7 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในจังหวัดเฮียวโงะ ประเทศญี่ปุ่น

Top 7 Travel Destinations in Hyogo, Japan

           เฮียวโงะเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะฮนชู ประเทศญี่ปุ่น และเป็นที่ตั้งของเมืองท่าชื่อดังที่หลายๆ คนน่าจะรู้จักกันดีอย่างโกเบ ซึ่งนอกจากจะเป็นเมืองท่าที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศแล้ว ตัวโกเบและจังหวัดเฮียวโงะนั้น ยังมีแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมมากมาย ซึ่งเต็มไปด้วยวิถีชีวิต, ประวัติศาสตร์, วัฒนธรรมตามแบบฉบับญี่ปุ่น ที่น่าสนใจ และควรค่าแก่การตามไปเที่ยวกันให้ครบทุกที่จริงๆ    

แผนที่แสดงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในจังหวัดเฮียวโงะซึ่งมีโกเบ พอร์ท เทาเวอร์ หอคอยสูงใหญ่เป็นศูนย์กลาง 

แผนที่ระบบขนส่งสาธารณะในเมืองโกเบพร้อมพิกัดบอกตำแหน่งสถานีที่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวที่สุด

1. Kobe Port Tower (โกเบ พอร์ท เทาเวอร์)

           หนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดเฮียวโงะ กับหอคอยสูงใหญ่ประจำเมืองโกเบ ที่เริ่มเปิดใช้งานมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1963 ตัวหอคอยจะมีลักษณะคล้ายกลองยาวใหญ่ สีแดงสด ภายในหอคอยจะมีทั้งหมด 5 ชั้น แบ่งออกไปเป็นร้านอาหาร ร้านค้า ฯลฯ และชั้นยอดฮิตอย่างชั้น 4 กับ 5 ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาชมทิวทัศน์รอบตัวเมืองโกเบ ได้แบบ 360 องศาอีกด้วย นอกจากนั้นหอคอยแห่งนี้ยังถูกประดับด้วยหลอดไฟ LED กว่า 7,000 ดวง ซึ่งพอตกกลางคืนจะมีการเปิดไฟสว่างไสว รวมถึงสีสันที่แตกต่างกันไป ตามเทศกาลในช่วงนั้นๆ

ค่าเข้าชม : บริเวณพื้นที่โดยรอบของหอคอยเปิดให้เข้าชมฟรี แต่หากเป็นด้านในของหอคอยจะมีค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่อยู่ที่ 700 เยน, นักเรียนชั้นประถมถึงมัธยม 300 เยน

เวลาเปิด-ปิด : ด้านในหอคอยจะเปิดให้เข้าชมเวลา 09:00 น. – 21:00 น. ส่วนช่วง (ธ.ค. – ก.พ.) จะเลื่อนเวลาปิดไวขึ้นเป็น 19:00 น.

ข้อมูลการเดินทาง : จากสถานี Sannomiya Station ให้ขึ้นรถไฟสาย Hankyu Kobe Line เพื่อไปลงที่สถานี Motomachi Station แล้วเดินต่อไปยังโกเบ พอร์ท เทาเวอร์ได้เลย

พิกัด GPS : 34°40'57.5"N 135°11'12.1"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโกเบ พอร์ท เทาเวอร์ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=476

2. Ikuta Shrine (ศาลเจ้าอิคุตะ)

           ศาลเจ้ายอดนิยมประจำเมืองโกเบที่ได้รับการยอมรับนับถือจากผู้คนในเมือง รวมถึงนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมมากมาย เป็นศาลเจ้าที่ตั้งอยู่กลางเมืองโกเบซึ่งว่ากันว่ามีอายุกว่า 1,800 ปี โดยด้านในศาลเจ้าจะมีกิจกรรมให้ผู้ที่มาสักการะได้ทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสวดมนต์ขอพร, พิธีรับขวัญเด็กแรกเกิด, เขียนคำอวยพรความรักต่อเทพเจ้า ฯลฯ และหากเป็นช่วงเทศกาลสำคัญๆ ศาลเจ้าอิคุตะแห่งนี้ ยังเป็นที่จัดงานหลัก และศูนย์รวมให้คนในเมืองได้มาทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันอีกด้วย

ค่าเข้าชม : ศาลเจ้าอิคุตะเปิดให้คนเข้ามาสักการะและเยี่ยมชมได้ฟรี

เวลาเปิด-ปิด : ศาลเจ้าอิคุตะเปิดให้เข้าตั้งแต่เวลา 07:00  น. - 18:00 น.

