เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ คุณสามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ โดยคลิก "การตั้งค่าคุกกี้"
การเดินทางด้วยรถยนต์ข้ามสะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า
Traveling by Vehicle through Hong Kong-Zhuhai-Macau Bridge (HZMB)
สะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า (The Hong Kong–Zhuhai–Macau Bridge / HZMB) เป็นสะพานข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลก ด้วยระยะทาง 55 กิโลเมตร เปิดใช้อย่างเป็นทางการวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2561 โดยใช้งบประมาณการสร้างกว่า 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 6.5 แสนล้านบาท สะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า ประกอบด้วยสะพานสามสาย ระบบอุโมงค์ใต้ทะเล และเกาะเทียมสี่เกาะ สะพานแห่งนี้ทำหน้าที่เชื่อมแผ่นดินใหญ่ของจีนเข้ากับเขตปกครองพิเศษ ฮ่องกง จูไห่ มาเก๊า รวมถึงเมืองสำคัญอื่นๆ รวมทั้งสิ้น 11 เมือง ยกระดับการคมนาคมเพื่อส่งเสริมโครงการพัฒนาและสร้างระบบนิเวศน์ทางเศรษฐกิจภายในพื้นที่อ่าวกวางตุ้ง–ฮ่องกง–มาเก๊า (Greater Bay Area) ให้มีความสะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยช่วยร่นระยะเวลาเดินทางจาก 3 ชั่วโมงให้เหลือเพียง 45 นาที
สะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า (HZMB)
โครงสร้างสะพานอันเป็นเอกลักษณ์
การเดินทางบางช่วงต้องลอดอุโมงค์ใต้ทะเล
ทั้งนี้ ก็มีข้อกำหนดเกี่ยวกับการจราจรบนสะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า อยู่หลายประการ อาทิ ในขณะที่ฮ่องกงและมาเก๊ามีระบบการจราจรที่ชิดทางด้านซ้ายมือ (Left-Hand Traffic – LHT) สะพานฮ่องกง-จู่ไห่-มาเก๊าจะใช้ระบบการจราจรที่ชิดทางด้านขวามือ (Right-Hand Traffic – RHT) ตามระบบของเมืองจู่ไห่และเมืองอื่นๆ ในจีนแผ่นดินใหญ่ และยานพาหนะที่เดินทางระหว่างฮ่องกงและมณฑลกวางตุ้งด้วยสะพานแห่งนี้จะต้องมีประกันยานยนต์ของทั้งฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่ ส่วนยานพาหนะที่เดินทางระหว่างฮ่องกงและมาเก๊าก็จะต้องมีประกันยานยนต์ของทั้งฮ่องกง มาเก๊า และจีนแผ่นดินใหญ่ เนื่องจากส่วนของสะพานหลักนั้นถือว่าตั้งอยู่บนน่านน้ำของจีนแผ่นดินใหญ่ จึงต้องทำตามระเบียบของจีนแผ่นดินใหญ่ด้วย
สะพานฮ่องกง-จู่ไห่-มาเก๊าใช้ระบบการจราจรที่ชิดทางด้านขวามือ
และเนื่องจากการจราจรของเมืองทั้งสามเมือง คือ ฮ่องกง จูไห่ และมาเก๊า นั้นมีความแออัดมาก แต่ละเมืองไม่ต้องการให้มีจำนวนยานพาหนะเพิ่มขึ้น สะพานแห่งนี้จึงมีข้อจำกัดให้ยานพาหนะที่มีทะเบียนข้ามเขตแดนที่กำหนดเท่านั้นที่จะสามารถผ่านขึ้นสะพานได้ โดยในบางเส้นทางไม่อนุญาตให้รถยนต์ส่วนตัววิ่ง ผู้คนส่วนใหญ่รวมถึงนักท่องเที่ยวจึงต้องเดินทางข้ามสะพานแห่งนี้ด้วยรถโดยสารประจำทาง (Shuttle Bus), รถโค้ชข้ามเขตแดน (Cross-Boundary Coach) หรือ รถรับจ้างข้ามแดน (Cross-Boundary Hire Car) เท่านั้น ซึ่งรูปแบบการเดินทางที่นักท่องเที่ยวนิยมกันมากที่สุดคือ Shuttle Bus และ Cross-Boundary Coach
อาคาร HZMB Hong Kong Port หรือท่าขึ้นสะพานฝั่งฮ่องกง ตั้งอยู่ที่ HZMB Passenger Clearance Building ใกล้ๆ กับสนามบินนานาชาติฮ่องกง
