- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- เขื่อนคุโรเบะ จังหวัดโทยามะ ประเทศญี่ปุ่น
เขื่อนคุโรเบะ จังหวัดโทยามะ ประเทศญี่ปุ่น
- อ่าน (4,690)
- By Webmaster
- 09:03:11 | 30 พ.ย. 2562
เขื่อนคุโรเบะ จังหวัดโทยามะ ประเทศญี่ปุ่น
Kurobe Dam, Toyama, Japan
ทางเดินบนยอดเขื่อน
เขื่อนคุโรเบะ (Kurobe Dam) เขื่อนคอนกรีตทรงโค้งที่สูงที่สุดของญี่ปุ่นแห่งนี้ คือเขื่อนพลังงานไฟฟ้าจากน้ำที่สำคัญของภูมิภาคคันไซ ซึ่งแวดล้อมไปด้วยพื้นที่ทางธรรมชาติอันสวยงาม และเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมพื้นที่ต่างๆ ของเขื่อนแบบจัดเต็ม ทั้งทางเดินบนยอดเขื่อน ลานชมวิว จุดชมการปล่อยน้ำออกจากเขื่อน และกิจกรรมล่องเรือทะเลสาบคุโรเบะ
แผนที่ตั้ง เขื่อนคุโรเบะ จังหวัดโทยามะ ประเทศญี่ปุ่น
ประวัติ
ทัศนียภาพทางธรรมชาติโดยรอบเขื่อน
เขื่อนคุโรเบะ (Kurobe Dam) หลังประสบความพ่ายแพ้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นเข้าสู่การแข่งขันทางอุตสาหกรรมระดับโลกอย่างเต็มตัว เพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้ประเทศกลับมาอยู่ในระดับแนวหน้าของเวทีโลกอีกครั้ง โดยเขื่อนคุโรเบะนับเป็นสิ่งก่อสร้างที่เป็นหน้าตาสำคัญในการแสดงถึงศักยภาพบุคลากรของตัวเอง ที่พร้อมกลับขึ้นมาเป็นประเทศที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันระดับต้นๆ ของโลกอีกครั้ง ซึ่งจุดกำเนิดของเขื่อนคุโรเบะมาจากบริษัทคันไซ อิเล็คทริค พาวเวอร์ (Kansai Electric Power) ผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าสำหรับใช้งานทั่วภูมิภาคคันไซ ที่ก่อตั้งขึ้นมาในปี ค.ศ. 1951 ประสบปัญหาภัยแล้งที่ร้ายแรงจนต้องมีการปันส่วนพลังงานไปใช้ในพื้นที่ขาดแคลน ประจวบกับการเติบโตอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมในประเทศ ทำให้บริษัทต้องหาหนทางในการเพิ่มปริมาณการผลิตไฟฟ้าให้สูงขึ้น เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งานของคนในภูมิภาค และฐานการผลิตอุตสาหกรรมที่ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทางออกของปัญหามาจบอยู่ที่ผลการวิจัยทางธรณีวิทยากับอุทกวิทยาของทะเลสาบคุโรเบะ (Kurobe Lake) ที่ศึกษากันมาอย่างต่อเนื่องจนได้ข้อสรุปว่าจะมีการสร้างเขื่อนพลังงานไฟฟ้าจากกระแสน้ำของทะเลสาบ โดยเริ่มก่อสร้างครั้งแรกในปี ค.ศ. 1956 แต่ก็ประสบปัญหาการขนส่งวัสดุและเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการก่อสร้างไปยังเขื่อน เพราะมีเพียงทางรถไฟขนาดเล็กที่แล่นผ่านช่องเขาแคบๆ บริษัทจึงทำการสร้างอุโมงค์ที่ทอดผ่านใต้ภูเขาอะคาซาว่า (Mt.Akazawa) ที่มีความยาวถึง 5.4 กิโลเมตร และช่วยให้การก่อสร้างเขื่อนรุดหน้าไปได้รวดเร็วมากขึ้น โดยปัจจุบันอุโมงค์แห่งนี้ถูกเปลี่ยนเป็น สถานีคุโรเบะ (Kurobe Station) ที่ทำหน้าที่พานักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมเขื่อนกันหนาแน่นทุกวัน
อุโมงค์ของเขื่อน
