- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- การเช่าและใช้รถยนต์ในประเทศญี่ปุ่น
การเช่าและใช้รถยนต์ในประเทศญี่ปุ่น
- อ่าน (3,063)
- By Webmaster
- 15:01:17 | 6 ก.ย. 2562
การเช่าและใช้รถยนต์ในประเทศญี่ปุ่น
Japan Rent a Car
ขอบคุณภาพจาก Toyota Rent a Car
ญี่ปุ่นถือเป็นหนึ่งในประเทศที่นักท่องเที่ยวชาวไทย นิยมมาที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เพราะเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย ทำให้มักจะมีราคาตั๋วเครื่องบินสุดคุ้มค่าออกมาให้เลือกจองกันอยู่เสมอ ซึ่งในแต่ละปี ประเทศญี่ปุ่นมีการเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวไทยเข้ามาเยอะมาก แต่ด้วยความที่เป็นประเทศพัฒนาแล้ว จึงมีความพร้อมทั้งด้านระบบขนส่งสาธารณะ หน่วยงานที่คอยซับพอร์ตนักท่องเที่ยว ฯลฯ และแน่นอนว่าการเช่ารถยนต์ก็เป็นหนึ่งในบริการที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวสูง แม้จะต้องยอมรับว่าด้วยปัจจัยต่างๆ ทำให้การเลือกเช่ารถยนตร์ ยังเป็นทางเลือกรองจากการใช้ระบบขนส่งสาธารณะที่มีคุณภาพของญี่ปุ่น แต่ก็นับเป็นเรื่องน่าสนใจ และให้ประสบการณ์ในการเดินทางท่องเที่ยว ที่แตกต่างจากการท่องเที่ยวโดยใช้ระบบขนส่งสาธารณะแน่นอน
การเช่ารถยนตร์ขับในประเทศญี่ปุ่น
รถเช่าส่วนใหญ่จะมีบัตร ETC สำหรับการขึ้นทางด่วนให้อยู่แล้วเพื่อสะดวกต่อการใช้งานเวลาขึ้นทางด่วน
การจองรถยนต์สามารถทำได้ง่ายๆ ผ่านเว็บไซต์ของบริษัทให้เช่ารถ แต่สิ่งที่จะต้องเตรียมให้พร้อมที่สุด วันไปรับรถยนต์นอกจากใบยืนยันการจอง ก็คือใบขับขี่สากลนั่นเอง รวมถึงใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลที่เตรียมไปเผื่อเจ้าหน้าที่เรียกตรวจคู่กับใบขับขี่สากลด้วยก็ดี
- ใบขับขี่สากล กระบวนการขอใบขับขี่สากลในบ้านเรานั้นง่ายมาก แค่เตรียม สำเนาหนังสือเดินทาง, สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล, รูปถ่าย 2 นิ้ว (เอกสารทุกใบต้องมีฉบับจริงแนบไปด้วย) แล้วนำเอกสารทั้งหมดไปยื่นขอได้ที่สำนักงานขนส่งใกล้บ้านได้เลย ซึ่งราคาล่าสุด ในการยื่นเรื่องขอใบขับขี่สากลของบ้านเราตอนนี้อยู่ที่ 505 บาท
เอกสารที่บอกรายละเอียดเกี่ยวกับกฎจราจรต่างๆ ที่ใช้กันในประเทศญี่ปุ่น
- เว็บไซต์สำหรับจองรถยนต์ ปัจจุบันมีบริษัทเช่ารถยนต์ให้เลือกใช้บริการมากมาย ซึ่งแต่ละเจ้าก็มีจุดขายที่แตกต่างกันไป อย่าง TOYOTA Rent a Car มีการคิดค่าบริการเป็นรายชั่วโมง, มีสาขาครอบคลุมทั่วเมือง / JR Hokkaido Rent a Car มีจุดบริการรับ-ส่งคืนรถอยู่ใกล้สถานีรถไฟทั่วไป และยังมีบริษัทเช่ารถยนต์อื่นๆ อีกหลายแห่งที่ให้บริการอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ทำให้นักท่องเที่ยวมีทางเลือกหลากหลาย ในการเลือกเช่ารถยนต์ที่ตรงตามความต้องการใช้งานมากที่สุด
ขอบคุณภาพจาก Toyota Rent a Car