อาคาร Macau Port หรือท่าขึ้นสะพานฝั่งมาเก๊า ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับ Outer Harbour Ferry Terminal
รถประจำทาง (Shuttle Bus) และรถโค้ชข้ามแดน (Cross-Boundary Coach)
Shuttle Bus หรือ Golden Bus จะมีสีทองเท่านั้น
รถประจำทาง (Shuttle Bus หรือ Golden Bus) คือรถที่ให้บริการเฉพาะเดินทางข้ามสะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า จากฝั่งหนึ่งไปยังอีกฝั่งหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้บริการรับส่งต่อไปยังจุดต่างๆ ของตัวเมือง (ดังนั้นผู้โดยสารจะต้องเดินทางไป และ เดินทางออกจาก Hong Kong Port, Zhuhai Port หรือ Macao Port ด้วยรถโดยสารสาธารณะอื่นๆ เอง) บริการของ Shuttle Bus แบ่งเป็น 2 เส้นทางด้วยกันคือ
1. Hong Kong Port ไปกลับ Zhuhai Port
2. Hong Kong Port ไปกลับ Macao Port
การเดินรถแต่ละเส้นทางจะใช้เวลาประมาณ 45 นาที มีบริการตลอด 24 ชั่วโมง เที่ยวรถออกทุก ๆ 10 - 15 นาทีในเวลาปกติ และทุก ๆ 5 - 10 นาทีในชั่วโมงเร่งด่วน และทุก ๆ 15 - 30 นาทีในช่วงกลางคืน
ราคาตั๋วโดยสาร กลางวันเที่ยวละ 65 HKD กลางคืน 70 HKD ผู้โดยสารสามารถซื้อตั๋วโดยสารได้ที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วและตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติที่อยู่ในอาคารผู้โดยสารของ Hong Kong Port, Zhuhai Port หรือ Macao Port หลังจากที่ผ่านจุดตรวจคนเข้าเมืองแล้ว หรือซื้อตั๋วออนไลน์ได้ผ่านบัญชี Wechat สาธารณะชื่อ “hzmbus” และผ่านเว็บไซต์ซึ่งเป็นภาษาจีนของบริษัทรถ Shuttle Bus ได้ที่ http://www.hzmbus.com/
Cross-Boundary Coach หรือรถโค้ชข้ามแดน มีหลายบริษัทให้บริการและมีสีสันที่แตกต่างกัน
รถโค้ชข้ามแดน (Cross-Boundary Coach) มีลักษณะคล้ายกับรถทัวร์ในไทย ให้บริการรับผู้โดยสารจากเขตเมืองของฮ่องกง จูไห่ หรือมาเก๊า เดินทางข้ามสะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊าไปยังอีกตัวเมืองหนึ่ง โดยมีจุดจอดที่แน่นอน เส้นทางและตารางเวลาคงที่ จุดจอดหลักๆ ในเขตเมืองของฮ่องกง ได้แก่ Causeway Bay, Tsim Sha Tsui, Kowloon, Mon Kok, Prince Edward, Kwun Tong, Tseung Kwan O จุดจอดหลักในแผ่นดินใหญ่ ได้แก่ Zhongshan Zhuhai, Jiangmen, Xinhui, Kaiping, Toishan, Yangjiang และจุดจอดหลักในมาเก๊าจะเป็นโรงแรมต่างๆ ที่ตั้งอยู่ในเขต Taipa
ลักษณะของการใช้บริการของรถประเภทนี้คือ รถจะขับไปรับผู้โดยสารตามจุดจอดต่างๆ ข้างต้น โดยเมื่อเดินทางมาถึง Port ต้นทาง และ Port ปลายทาง รถก็จะจอดให้ผู้โดยสารลงไปผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง เมื่อผู้โดยสายกลับขึ้นมาบนรถแล้วจึงเดินทางไปส่งตามจุดหมายปลายทางต่างๆ ในตัวเมือง ค่าโดยสารอยู่ระหว่าง 160 - 190 HKD
ขั้นตอนการเดินทางข้ามสะพาน
1. ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองที่ Port ต้นทาง (นำสัมภาระไปตรวจด้วย)
2. ซื้อบัตร Shuttle Bus โดยสารข้ามสะพาน (สำหรับผู้ที่ไม่ได้เดินทางโดย Cross-Boundary Coach) วิธีที่สะดวกที่สุดคือซื้อผ่านเครื่องจำหน่ายบัตรอัตโนมัติ หรือสามารถซื้อได้ที่เคาน์เตอร์จำหน่ายบัตรก็ได้เช่นกัน
3. เดินไปยังจุดขึ้นรถบัสที่กำหนด รถบัสจะไม่ได้ระบุที่นั่ง โดยจะออกทุกๆ 15-30 นาที หรือรอให้เต็มจึงออก
4. รถเดินทางข้ามสะพานประมาณ 45 นาที
