เราอยากนำเสนอเป็นการตบท้ายของวันนี้ก็คือ นุชชี่ ซีฟู้ด (Noochy Seafood) ที่หมู่บ้านชาวประมง ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะ ห่างจากหาดคลองเจ้าไปประมาณ 10 กิโลเมตร

             หมู่บ้านชาวประมงนี้ตั้งอยู่ในอ่าวขนาดใหญ่รูปทรงโค้งจนเกือบเป็นรูปวงกลม ซึ่งบ้านเรือนของผู้คนจะปลูกสร้างอยู่ริมทะเล มีสะพานเชื่อมต่อกันหลังแรกจนถึงหลังสุดท้าย และเรียงรายไปด้วยร้านอาหารทะเลอร่อยๆ  โดยเมื่อเดินเข้ามาในซอยบ้านริมทะเลร้านนุชชี่ ซีฟู้ดจะอยู่สุดซอย ทางร้านจะมีของทะเลสดๆ ให้เลือกไม่ว่าจะเป็น ปู กั้ง หอย กุ้ง ปลา ปลาหมึก เมื่อเลือกแล้วก็ใส่ลงในถังหน้าร้านได้เลย จากนั้นทางร้านก็จะนำสิ่งที่เราเลือกไปปรุงตามเมนูที่เราสั่ง เมนูของทางร้านก็มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งต้ม ยำ ผัด ทอด เรียกว่าครบทุกรสชาติ สำหรับใครที่เดินทางมาเที่ยวเกาะกูด แล้วต้องการทานอาหารทะเลอร่อยๆ ก็สามารถมาฝากท้องกันได้ที่นี่ ที่เรียกว่าสด อร่อย สะอาด แถมยังได้ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศสวยๆ และเป็นธรรมชาติด้วยวิถีชีวิตประมงของผู้คนบนเกาะกูดด้วย         

เวลาเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 9.30 – 21.30 น.                    

พิกัด GPS : 11°36'25.5"N 102°35'31.2"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ กินซีฟู้ดที่นุชชี่ซีฟู๊ด หมู่บ้านชาวประมง ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=324


--- วันที่ 3 ---

(ตราด : ท่าเรือเกาะกูด, ท่าเรือแหลมศอก) | (ชลบุรี : วัดญาณสังวราราม, ตลาดจีนชากแง้ว)

             วันที่ 3 ดื่มด่ำกับความสวยงามของธรรมชาติและท้องทะเลเกาะกูดกันอย่างเต็มอิ่มแล้ว วันนี้ก็ได้เวลาที่เราจะต้องโบกมือลาเกาะกูดและออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพกันแล้ว โดยเรือของเกาะกูดเอ๊กซ์เพรสจากเกาะกูดกลับไปยังท่าเรือแหลมศอกจะมีเพียงรอบเดียวคือ 13.00 น. เวลาประมาณบ่ายสองครึ่งเราก็เดินทางมาถึงท่าเทียบเรือแหลมศอก รับรถที่ฝากไว้ และมุ่งหน้าสู่กรุงเทพมหานคร แต่เดี๋ยวก่อน! ไม่ได้จะตรงดิ่งเข้ากรุงเทพฯ เลยทันที เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเที่ยว เพราะระหว่างทางสู่กรุงเทพที่เราจะต้องผ่านเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรีนั้นยังมีสถานที่อีก 2 แห่งที่น่าสนใจให้ต้องขอแวะสักหน่อยนั่นก็คือ วัดญาณสังวราราม และตลาดจีนชากแง้ว ที่จะมาช่วยเติมเต็มเราได้ทั้งอิ่มบุญและอิ่มท้องสำหรับทริปนี้


วัดญาณสังวราราม

             จากท่าเรือแหลมศอก จังหวัดตราด  เราขับรถมาเรื่อยๆ ตามทางหลวงหมายเลข 3 ที่มุ่งสู่กรุงเทพฯ ด้วยเวลาประมาณ 4 ชั่วโมงกับระยะทาง 270 กิโลเมตร เราก็มาถึงวัดญาณสังวราราม เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี

             วัดญาณสังวราราม (Wat Yanasangvararam) ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนาที่สำคัญของจังหวัดชลบุรี ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีความสำคัญทางศาสนาเท่านั้น แต่ยังมีความสวยงามวิจิตร ร่มรื่น ควรค่าแก่การแวะไปเยี่ยมชมหากมีโอกาสผ่านมาจังหวัดชลบุรี วัดญาณสังวราราม เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 366 ไร่ ที่ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี วัดแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2519 ในโอกาสที่กรุงรัตนโกสินทร์ ครบ 200 ปีแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ โดยมีสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นองค์ประธานในการจัดสร้าง โดยสร้างขึ้นเพื่อมีจุดมุ่งหมายให้เป็นสำนักปฏิบัติ ภายในบริเวณอันกว้างขวางของวัดมีสถานที่ที่สำคัญและมีความงดงามให้ชมอยู่หลายจุดด้วยกัน

เวลาเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน

พิกัด GPS : 12°47'23.1"N 100°57'31.9"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดญาณสังวราราม ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=234


ตลาดจีนชากแง้ว

             จากวัดญาณสังวรารามเราจะพาไปต่อกันที่ตลาดจีนชากแง้ว เพื่อเดินชมบรรยากาศของชุมชนคนจีนสมัยก่อนและหาของอร่อยๆ รับประทานก่อนที่ล้อจะหมุนตรงเข้ากรุงเทพฯ ซึ่งตลาดจีนชากแง้วนี้อยู่ห่างจากวัดญาณสังวรารามเพียง 7 กิโลเมตรเท่านั้น ขับรถราวๆ 10 นาทีก็ถึง

             ตลาดจีนชากแง้ว (Chak Ngaew Chinese Market) ตั้งอยู่ในชุมชนชากแง้ว อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เป็นชุมชนชาวจีนแต้จิ๋วแผ่นดินใหญ่ที่อพยพมาตั้งรกรากที่นี่เป็นเวลานานกว่า 100 ปีมาแล้ว จุดเด่นของที่นี่คือบ้านเรือนและวิถีชีวิตแบบจีนโบราณที่ยังคงหลงเหลืออยู่และได้รับการจัดการและส่งเสริมค่อนข้างดีเพื่อให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมประเพณี ในอดีตอาชีพหลักๆ ของคนที่ชากแง้วคือทำการเกษตร โดยเฉพาะการปลูกมันสำปะหลังซึ่งทำกันเยอะถึงขนาดที่มีโรงงานโม่แป้งอยู่มากถึง 20 แห่งด้วยกัน ปัจจุบันชุมชนชากแง้ว ได้รับการปรับปรุงและส่งเสริมให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งของจังหวัด ผู้คนนิยมเดินทางมาเที่ยวเพื่อสัมผัสกับความเป็นอยู่และวัฒนธรรมจีนโบราณ ถ่ายรูปที่มีฉากหลังเป็นบ้านเรือนตึกแถวไม้เก่าเรียงรายอย่างมีเสน่ห์ ซึ่งภายในตลาดจีนชากแง้วนั้นก็เต็มไปด้วยของกินอร่อยๆ มากมายที่เห็นแล้วยากจะหักห้ามใจ บวกกับบรรยากาศรอบๆ แบบชุมชนชาวจีนโบราณที่ส่งให้อะไรๆ ก็ดูเหมือนจะอร่อยไปหมด

เวลาเปิด - ปิด : เปิดทุกวันเสาร์ โดยถนนคนเดินจะมีตั้งแต่เวลาประมาณ 15.00 – 21.00 น.

พิกัด GPS : 12°49'55.0"N 100°58'00.9"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ตลาดจีนชากแง้ว ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=232 

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง ประเทศไทย

อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด (Khao Laem Ya - Mu Koh Samet National Park) เป็นอุทยานแห่งชาติชายฝั่งทะเลอ่าวไทยที่ครอบคลุมพื้นที่บนฝั่งและในทะเลประกอบด้วย สถานที่อันมีชื่อเสียงอย่างเกาะเสม็ด หรือเกาะแก้วพิสดาร หาดแม่รำพึง และเขาแหลมหญ้าที่เป็นจุดเช็คอินยอดฮิตของนักท่องเที่ยว พื้นที่ของอุทยานครอบคลุมเกาะใกล้ชายฝั่ง 8 เกาะ และเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติอีก 3 เส้นทาง ซึ่งในแต่ละเส้นทางมีพันธุ์ไม้นานาชนิดให้ได้ชมกันอย่างเพลิดเพลิน

อ่านต่อ

18 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในจังหวัดชลบุรี ประเทศไทย

ชลบุรี… นอกจากจะมีทะเลสวยหาดทรายขาวแล้ว ยังมีที่สถานที่ท่องเที่ยวอีกหลากหลายรูปแบบ เรียกว่าเที่ยวครบจบในจังหวัดนี้ด้วยความเพลิดเพลินและอิ่มเอมกันอย่างแน่นอน palanla ได้รวบรวม 18 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ห้ามพลาดเมื่อไปเที่ยวชลบุรีมาฝากกัน!