- ขั้นตอนการจองรถยนต์ผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทรถเช่า โดยพื้นฐานแล้ว ขั้นตอนการจองก็ใส่ข้อมูลมาตรฐานทั่วไป เช่นรายละเอียดของผู้จอง, จุดรับรถ-คืนรถ ฯลฯ จะมีก็แค่อุปกรณ์เสริมที่แตกต่างกันไป อย่างเช่นการเพิ่มวงเงินประกันเดินทาง เป็นต้น โดยขั้นตอนการจองก็จะแตกต่างกันไป ตามวิธีการ และเงื่อนไขผู้ให้บริการเช่ารถยนต์แต่ละแห่ง ซึ่งพื้นฐานแล้ว จะมีขั้นตอนการจองคล้ายกันดังนี้
1. สถานที่รับรถ โดยผู้เช่าสามารถเลือกจุดรับรถได้ทั้งจากสนามบิน สถานีรถไฟสายหลักของเมืองนั้นๆ หรือสาขาที่กระจายตัวอยู่ตามหัวเมืองต่างๆ ของจังหวัดก็ยังได้ แล้วก็กรอกวันที่ และเวลาที่ต้องการรับรถ อย่างกรณีของ Toyota Rent a Car ก็จะมีรถรับส่งระหว่างสนามบินกับจุดรับรถไว้บริการผู้เช่าด้วย
2. จุดรับรถ ซึ่งเราสามารถคืนจุดเดียวกับที่เรารับรถ หรือคนละสาขากับที่เรารับรถก็ได้ แน่นอนว่าจุดเช่ารถส่วนใหญ่ของผู้ให้บริการเช่ารถยนต์ ล้วนตั้งอยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยว สถานีขนส่งสาธารณะ เพื่อเพิ่มความสะดวก สบายสำหรับผู้ใช้งานที่ทำการจองเอาไว้มากที่สุด แต่ด้วยความที่ประเทศญี่ปุ่นมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่ง สถานีขนส่งสาธารณะที่ครอบคลุมทั่วพื้นที่ ทำให้มีจุดรับและคืนรถยนต์หลายที่มากๆ จนบางทีอาจจะทำให้ผู้ใช้งานสับสนได้ เวลาจะรับหรือคืนรถยนต์ที่ทำการเช่ามา จึงควรเช็กสาขาที่นัดหมายกับทางผู้ให้บริการเอาไว้อย่างละเอียด รวมถึงวันที่ และเวลาที่คืนรถที่เรานัดหมายกับบริษัทผู้ให้เช่าไว้
3. ประเภทรถยนต์ที่ต้องการเช่า ขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งานของผู้เช่า โดยบริษัทให้เช่ารถส่วนใหญ่ก็จะมีประเภทรถยนตร์ให้เลือกใช้งานหลายประเภทอยู่แล้ว ทั้งรถขนาดเล็ก รถแวน รถหรู ฯลฯ แล้วก็ไปสู่ขั้นตอนการกรอกข้อมูลประกันความเสียหายของรถยนต์ และอุปกรณ์เสริมต่างๆ เช่น คาร์ซีท ที่กฎหมายญี่ปุ่นบังคับว่าต้องมีหากมีผู้โดยสารภายในรถเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี เป็นต้น
4. ราคาและข้อมูลของลูกค้า เป็นส่วนที่จะแสดงรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่ผู้เช่าจะต้องทำการชำระ โดยส่วนนี้ เมื่อเราตรวจสอบว่าข้อมูลทุกอย่างถูกต้อง ก็ทำการชำระเงิน แล้วกดยืนยัน เท่านี้ก็จะได้เอกสารแสดงรายละเอียดต่างๆ ของผู้เช่า ทั้งใบนัดรับรถ ใบยืนยันการชำระเงิน ฯลฯ
รถตู้รับส่งจากสนามบินไปยังจุดรับรถของบริษัทเช่ารถ TOYOTA Rent a Car
คู่มือแนะนำการใช้รถยนต์ขั้นพื้นฐาน ที่บริษัทรถเช่าส่วนใหญ่จะมีเตรียมไว้ให้เสมอ
การใช้รถยนต์ในประเทศญี่ปุ่น
พื้นที่จอดรถส่วนใหญ่ในประเทศญี่ปุ่นจะแบ่งโซนจอดตามประเภทรถยนตร์ชัดเจน
ประเทศญี่ปุ่นขับรถยนต์ฝั่งเดียวกับบ้านเรา ทำให้ง่ายต่อการปรับตัว ไม่ต้องกังวลเรื่องระบบภายในของรถยนต์ และด้วยระบบการบริหารจัดการบ้านเมืองที่มีคุณภาพทำให้ ความเคารพกฎระเบียบของคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ ทำให้มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยในการขับขี่รถยนต์บนท้องถนน แต่ด้วยความที่สภาพสังคม ที่เอื้อประโยชน์ให้กับระบบขนส่งมวลชน มากกว่ารถยนต์ส่วนบุคคล ทำให้ต้องยอมรับกันต้นทุนด้านการใช้งานที่สูง แต่แน่นอนว่าจะได้ความสะดวก สบายที่มากกว่าการใช้ระบบขนส่งสาธารณะปกติ
