กิจกรรมดูฉลามวาฬที่ออสล็อบ เกาะเซบู ประเทศฟิลิปปินส์

  • อ่าน (3,982)
  • By Webmaster
  • 15:22:44 | 1 ต.ค. 2561

กิจกรรมดูฉลามวาฬที่ออสล็อบ เกาะเซบู ประเทศฟิลิปปินส์

Oslop Whale Shark Watching, Cebu Island, Philippines


พื้นที่บริเวณจุดดำน้ำของนักท่องเที่ยวเพื่อดูฉลามวาฬ

             Oslop Whale Shark Watching เป็นกิจกรรมดำน้ำเพื่อดูฉลามวาฬที่ออสล็อบ ซึ่งเป็นฉลามวาฬที่ชาวบ้านในแถบนั้นเลี้ยงไว้ในทะเล โดยออสล็อบเป็นเมืองหลวง ในเขตจังหวัดเซบู ประเทศฟิลิปปินส์ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองเซบู

 

ความเป็นมาและความสำคัญ


จุดบรีฟนักท่องเที่ยวเพื่ออธิบายข้อปฏิบัติในการลงไปดำน้ำเพื่อดูฉลามวาฬ

ฉลามวาฬฉลามวาฬที่โผล่พ้นน้ำ มาให้นักท่องเที่ยวได้พบเห็นที่ออสล็อบ

             ฉลามวาฬ (Rhincodon typus) เป็นปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีขนาดกว้างใหญ่คล้ายปลาวาฬซึ่งเป็นที่มาของชื่อสามัญ ศีรษะจะแบนและปากกว้างซึ่งปลายจมูกจะกว้างเกือบเท่าลำตัว ครีบหลังมีขนาดใหญ่โดยเฉพาะและหางมีรูปร่างครึ่งดวง


นักท่องเที่ยวส่วนหนึ่ง และฉลามวาฬที่โผล่พ้นผิวน้ำ

           โดยฉลามวาฬที่นักท่องเที่ยวจะสามารถร่วมกิจกรรมเพื่อดำน้ำไปดูได้นั้น เกิดจากการที่ชาวบ้านในบริเวณเกาะเซบูและประเทศฟิลิปปินส์ต้องการอนุรักษ์ฉลามวาฬไว้ตามธรรมชาติ จึงรวมกลุ่มและเลี้ยงฉลามวาฬเหล่านี้ไว้ในทะเล เพียงแต่กำหนดขอบเขตของมันไว้ และเมื่อมีการจัดกิจกรรมก็จะมีเจ้าหน้าที่ขับเรือพานักท่องเที่ยวไปยังบริเวณที่กำหนดไว้ว่าให้ลงดำน้ำได้นั่นเอง

การเดินทางไปเกาะเซบู (Cebu Island)

             - เครื่องบิน นักท่องเที่ยวต้องนั่งเครื่องบินภายในประเทศจากเมืองหลวงมะนิลา (สนามบินมะนิลา หรือ ท่าอากาศยานนานาชาตินินอย อะควิโน่) เพื่อไปลงที่เกาะเซบู (สนามบินเซบู หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติแม็กแทน-เซบู) ใช้เวลาเดินทาง 1.30 ชั่วโมงโดยประมาณ หลังลงจากเครื่องแล้วต้องเดินออกจากสนามบินโดยเลี้ยวขวาและขึ้นแท็กซี่เพื่อไปที่ South Bus Terminal ราคา 250-300 เปโซโดยประมาณ

การเดินทางไปออสล็อบ (Bohol Island)

             - รถประจำทาง นักท่องเที่ยวต้องเดินไปที่ท่ารถเบอร์ 8 ซึ่งจะเป็นรถแอร์สีเหลือง ระยะเวลาเดินทางไปออสล็อบใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง ราคา 169 เปโซโดยประมาณ

             - รถเหมา นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปออสล็อบ สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ตั้งแต่ที่สนามบินเซบูหลังจากลงจากไฟล์ทบิน ส่วนราคาค่าโดยสารขึ้นอยู่ที่ตกลงกัน เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสะดวกสบาย ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง

             - รถรับ/ส่งจากโรงแรมที่พัก นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ของโรงแรมและแจ้งความต้องการที่จะเดินทางรวมถึงนัดหมายเวลาที่จะให้รถมารับให้เรียบร้อย วิธีนี้เป็นการเดินทางที่สะดวกที่สุดซึ่งสามารถขึ้นรถได้ที่โรงแรม

เวลาทำการเปิด-ปิด


แผนผังชี้จุดท่องเที่ยวต่างๆ ในบริเวณออสล็อบ

           ในการดำน้ำเพื่อดูฉลามวาฬที่ออสล็อบจะเปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08:00 น. - 20:00 น. ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการดำน้ำหรือฉลามวาฬได้


นักท่องเที่ยวกำลังเตรียมตัวเพื่อเวลาลงเรือไปดำน้ำ

อัตราค่าเข้าชม


บริเวณจุดขึ้นเรือของนักท่องเที่ยวที่จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด

           สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการร่วมกิจกรรมดำน้ำ อัตราค่าดำน้ำคนละ 1,000 เปโซ แต่ถ้าหากนักท่องเที่ยวต้องการที่จะนั่งดูฉลามวาฬบนเรือเท่านั้น ราคาอยู่ที่คนละ 500 เปโซ

