พระธาตุอิงฮัง แขวงสะหวันนะเขต ประเทศลาว

  • อ่าน (8,900)
  • By Webmaster
  • 16:13:05 | 1 ต.ค. 2561

พระธาตุอิงฮัง แขวงสะหวันนะเขต ประเทศลาว

That Ing Hang, Savannakhet, Laos


บริเวณเขตโดยรอบพระธาตุอิงฮัง แขวงสะหวันนะเขต

             พระธาตุอิงฮัง พระธาตุสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของชาวสะหวันนะเขต อยู่ห่างจากตัวเมืองตามทางหลวงหมายเลข 13 ออกไปประมาณ 12 กิโลเมตร เลียบถนนไปบ้านโพนสิน กล่าวกันว่าเป็นพระธาตุที่สร้างขึ้นเป็น พระธาตุคู่แฝดกับพระธาตุพนม ในประเทศไทย


แผนที่แขวงสะหวันนะเขต ที่อยู่ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว


พระธาตุอิงฮัง พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวบ้านสะหวันนะเขต 

           ทุกปีชาวลาวจะมี งานนมัสการพระธาตุอิงฮัง เป็นงานยิ่งใหญ่ เช่นเดียวกับที่ชาวไทยจัดงานประเพณีนมัสการพระธาตุพนม งานทั้งสองมีขบวนแห่เทียนและการฟ้อนรำถวายองค์พระธาตุเช่นเดียวกัน แต่งานพระธาตุอิงฮังจะจัดขึ้นช่วงเดือนธันวาคม ส่วนพระธาตุพนมจะจัดขึ้นช่วงวันเพ็ญเดือนสาม ซึ่งตรงกับเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี

ประวัติและความเป็นมา


แผนสลักบทสวดบูชาพระธาตุอิงฮัง โดยเป็นคำอ่านภาษาไทย

           พระธาตุอิงฮังหรือธาตุอิงฮัง สร้างขึ้นราว พ.ศ.400 ในสมัยอาณาจักรศรีโคตรบูร ซึ่งต่อมาได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐานไว้ภายใน ด้านบนของพระธาตุเป็นทองคำแท้หนักเกือบครึ่งกิโลกรัม


กำแพงที่ล้อมรอบบริเวณพระธาตุอิงฮัง

           องค์พระธาตุมีความสูง 25 เมตร ตัวประตูทางเข้าทั้ง 4 ด้าน มีภาพแกะสลักแนวกามาวิจิตรของฮินดูเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ได้รับการบูรณะในสมัยอาณาจักรล้านช้างและสมัยฝรั่งเศสปกครอง ฐานเบื้องล่างองค์พระธาตุเจาะเป็นช่อง ประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ ในอดีตเปิดให้เข้าไปได้เฉพาะผู้ชาย แต่ปัจจุบันปิดไม่ให้เข้าไป รอบผนังกำแพงวัดด้านในสร้างเป็นศาลาเดินวนรอบวัด มีพระปางเงินจำนวน 160 องค์ เป็นฝีมือการหล่อของพระพุทธศาสนิกชน 2 ชาติ คือช่างคนไทยกับช่างคนลาว


บริเวณภายในพื้นที่พระธาตุอิงฮัง

           โดยคำว่า “อิงฮัง” มาจากคำว่า “พิงรัง” หรือพิงต้นรัง ซึ่งเมื่อค้นประวัติของพระธาตุพนมพบว่ามีส่วนสัมพันธ์กัน ตามตำนานกล่าวว่า “สมัยหนึ่งในปัจฉิมโพธิกาล พระพุทธเจ้าพร้อมทั้งพระอานนท์ได้เสด็จมาที่ พระบาทเวินปลา ซึ่งอยู่เหนือเมืองนครพนมปัจจุบัน ได้ทรงพยากรณ์เมืองรุกขนคร (นครพนม) และได้ประทับพักแรมที่ภูกำพร้าหนึ่งคืน รุ่งขึ้นเสด็จข้ามแม่น้ำโขงไปบิณฑบาตที่เมืองศรีโคตรบูร พักอยู่ที่ร่มต้นรังต้นหนึ่ง แล้วกลับมาฉันอาหารที่ภูกำพร้าทางอากาศ”