- จุดพักรถ นอกจากจะมีถนน หนทาง ที่มีคุณภาพ ครอบคลุมเส้นทางสำคัญทั่วประเทศ แล้ว ประเทศญี่ปุ่นยังมีจุดพักรถที่รองรับผู้สัญจรไปมาบนท้องถนนหลายจุด ยิ่งเป็นสายโทรเวย์ หรือเส้นข้ามเมืองไกลๆ ญี่ปุ่นจะมีจุดแวะพักแบบครบวงจร คอยบริการอยู่ตลอดทาง
ป้ายบอกระยะทางที่เหลือก่อนจะถึงจุดแสะพักรถครั้งต่อไป
ร้านอาหารส่วนใหญ่ในพื้นที่ของจุดพักรถจะเป็นอาหารกินง่ายเพื่อความสะดวกสบายของนักเดินทาง
- ที่จอดรถ ค่าใช้จ่ายที่สิ้นเปลืองที่สุด สำหรับการใช้รถยนต์ในประเทศญี่ปุ่น คงหนีไม้พ้นค่าที่จอดรถ โดยเป็นที่ทราบกันดีว่าประเทศญี่ปุ่นมีขนาดเล็ก ยิ่งเมื่อเที่ยบกับโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศที่ใหญ่โต และมีการแข่งขันสูง ทำให้ราคาที่ดินในประเทศ โดยเฉพาะตามหัวเมืองใหญ่ๆ มีราคาสูง จึงเป็นเหตุผลให้ราคาที่จอดรถในประเทศญี่ปุ่นมีราคาแพงมาก ยิ่งพื้นที่จอดตรงนั้นใกล้สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม หรือแหล่งทำเงินสำคัญมากเท่าไหร ราคาค่าจอดก็ยิ่งสูงขึ้นตามลำดับ
- ขั้นตอนการจ่ายค่าจอดรถยนต์กับเครื่องจ่ายเงินค่าที่จอดรถยนต์อัตโนมัติ
1. ดูหมายเลยแท่นล็อกรถของเรา แล้วไปกดหมายเลขที่ว่าบนเครื่องจ่ายค่าที่จอดรถอัตโนมัติ
2. จอแสดงผลของเครื่องจะคิดราคาค่าที่จอดรถที่เราต้องจ่าย และทำการจ่ายเงินให้ครบตามที่เครื่องบอก
3. หลังจากชำระเงินเรียบร้อย แท่นล็อกรถจะปลดล็อกอัตโนมัติ รอรับใบเสร็จ และเงินทอนแล้วเตรียมนำรถยนต์ของเราออกได้เลย
แท่นล็อกรถที่จะมีกลไกเปิดขึ้นมาล็อกช่วงล่างของรถที่เข้ามาจอดโดยอัตโนมัติ
หน้าจอแสดงผลของเครื่องจ่ายค่าที่จอดรถอัตโนมัติ
เครื่องจ่ายเงินเพื่อปลดล็อกแท่นล็อกรถเวลาจะนำรถออกจากที่จอดรถ
ขอบคุณข้อมูลจาก TOYOTA Rent a Car
ป้ายแสดงอัตราค่าบริการในการจอดรถบนพื้นที่ซึ่งมีการคิดค่าจอด
- เครื่องมือนำทาง หนึ่งในอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้เวลาเดินทางท่องเที่ยวในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย คงหนีไม่พ้นเครื่องมือนำทาง โดยระบบ GPS ที่ให้มาในรถเช่าส่วนใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นนั้นจะถูกตั้งให้ระบุพิกัดสถานที่ซึ่งต้องการจะไปด้วยหมายเลขโทรศัพท์ของสถานที่นั้น ทำให้บางครั้งก็ยากสำหรับคนต่างชาติ ในการจะไปหาข้อมูลตรงนี้ การใช้โทรศัพท์ของเราในการระบุตำแหน่ง GPS น่าจะสะดวกต่อการใช้งานมากกว่า รวมไปถึงการเตรียมอุปกรณ์เสริมอย่างพวกแท่นยึดโทรศัพท์หน้ารถเพื่อความปลอดภัยปลอดภัยในการศึกษาเส้นทางระหว่างการขับมากที่สุด
