- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- พระธาตุอิงฮัง แขวงสะหวันนะเขต ประเทศลาว
พระธาตุอิงฮัง แขวงสะหวันนะเขต ประเทศลาว
- อ่าน (9,232)
- By Webmaster
- 16:13:05 | 1 ต.ค. 2561
พระธาตุอิงฮัง แขวงสะหวันนะเขต ประเทศลาว
That Ing Hang, Savannakhet, Laos
บริเวณเขตโดยรอบพระธาตุอิงฮัง แขวงสะหวันนะเขต
พระธาตุอิงฮัง พระธาตุสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของชาวสะหวันนะเขต อยู่ห่างจากตัวเมืองตามทางหลวงหมายเลข 13 ออกไปประมาณ 12 กิโลเมตร เลียบถนนไปบ้านโพนสิน กล่าวกันว่าเป็นพระธาตุที่สร้างขึ้นเป็น พระธาตุคู่แฝดกับพระธาตุพนม ในประเทศไทย
แผนที่แขวงสะหวันนะเขต ที่อยู่ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
พระธาตุอิงฮัง พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวบ้านสะหวันนะเขต
ทุกปีชาวลาวจะมี งานนมัสการพระธาตุอิงฮัง เป็นงานยิ่งใหญ่ เช่นเดียวกับที่ชาวไทยจัดงานประเพณีนมัสการพระธาตุพนม งานทั้งสองมีขบวนแห่เทียนและการฟ้อนรำถวายองค์พระธาตุเช่นเดียวกัน แต่งานพระธาตุอิงฮังจะจัดขึ้นช่วงเดือนธันวาคม ส่วนพระธาตุพนมจะจัดขึ้นช่วงวันเพ็ญเดือนสาม ซึ่งตรงกับเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี
ประวัติและความเป็นมา
แผนสลักบทสวดบูชาพระธาตุอิงฮัง โดยเป็นคำอ่านภาษาไทย
พระธาตุอิงฮังหรือธาตุอิงฮัง สร้างขึ้นราว พ.ศ.400 ในสมัยอาณาจักรศรีโคตรบูร ซึ่งต่อมาได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐานไว้ภายใน ด้านบนของพระธาตุเป็นทองคำแท้หนักเกือบครึ่งกิโลกรัม
กำแพงที่ล้อมรอบบริเวณพระธาตุอิงฮัง
องค์พระธาตุมีความสูง 25 เมตร ตัวประตูทางเข้าทั้ง 4 ด้าน มีภาพแกะสลักแนวกามาวิจิตรของฮินดูเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ได้รับการบูรณะในสมัยอาณาจักรล้านช้างและสมัยฝรั่งเศสปกครอง ฐานเบื้องล่างองค์พระธาตุเจาะเป็นช่อง ประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ ในอดีตเปิดให้เข้าไปได้เฉพาะผู้ชาย แต่ปัจจุบันปิดไม่ให้เข้าไป รอบผนังกำแพงวัดด้านในสร้างเป็นศาลาเดินวนรอบวัด มีพระปางเงินจำนวน 160 องค์ เป็นฝีมือการหล่อของพระพุทธศาสนิกชน 2 ชาติ คือช่างคนไทยกับช่างคนลาว
บริเวณภายในพื้นที่พระธาตุอิงฮัง
โดยคำว่า “อิงฮัง” มาจากคำว่า “พิงรัง” หรือพิงต้นรัง ซึ่งเมื่อค้นประวัติของพระธาตุพนมพบว่ามีส่วนสัมพันธ์กัน ตามตำนานกล่าวว่า “สมัยหนึ่งในปัจฉิมโพธิกาล พระพุทธเจ้าพร้อมทั้งพระอานนท์ได้เสด็จมาที่ พระบาทเวินปลา ซึ่งอยู่เหนือเมืองนครพนมปัจจุบัน ได้ทรงพยากรณ์เมืองรุกขนคร (นครพนม) และได้ประทับพักแรมที่ภูกำพร้าหนึ่งคืน รุ่งขึ้นเสด็จข้ามแม่น้ำโขงไปบิณฑบาตที่เมืองศรีโคตรบูร พักอยู่ที่ร่มต้นรังต้นหนึ่ง แล้วกลับมาฉันอาหารที่ภูกำพร้าทางอากาศ”
ศาลาโรงธรรมที่ชาวบ้านช่วยกันสร้างภายในบริเวณพื้นที่พระธาตุอิงฮัง
ภูกำพร้าที่กล่าวถึงปัจจุบันคือที่ตั้งของพระธาตุพนม ตรงตำแหน่งที่ต้นรังที่พระพุทธเจ้าได้ทรงเสด็จพักรับบาตรที่เมืองศรีโคตรบูรนั้นต่อมาได้มีการสร้างเป็นธาตุกู่ในสมัยพระเจ้าสุมิตราช ภายหลังได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนกระดูกสันหลังมาประดิษฐานไว้ในกู่ธาตุหรือพระธาตุอิงฮัง
นอกจากนี้พระธาตุได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์อีกครั้งหนึ่งในปี พ.ศ.1892 เมื่อพระเจ้าฟ้างุ้ม ทรงรวบรวมอาณาจักรลาวให้แน่นแฟ้น และมอบหมายให้เจ้าเมืองในยุคนั้น ดำเนินการในเรื่องนี้ รวมทั้งดูแลรักษาสืบมา