ข้อมูลการเดินทาง : จากสถานี Sannomiya ให้เดินต่อไปอีกประมาณ 250 เมตร ก็จะเจอกับศาลเจ้าอิคุตะ

พิกัด GPS : 34°41'40.7"N 135°11'26.9"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับศาลเจ้าอิคุตะได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=478

 3. Meriken Park (สวนเมริเคน) 

           สวนสาธารณะขนาดใหญ่กว่า 100 ไร่ ซึ่งตั้งอยู่ติดกับอ่าวของเมืองท่าโกเบแห่งนี้ ถูกใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจร่วมกับธรรมชาติ ท่ามกลางเมืองโกเบที่เต็มไปด้วยตึกสูงใหญ่ และมีผู้คนหนาแน่นทั่วทุกพื้นที่ โดยที่นี่ไม่ได้มีเพียงแต่สวนสาธารณะเท่านั้น แต่ยังมีส่วนของสถานที่จัดกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดร้านขายของ ดนตรี งานแสดงศิลปะ ฯลฯ เรียกว่าใครที่เบื่อการไปเดินตามอาคาร ห้างร้านต่างๆ หรืออยากหาที่ออกกำลังกายดีๆ สวนสาธารณะเมริเคนเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ

ค่าเข้าชม : สวนเมริเคนเปิดให้คนได้เข้ามาเที่ยวและทำกิจกรรมต่างๆ ได้ฟรี

เวลาเปิด-ปิด : สวนเมริเคนเปิดให้คนเข้ามาเยี่ยมชมได้ตลอดเวลา

ข้อมูลการเดินทาง :  จากสถานี Sannomiya Station ให้ขึ้นรถไฟสาย Hankyu Kobe Line ไปลงที่สถานี Motomachi Station และเดินไปประมาณ 600 เมตร ก็จะถึงสวนเมริเคน

พิกัด GPS : 34°40'56.2"N 135°11'19.0"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสวนเมริเคนได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=481

4. Kobe Harborland (โกเบ ฮาร์เบอร์แลนด์)

แหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่รวมสารพัดความบันเทิงเอาไว้ครบทุกอย่างในที่เดียว ซึ่งถูกดัดแปลงมาจากโกดังเก่าในสมัยก่อน เรียกว่าเป็นที่มีผู้คนคึกคักที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองเลยทีเดียว เพราะที่นี่มีตั้งแต่ห้างสรรพสินค้า, พิพิธภัณฑ์, สวนสนุก ฯลฯ รวมถึงแลนด์มาร์กยอดฮิตอย่างชิงช้าสวรรค์ยักษ์ (Mosaic Ferris Wheel) ที่มีความสูงถึง 50 เมตร โดยเมื่อกระเช้าขึ้นไปถึงจุดสูงสุด เราจะสามารถเห็นทัศนียภาพที่สวยงามของเมืองโกเบได้แบบกว้างไกล เต็มสายตาเลยทีเดียว

ค่าเข้าชม : นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเดินเล่นในย่าน โกเบ ฮาร์เบอร์แลนด์ ได้ฟรียกเว้นชิงช้าสวรรค์ยักษ์ (Mosaic Ferris Wheel) ที่จะเสียค่าขึ้นไปเล่น 800 เยนต่อคน และ Anpanman Museum ค่าเข้าชม 1,500 เยน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่

เวลาเปิด-ปิด : โกเบ ฮาร์เบอร์แลนด์ เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยห้างร้านต่างๆ มากมาย ทำให้เวลาในการเปิดปิดแต่ละที่ก็จะแตกต่างกันไปดังนี้ร้านค้า 10:00 น. – 20:00 น. / ร้านอาหาร 11:00 น. – 22:00 น. / สวนสนุก 10:00 น. - 23:00 น. - / Anpanman Museum 10:00 น. – 18:00 น.

