7 สิ่งสำคัญเมื่อเดินทางต่างประเทศ

7 Essential Accessories for Travelling Abroad

           การเตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศนั้นเป็นสิ่งสำคัญ และการเตรียมตัวที่พร้อมย่อมช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างไร้ความกังวล Palanla.com ได้รวบรวมลิสต์สิ่งของ 7 อย่างที่นักท่องเที่ยวควรพกติดตัวเมื่อเดินทางไปต่างประเทศมาฝากกันในบทความนี้

1. Roaming/ซิมการ์ดสำหรับใช้ต่างประเทศ

           เป็นสิ่งแรกๆ ที่เราต้องใช้งานเมื่อก้าวลงจากเครื่องบิน เรียกว่าจำเป็นต้องใช้ก่อนเงินเสียอีก ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานอินเทอร์เน็ตเพื่อตรวจสอบเส้นทางจากสนามบินไปยังที่พัก หรือเพื่อติดต่อกับคนในครอบครัวเพื่อให้ทราบว่าเดินทางมาถึงแล้วโดยปลอดภัย นักท่องเที่ยวสามารถหาซื้อซิมโรมมิ่งได้จากในไทยและนำไปใช้งานที่ต่างประเทศ โดยสามารถใช้งานได้ทั้งอินเทอร์เน็ต โทรออก-รับสาย SMS ซิมโรมมิ่งสำหรับใช้ในต่างประเทศนั้นมีให้เลือกหลายแบบในราคาที่แตกต่างกันตามจำนวนของอินเทอร์เน็ตและระยะเวลาการใช้งาน ดังนี้

Sim2fly ของ AIS

ขอบคุณภาพจาก http://www.ais.co.th/ 

           สำหรับเอเชีย และออสเตรเลีย 8 วัน ราคา 399 บาท

                      เน็ตโรมมิ่ง 4G/3G แบบ Non-Stop ความเร็วสูงสุด 6GB นาน 8 วัน + เน็ตใช้ในประเทศไทย 500MB นาน 10 วัน

           สำหรับทุกทวีปทั่วโลก ระยะเวลา 15 วัน ราคา 899 บาท

                      เน็ตโรมมิ่ง 4G/3G แบบ Non-Stop ความเร็วสูงสุด 6GB นาน 15 วัน + เน็ตใช้ในประเทศไทย 500MB นาน 10 วัน

           สำหรับทุกทวีปทั่วโลก ระยะเวลา 1 ปี ราคา 2799 บาท

                      เน็ตโรมมิ่ง 4G/3G ความเร็วสูงสุด 15GB นาน 1 ปี

Sim Go Inter ของ Dtac

ขอบคุณภาพจาก http://www.dtac.co.th/ 

           สำหรับเอเชีย ออสเตรเลีย และอเมริกา ระยะเวลา 10  วัน ราคา 399 บาท

                      เน็ตแบบ Non-stop ด้วยความเร็วสูงสุด จำนวน 6 GB นาน 10 วัน

           สำหรับทุกทวีปทั่วโลก ระยะเวลา 15  วัน ราคา 899 บาท

                      เน็ตแบบ Non-stop ด้วยความเร็วสูงสุด จำนวน 6 GB นาน 15 วัน

           สำหรับเอเชีย ออสเตรเลีย และอเมริกา ระยะเวลา 10  วัน ราคา 499 บาท

                      เน็ตแบบ Non-stop ด้วยความเร็วสูงสุดจำนวน 6 GB นาน 10 วัน + โทรเบอร์ดีแทคในประเทศ 30 นาที 30 วัน ฟรีประกันการเดินทางต่างประเทศ 10 วัน จาก Sunday

Travel SIM ของ True

ขอบคุณภาพจาก http://truemoveh.truecorp.co.th/ 

           สำหรับทั่วโลก ระยะเวลา 15 วัน ราคา 899 บาท

                      เน็ตแบบเต็มสปีด 6 GB ระยะเวลา 15 วัน

           สำหรับทวีปเอเชีย ระยะเวลา 8 วัน ราคา 399 บาท

                      เน็ตแบบเต็มสปีด 6 GB ระยะเวลา 8 วัน

           สำหรับประเทศญี่ปุ่น ระยะเวลา 8 วัน ราคา 399 บาท

                      เน็ตแบบเต็มสปีด 6 GB ระยะเวลา 8 วัน

           สำหรับประเทศจีน ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน ระยะเวลา 8 วัน ราคา 399 บาท