เครื่องบูชาที่ผู้มีจิตศรัทธานำมากราบไหว้พระธาตุอิงฮัง
แต่ในปี พ.ศ.2492 ประชาชนชาวลาว ได้ร่วมกันบูรณะพระธาตุอิงฮังครั้งใหญ่ มีการสร้างขยายอาณาบริเวณพระธาตุให้แผ่กว้างออกไปอีก รวมทั้งสร้างประตูโขง และกมมะเลียน หรือระเบียงคดล้อมอาคารโดยรอบ สร้างศาลาโรงธรรม สำหรับจัดงานพิธี รวมทั้งเป็นที่พักสำหรับพุทธศาสนิกชนที่เดินทางไปกราบไหว้
การเดินทางจากสนามบินไปพระธาตุอิงฮัง
- รถสกายแล็ป (ตุ๊กตุ๊ก) สามารถเรียกจากด้านในสนามบินได้เลย ซึ่งจะใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 23 นาที โดยใช้เส้นทางหลวง ถนนหมายเลข 13 เพื่อเข้าทางด้านหน้าพระธาตุอิงฮัง ระยะทางอยู่ที่ 14.8 กิโลเมตร และจะได้รับความนิยมมากสำหรับนักท่องเที่ยว เนื่องจากสะดวกสบาย
การเดินทางจาก บขส.มุกดาหารไปพระธาตุอิงฮัง
- รถทัวร์ นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการรถทัวร์เพื่อข้ามพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย – ลาวแห่งที่ 2 ได้ โดยต้องไปขึ้นรถที่ สถานีขนส่งผู้โดยสารมุกดาหาร บริเวณใกล้กับสะพานมิตรภาพฯ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่คนละ 50 บาท รถทัวร์จะจอดให้นักท่องเที่ยวลงที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเพื่อปั๊มตราก่อน จากนั้นก็กลับขึ้นรถทัวร์คันเดิมเพื่อลงบขส.สะหวันนะเขตเพื่อต่อรถสกายแล็ปไปยังพระธาตุอิงฮัง
- รถสกายแล็ป(ตุ๊กตุ๊ก) นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นได้ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารมุกดาหาร จะมีรถสกายแล็ปจอดรอให้บริการอยู่ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ต้องการรอนาน และรถออกทันที อัตราค่าโดยสารในการข้ามแดนจะอยู่ที่ 100 บาท และสามารถตกลงกับคนขับให้ไปส่งที่พระธาตุอิงฮังได้เลย
- รถส่วนตัว สำหรับนักท่องเที่ยวที่รักอิสระในการเดิน เมื่อข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 มาแล้ว ให้มุ่งหน้าไปตามถนนทางหลวงหมายเลข 13 โดยจะผ่านตลาดหลัก 8 ซึ่งเป็นจุดตรวจคนเข้าเมือง การขับไปทางนี้มีระยะทาง ประมาณ 14.8 กิโลเมตร และใช้เวลา 23 นาทีจนกระทั่งถึงพระธาตุอิงฮัง
เวลาในการเปิด-ปิดทำการ
บริเวณส่วนหนึ่งภายในพื้นที่ของพระธาตุอิงฮัง
นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมและนมัสการพระธาตุอิงฮังได้ทุกวัน ระหว่างเวลา 08:00-16:30 น. เนื่องจากพระธาตุอิงฮังเป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่คนจากทั่วสารทิศให้ความเคารพนับถือและแวะเวียนมากราบไหว้เสมอตลอดทั้งสัปดาห์
การซื้อบัตรเข้าชม
ประตูโขงที่เป็นบริเวณทางเข้าโดยมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามแกะสลักไว้ด้านบน
ราคาบัตรเพื่อผ่านเข้าไปชมพระธาตุอิงฮังด้านในสำหรับประชาชนชาวลาว อยู่ที่ 2,000 กีบ
และสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ อยู่ที่ 5,000 กีบ
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
บริเวณด้านหน้าพระธาตุอิงฮัง
ช่วงเวลาในการท่องเที่ยวที่นิยมมากเป็นช่วงฤดูหนาว คือช่วงปลายเดือนตุลาคมไปจนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ สืบเนื่องจากว่าในช่วงฤดูหนาวมีอากาศเย็นสบาย ทำให้ไม่มีแดดที่ร้อนจัด หรือมรสุมพายุที่อาจเกิดได้
ในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันขึ้น 13, 14 และ 15 ค่ำ เดือนอ้าย พระธาตุอิงฮังจะมีการจัดงานนมัสการพระธาตุประจำปี ที่วัดพระธาตุอิงฮัง หากนักท่องเที่ยวท่านใดต้องการเข้าร่วมนมัสการก็เลือกมาในเดือนธันวาคมได้