ข้อมูลการเดินทาง : จากสถานี Sannomiya Station ให้ขึ้นรถไฟสาย Hankyu Kobe Line ไปลงที่สถานี Kobe Station และเดินไปประมาณ 200 เมตร ก็จะถึงโกเบ ฮาร์เบอร์แลนด์

พิกัด GPS : 34°40'43.9"N 135°10'50.1"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโกเบ ฮาร์เบอร์แลนด์ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=477

5. Kobe Iron Man (โกเบ ไอรอนแมน)

           หนึ่งในแลนด์มาร์กที่เป็นความภาคภูมิใจที่สุดแห่งหนึ่ง ของชาวเมืองโกเบกับหุ่นยนต์ยักษ์อย่าง เทตสึจิน หุ่นเหล็กหมายเลข 28 (Tetsujin 28-go) ตัวละครจากการ์ตูนชื่อดังระดับตำนานของญี่ปุ่น ที่สร้างมาจากปลายปากกาของนักเขียนมือรางวัลอย่าง Mitsuteru Yokoyama ซึ่งเป็นคนโกเบโดยกำเนิดนั่นเอง ซึ่งจุดมุ่งหมายของการสร้างหุ่นยนต์ยักษ์ตัวนี้ขึ้นมา ไม่เพียงแต่เป็นการรำลึกถึงตัวผู้เขียนที่สร้างชื่อเสียงให้บ้านเกิดมากมายเท่านั้น แต่เทตสึจิน หุ่นเหล็กหมายเลข 28 (Tetsujin 28-go) นี้ยังเป็นเหมือนศูนย์รวมจิตใจของคนในเมืองที่มีบาดแผลจากภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ที่ทำลายบ้านเมือง และชีวิตผู้คนไปมากมายในปีค.ศ. 1995 ให้กลับมาเข้มแข็งอีกครั้งนั่นเอง

ค่าเข้าชม : เปิดให้เข้าไปเยี่ยมชมได้ฟรี

เวลาเปิด-ปิด : เทตสึจิน หุ่นเหล็กหมายเลข 28 (Tetsujin 28-go) เปิดให้คนเข้ามาเยี่ยมชมได้ตลอดเวลา

ข้อมูลการเดินทาง : จากสถานี Sannomiya Station ให้ขึ้นรถไฟสาย Hankyu Kobe Line ไปลงที่สถานี Shin-Nagata Station และเดินต่อไปประมาณ 250 เมตร ก็จะถึงโกเบ ไอรอนแมน

พิกัด GPS : 34°39'07.7"N 135°08'52.0"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโกเบ ไอรอนแมนได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=484

6. Akashi Kaikyo Bridge (สะพานอะคาชิไคเคียว)

           สะพานอะคาชิไคเคียวเป็นสะพานแขวนที่เชื่อมระหว่างเมืองโกเบกับเมืองอะวาจิ ซึ่งเปิดใช้งานมาแล้วกว่า 19 ปี โครงสร้างสะพานจะประกอบด้วยเหล็กสีเงินแข็งแรง มั่นคง ซึ่งนอกจากสะพานแห่งนี้จะเป็นหนึ่งในเส้นทางคมนาคมหลักของจังหวัดเฮียวโงะแล้ว สะพานอะคาชิไคเคียวยังถูกยกให้เป็นสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลกอีกด้วย ซึ่งใต้สะพานจะมีสวนสาธารณะ(Hyogo Prefectural Maiko Park) ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเยี่ยมชมสะพาน รวมถึงนั่งเล่นพักผ่อนได้ นอกจากนี้เรายังสามารถชมวิวจากบนสะพานผ่านไมโกะมารีนโพรเมเนต (Maiko Marine Promenade) ที่มีความสูงถึง 50 เมตร อีกทั้งบริเวณริมทะเลของสะพานแห่งนี้ ยังเป็นพื้นที่ยอดนิยมที่ผู้คนนิยมมาตกปลากันด้วย