หลังปัญหาด้านการขนส่งได้รับการแก้ไข เขื่อนคุโรเบะก็พร้อมเปิดใช้งานอย่างเต็มรูปแบบในปี ค.ศ. 1963 ใช้เวลาในการสร้างไป 7 ปี กับงบประมาณการก่อสร้าง 142.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และจากข้อจำกัดทางด้านวิศวกรรมในสมัยนั้น ทำให้มีการสูญเสียคนงานไปในระหว่างการก่อสร้างถึง 171 คน และหลายชีวิตต้องใช้ชีวิตอยู่ในอุโมงค์ใต้ดินชื้นแฉะที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าศูนย์องศา ก่อนจะกลายมาเป็นเขื่อนพลังงานไฟฟ้าจากน้ำซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ภาคอุตสาหกรรมหลักของประเทศสามารถเดินหน้าไปได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด และกลายเป็นเขื่อนทรงโค้ง (Arch Dam) ที่มีขนาดใหญ่และสูงที่สุดของประเทศญี่ปุ่น กับความสูง 186 เมตร ความยาว 492 เมตร ความกว้างของยอดเขื่อน 8.1 เมตร ความกว้างของฐานเขื่อน 39.7 เมตร สามารถรับหรือปล่อยกระแสน้ำภายในเขื่อนได้ที่ความเร็ว 32,000 ลูกบาศก์ฟุต / วินาที ส่วนตัวอ่างเก็บน้ำของเขื่อนสามารถจุน้ำได้มากถึง 260,655,168 ลูกบาศก์ฟุต และหัวใจหลักของเขื่อนอย่างโรงไฟฟ้าที่ติดตั้งอยู่ใต้ดินก็ประกอบไปด้วยเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจำนวนสี่เครื่อง รวมพลังการผลิตไฟฟ้าอยู่ที่ 335 เมกะวัตต์ (MW) เฉลี่ยแล้วสามารถปล่อยพลังงานไฟฟ้าได้มากถึง 1 พันล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง (KH) ต่อปี
ความคดเคี้ยวของทะเลสาบคุโรเบะ
ปัจจุบันเขื่อนคุโรเบะที่ทอดยาวข้ามทะเลสาบคุโรเบะเป็นแนวโค้งแห่งนี้ ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดโทยามะ และเป็นจุดแวะพักหลักของเส้นทางท่องเที่ยวเทือกเขาเจแปนแอลป์ทาเตยามะ-คุโรเบะ (Tateyama-Kurobe Alpine Route) อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ – โดยด้านตะวันออกของเขื่อนจะมีดาดฟ้าชมวิวที่มีความสูงถึง 1,508 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งอยู่ด้านบนสถานีคุโรเบะ (Kurobe Dam) ที่นักท่องเที่ยวสามารถชมทัศนียภาพอันสวยงามของเทือกเขาเจแปนแอลป์ตอนเหนือ และสถาปัตยกรรมอันน่าทึ่งของเขื่อนคุโรเบะได้อย่างชัดเจน มีโซนพลาซ่าที่แสดงประวัติความเป็นมาของเขื่อนคุโรเบะผ่านผังข้อมูล รูปภาพ ฉากน่าจดจำจากภาพยนตร์เกี่ยวกับการสร้างเขื่อนคุโรเบะ ในช่วงมิ.ย. – ต.ค. ทางเขื่อนจะมีการปล่อยมวลน้ำมหาศาล(10ตัน/วินาที) ที่จะสะท้อนกับแสงแดดเกิดเป็นสายรุ้งเส้นยาว นับเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวนิยมมารอชมกันมากที่สุด และมีกิจกรรมล่องเรือทะเลสาบคุโรเบะที่อยู่สูงขึ้นมาจากระดับน้ำทะเลถึง 1,448 เรียกว่าเป็นเขื่อนที่มีเรื่องราวน่าสนใจ ทั้งยังตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ทางธรรมชาติที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดโทยามะเลยทีเดียว
โครงสร้างคอนกรีตขนาดใหญ่ของเขื่อน
สายน้ำที่กว้างไกลและทอดยาวของทะเลสาบคุโรเบะ
การเดินทางจากสถานีขนส่งสาธารณะหลักของเมืองต่างๆ มายัง Tateyama Station / Shinano Omachi
เขื่อนคุโรเบะจะตั้งอยู่ในพื้นที่ของเทือกเขาแอลป์ตอนเหนือ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถมาที่เขื่อนได้จากทั้งสองฝั่งไม่ว่าจะเป็นสถานีทาเตยามะ (Tateyama Station) หรือสถานีชินาโนะ โอมาซิ (Shinano Omachi)
สถานีทาเตยามะ (Tateyama Station)
Tokyo Station จากสถานีให้ขึ้นรถไฟสาย Hokuriku Shinkansen ไปลงที่สถานี Toyama Station แล้วต่อรถไฟสาย Toyama Chihou Railway มาลงที่สถานี Tateyama Station รวมระยะทางประมาณ 440 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง
Shin-Osaka Station จากสถานีให้ขึ้นรถไฟสาย JR Thunderbird ไปลงที่สถานี Kanazawa Station แล้วต่อรถไฟสาย Hokuriku Shinkansen มาลงที่สถานี Toyama Station และขึ้นรถไฟสาย Toyama Chihou Railway มาลงที่สถานี Tateyama Station รวมระยะทางประมาณ 400 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4.50 ชั่วโมง
