- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ จังหวัดสุพรรณบุรี ประเทศไทย
พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ จังหวัดสุพรรณบุรี ประเทศไทย
- อ่าน (5,890)
- ByWebmaster
- 14:20:00 | 15 ม.ค. 2564
พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ จังหวัดสุพรรณบุรี ประเทศไทย
A Rock Buddha, Suphan Buri, Thailand
พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ (A Rock Buddha) หรือ หลวงพ่ออู่ทอง เป็นพระพุทธรูปแกะสลักกับหน้าผาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและอาเซียน หนึ่งในสถานที่ที่ไม่ควรพลาดของจังหวัดสุพรรณบุรี
ประวัติ
พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ หรือ หลวงพ่ออู่ทอง พระพุทธรูปแกะสลักกับหน้าผาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและอาเซียน เป็นพระพุทธรูปปางโปรดพระพุทธมารดา หรือ ปางกตัญญูกตเวที ขนาดหน้าตักกว้าง 25 เมตร สูง 35 เมตร แกะสลักอยู่กับหน้าผาของภูเขาใกล้กับวัดเขาทำเทียม ต.อู่ทอง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี
หน้าผาที่เกิดจากการระเบิดหินแห่งนี้มีเนื้อที่โดยรอบกว่า 100 ไร่ หลังหมดสัมปทานได้ถูกปล่อยไว้เป็นที่รกร้างกลายเป็นที่ทิ้งขยะและเป็นที่มั่วสุมเสพยา จนกระทั่งพระธรรมพุทธิมงคล (เจ้าคุณสอิ้ง) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี ได้มองหาสถานที่เพื่อสร้างพุทธมณฑลประจำจังหวัดได้มาพบสถานที่แห่งนี้ จึงได้ทำเรื่องขอใช้สถานที่จากกรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติฯ เพื่อใช้ประโยชน์ทางด้านพระพุทธศาสนา
การก่อสร้างพุทธมณฑลประจำจังหวัดสุพรรณบุรีเพื่อใช้เป็นอุทยานทางพระพุทธศาสนา และให้เป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนาประจำจังหวัดเริ่มทำการสร้างเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2557 - 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 โดยหน้าผาของเขาทำเทียมได้แกะสลักให้เป็นพระพุทธรูปที่มีลักษณะลอยนูน เป็นพระพุทธรูปที่มีความสวยงาม โดดเด่น ซึ่งนอกจากความสวยงามแล้วยังเป็นประธานและเป็นหัวใจหลักของอุทยานทางพระพุทธศาสนาแห่งนี้ด้วย ส่วนหน้าผาโดยรอบเป็นภาพแกะสลักเรื่องราวสำคัญทางพระพุทธศาสนาเพื่อให้ประชาชนได้ศึกษาหาความรู้ด้วย
ทั้งนี้ เขาทำเทียมและภูผามังกรบิน เขตโบราณสถานเมืองอู่ทอง อ.อู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นเขตพื้นที่ที่กรมศิลปากรยืนยันว่า เป็นจุดเริ่มต้นของการเผยแพร่พระพุทธศาสนาในดินแดนสุวรรณภูมิ และหลักฐานทางโบราณคดียังมีข้อพิสูจน์ว่า พระเจ้าอโศกมหาราชแห่งอินเดียได้ส่งพระธรรมทูตออกเผยแผ่พระพุทธศาสนา 9 สาย โดยสายที่ 8 ส่งทรงพระโสณะและพระอุตตรเถระ เข้ามาดินแดนสุวรรณภูมิเมื่อต้นพุทธศตวรรษที่ 3 ซึ่งก็ปรากฏร่องรอยพระพุทธศาสนาในอู่ทอง นอกจากนี้พระเจ้าอโศกยังสร้างวัดวาอารามไว้เป็นจำนวนมาก รวมถึงวัดปุษยคีรีสังฆาราม ในแคว้นกลิงคะ และประจวบกับชื่อมาพ้องกับจารึก “ปุษยคีรี” ตามหลักฐานจารึกศิลา "ปุษยคีรี" และธรรมจักรบนยอดเสาอโศกที่บริเวณภูเขาใกล้กับวัดเขาทำเทียม ใกล้ๆ กับที่สลักพระ จึงมีความเป็นไปได้ว่าชื่อจารึกนั้นมาจากพระธรรมทูตทั้งสองที่ได้นำชื่อบ้านเมืองของท่านมาสลักไว้ก็อาจเป็นได้
พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ หรือ หลวงพ่ออู่ทอง เป็นพระพุทธรูปแกะสลักกับหน้าผาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและอาเซียน
พระพุทธรูปปางโปรดพุทธมารดา เป็นพระพุทธรูปในอิริยาบถประทับนั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ซ้ายวางหงายบนพระเพลา (ตัก) บางแบบวางบนพระชานุ (เข่า) พระหัตถ์ขวายกขึ้นเสมอพระอุระ (อก) จีบนิ้วพระหัตถ์
รอบๆ หน้าผาเป็นภาพสลักเรื่องราวสำคัญทางพระพุทธศาสนาเพื่อให้ประชาชนได้ศึกษาหาความรู้
(ภาพซ้าย) แสดงเหตุการณ์ธรณีสูบ (ภาพขวา) แสดงเหตุการณ์โปรดพระนนท์