ค่าเข้าชม : สะพานอะคาชิไคเคียวมีสวนสาธารณะ (Hyogo Prefectural Maiko Park) ที่เปิดให้คนได้มาทำกิจกรรมต่างๆ ได้ฟรี แต่ถ้าเป็นจุดชมวิว ไมโกะมารีนโพรเมเนต (Maiko Marine Promenade) จะมีค่าเข้าชม 250 เยน (เสาร์-อาทิตย์ 310 เยน) / ศูนย์แสดงนิทรรศการสะพานอะคาชิไคเคียว (Bridge Exhibition Center)  ค่าเข้าชม 310 เยน

เวลาเปิด-ปิด : สวนสาธารณะ (Hyogo Prefectural Maiko Park) เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเยี่ยมชมตลอดเวลา ส่วนจุดชมวิว ไมโกะมารีนโพรเมเนต (Maiko Marine Promenade) จะเปิดให้เข้าชมเวลา 09:00 น. – 18:00 น. และปิดทำการในวันอังคารที่สองของทุกเดือน / ศูนย์แสดงนิทรรศการสะพานอะคาชิไคเคียว (Bridge Exhibition Center) เปิดให้เข้าชมเวลา 09:00 น. – 17:00 น. ปิดทำการทุกวันจันทร์

ข้อมูลการเดินทาง : จากสถานี Sannomiya Station ให้ขึ้นรถไฟสาย Hankyu Kobe Line ไปลงที่สถานี Maiko Station และเดินต่อไปอีกประมาณ 200 เมตร ก็จะถึงสะพานอะคาชิไคเคียว

พิกัด GPS : 34°37'41.6"N 135°01'50.2"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสะพานอะคาชิไคเคียวได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=482

7. Himeji Castle (ปราสาทฮิเมจิ)

           หนึ่งในปราสาทที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ในด้านของคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และความสวยงาม ซึ่งปราสาทฮิเมจิแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองฮิเมจิ โดยภายนอกของปราสาทแห่งนี้จะมีสีขาวสะอาดตา จนได้รับฉายาว่า“ฮะคุโระโจ” (ปราสาทนกกระสาสีขาว) ในปี1993 ปราสาทแห่งนี้ได้รับการคัดเลือกให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรม และยังเป็นมรดกโลกแห่งแรกของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย ซึ่งนอกจากตัวปราการปราสาทที่มีความงดงาม ยิ่งใหญ่แล้ว บริเวณโดยรอบยังมีพื้นที่น่าสนใจอีกมากมาย ทำให้ปราสาทฮิเมจิแห่งนี้เป็นหนึ่งพื้นที่ที่เปี่ยมได้ด้วยวิถีชีวิต และวัฒนธรรมแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ที่เราควรไปสัมผัสกันจริงสักครั้งจริงๆ

ค่าเข้าชม : ค่าเข้าชมปราสาทฮิเมจิสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ราคา 1,000 เยน, นักเรียนราคา 300 เยน

เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09:00-17:00 ประตูปิด 16:00 / ช่วงฤดูร้อน 27 ม.ย.-31 ส.ค. จะเลื่อนเวลาปิดเป็น 18:00 ประตูปิด 17:00 และจะปิดทำการวันที่ 29-30 ธ.ค. เท่านั้น  

ข้อมูลการเดินทาง : จากสถานี Sannomiya Station ให้ขึ้นรถไฟสาย Hankyu Kobe Line ไปลงที่สถานี Himeji Station และเดินต่อไปประมาณ 200 เมตร ก็จะถึงปราสาทฮิเมจิ

พิกัด GPS : 34°50'23.0"N 134°41'38.1"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับปราสาทฮิเมจิได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=480

ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ :

- เว็บไซต์พยากรณ์อากาศ
   https://www.accuweather.com/

- สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองโกเบ
   http://plus.feel-kobe.jp/en/

- การเดินทางขนส่งมวลชนญี่ปุ่น 
   http://www.hyperdia.com/

- สกุลเงินที่ใช้ : เยน (JPY)     

แอปพลิเคชัน "บริการรถแท็กซี่" ในประเทศญี่ปุ่น

- Uber สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)

- JapanTaxi สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
 

แอปพลิเคชัน "แผนที่ในการนำทาง" ในประเทศญี่ปุ่น

- Google Map สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)