                      เน็ตแบบเต็มสปีด 6 GB ระยะเวลา 8 วัน

           สำหรับประเทศเกาหลีใต้ ระยะเวลา 8 วัน ราคา 399 บาท

                      เน็ตแบบเต็มสปีด 6 GB ระยะเวลา 8 วัน

           สำหรับประเทศสิงคโปร์ ระยะเวลา 8 วัน ราคา 399 บาท

                      เน็ตแบบเต็มสปีด 10 GB ระยะเวลา 8 วัน

2. Shopping Bag

ขอบคุณภาพจาก https://cleanoceanclothing.com

           ปัจจุบันร้านค้าหรือศูนย์การค้าหลายๆ แห่งในต่างประเทศจะไม่มีถุงพลาสติกให้บริการเมื่อซื้อของเนื่องจากรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติก นักท่องเที่ยวต้องนำถุงไปเองหรือไม่ก็ต้องจ่ายเงินซื้อถุงราคาประมาณ 50 cent หรือครึ่งดอลลาร์นั่นเอง ฉะนั้นเพื่อความสะดวก ประหยัด และช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจึงควรพกถุงผ้าที่เบาๆ และสามารถพับเก็บได้เผื่อไว้ด้วยเวลาเดินทางก็จะเป็นประโยชน์มาก

3. Google Map

ขอบคุณภาพจาก https://s-sharp.co.jp

           คือแอพลิเคชั่นสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศที่จะนำพาเราไปสู่จุดหมายปลายทางที่ไม่คุ้นเคย ลดการเสียเวลาไปกับการหลงทาง และสามารถบริหารเวลาสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างคุ้มค่าที่สุด ไม่ว่าจะหาเส้นทางการเดินทางโดยรถไฟ รถบัส รถยนต์ หรือเรือ ทั้งนี้ นอกจากแอพลิเคชั่นแบบออนไลน์ที่ต้องเปิดอินเทอร์เน็ตระหว่างใช้งานแล้ว หากต้องการประยัดอินเทอร์เน็ตขณะอยู่ต่างประเทศนักท่องเที่ยวยังสามารถดาวน์โหลดแอพลิเคชั่นแผนที่ของเมืองที่เราจะไปลงในโทรศัพท์ได้ก่อนไปสำหรับไว้ดูแบบออฟไลน์

4. Google Translate

ขอบคุณภาพจาก https://droidsans.com

           แม้การแปลภาษาแบบเป็นประโยคยาวๆ อาจจะไม่แม่นยำร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่แอพลิเคชั่นแปลภาษาก็เป็นหนทางหนึ่งที่สามารถช่วยชีวิตได้เมื่ออยู่ต่างบ้านต่างเมืองหรือตกอยู่ในสถานการณ์คับขันที่ต้องการตัวช่วยด้านภาษา โดยนักท่องเที่ยวสามารถเลือกได้ว่าต้องการแปลภาษาจากไฟล์รูปภาพ (Camera), จากการเขียนด้วยลายมือ (Handwriting) หรือจากการพูดผ่านไมค์ (Conversation, Voice)

5. Power Bank

ขอบคุณภาพจาก https://www.maxbhi.com 

           หรือแบตเตอรี่สำรองพกพาคืออีกหนึ่งอุปกรณ์จำเป็นที่ขาดไปไม่ได้ในยุคนี้ สำหรับการต่อชีวิตให้การใช้งานโทรศัพท์หรืออินเทอร์เน็ตที่ต้องใช้งานเกือบจะตลอดเวลาเมื่ออยู่ต่างถิ่น พาวเวอร์แบงก์ในปัจจุบันมีให้เลือกหลายขนาดและมีน้ำหนักที่แตกต่างกันตามความจุไฟฟ้า ทั้งนี้ กฎการบินสากลได้กำหนดไว้ว่า