ศาลาโรงธรรมที่ชาวบ้านช่วยกันสร้างภายในบริเวณพื้นที่พระธาตุอิงฮัง

           ภูกำพร้าที่กล่าวถึงปัจจุบันคือที่ตั้งของพระธาตุพนม ตรงตำแหน่งที่ต้นรังที่พระพุทธเจ้าได้ทรงเสด็จพักรับบาตรที่เมืองศรีโคตรบูรนั้นต่อมาได้มีการสร้างเป็นธาตุกู่ในสมัยพระเจ้าสุมิตราช ภายหลังได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนกระดูกสันหลังมาประดิษฐานไว้ในกู่ธาตุหรือพระธาตุอิงฮัง

           นอกจากนี้พระธาตุได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์อีกครั้งหนึ่งในปี พ.ศ.1892 เมื่อพระเจ้าฟ้างุ้ม ทรงรวบรวมอาณาจักรลาวให้แน่นแฟ้น และมอบหมายให้เจ้าเมืองในยุคนั้น ดำเนินการในเรื่องนี้ รวมทั้งดูแลรักษาสืบมา


เครื่องบูชาที่ผู้มีจิตศรัทธานำมากราบไหว้พระธาตุอิงฮัง 

           แต่ในปี พ.ศ.2492 ประชาชนชาวลาว ได้ร่วมกันบูรณะพระธาตุอิงฮังครั้งใหญ่ มีการสร้างขยายอาณาบริเวณพระธาตุให้แผ่กว้างออกไปอีก รวมทั้งสร้างประตูโขง และกมมะเลียน หรือระเบียงคดล้อมอาคารโดยรอบ สร้างศาลาโรงธรรม สำหรับจัดงานพิธี รวมทั้งเป็นที่พักสำหรับพุทธศาสนิกชนที่เดินทางไปกราบไหว้

การเดินทางจากสนามบินไปพระธาตุอิงฮัง

             รถสกายแล็ป (ตุ๊กตุ๊ก) สามารถเรียกจากด้านในสนามบินได้เลย ซึ่งจะใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 23 นาที โดยใช้เส้นทางหลวง ถนนหมายเลข 13 เพื่อเข้าทางด้านหน้าพระธาตุอิงฮัง ระยะทางอยู่ที่ 14.8 กิโลเมตร และจะได้รับความนิยมมากสำหรับนักท่องเที่ยว เนื่องจากสะดวกสบาย

การเดินทางจาก บขส.มุกดาหารไปพระธาตุอิงฮัง

             - รถทัวร์ นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการรถทัวร์เพื่อข้ามพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย – ลาวแห่งที่ 2 ได้ โดยต้องไปขึ้นรถที่ สถานีขนส่งผู้โดยสารมุกดาหาร บริเวณใกล้กับสะพานมิตรภาพฯ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่คนละ 50 บาท รถทัวร์จะจอดให้นักท่องเที่ยวลงที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเพื่อปั๊มตราก่อน จากนั้นก็กลับขึ้นรถทัวร์คันเดิมเพื่อลงบขส.สะหวันนะเขตเพื่อต่อรถสกายแล็ปไปยังพระธาตุอิงฮัง

             - รถสกายแล็ป(ตุ๊กตุ๊ก) นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นได้ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารมุกดาหาร จะมีรถสกายแล็ปจอดรอให้บริการอยู่ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ต้องการรอนาน และรถออกทันที อัตราค่าโดยสารในการข้ามแดนจะอยู่ที่ 100 บาท และสามารถตกลงกับคนขับให้ไปส่งที่พระธาตุอิงฮังได้เลย

             - รถส่วนตัว สำหรับนักท่องเที่ยวที่รักอิสระในการเดิน เมื่อข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 มาแล้ว ให้มุ่งหน้าไปตามถนนทางหลวงหมายเลข 13 โดยจะผ่านตลาดหลัก 8 ซึ่งเป็นจุดตรวจคนเข้าเมือง การขับไปทางนี้มีระยะทาง ประมาณ 14.8 กิโลเมตร และใช้เวลา 23 นาทีจนกระทั่งถึงพระธาตุอิงฮัง

เวลาในการเปิด-ปิดทำการ


บริเวณส่วนหนึ่งภายในพื้นที่ของพระธาตุอิงฮัง

           นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมและนมัสการพระธาตุอิงฮังได้ทุกวัน ระหว่างเวลา 08:00-16:30 น. เนื่องจากพระธาตุอิงฮังเป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่คนจากทั่วสารทิศให้ความเคารพนับถือและแวะเวียนมากราบไหว้เสมอตลอดทั้งสัปดาห์

การซื้อบัตรเข้าชม


ประตูโขงที่เป็นบริเวณทางเข้าโดยมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามแกะสลักไว้ด้านบน

           ราคาบัตรเพื่อผ่านเข้าไปชมพระธาตุอิงฮังด้านในสำหรับประชาชนชาวลาว อยู่ที่ 2,000 กีบ

           และสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ อยู่ที่ 5,000 กีบ

เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว


บริเวณด้านหน้าพระธาตุอิงฮัง

           ช่วงเวลาในการท่องเที่ยวที่นิยมมากเป็นช่วงฤดูหนาว คือช่วงปลายเดือนตุลาคมไปจนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ สืบเนื่องจากว่าในช่วงฤดูหนาวมีอากาศเย็นสบาย ทำให้ไม่มีแดดที่ร้อนจัด หรือมรสุมพายุที่อาจเกิดได้

           ในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันขึ้น 13, 14 และ 15 ค่ำ เดือนอ้าย พระธาตุอิงฮังจะมีการจัดงานนมัสการพระธาตุประจำปี ที่วัดพระธาตุอิงฮัง หากนักท่องเที่ยวท่านใดต้องการเข้าร่วมนมัสการก็เลือกมาในเดือนธันวาคมได้


พระธาตุอิงฮังที่ถูกปฏิสังขรณ์โดยชาวสะหวันนะเขตในปี พ.ศ.2492

           นอกจากนี้ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ – เดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อนนักท่องเที่ยวอาจหลีกเลี่ยงได้และไม่เพียงแต่ชาวลาวเท่านั้นที่ไปร่วมนมัสการ หากยังรวมถึงพุทธศาสนิกชนชาวไทยจำนวนมากที่ข้ามฝั่งไปจากจังหวัดมุกดาหาร หรือจังหวัดอื่นๆ ใกล้เคียง เช่นเดียวกันกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อยที่มุ่งหน้าไปเพื่อชมเทศกาลนี้

ข้อมูลที่ควรรู้


รูปแกะสลักบริเวณตัวพระธาตุ

           ค่าใช้จ่ายในการข้ามพรมแดนเพื่อเข้าเมืองฝั่งสปป.ลาว สำหรับที่ด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 2 ด้านฝั่งลาว จะตกอยู่ที่คนละ 50 บาท


พระพุทธรูปส่วนหนึ่งที่ถูกนำมาประดิษฐานไว้ในบริเวณพื้นที่พระธาตุอิงฮัง

           นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมานมัสการพระธาตุ ต้องแต่งกายด้วยการ นุ่งซิ่นแบบชาวลาว หรือหากไม่ได้เตรียมมา ที่นี่ก็ได้จัดเตรียมไว้ให้นักท่องเที่ยวเรียบร้อย


จำนวนเครื่องบูชาบางส่วนที่ถูกนำมาวางไว้จากผู้มีจิตศรัทธาที่เดินทางมาพระธาตุอิงฮัง

           ผู้ที่จะไปกราบพระธาตุจะต้องซื้อ เครื่องบูชา ลักษณะเหมือนบายศรี โดยจะมีชาวบ้านทำมาวางขายข้างทางริมถนนก่อนถึงพระธาตุมาให้พร้อม เนื่องจากที่บริเวณวัดจะไม่มีเครื่องบูชาขาย จะมีแต่ธูปเทียนเท่านั้น


           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว พระธาตุอิงฮัง สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                       พระธาตุอิงฮัง แขวงสะหวันนะเขต ประเทศลาว

                       (That Ing Hang, Savannakhet, Laos)

                       ระดับความนิยม

                       อัตราค่าเข้าชม : ราคา 5,000 กีบ

                       เวลาเปิด ปิด : เวลา 08:00 - 16:30 น.

                       ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ช่วงเดือนธันวาคม ขึ้น 13, 14 และ 15 ค่ำ ของทุกปี

                       สถานที่ตั้ง : แขวงสะหวันนะเขต ประเทศลาว

                       ข้อมูลอื่น ๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ www.accuweather.com

                                         ตรวจสอบเที่ยวบิน www.laoairlines.com

                                         ตรวจสอบเที่ยวรถบัส https://www.busonlineticket.co.th/th  

                                         ตรวจสอบข่าวสารก่อนเดินทาง www.laogov.gov.la

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจาง – ดาลัด ประเทศเวียดนาม

หากอยากสัมผัสบรรยากาศเมืองชายทะเลสุดคึกคักอากาศอบอุ่น แล้วไปผ่อนคลายในเมืองแห่งภูเขาอากาศเย็นสบายที่เวียดนามใต้ ญาจางและดาลัดคือคำตอบ! สองเมืองนี้จะพาคุณดื่มด่ำไปกับธรรมชาติที่งดงาม วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์และกิจกรรมที่หลากหลาย Palanla ได้รวบรวมเอา 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจางและดาลัดมาให้แล้วในบทความนี้