5. เมื่อถึง Port ปลายทางผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองอีกครั้ง (นำสัมภาระไปตรวจด้วย)
6. ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ออกมาใช้บริการรถประจำทาง, รถ Cross-Boundary Coach คันเดิม, รถ Taxi หรือ รถรับส่งฟรีของโรงแรมไปยังจุดหมายที่ต้องการ
**หากเดินทางโดยใช้บริการรถโค้ชข้ามแดน (Cross-Boundary Coach) รถจะให้บริการตั้งแต่ต้นจนจบ คือ รับผู้โดยสารจากจุดต่างๆ ในตัวเมืองต้นทาง เมื่อมาถึง Port ต้นทางก็จะจอดให้ผู้โดยสารลงไปผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองขาออก และรอผู้โดยสารกลับขึ้นมาบนรถ จากนั้นจึงเดินทางข้ามสะพาน และเมื่อถึง Port ปลายทางก็จะจอดให้ผู้โดยสารลงไปผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองขาเข้าอีกครั้ง รอจนผู้โดยสารกลับขึ้นมาบนรถ จากนั้นจึงเดินทางไปส่งยังจุดหมายต่างๆ ในตัวเมืองปลายทาง
ข้อควรรู้เกี่ยวกับการตรวจคนเข้าเมือง
ผู้ที่เดินทางข้ามสะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊าจะต้องผ่านจุดตรวจคนเข้าเมืองขาออก (Departure) ในอาคารผู้โดยสารของ Hong Kong Port, Zhuhai Port หรือ Macao Port ที่ต้นทางก่อนข้ามสะพาน และผ่านจุดตรวจคนเข้าเมืองขาเข้า (Arrival) ในอาคารผู้โดยสารที่ Port ปลายทางอีกครั้งหลังจากข้ามสะพานมาแล้ว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่และขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองของฮ่องกงนั้นค่อนข้างเข้มงวดกว่าที่มาเก๊า และนักท่องเที่ยวรวมถึงประชาชนทั่วไปที่เข้าแถวรอตรวจคนเข้าเมืองนั้นมีเป็นจำนวนมาก สิ่งแรกเลยที่ควรทำเมื่อเดินทางไปถึง Hong Kong Port คือ ให้เดินไปหยิบฟอร์มคนเข้าเมืองแผ่นเล็กๆ ตรงจุดที่มีป้ายสีส้มๆ เขียนว่า Departure Card (สำหรับขาออก) หรือ Arrival Card (สำหรับขาเข้า) มากรอก จากนั้นค่อยไปต่อแถวรอตรวจกับตม.หรือจะนำไปกรอกระว่างที่เข้าคิวแถวอยู่ก็ได้ เพราะหากลืมไม่ได้เดินไปหยิบแผ่นนี้มาก่อนที่จะไปเข้าแถวจะต้องเสียเวลาเดินออกจากแถวมาหยิบและเริ่มต่อคิวใหม่ ซึ่งการรีบออกจากแถวมาหยิบเอกสารแผ่นนี้ก็อาจทำให้โดนเจ้าหน้าที่เพ่งเล็งจนนำไปสู่การไม่ผ่าน ตม.ได้
หยิบฟอร์มตม. Departure Card (ขาออก) หรือ Arrival Card (ขาเข้า) ได้จากบริเวณที่มีลักษณะเช่นนี้
หากนักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยรถ Cross-Boundary Coach ต้องประสบกับเหตุการณ์ที่ทำให้ติดด่านตม. ซึ่งต้องถูกกักตัวและเข้าไปสัมภาษณ์ในห้องพิเศษจนเกิดความล่าช้าก็ไม่ต้องกังวลจนเกินไป เมื่อผ่านตม. ออกมาแล้วไม่พบรถของบริษัทที่นั่งมาก็ยังสามารถขึ้นรถคันถัดไปของบริษัทเดียวกันได้ โดยแต่ละบริษัทจะมีสติ๊กเกอร์แปะที่แขนเสื้อให้เราก่อนขึ้นรถมาที่ Port ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ของบริษัทรถโค้ชสื่อสารมาเป็นภาษาจีนและชี้มาที่สติ๊กเกอร์ที่ติดอยู่ที่เสื้อของนักท่องเที่ยว นั่นหมายถึงให้แกะสติ๊กเกอร์นั้นส่งให้เขาก็จะสามารถขึ้นรถได้
เจ้าหน้าที่ของบริษัทต่างๆ บริเวณจุดจอดรอผู้โดยสารรถ Cross-Boundary Coach
บริเวณทางเดินไปขึ้นรถบัสเข้าเมืองที่ Hong Kong Port และหมายเลขของรถสายต่างๆ กำกับไว้ชัดเจน
บริเวณจุดจอดรถแท็กซี่สำหรับเดินทางเข้าเมืองที่ Hong Kong Port
