- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- พระราชวังบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย
พระราชวังบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย
- อ่าน (8,412)
- ByWebmaster
- 10:28:25 | 25 พ.ย. 2563
พระราชวังบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย
Bang Pa In Palace, Ayutthaya Province, Thailand
พระราชวังบางปะอิน (Bang Pa In Palace) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์แห่งสำคัญที่แม้จะผ่านกาลเวลามาแล้วยาวนาน ทว่ายังคงความงดงาม และน้อยคนนักจะพลาดเมื่อไปเที่ยวจังหวัดอยุธยา
ประวัติ
พระราชวังบางปะอินเป็นพระราชวังโบราณที่สร้างขึ้นสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง และยังมีบทบาทเป็นพระราชวังฤดูร้อนสำหรับพระมหากษัตริย์กรุงศรีอยุธยาเรื่อยมาจนกระทั่งเสียกรุงศรีฯ ให้แก่พม่า หลังจากการเสียกรุงพระราชวังบางปะอินก็ได้ถูกปล่อยให้รกร้าง และกลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้งเมื่อครั้งสุนทรภู่ ซึ่งได้ตามเสด็จรัชกาลที่ 1 ไปนมัสการพระพุทธบาทสระบุรี และได้ประพันธ์ถึงพระราชวังบางปะอินไว้ในนิราศพระบาท
จนกระทั่งในสมัยรัชกาลที่ 4 จึงได้เริ่มมีการบูรณะพระราชวัง และได้มีการบูรณะครั้งใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยได้สร้างพระที่นั่ง พระตำหนัก และตำหนักต่างๆ ขึ้นเพื่อใช้เป็นที่ประทับรับรองพระราชอาคันตุกะและพระราชทานเลี้ยงในโอกาสต่างๆ รวมถึงพระที่นั่งซึ่งมีความโดดเด่นอย่างพระที่นั่งไอศวรรย์ทิพย์อาสน์ ซึ่งเป็นปราสาทอยู่กลางสระด้วย โดยพระที่นั่งหลังเดิมนั้นสร้างด้วยเครื่องไม้ทั้งองค์ ต่อมารัชกาลที่ 6 ทรงโปรดให้เปลี่ยนเสาและพื้นเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กทั้งหมด
ปัจจุบัน พระราชวังบางปะอินอยู่ในความดูแลของสำนักพระราชวัง และยังใช้เป็นสถานที่แปรพระราชฐานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ รวมถึงประกอบพระราชพิธีสังเวยพระป้าย ทั้งนี้ได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าชมได้
พื้นที่ของพระราชวังบางปะอิน แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ เขตพระราชฐานชั้นนอก และเขตพระราชฐานชั้นใน
เขตพระราชฐานชั้นนอก ประกอบด้วย
หอเหมมณเฑียรเทวราช
- หอเหมมณเฑียรเทวราช หรือ ศาลพระเจ้าปราสาททอง มีลักษณะเป็นปรางค์ศิลาจำลองแบบจากปรางค์ขอม ภายในประดิษฐานเทวรูปพระเจ้าปราสาททอง ตั้งอยู่ ณ ริมสระน้ำใต้ต้นโพธิ์
พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์
- พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ เป็นพระที่นั่งทรงปราสาท จำลองมาจากพระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาทในพระบรมมหาราชวัง รัชกาลที่ 6 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระบรมรูปหล่อสำริดของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขนาดเท่าพระองค์จริงในฉลองพระองค์เต็มยศจอมพลทหารบก เพื่อนำมาประดิษฐาน ณ พระที่นั่งองค์นี้จนถึงปัจจุบัน
สภาคารราชประยูร
- สภาคารราชประยูร เป็นตึก 2 ชั้น ตั้งอยู่ริมน้ำ ใช้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอฯ ในรัชกาลที่ 5 สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ และเจ้านายฝ่ายหน้า ปัจจุบันใช้เป็นที่แสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชวังบางปะอิน
กระโจมแตร
- กระโจมแตร เป็นกระโจมขนาดกลางแบบ Gazebo สร้างในสมัยรัชกาลที่ 6 ตั้งอยู่เยื้องกับพระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์
- เรือนแพพระที่นั่ง เป็นเรือนแพแบบไทยสร้างด้วยไม้สักทอง หลังคามุงด้วยจาก ภายในจัดแบ่งห้องเป็นสัดส่วนรัชกาลที่ 5 ทรงใช้เป็นที่ประทับในการเสด็จประพาสต้นและทรงสำราญพระอิริยาบถทางน้ำ โดยพระองค์เคยประทับเรือนแพพระที่นั่ง ไปทรงรับพระราชชายาเจ้าดารารัศมีจากเมืองเชียงใหม่ด้วย
- พระที่นั่งวโรภาษพิมาน เป็นอาคาร 2 ชั้น ศิลปะแบบคอรินเทียนออร์เดอร์ รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่เสด็จออกว่าราชการและใช้เป็นที่ประทับ ปัจจุบันพระที่นั่งองค์นี้ยังใช้เป็นที่ประทับแรมของพระบรมวงศ์เมื่อเสด็จแปรพระราชฐานมาประทับ ณ พระราชวังบางปะอิน
เขตพระราชฐานชั้นใน ประกอบด้วย
พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร
- พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร เป็นพระที่นั่งองค์ประธานของพระราชวังบางปะอิน เดิมเป็นเรือนไม้ 2 ชั้น ทาสีเขียวอ่อนและเขียวแก่สลับกัน เป็นที่ประทับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดปรานมากที่สุดโดยได้เสด็จแปรพระราชฐานมาประทับบางคราวถึงสามครั้งต่อปี เมื่อปี พ.ศ. 2481 เกิดไฟไหม้พระที่นั่ง และในปี พ.ศ.2537 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 จึงได้ขอพระบรมราชานุญาตให้สร้างพระที่นั่งองค์นี้ขึ้นมาใหม่ เพื่อเป็นที่ประทับในการเสด็จแปรพระราชฐานและรับรองพระราชอาคันตุกะ
หอวิฑูรทัศนา
- หอวิฑูรทัศนา ใช้เป็นที่ทอดพระเนตรโขลงช้างป่า และภูมิประเทศโดยรอบพระราชวัง เป็นหอสูง 3 ชั้น ทาสีเหลืองสลับแดง
พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ
- พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ เป็นพระที่นั่งองค์สุดท้ายที่สร้างขึ้น มีรูปแบบสถาปัตยกรรมจีน เป็นพระที่นั่งที่สร้างขึ้นโดยชาวสยามเชื้อสายจีนฮากกาเพื่อถวายแด่รัชกาลที่ 5 และพระที่นั่งองค์นี้ยังใช้ประกอบพระราชพิธีสังเวยพระป้ายจนถึงปัจจุบัน
หมู่พระตำหนักฝ่ายใน
- หมู่พระตำหนักฝ่ายใน เป็นอาคารที่มีสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกชั้นเดียวและสองชั้นตั้งเรียงรายกัน แต่ในปัจจุบัน ได้มีการรื้อตำหนักบางส่วนลง
อนุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์
- อนุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ เป็นอนุสาวรีย์ที่รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ซึ่งสวรรคตในระหว่างการเสด็จแปรพระราชฐานทางเรือพระที่นั่งมายังพระราชวังบางปะอิน โดยมีจารึกคำไว้อาลัยเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษที่ทรงพระราชนิพนธ์ด้วยพระองค์เอง
ประตูเทวราชครรไล
- ประตูเทวราชครรไล เดิมเรียกว่า ประตูเทวราชดำรงศร ตั้งอยู่แนวกำแพงด้านใต้ ลักษณะเป็นอาคารตึกชั้นเดียว อาคารโค้งครึ่งวงกลม ใช้เป็นเส้นทางสำหรับเสด็จฯ ผ่านเข้าเขตพระราชฐานชั้นใน ปัจจุบันใช้จัดนิทรรศการ
- อนุสาวรีย์ราชานุสรณ์ ในปี พ.ศ.2430 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเศร้าโศกเสียพระทัยเป็นอย่างยิ่งอีกครั้ง ด้วยทรงสูญเสียพระอัครชายาเธอฯ และพระราชโอรสและพระธิดาถึง 3 พระองค์ในคราวเดียวกัน
- เก๋งบุปผาประพาส เรือนสีชมพูสร้างขึ้นในรัชกาลที่ 5 ทรงใช้เป็นที่พักผ่อนพระราชอิริยาบถภายในพระราชอุทยาน
การเดินทางไปจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจากกรุงเทพมหานคร
- รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีระยะทาง 80 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที
- รถไฟ (Train) การเดินทางโดยรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที
การเดินทางไปพระราชวังบางปะอิน
พระราชวังบางปะอินอยู่ห่างจากตัวเมืองพระนครศรีอยุธยาประมาณ 22 กม. มีบริการรถสองแถวสาย อยุธยา – บางปะอิน วิ่งจากตัวเมืองอยุธยาไปยังบางปะอิน ราคาประมาณ 30 บาท ใช้เวลาเดินทาง 50 นาที
เวลาทำการเปิด – ปิด
เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00 น. หมายเหตุ เวลาจำหน่ายบัตร 08.00 – 16.00 น.)
ป้ายทางเข้า
อัตราค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก นักเรียน นักศึกษา 20 บาท นักท่องเที่ยวต่างชาติ 100 บาท
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวพระราชวังบางปะอิน
ชมความสวยงามสถาปัตยกรรมส่วนต่างๆ ของพระราชวังบางปะอิน ทั้งเขตพระราชฐานชั้นนอก และเขตพระราชฐานชั้นใน
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้
นักท่องเที่ยวควรแต่งกายด้วยชุดสุภาพ และขณะเข้าชมไม่ควรส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่น
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม พระราชวังบางปะอิน สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
พระราชวังบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย
(Bang Pa In Palace, Ayutthaya Province, Thailand)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก นักเรียน นักศึกษา 20 บาท นักท่องเที่ยวต่างชาติ 100 บาท
เวลาเปิด – ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00 น. หมายเหตุเวลาจำหน่ายบัตร 08.00 – 15.30 น.)