Nagoya Station จากสถานีให้ขึ้นรถไฟสาย Hida Line ไปลงที่สถานี Toyama Station แล้วต่อรถไฟสาย Toyama Chihou Railway มาลงที่สถานี Tateyama Station รวมระยะทางประมาณ 300 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5.30 ชั่วโมง
สถานีชินาโนะ โอมาซิ (Shinano Omachi Station)
Shinjuku Station จากสถานีให้ขึ้นรถไฟสาย Chuo Line ไปลงที่สถานี Matsumoto Station แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย Oito Line เพื่อไปลงที่สถานี Shinano Omachi รวมระยะทางประมาณ 250 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง
Shin-Osaka Station จากสถานีให้ขึ้นรถไฟสาย Tokaido-Sanyo Shinkansen ไปลงที่สถานี Nagoya Station แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย Shinano Line ไปลงที่สถานี Matsumoto Station และเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย Oito Line เพื่อไปลงที่สถานี Shinano Omachi รวมระยะทางประมาณ 400 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4.22 ชั่วโมง
Nagoya Station จากสถานีให้ขึ้นรถไฟสาย Shinano Line ไปลงที่สถานี Matsumoto Station และเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย Oito Line เพื่อไปลงที่สถานี Shinano Omachi รวมระยะทางประมาณ 250 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.32 ชั่วโมง
การเดินทางจากสถานีทาเตยามะ (Tateyama Station) / สถานีชินาโนะ โอมาซิ (Shinano Omachi) ไปยังเขื่อนคุโรเบะ
เขื่อนคุโรเบะจะตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างสถานีคุโรเบะโกะและสถานีคุโรเบะ
Tateyama Station ให้ขึ้นรถรางไปยังที่ราบสูงบิโจไดระ (Bijodaira) ต่อรถบัสจากที่นี่ไปยังไดคันโบะ และนั่งรถกระเช้าจากที่นี่ลงมายังที่ราบคุโรเบะไดระ (Kurobedaira) แล้วนั่งรถรางต่อไปยังคุโรเบะโกะ (Kurobeko)ซึ่งจะอยู่ฝั่งตะวันตกของเขื่อน รวมระยะทางประมาณ 35 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.19 ชั่วโมง
Shinano Omachi สามารถขึ้นรถบัสตรงมายังเขื่อนคุโรเบะได้เลย แต่ต้องเปลี่ยนสายรถบัสที่ Ogisawa Station มาลงที่สถานีคุโรเบะซึ่งจะอยู่ทางฝั่งตะวันออกของเขื่อน รวมระยะทางประมาณ 24 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 56 นาที
เวลาเปิด-ปิดทำการ
เปิดตลอดเวลา
ราวกั้นของทางเดินบนยอดเขื่อน
อัตราค่าเข้าชม
เข้าชมฟรี / เรือเที่ยวชมทะเลสาบคุโรเบะ ผู้ใหญ่ 1,100 – เด็ก 550 เยน
ทิวทัศน์อันสบายตาของพื้นที่ทางธรรมชาติบริเวณเขื่อน
เวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว
เส้นทางท่องเที่ยวตามพื้นที่ที่อยู่บริเวณเทือกเขาเจแปนแอลป์ตอนเหนือส่วยใหญ่จะเปิดในช่วง กลางเดือนเม.ย. – พ.ย. และขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นหลักด้วย โดยจะปิดในช่วง ธ.ค. – เม.ย. ซึ่งเป็นช่วงที่มีหิมะตกหนัก ทำให้เส้นทางสัญจรมีสภาพเปียกชื้นตลอดเวลา
เทือกเขาที่ปกคลุมไปด้วยแมกไม้บริเวณเขื่อน
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว เขื่อนคุโรเบะ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
เขื่อนคุโรเบะ จังหวัดโทยามะ ประเทศญี่ปุ่น
(Kurobe Dam, Toyama, Japan)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอดเวลา
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : กลางเดือนเม.ย. – พ.ย.