- กฎจราจรในประเทศญี่ปุ่น การขับรถในประเทศญี่ปุ่นจะเน้นเลนส์ซ้ายเป็นหลัก มีความเร็วจำกัดตามกฎหมายคือ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บนถนนปกติ และ 100กิโลเมตรต่อชั่วโมงบนทางด่วน หมายเลขฉุกเฉิน สำหรับใช้ติดต่อ หากเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ของประเทศญี่ปุ่นคือ 110 (ตำรวจจราจร) และหากมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ควรโทร 119 (สถานพยาบาล) ด้วย
- ปั๊มน้ำมันในประเทศญี่ปุ่น ในประเทศญี่ปุ่นจะมีปั๊มน้ำมันให้เลือกอยู่สองประเภท คือแบบมีพนักงานคอยบริการ กับบริการตัวเอง ซึ่งวิธีการเติมก็เหมือนปั๊มน้ำมันทั่วไป โดยชนิดของน้ำมัน ในปั๊มน้ำมันของประเทศญี่ปุ่นนั้น มีสามประเภทคือ พรีเมียม (95), ธรรมดา (91), ดีเซล
- นักท่องเที่ยวแบบไหนที่เหมาะสำหรับการเช่ารถยนตร์ในประเทศญี่ปุ่น ด้วยความที่การใช้รถเช่าในประเทศญี่ปุ่นมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ทำให้เหมาะสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มากันเป็นครอบครัว หรืออาจจะมากับกลุ่มเพื่อนหลายคนมากกว่า นักท่องเที่ยวที่มาคนเดียว หรือเหมาะกับการเช่าในบางพื้นที่ซึ่งระบบขนส่งสาธารณะยังไม่ครอบคลุม อย่างภูมิภาคฮอกไกโด ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ยังมีความเป็นชนบท การเช่ารถยนตร์จึงตอบโจทย์มากกว่า
เว็บไซต์บริษัทรถเช่ายอดนิยมในประเทศญี่ปุ่น
TOYOTA Rent a Car : https://rent.toyota.co.jp/th/
JR Hokkaido Rent a Car : https://www.jrh-rentacar.jp/phpapp/english_web/index.php
JR Rent a Car : https://www.ekiren.co.jp/phpapp/en/
ToCoo! : https://www2.tocoo.jp/en
Nippon Rent–A-Car : https://www.nrgroup-global.com/en/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
สะพานโจกากุระ โอฮาชิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น
สะพานโจกากุระ โอฮาชิ (Jogakura Ohashi Bridge) ในเทือกเขาฮักโกดะทางตอนใต้ในเมืองอาโอโมริ เป็นสะพานแขวนคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งแรกของญี่ปุ่น และยังถือเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของตัวสะพานแล้ว สะพานโจกากุระ โอฮาชิยังขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
อ่านต่อพระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น
พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ (Showa Daibutsu Seiryu-Ji) หรือ พระพุทธรูปไดบุทสึแห่งยุคโชวะ เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ความสูง 21.35 เมตร น้ำหนัก 77 ตันที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ
อ่านต่อตลาดปลาอาอูกะ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น
ตลาดปลาอาอูกะ (Auga Fresh Market) ศูนย์กลางจำหน่ายอาหารทะเลสดใหม่จากท่าเรืออาโอโมริ ที่เป็นเหมือนครัวของเมืองนี้และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาด
อ่านต่อรูปปั้นโมอาย ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น