(ภาพซ้าย) แสดงเหตุการณ์การประสูติ (ภาพขวา) แสดงเหตุการณ์ราชาภิเษก
(ภาพซ้าย) แสดงเหตุการณ์การอธิษฐานบาตร (ภาพขวา) แสดงเหตุการณ์ปฐมเทศนา
การเดินทางไปยังตัวเมืองจังหวัดสุพรรณบุรี
- รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดสุพรรณบุรี มีระยะทาง 105 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที
- รถไฟ (Train) จากสถานีรถไฟหัวลำโพงไปสถานีรถไฟจังหวัดสุพรรณบุรี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 36 นาที
การเดินทางไปพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ
พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ที่ตำบลอู่ทอง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี โดยอยู่ห่างจากตัวจังหวัดสุพรรณบุรีประมาณ 35 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ 40 นาที ไม่มีรถสาธารณะไปถึง ต้องเดินทางโดยรถส่วนตัวเท่านั้น
เวลาทำการเปิด – ปิด
เปิดทุกวัน เวลา 7.00 - 18.00 น.
อัตราค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าเข้าชม
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ
ชมความงดงามและสักการะพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิเพื่อความเป็นสิริมงคล และศึกษาหาความรู้จากภาพแกะสลักเรื่องราวสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่อยู่โดยรอบหน้าผา
บรรยากาศของประชาชนที่มาเที่ยวพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิกำลังปิดทองที่องค์พระพุทธรูป
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
สามารถเดินทางไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ จังหวัดสุพรรณบุรี ประเทศไทย
(A Rock Buddha, Suphan Buri, Thailand)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 7.00 - 18.00 น.
ตั้งอยู่ที่ : ตำบลอู่ทอง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี
โทรศัพท์ : (+66) 083 618 7830
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/A.Rock.Buddha
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com
ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวในสุพรรณบุรี http://www.tatsuphan.net
ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
น้ำตกไทรโยคใหญ่ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย
น้ำตกไทรโยคใหญ่ (Sai Yok Yai Waterfall) เปรียบเสมือนอัญมณีแห่งเมืองกาญจนบุรี ด้วยความงามของม่านน้ำอันยิ่งใหญ่ที่ไหลรินลงมาจากหน้าผาสูงและกลายเป็นสายน้ำที่ทอดยาว รายล้อมไปด้วยป่าไม้ร่มรื่น ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของจังหวัดกาญจนบุรี
อ่านต่อต้นจามจุรียักษ์ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย
ต้นจามจุรียักษ์ (Giant Monkey Pod Tree) อายุกว่า 100 ปี ที่ยืนตระหง่าน แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาแก่ผู้คนที่มาพักผ่อนหย่อนใจ คืออีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองกาญจนบุรีในปัจจุบัน
อ่านต่อคู่มือการดำเนินการตามกระบวนการเคลมประกันรถยนต์ฉบับสมบูรณ์
การมีส่วนร่วมในอุบัติเหตุทางรถยนต์หรือประสบความเสียหายต่อยานพาหนะของคุณอาจเป็นประสบการณ์ที่ตึงเครียดและท่วมท้น อย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจขั้นตอนการเคลมประกันรถยนต์สามารถช่วยบรรเทาความวิตกกังวลและแก้ไขปัญหาได้ราบรื่นยิ่งขึ้น
อ่านต่อสวนสาธารณะเทศบาลโพธาราม จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย
สวนสาธารณะเทศบาลโพธาราม (Muang Photharam Municipal Public Park) เป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ริมเขื่อนแม่น้ำแม่กลองในอำเภอโพธาราม ภายในสวนมีบรรยากาศร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่ และยังมีส่วนของจุดชมวิว สนามหญ้า ทางวิ่งออกกำลังกาย ลานกีฬา เครื่องออกกำลังกาย และสนามเด็กเล่น สวนสาธาณะแห่งนี้เหมาะกับคนทุกวัยที่ต้องการมาเดินเล่น พักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกาย และชมวิวแม่น้ำแม่กลองที่เป็นแม่น้ำสายหลักของจังหวัดราชบุรี และที่นี่ยังใช้เป็นสถานที่จัดงานกิจกรรมและงานประเพณีต่างๆ ของเมืองโพธารามอีกด้วย
อ่านต่อพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี (Ratchaburi National Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์จากการใช้ศาลากลางหลังเก่าของจังหวัดราชบุรีมาก่อตั้งขึ้นเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อาคารแห่งนี้เป็นอาคารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามและอยู่คู่กับจังหวัดราชบุรีมาอย่างนาวนาน และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติอีกด้วย ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรีมีนิทรรศการท้องถิ่นที่น่าสนใจของจังหวัดราชบุรีให้เที่ยวชม โดยจัดแสดงเรื่องราวทางสภาพภูมิศาสตร์และธรรมชาติวิทยา ประวัติศาสตร์และโบราณคดี ชนเผ่าชาติพันธุ์วิทยา มรดกทางธรรมชาติและวัฒนธรรม และบุคคลสำคัญ ไปจนถึงคลังโบราณวัตถุที่หาชมได้ยากตั้งแต่เครื่องปั้นดินเผาไปจนถึงพระพุทธรูปในยุคต่างๆ
อ่านต่อน้ำตกเก้าชั้น จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย
น้ำตกเก้าชั้น (Kaew Chan Waterfalls) เป็นน้ำตกกลางหุบเขาที่มีความสูง 9 ชั้น โดยแต่ละชั้นมีความสวยงามแตกต่างกันไป ชั้นที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดคือบริเวณชั้นที่ 6 น้ำตกเก้าชั้นสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะมีน้ำไหลทุกฤดูกาล โดยจะมีน้ำมากที่สุดและสวยที่สุดในช่วงฤดูฝน เพราะจะมองเห็นสายน้ำตกสีขาวขนาดใหญ่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงท่ามกลางป่าไม้อันเขียวขจีและเสียงของน้ำตก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่งของอำเภอสวนผึ้ง
อ่านต่อตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย
ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก (Lao Tuk Luck Floating Market) เป็นตลาดน้ำแห่งแรกของจังหวัดราชบุรีที่ก่อตั้งขึ้นมาก่อนตลาดน้ำดำเนินสะดวก มีลักษณะเป็นตลาดน้ำขนาดย่อมที่ตั้งอยู่บนเรือนไม้ริมน้ำที่ชุมชนชาวไทย-จีนอาศัยอยู่ ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลักมีบรรยากาศเรียบง่ายและคลาสสิก แต่มีความพลุกพล่านน้อยกว่าตลาดน้ำดำเนินสะดวก การเดินทางก็แสนง่าย แค่เพียงแค่ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำจากฝั่งตลาดน้ำดำเนินสะดวกมายังฝั่งตรงข้าม ก็จะได้พบกับเรือนไม้โบราณของชุมชนชาวจีนและลำคลองที่ตัดผ่าน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอาหารทานง่ายอร่อยๆ ให้เลือกมากมาย และมีมุมถ่ายรูปสวยๆ ให้เก็บความประทับใจ นอกจากนี้ในวันหยุดจะมีเสียงดนตรียุค 80 คลอเคล้าสร้างความเพลิดเพลินในการเดินตลาดอีกด้วย
อ่านต่อตลาดน้ำอโยธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย
ตลาดน้ำอโยธยา (Ayothaya Floating Market) ตลาดน้ำที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองเก่าแห่งนี้
อ่านต่อวัดราชบูรณะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย
วัดราชบูรณะ (Wat Ratchaburana) อนุสรณ์สถานแห่งการแย่งชิงราชบัลลังค์ เป็นอีกหนึ่งในวัดที่ใหญ่ และเก่าแก่มากที่สุดในพระนครศรีอยุธยา สร้างโดยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 หรือ เจ้าสามพระยา เมื่อปี พ.ศ. 1967
อ่านต่อวัดมเหยงคณ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย
วัดมเหยงคณ์ (Wat Mahaeyong) อดีตพระอารามหลวง และกลายเป็นวัดร้างไปภายหลังกรุงศรีอยุธยาแตกเมื่อ พ.ศ. 2310 ปัจจุบันวัดแห่งนี้ยังทำหน้าที่เป็นสถานปฏิบัติธรรม ใจกลางโบราณสถานที่เก่าแก่ของอยุธยาอีกด้วย
อ่านต่อ