อ่านต่อ

สะพานปลาอ่างศิลา จังหวัดชลบุรี ประเทศไทย

สะพานปลาอ่างศิลา (Ang Sila Fish Market) ตลาดจำหน่ายอาหารทะเลสดๆ รวมถึงอาหารทะเลแปรรูปและของฝากจากชลบุรีที่เต็มไปด้วยสีสันและราคาย่อมเยา

อ่านต่อ

One Day Trip ชลบุรี โอ้ทะเลแสนงาม…สำราญตลาดจีน

มีเวลาแค่หนึ่งวัน แต่อยากเที่ยวทะเลที่หาดทรายขาวๆ น้ำเป็นสีฟ้าใส และผู้คนไม่พลุกพล่านได้อารมณ์แบบเกาะส่วนตัว และก็ยังอยากดื่มด่ำกับบรรยากาศของตลาดโบราณสุดคึกคัก ละลานตาไปด้วยของกิน ให้ได้เดินชิม เดินถ่ายรูปกันเพลินๆ คุณนึกถึงที่ไหน?... ชลบุรีคือคำตอบที่เราภูมิใจนำเสนอ ครั้งนี้ Palanla จะชวนแพลนทริปวันเสาร์ ออกจากกรุงเทพฯ แต่เช้า นั่งเรือข้ามไปเที่ยวเกาะแสมสาร กลับมาแวะเที่ยวอ่าวดงตาล แล้วปิดท้ายด้วยตลาดจีนชากแง้วตอนเย็นๆ กันค่ะ

อ่านต่อ

อ่าวดงตาล จังหวัดชลบุรี ประเทศไทย

อ่าวดงตาล (Dong Tarn Beach) เป็นหาดที่สวยงามโค้งมนไปตามขอบอ่าวสัตหีบ มีบรรยากาศสงบๆ ผู้คนไม่พลุกพล่าน โดดเด่นและร่มรื่นด้วยต้นตาลที่เรียงรายเป็นทิวแถวตามแนวชายหาด เหมาะสำหรับการมานั่งเล่น ปิกนิกและชมเรือใบในทะเล เพราะที่นี่เป็นบริเวณที่ใช้ฝึกซ้อมเรือใบนั่นเอง

อ่านต่อ

หาดพัทยา จังหวัดชลบุรี ประเทศไทย

หาดพัทยา (Pataya Beach) เป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของเมืองพัทยา และเรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางกิจกรรมทางทะเลสำหรับผู้ที่มาพักผ่อน

อ่านต่อ

ศาลเจ้าแม่สามมุข จังหวัดชลบุรี ประเทศไทย

ศาลเจ้าแม่สามมุข (Chaomae Sam Muk Shrine) เป็นศาลเจ้าที่ชาวบางแสนให้ความเคารพศรัทธา รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าและชาวประมง โดยก่อนที่ชาวประมงจะออกเรือมักมากราบไหว้ขอพรที่ศาลเจ้าแม่สามมุขเพื่อให้เดินทางอย่างปลอดภัย และด้านบนเขายังเป็นจุดที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของทะเลบางแสนได้สวยงามด้วย

อ่านต่อ

ศาลเจ้าแม่กวนอิม วัดเกาะลอยศรีมหาราชา จังหวัดชลบุรี ประเทศไทย

ศาลเจ้าแม่กวนอิม วัดเกาะลอยศรีมหาราชา (Kuan Yim Shrine at Wat Koh Loi Sri Maha Racha) ศาลเจ้าแม่กวนอิมองค์สีทองแห่งเล็กๆ อายุเก่าแก่กว่า 100 ปี บริเวณทางขึ้นวัดเกาะลอยศรีมหาราชา ที่ชาวศรีราชาเคารพศรัทธาและเชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องของความรัก ความสัมพันธ์ และเมตตา

อ่านต่อ

วัดเขาตะแบก สกายวอล์ก จังหวัดชลบุรี ประเทศไทย

วัดเขาตะแบก สกายวอล์ก (Wat Khao Tabaek Sky Walk) เป็นสะพานกระจกความสูงกว่า 25 เมตร ที่สามารถมองเห็นวิวธรรมชาติรอบๆ ได้กว้างไกล ซึ่งนอกจากได้ชมความงามของทัศนียภาพโดยรอบวัดเขาตะแบกแล้ว ยังสามารถเดินขึ้นเขาไหว้พระ ทำบุญได้ด้วย

อ่านต่อ

วัดเกาะลอยศรีมหาราชา จังหวัดชลบุรี ประเทศไทย

วัดเกาะลอยศรีมหาราชา (Wat Koh Loi Sri Maha Racha) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดชลบุรีที่เหมาะสำหรับการมาทำบุญและพักผ่อนในเวลาเดียวกัน เพราะริมทะเลที่บรรยากาศสวยงามแห่งนี้คือที่ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิมหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยนั่นเอง

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