ทั้งนี้ แม้ระยะเวลาในการเดินทางจากข้ามสะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า จะใช้เวลาเพียงประมาณ 45 นาที แต่เมื่อรวมระยะเวลาทั้งหมด ทั้งการรอผู้โดยสารแต่ละคนผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองให้กลับมาขึ้นรถจนเต็มคันแล้วค่อยออกนั้น โดยรวมแล้วใช้เวลาราวๆ 3 ชั่วโมง ซึ่งนับว่านานกว่าการเดินทางข้ามฝั่งด้วยเรือเฟอรี่ที่มีระบบตรวจคนเข้าเมืองที่รวดเร็วและไม่ต้องรอผู้โดยสารเต็มจึงค่อยออก
วัดผู่จี้ (Puji Temple) เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในเกาะผู่โถวซาน (Putuoshan) และยังหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศจีน โดยเป็นตัวแทนของสถาปัตยกรรมและเป็นอนุสรณ์สถานที่สำคัญอย่างเป็นทางการของราชวงศ์ชิงในเจ้อเจียง
อ่านต่อวัดเป่าโถว (Baotuo Lecture Temple / Baotuojian Temple) เป็นวัดที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของผู่โถวซาน ตั้งอยู่ในบริเวณจุดชมวิวภูเขาผู่โถว (Putuo Mountain Scenic Area) ภายในวัดมีบรรยากาศที่งดงามราวกับพระราชวัง
อ่านต่อจัตุรัสเทียนยี่ (天一广场 / Tianyi Square) เป็นจัตุรัสอเนกประสงค์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน โดยได้รับรางวัลผลงานศิลปะสาธารณะยอดเยี่ยมหลังจากที่สร้างเสร็จอีกด้วย
อ่านต่อผู่โถวซาน หรือ เกาะผู่โถว เป็นเกาะเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในส่วนตะวันออกของเมืองโจวซาน มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน โดยอยู่ทางตอนใต้ของนครเซี่ยงไฮ้ ผู่โถวซานเป็น 1 ใน 4 พุทธคีรีหรือภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของจีน ชาวพุทธจีนเชื่อกันว่าผู่โถวซานเป็นที่ประทับและตรัสรู้ของพระโพธิสัตว์กวนอิมหรือเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งเป็นหนึ่งในเทพเจ้าที่สำคัญที่สุดในศาสนาพุทธนิกายมหายาน ดังนั้นจึงมีผู้แสวงบุญจากทั่วโลก โดยเฉพาะผู้ที่ศรัทธาในเจ้าแม่กวนอิมเดินทางมาที่เกาะแห่งนี้เพื่อสักการะขอพรอยู่โดยตลอด
อ่านต่อวัดซีซ่าน (Tsz Shan Monastery / 慈山寺) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ฉี่ซ้านจี๋ เป็นวัดพุทธที่ตั้งอยู่ริมชายหาดรีพัลส์เบย์ (Repulse Bay) ในฮ่องกง โดดเด่นด้วยรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมสีขาวขนาดใหญ่ สูงถึง 76 เมตร ซึ่งเป็นรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่สูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก
อ่านต่อคอสเวย์เบย์ (Causeway Bay) เป็นหนึ่งในย่านที่คึกคักและมีชื่อเสียงที่สุดของฮ่องกง ด้วยบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยร้านค้าหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่แบรนด์เนมระดับโลกไปจนถึงร้านค้าเล็กๆ น้อยๆ ที่ขายสินค้าแปลกใหม่ ทำให้คอสเวย์เบย์กลายเป็นจุดที่บรรดานักช้อปจะต้องไม่พลาดเมื่อมาเที่ยวฮ่องกง
อ่านต่อพระราชวังหยวนหมิงใหม่ (New Yuanming Palace/宮新園明園) ในเมืองจูไห่ (Zhuhai) มณฑลกวางตุ้ง (Quangdong) ประเทศจีน เป็นสวนและสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพระราชวังฤดูร้อนเก่า (Old Summer Palace) หรือหยวนหมิงหยวนในกรุงปักกิ่ง สวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางเมืองแห่งนี้มีครบทั้งธรรมชาติ สถาปัตยกรรมจีน สวนสนุก และการแสดง