           power bank ความจุไฟฟ้ามากกว่า 32000 mAh ไม่ได้รับอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องทุกกรณี

           power bank ความจุไฟฟ้าระหว่าง 20000 – 32000 mAh สามารถนำขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 2 ก้อน

           power bank ความจุไฟฟ้าต่ำกว่า 20000 mAh สามารถนำขึ้นเครื่องได้ไม่จำกัดจำนวน

           ดังนั้น นักท่องเที่ยวควรตรวจสอบความจุไฟฟ้าของพาวเวอร์แบงก์แต่ละก้อนที่จะนำไปด้วยเมื่อเดินทาง และไม่เผลอแพ็คลงในกระเป๋าเดินทางที่จะโหลดใต้ท้องเครื่อง เพราะหากอยู่ในกระเป๋าเดินทางเครื่องสแกนจะไม่ให้ผ่าน ต้องเสียเวลาเปิดกระเป๋าเพื่อนำพาวเวอร์แบงก์ออกมา และต้องสแกนกระเป๋าเดินทางใบนั้นใหม่อีกครั้ง

6. หัวแปลงปลั๊กไฟ

ขอบคุณภาพจาก http://www.gapyeartravelstore.com/

           คืออุปกรณ์สำคัญลำดับต้นๆ ที่ขาดไม่ได้ เนื่องจากแต่ละประเทศใช้ปลั๊กที่มีลักษณะแตกต่างกัน บ้างสองรู บ้างสามรู นักท่องเที่ยวควรหาข้อมูลก่อนเดินทางว่าประเทศที่ตนเองกำลังจะเดินทางไปนั้นใช้ปลั๊กไฟแบบใดและหาซื้อเตรียมไปให้พร้อม และหากเดินทางบ่อยในหลายๆ ประเทศและขี้เกียจต้องมาหาข้อมูลของแต่ละครั้งก็อาจซื้อหัวแปลงปลั๊กไฟแบบ Universal Plug Adapter ที่ในอันเดียวกันจะมีขาหลายๆ แบบ ให้สามารถนำไปใช้งานได้กับปลั๊กไฟประเทศต่างๆ ทั่วโลก ราคามีตั้งแต่ประมาณ 300 บาทกว่าๆ 500 บาทกว่าๆ ไปจนถึงหลัก 1,000 กว่าๆ ขึ้นอยู่วัสดุและคุณภาพของแต่ละยี่ห้อ ทั้งนี้แนะนำว่าไม่ควรซื้อแบบที่ราคาถูกจนเกินไป โดยเฉพาะที่ขายออนไลน์ในเว็บไซต์ เพราะด้วยราคาที่ถูกมากๆ คุณภาพก็จะด้อยตามลงไปด้วย ทำให้บางครั้งเมื่อไปถึงต่างประเทศแล้วไม่สามารถใช้งานได้ เสียบแล้วไฟไม่เข้า ทางทีดีจึงควรเลือกยี่ห้อที่สามารถเชื่อถือได้ในราคาที่เป็นเหตุเป็นผลมากกว่าเลือกซื้อเพราะราคาถูก

7. ยาสามัญประจำตัว

ขอบคุณภาพจาก http://taxclinic.mof.go.th/

           ในบางประเทศการซื้อยาจากร้านขายยาทั่วไปไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องได้รับใบสั่งยาจากเภสัชกรก่อนจึงจะสามารถซื้อได้ ดังนั้น การเตรียมยาสามัญประจำตัวไปเผื่อในกรณีฉุกเฉินจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ไม่ว่าจะเป็น ยาแก้ไข้ ยาแก้ปวด ยาแก้ท้องเสีย ยาแก้แพ้ ยาแก้เมา หรือยาคลายกล้ามเนื้อ เพราะเราไม่อาจทราบได้เลยว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้างขณะเดินทางท่องเที่ยวในต่างแดน การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยให้การท่องเที่ยวเป็นไปอย่างราบรื่น สนุก และเกิดความประทับใจ