สถานที่ตั้ง : จังหวัดโทยามะ, ประเทศญี่ปุ่น
โทรศัพท์ : -
เว็ปไซต์ : https://www.kurobe-dam.com/
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/eng/
เว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดโทยามะ https://foreign.info-toyama.com/
เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/
เว็บไซต์การเดินทางขนส่งมวลชนของประเทศญี่ปุ่น http://www.hyperdia.com/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจาง – ดาลัด ประเทศเวียดนาม
หากอยากสัมผัสบรรยากาศเมืองชายทะเลสุดคึกคักอากาศอบอุ่น แล้วไปผ่อนคลายในเมืองแห่งภูเขาอากาศเย็นสบายที่เวียดนามใต้ ญาจางและดาลัดคือคำตอบ! สองเมืองนี้จะพาคุณดื่มด่ำไปกับธรรมชาติที่งดงาม วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์และกิจกรรมที่หลากหลาย Palanla ได้รวบรวมเอา 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจางและดาลัดมาให้แล้วในบทความนี้
อ่านต่ออาสนวิหารญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
อาสนวิหารญาจาง (Christ the King Cathedral Nha Trang) หรือ โบสถ์หินญาจาง สุดยอดสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบโรมัน ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใจกลางเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม อายุเกือบร้อยปีแห่งนี้ เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กของเมือง ด้วยผนังหินสีน้ำตาลเข้มที่สลักเสลาอย่างวิจิตรบรรจง และหลังคาสูงชะลูดที่ดูอลังการ ตัดกับท้องฟ้าสีคราม ทำให้โบสถ์แห่งนี้กลายเป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว
อ่านต่อหาดญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หาดญาจาง (Nha Trang Beach) เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดของประเทศเวียดนาม ด้วยชายรูปร่างเหมือนพระจันทร์เสี้ยว ความยาวกว่า 6 กิโลเมตรที่โอบล้อมอ่าวญาจาง ในจังหวัดหวัดคั้ญฮวา ท่ามกลางภูมิทัศน์โดยรอบที่สวยงามของอาคารสถาปัตยกรรมสำคัญๆ มากมาย
อ่านต่อหอคอยแตร่มเฮือง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หอคอยแตร่มเฮือง (Tram Huong Tower) สัญลักษณ์และจุดเช็กอินยอดนิยมของหาดญาจางในปัจจุบัน
อ่านต่อวินเพิร์ลแลนด์ เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วินเพิร์ลแลนด์ (Vinpearl Land) เป็นสวนสนุกและรีสอร์ตหรูครบวงจรระดับโลกที่เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม มีจุดเด่นอยู่ที่ทำเลที่ตั้งที่สวยงามติดทะเล และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์สำคัญของการไปเที่ยวที่นี่คือ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลก
อ่านต่อวัดลองเซิน เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วัดลองเซิน (Long Son Pagoda) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “วัดพระใหญ่” เป็นวัดพุทธมหายานเก่าแก่ และใหญ่ที่สุดของเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม นอกจากความสวยงามอลังการของตัววัดแล้ว จากยอดเขายังสามารถมองเห็นวิวของเมืองญาจางและทะเลได้อย่างสวยงาม
อ่านต่อวัดตั๊กลัม เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
วัดตั๊กลัม (Truc Lam Monastery of Da Lat) เป็นวัดพุทธในนิกายเซนบนยอดเขาเฟืองฮว่าง นอกจากภายในบริเวณวัดจะมีสิ่งก่อสร้างที่สวยงาม ยังมีการจัดตกแต่งภูมิทัศน์โดยรอบด้วยสวนดอกไม้สดสวย ถือเป็นวัดที่งดงามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดในดาลัด
อ่านต่อน้ำตกดาตันลา เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
น้ำตกดาตันลา (Datanla Waterfall) ไม่เพียงแต่เป็นน้ำตกที่สวยงาม แต่ยังซ่อนเรื่องราวตำนานพื้นเมืองของดาลัดที่น่าสนใจเอาไว้ นอกจากสัมผัสความเย็นฉ่ำของละอองน้ำที่กระเซ็นจากม่านน้ำตกแล้ว ยังมีกิจกรรมสนุกๆ คือการนั่งรถรางลัดเลาะไปตามเส้นทางที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันเขียวขจี
อ่านต่อเจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
เจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก (Linh Phuoc Pagoda) วัดศาสนาพุทธนิกายเซนในดาลัด โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ ตัวอาคารทำจากเศษกระเบื้องเคลือบงดงามวิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปปั้นมังกรขนาดใหญ่ที่พันรอบองค์พระเจดีย์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวัด
อ่านต่อฮาจิ เลน ประเทศสิงคโปร์
ตรอกฮาจิ หรือ ฮาจิ เลน (Haji Lane) ถนนสายเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยสีสันและความมีชีวิตชีวาในย่านกัมปง กลาม (Kampong Glam) ของสิงคโปร์ เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นในฐานะแหล่งรวมร้านค้าบูติก ร้านอาหาร คาเฟ่ และศิลปะบนท้องถนนที่น่าสนใจ ฮาจิ เลน ไม่เพียงแค่เป็นถนนสายช้อปปิ้ง แต่ยังเป็นเหมือนแกลเลอรี่กลางแจ้งที่แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และวัฒนธรรมที่หลากหลายของสิงคโปร์อีกด้วย
อ่านต่อ