อ่านต่อหนานไห่กวนอิม หรือ รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมทะเลใต้ (Nanhai Guanyin (South Sea Guanyin) เป็นองค์เจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่และงดงามที่สุดในเกาะผู่โถวซานซึ่งประดิษฐานอยู่ที่ตำหนักริมทะเล บนเกาะผู่โถวซาน เมืองโจวซาน มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน หนานไห่กวนอิมองค์นี้ถือเป็นแลนด์มาร์กของผู่โถวซาน ที่ผู้มาเยือนเกาะนี้ไม่ควรพลาด
อ่านต่อวัดฮุ่ยจี้ (Huiji Temple) เป็นวัดที่ใหญ่เป็นอันดับสามบนเกาะผู่โถวซาน (Putuoshan) รองจากวัดผู่จี้ (Puji Temple) และวัดฝาหยู่ (Fayu Temple)
อ่านต่อวัดฝาหยู่ (Fayu Temple) เป็นที่รู้จักในชื่อ "วัดหลัง" เป็นวัดที่ใหญ่เป็นอันดับสองบนเกาะผู่โถวซาน รองจากวัดผู่จี้ (Puji Temple)
อ่านต่อวัดผู่จี้ (Puji Temple) เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในเกาะผู่โถวซาน (Putuoshan) และยังหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศจีน โดยเป็นตัวแทนของสถาปัตยกรรมและเป็นอนุสรณ์สถานที่สำคัญอย่างเป็นทางการของราชวงศ์ชิงในเจ้อเจียง
อ่านต่อวัดเป่าโถว (Baotuo Lecture Temple / Baotuojian Temple) เป็นวัดที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของผู่โถวซาน ตั้งอยู่ในบริเวณจุดชมวิวภูเขาผู่โถว (Putuo Mountain Scenic Area) ภายในวัดมีบรรยากาศที่งดงามราวกับพระราชวัง
อ่านต่อจัตุรัสเทียนยี่ (天一广场 / Tianyi Square) เป็นจัตุรัสอเนกประสงค์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน โดยได้รับรางวัลผลงานศิลปะสาธารณะยอดเยี่ยมหลังจากที่สร้างเสร็จอีกด้วย
อ่านต่อผู่โถวซาน หรือ เกาะผู่โถว เป็นเกาะเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในส่วนตะวันออกของเมืองโจวซาน มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน โดยอยู่ทางตอนใต้ของนครเซี่ยงไฮ้ ผู่โถวซานเป็น 1 ใน 4 พุทธคีรีหรือภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของจีน ชาวพุทธจีนเชื่อกันว่าผู่โถวซานเป็นที่ประทับและตรัสรู้ของพระโพธิสัตว์กวนอิมหรือเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งเป็นหนึ่งในเทพเจ้าที่สำคัญที่สุดในศาสนาพุทธนิกายมหายาน ดังนั้นจึงมีผู้แสวงบุญจากทั่วโลก โดยเฉพาะผู้ที่ศรัทธาในเจ้าแม่กวนอิมเดินทางมาที่เกาะแห่งนี้เพื่อสักการะขอพรอยู่โดยตลอด
อ่านต่อวัดซีซ่าน (Tsz Shan Monastery / 慈山寺) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ฉี่ซ้านจี๋ เป็นวัดพุทธที่ตั้งอยู่ริมชายหาดรีพัลส์เบย์ (Repulse Bay) ในฮ่องกง โดดเด่นด้วยรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมสีขาวขนาดใหญ่ สูงถึง 76 เมตร ซึ่งเป็นรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่สูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก
อ่านต่อคอสเวย์เบย์ (Causeway Bay) เป็นหนึ่งในย่านที่คึกคักและมีชื่อเสียงที่สุดของฮ่องกง ด้วยบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยร้านค้าหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่แบรนด์เนมระดับโลกไปจนถึงร้านค้าเล็กๆ น้อยๆ ที่ขายสินค้าแปลกใหม่ ทำให้คอสเวย์เบย์กลายเป็นจุดที่บรรดานักช้อปจะต้องไม่พลาดเมื่อมาเที่ยวฮ่องกง
อ่านต่อ