พระธาตุอิงฮังที่ถูกปฏิสังขรณ์โดยชาวสะหวันนะเขตในปี พ.ศ.2492
นอกจากนี้ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ – เดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อนนักท่องเที่ยวอาจหลีกเลี่ยงได้และไม่เพียงแต่ชาวลาวเท่านั้นที่ไปร่วมนมัสการ หากยังรวมถึงพุทธศาสนิกชนชาวไทยจำนวนมากที่ข้ามฝั่งไปจากจังหวัดมุกดาหาร หรือจังหวัดอื่นๆ ใกล้เคียง เช่นเดียวกันกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อยที่มุ่งหน้าไปเพื่อชมเทศกาลนี้
ข้อมูลที่ควรรู้
รูปแกะสลักบริเวณตัวพระธาตุ
ค่าใช้จ่ายในการข้ามพรมแดนเพื่อเข้าเมืองฝั่งสปป.ลาว สำหรับที่ด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 2 ด้านฝั่งลาว จะตกอยู่ที่คนละ 50 บาท
พระพุทธรูปส่วนหนึ่งที่ถูกนำมาประดิษฐานไว้ในบริเวณพื้นที่พระธาตุอิงฮัง
นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมานมัสการพระธาตุ ต้องแต่งกายด้วยการ นุ่งซิ่นแบบชาวลาว หรือหากไม่ได้เตรียมมา ที่นี่ก็ได้จัดเตรียมไว้ให้นักท่องเที่ยวเรียบร้อย
จำนวนเครื่องบูชาบางส่วนที่ถูกนำมาวางไว้จากผู้มีจิตศรัทธาที่เดินทางมาพระธาตุอิงฮัง
ผู้ที่จะไปกราบพระธาตุจะต้องซื้อ เครื่องบูชา ลักษณะเหมือนบายศรี โดยจะมีชาวบ้านทำมาวางขายข้างทางริมถนนก่อนถึงพระธาตุมาให้พร้อม เนื่องจากที่บริเวณวัดจะไม่มีเครื่องบูชาขาย จะมีแต่ธูปเทียนเท่านั้น
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว พระธาตุอิงฮัง สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
พระธาตุอิงฮัง แขวงสะหวันนะเขต ประเทศลาว
(That Ing Hang, Savannakhet, Laos)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ราคา 5,000 กีบ
เวลาเปิด – ปิด : เวลา 08:00 - 16:30 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ช่วงเดือนธันวาคม ขึ้น 13, 14 และ 15 ค่ำ ของทุกปี
สถานที่ตั้ง : แขวงสะหวันนะเขต ประเทศลาว
ข้อมูลอื่น ๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ www.accuweather.com
ตรวจสอบเที่ยวบิน www.laoairlines.com
ตรวจสอบเที่ยวรถบัส https://www.busonlineticket.co.th/th
ตรวจสอบข่าวสารก่อนเดินทาง www.laogov.gov.la
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
วัดซีซ่าน ฮ่องกง
วัดซีซ่าน (Tsz Shan Monastery / 慈山寺) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ฉี่ซ้านจี๋ เป็นวัดพุทธที่ตั้งอยู่ริมชายหาดรีพัลส์เบย์ (Repulse Bay) ในฮ่องกง โดดเด่นด้วยรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมสีขาวขนาดใหญ่ สูงถึง 76 เมตร ซึ่งเป็นรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่สูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก
อ่านต่อคอสเวย์เบย์ ฮ่องกง
คอสเวย์เบย์ (Causeway Bay) เป็นหนึ่งในย่านที่คึกคักและมีชื่อเสียงที่สุดของฮ่องกง ด้วยบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยร้านค้าหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่แบรนด์เนมระดับโลกไปจนถึงร้านค้าเล็กๆ น้อยๆ ที่ขายสินค้าแปลกใหม่ ทำให้คอสเวย์เบย์กลายเป็นจุดที่บรรดานักช้อปจะต้องไม่พลาดเมื่อมาเที่ยวฮ่องกง
อ่านต่อพระราชวังหยวนหมิงใหม่ เมืองจูไห่ มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน
พระราชวังหยวนหมิงใหม่ (New Yuanming Palace/宮新園明園) ในเมืองจูไห่ (Zhuhai) มณฑลกวางตุ้ง (Quangdong) ประเทศจีน เป็นสวนและสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพระราชวังฤดูร้อนเก่า (Old Summer Palace) หรือหยวนหมิงหยวนในกรุงปักกิ่ง สวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางเมืองแห่งนี้มีครบทั้งธรรมชาติ สถาปัตยกรรมจีน สวนสนุก และการแสดง
อ่านต่อหนานไห่กวนอิม เมืองโจวซาน มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน
หนานไห่กวนอิม หรือ รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมทะเลใต้ (Nanhai Guanyin (South Sea Guanyin)) เป็นองค์เจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่และงดงามที่สุดในเกาะผู่โถวซานซึ่งประดิษฐานอยู่ที่ตำหนักริมทะเล อันเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวผู่โถวซาน เมืองโจวซาน มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ให้ความเคารพนับถือมากกว่า 2,000 ปี หนานไห่กวนอิมองค์นี้เป็นแลนด์มาร์กของเกาะภูเขาผู่โถวซาน และวัดเจ้าแม่กวนอิมไม่ยอมไปก็มีเรื่องราวในตำนานที่ไม่ควรพลาดชม
อ่านต่อวัดฮุ่ยจี้ เมืองโจวซาน มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน
วัดฮุ่ยจี้ (Huiji Temple) เป็นวัดที่ใหญ่เป็นอันดับสามบนเกาะผู่โถวซาน (Putuoshan) รองจากวัดผู่จี้ (Puji Temple) และวัดฝาหยู่ (Fayu Temple)
อ่านต่อวัดฝาหยู่ เมืองโจวซาน มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน
วัดฝาหยู่ (Fayu Temple) เป็นที่รู้จักในชื่อ "วัดหลัง" เป็นวัดที่ใหญ่เป็นอันดับสองบนเกาะผู่โถวซาน รองจากวัดผู่จี้ (Puji Temple)
อ่านต่อวัดผู่จี้ เมืองโจวซาน มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน
วัดผู่จี้ (Puji Temple) เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในเกาะผู่โถวซาน (Putuoshan) และยังหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศจีน โดยเป็นตัวแทนของสถาปัตยกรรมและเป็นอนุสรณ์สถานที่สำคัญอย่างเป็นทางการของราชวงศ์ชิงในเจ้อเจียง
อ่านต่อวัดเป่าโถว เมืองโจวซาน มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน
วัดเป่าโถว (Baotuo Lecture Temple / Baotuojian Temple) เป็นวัดที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของผู่โถวซาน ตั้งอยู่ในบริเวณจุดชมวิวภูเขาผู่โถว (Putuo Mountain Scenic Area) ภายในวัดมีบรรยากาศที่งดงามราวกับพระราชวัง
อ่านต่อจัตุรัสเทียนยี่ เมืองหนิงโป มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน
จัตุรัสเทียนยี่ (天一广场 / Tianyi Square) เป็นจัตุรัสอเนกประสงค์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน โดยได้รับรางวัลผลงานศิลปะสาธารณะยอดเยี่ยมหลังจากที่สร้างเสร็จอีกด้วย
อ่านต่อทัวร์เรือในเอลนิโด เมืองเอลนิโด จังหวัดปาลาวัน ประเทศฟิลิปปินส์
เอลนิโด (El Nido) หมู่เกาะแห่งความงดงามในทะเลตะวันตกของฟิลิปปินส์ ด้วยทัศนียภาพที่สวยงามของหาดทรายขาว น้ำทะเลใสสะอาด และภูมิทัศน์หินปูนที่สูงชันและโดดเด่น ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่ต้องมาเยือนสักครั้ง ซึ่งการท่องเที่ยวในเอลนิโดจะสมบูรณ์ไปไม่ได้เลย หากไม่ได้สัมผัสกับกิจกรรมสุดฮิต นั่นก็คือ El Nido Boat Tour หรือการล่องเรือชมเกาะต่างๆ ซึ่งถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสำรวจความงามของอ่าวและหมู่เกาะที่กระจายอยู่ทั่วบริเวณนี้
อ่านต่อ