ตั้งอยู่ที่ : 27 ม.8 อุดมสรยุทธิ์ ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา
โทรศัพท์ : (+66) 035 261 044
เว็บไซต์ : -
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com
เว็บไซต์จังหวัดอยุธยา http://ww2.ayutthaya.go.th/frontpage
เฟซบุ๊คการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยประจำจังหวัดอยุธยา https://www.facebook.com/TatAyutthaya/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
พิจิตร จังหวัดเล็กๆ ที่ซ่อนเสน่ห์เอาไว้มากมาย และไม่ได้มีแค่บึงสีไฟเพียงอย่างเดียว เพราะเมืองชาละวันแห่งนี้มีทั้งธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ วัดวาอารามเก่าแก่ และวิถีชีวิตของผู้คนท้องถิ่นที่น่าสนใจ บทความนี้ Palanla จะพาไปเปิดมุมมองใหม่กับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนพิจิตร
อ่านต่อวัดหิรัญญาราม (วัดบางคลาน) จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
วัดหิรัญญาราม (Wat Hiranyaram) หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันดีในชื่อ วัดบางคลาน (Wat Bang Khlan) เป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากแห่งหนึ่งของจังหวัดพิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นที่รู้จักจาก หลวงพ่อเงิน พระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่มีผู้คนให้ความเคารพนับถืออย่างมาก
อ่านต่ออุทยานเมืองเก่าพิจิตร จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
อุทยานเมืองเก่าพิจิตร (Pichit Historical Park) เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัด เชื่อกันว่าเดิมทีบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของเมืองพิจิตรเก่า
อ่านต่อวัดนครชุม จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
วัดนครชุม (Wat Nakhon Chum) หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า "วัดใหญ่" ตั้งอยู่ที่ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เป็นวัดเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย โดยเคยเป็นวัดสำคัญของเมืองพิจิตรในอดีต
อ่านต่อวัดเขารูปช้าง จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
วัดเขารูปช้าง (Wat Khao Rup Chang) อีกหนึ่งวัดเก่าแก่ของจังหวัดพิจิตรที่สร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา บนยอดเขาที่มีหินสีขาวซ้อนกันเป็นรูปช้างคุกเข่าโดดเด่นด้วยเจดีย์แบบลังกา ประดับกระเบื้องเคลือบสีทองทั้งองค์
อ่านต่อทุ่งดอกกระเจียวยักษ์บ้านเขาโล้น จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
ทุ่งดอกกระเจียวยักษ์บ้านเขาโล้น (Giant Siam Tulip Field Baan Khao Loan) ตั้งอยู่ที่ตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน เมื่อดอกกระเจียวสีชมพูบานสะพรั่งทั่วทั้งทุ่ง
อ่านต่อตลาดย่านเก่าวังกรด จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
ตลาดย่านเก่าวังกรด ( Yan Kao Wang Krot Market) ตลาดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ณ ย่านเก่าวังกรด จังหวัดพิจิตร เป็นแหล่งรวมอาหารอร่อยที่เรียงรายด้วยสถาปัตยกรรมอาคารไม้เก่าแก่สวยงาม พร้อมทั้งหอนาฬิกาที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของชุมชน
อ่านต่อน้ำตกไทรโยคใหญ่ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย
น้ำตกไทรโยคใหญ่ (Sai Yok Yai Waterfall) เปรียบเสมือนอัญมณีแห่งเมืองกาญจนบุรี ด้วยความงามของม่านน้ำอันยิ่งใหญ่ที่ไหลรินลงมาจากหน้าผาสูงและกลายเป็นสายน้ำที่ทอดยาว รายล้อมไปด้วยป่าไม้ร่มรื่น ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของจังหวัดกาญจนบุรี
อ่านต่อต้นจามจุรียักษ์ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย
ต้นจามจุรียักษ์ (Giant Monkey Pod Tree) อายุกว่า 100 ปี ที่ยืนตระหง่าน แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาแก่ผู้คนที่มาพักผ่อนหย่อนใจ คืออีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองกาญจนบุรีในปัจจุบัน
อ่านต่อคู่มือการดำเนินการตามกระบวนการเคลมประกันรถยนต์ฉบับสมบูรณ์
การมีส่วนร่วมในอุบัติเหตุทางรถยนต์หรือประสบความเสียหายต่อยานพาหนะของคุณอาจเป็นประสบการณ์ที่ตึงเครียดและท่วมท้น อย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจขั้นตอนการเคลมประกันรถยนต์สามารถช่วยบรรเทาความวิตกกังวลและแก้ไขปัญหาได้ราบรื่นยิ่งขึ้น
อ่านต่อ