รูปปั้นโมอาย (Moai) เป็นรูปปั้นหินซึ่งมีรูปร่างคล้ายมนุษย์และส่วนศีรษะมีขนาดใหญ่เด่นชัด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว เป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงาม และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซัปโปโร
อ่านต่อตลาดปลานิโจ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น
ตลาดปลานิโจ (Nijo Fish Market) เป็นตลาดปลาขนาดใหญ่ในเมืองซัปโปโรที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 100 ปี ตลาดแห่งนี้โด่งดังจากอาหารทะเลสดใหม่หลากหลายชนิด ร้านอาหาร และบรรยากาศที่คึกคัก เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวสำคัญของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวซัปโปโรจะต้องไม่พลาด
อ่านต่อชิโตเสะเอาท์เล็ตมอลล์ เรระ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น
ชิโตเสะเอาท์เล็ตมอลล์ เรระ (Chitose Outlet Mall Rera) หนึ่งในเอาท์เล็ตมอลล์ขนาดใหญ่และได้รับความนิยมมากที่สุดบนเกาะฮอกไกโด ซึ่งอยู่ห่างจากสนามบิน New Chitose Airport เพียง 10 นาที
อ่านต่อคลองโอตารุ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
คลองโอตารุ (Otaru Canal) เคยเป็นศูนย์กลางการค้าทางทะเลที่สำคัญของฮอกไกโดในอดีต ปัจจุบันยังคงมีอาคารเก่าแก่เรียงรายริมคลอง สะท้อนภาพวิถีชีวิตในอดีตให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส
อ่านต่อเนินแห่งพระพุทธเจ้า ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น
เนินแห่งพระพุทธเจ้า (Hill of the Buddha) สถานที่ท่องเที่ยวอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของซัปโปโร โดดเด่นด้วยเศียรของพระรูปที่โผล่พ้นเนินเขาขึ้นมา ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณเดียวกันกับรูปปั้นหินโมอาย (Moai Statue) ฉายา “สโตนเฮนจ์แห่งฮอกไกโด”
อ่านต่ออามาโนะฮาชิดาเตะ พาร์ค จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
อามาโนะฮาชิดาเตะ พาร์ค (Amanohashidate Park) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของสันทรายอามาโนะฮาชิดาเตะ ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดติด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นมาเป็นเวลานาน และมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ภายในอามาโนะฮาชิดาเตะเรียงรายไปด้วยทิวของต้นสน ทางเดินทอดยาว มีสะพานอันเป็นแลนด์มาร์กสำคัญ ตลอดจนศาลเจ้าให้แวะสักการบูชา
อ่านต่อวัดซันจูซันเก็นโด จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
วัดซันจูซันเก็นโด (Sanjusanjen-do Temple) เป็นวัดพุทธนิกายเท็นได ที่ตั้งอยู่ในย่านฮิกาชิยามะ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ตัววัดมีชื่อเสียงโดดเด่นด้วยองค์เจ้าแม่กวนอิมปางค์ประทานพร (Senju Kannon) จำนวน 1,001 องค์ ประดิษฐานอยู่ภายในวิหารไม้ยาว 120 เมตร ซึ่งถือเป็นวิหารไม้ที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น
อ่านต่อ