อ่านต่อ

อาสนวิหารญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม

อาสนวิหารญาจาง (Christ the King Cathedral Nha Trang) หรือ โบสถ์หินญาจาง สุดยอดสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบโรมัน ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใจกลางเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม อายุเกือบร้อยปีแห่งนี้ เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กของเมือง ด้วยผนังหินสีน้ำตาลเข้มที่สลักเสลาอย่างวิจิตรบรรจง และหลังคาสูงชะลูดที่ดูอลังการ ตัดกับท้องฟ้าสีคราม ทำให้โบสถ์แห่งนี้กลายเป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว

อ่านต่อ

หาดญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม

หาดญาจาง (Nha Trang Beach) เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดของประเทศเวียดนาม ด้วยชายรูปร่างเหมือนพระจันทร์เสี้ยว ความยาวกว่า 6 กิโลเมตรที่โอบล้อมอ่าวญาจาง ในจังหวัดหวัดคั้ญฮวา ท่ามกลางภูมิทัศน์โดยรอบที่สวยงามของอาคารสถาปัตยกรรมสำคัญๆ มากมาย

อ่านต่อ

หอคอยแตร่มเฮือง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม

หอคอยแตร่มเฮือง (Tram Huong Tower) สัญลักษณ์และจุดเช็กอินยอดนิยมของหาดญาจางในปัจจุบัน

อ่านต่อ

วินเพิร์ลแลนด์ เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม

วินเพิร์ลแลนด์ (Vinpearl Land) เป็นสวนสนุกและรีสอร์ตหรูครบวงจรระดับโลกที่เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม มีจุดเด่นอยู่ที่ทำเลที่ตั้งที่สวยงามติดทะเล และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์สำคัญของการไปเที่ยวที่นี่คือ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลก

อ่านต่อ

วัดลองเซิน เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม

วัดลองเซิน (Long Son Pagoda) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “วัดพระใหญ่” เป็นวัดพุทธมหายานเก่าแก่ และใหญ่ที่สุดของเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม นอกจากความสวยงามอลังการของตัววัดแล้ว จากยอดเขายังสามารถมองเห็นวิวของเมืองญาจางและทะเลได้อย่างสวยงาม

อ่านต่อ

วัดตั๊กลัม เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม

วัดตั๊กลัม (Truc Lam Monastery of Da Lat) เป็นวัดพุทธในนิกายเซนบนยอดเขาเฟืองฮว่าง นอกจากภายในบริเวณวัดจะมีสิ่งก่อสร้างที่สวยงาม ยังมีการจัดตกแต่งภูมิทัศน์โดยรอบด้วยสวนดอกไม้สดสวย ถือเป็นวัดที่งดงามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดในดาลัด

อ่านต่อ

น้ำตกดาตันลา เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม

น้ำตกดาตันลา (Datanla Waterfall) ไม่เพียงแต่เป็นน้ำตกที่สวยงาม แต่ยังซ่อนเรื่องราวตำนานพื้นเมืองของดาลัดที่น่าสนใจเอาไว้ นอกจากสัมผัสความเย็นฉ่ำของละอองน้ำที่กระเซ็นจากม่านน้ำตกแล้ว ยังมีกิจกรรมสนุกๆ คือการนั่งรถรางลัดเลาะไปตามเส้นทางที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันเขียวขจี

อ่านต่อ

เจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม

เจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก (Linh Phuoc Pagoda) วัดศาสนาพุทธนิกายเซนในดาลัด โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ ตัวอาคารทำจากเศษกระเบื้องเคลือบงดงามวิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปปั้นมังกรขนาดใหญ่ที่พันรอบองค์พระเจดีย์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวัด

อ่านต่อ

ฮาจิ เลน ประเทศสิงคโปร์

ตรอกฮาจิ หรือ ฮาจิ เลน (Haji Lane) ถนนสายเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยสีสันและความมีชีวิตชีวาในย่านกัมปง กลาม (Kampong Glam) ของสิงคโปร์ เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นในฐานะแหล่งรวมร้านค้าบูติก ร้านอาหาร คาเฟ่ และศิลปะบนท้องถนนที่น่าสนใจ ฮาจิ เลน ไม่เพียงแค่เป็นถนนสายช้อปปิ้ง แต่ยังเป็นเหมือนแกลเลอรี่กลางแจ้งที่แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และวัฒนธรรมที่หลากหลายของสิงคโปร์อีกด้วย

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