จุดท่องเที่ยวสำคัญ


กลุ่มนักท่องเที่ยวที่กำลังเตรียมตัวใส่เสื้อชูชีพเพื่อลงเรือออกไปที่จุดดำน้ำ

           บริเวณจุดดำน้ำดูฉลามวาฬ เป็นบริเวณที่เจ้าหน้าที่จะพานักท่องเที่ยวขึ้นเรือเพื่อออกทะเลไปในจุดที่สามารถลงดำน้ำดูฉลามวาฬได้อย่างปลอดภัย ซึ่งนักท่องเที่ยวบางคนก็เพียงแค่ขึ้นเรือไปนั่งดูฉลามวาฬจากบนเรือเท่านั้น โดยการดำน้ำเพื่อลงไปดูฉลามวาฬที่ใต้น้ำนั้นเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด

เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว


กลุ่มนักท่องเที่ยวบริเวณชายหาดที่กำลังรอขึ้นเรือเพื่อออกไปยังจุดดำน้ำ

           นักท่องเที่ยวควรเดินทางไปท่องเที่ยวในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนเมษายนจะดีที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงฤดูฝน ไม่ว่าจะฝนหรือลมแรงที่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ ทำให้การเดินทางในช่วงฤดูร้อนจึงจะดีที่สุด ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้เห็นฉลามวาฬได้อย่างที่ตั้งใจแน่นอนเนื่องจากว่าฉลามวาฬที่นักท่องเที่ยวจะได้ดูนั้นเป็นฉลามวาฬเลี้ยงของชาวบ้านในแถบนั้น และยังมีกำหนดขอบเขตของพื้นที่ในการดำรงชีวิตของมันอีกด้วย

ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้


ฉลามวาฬที่ขึ้นมาบนผิวน้ำทะเลซึ่งเป็นมุมมองจากด้านบนเรือ

           ในการดำน้ำเพื่อดูฉลามวาฬในแต่ละครั้งนั้น จะมี กฎระเบียบ เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการดำน้ำได้ร่วมปฏิบัติ โดยข้อห้ามหลัก ๆ คือ

                    1. ห้ามทาครีมกันแดด เนื่องจากครีมกันแดดเป็นสารอันตรายต่อผิวของฉลามวาฬ เมื่อลงดำน้ำสารที่อยู่ในครีมกันแดดจะละลาย และไปทำร้ายผิวของฉลามวาฬได้ แต่หากนักท่องเที่ยวท่านใดที่เป็นกังวลเรื่องผิวเสียก็สามารถป้องกันได้ด้วยการสวมใส่ชุดว่ายน้ำแขนยาว

                    2. ห้ามเข้าใกล้ฉลามวาฬเกิน 4 เมตร และช่วงระยะหาง ควรจะเว้นว่างประมาณ 5 เมตรขึ้นไป เพราะเมื่อฉลามวาฬสะบัดหาง อาจทำให้เกิดอันตรายได้

                    3. ห้ามแตะฉลามวาฬ ด้วยอวัยวะใดๆ โดยเด็ดขาด

                    4. ห้ามขวางทางฉลามวาฬ ด้วยการว่ายน้ำไปขวางทาง

                    5. ห้ามอยู่ด้านหน้าฉลามวาฬเด็ดขาด ในขณะที่มันอ้าปาก ถึงแม้ฉลามวาฬจะไม่กินเนื้อ แต่เมื่อเวลาฉลามวาฬอ้าปากกินอาหาร จะทำให้มีแรงดูดน้ำมหาศาลซึ่งอาจทำให้โดนดูดเข้าไปในปากมันได้

 

           นักท่องเที่ยวที่สนใจไป ดูฉลามวาฬที่ออสล็อบ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                       กิจกรรมดูฉลามวาฬที่ออสล็อบ เกาะเซบู ประเทศฟิลิปปินส์

                       (Oslop Whale Shark Watching, Cebu Island, Philippines)

                       ระดับความนิยม

                       อัตราค่าเข้าชม : ดำน้ำคนละ 1,000 เปโซ /นั่งดูบนเรือคนละ 500 เปโซ

                       เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันเวลา 08.00 น. – 20.00 น.

                       ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : เดือนธันวาคม – เดือนเมษายน

                       สถานที่ตั้ง : เมืองออสล็อบ เกาะเซบู ประเทศฟิลิปปินส์

                       เว็บไซต์ : http://www.oslobwhalesharks.com/

                       ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : การพยากรณ์อากาศ www.accuweather.com

                                       การท่องเที่ยวฟิลิปปินส์ www.tourism.gov.ph

                                       ตรวจสอบเที่ยวบิน www.philippineairlines.com/en

                                       ตรวจสอบรอบเรือเฟอร์รี่โอเชี่ยนเจ็ท https:www.oceanJet.net

                                       ตรวจสอบการเช่ารถ http://boholrentacar.com/

                                       ตรวจสอบเที่ยวรถบัส http://goo.gl/CnEzVr

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ (Jogakura Ohashi Bridge) ในเทือกเขาฮักโกดะทางตอนใต้ในเมืองอาโอโมริ เป็นสะพานแขวนคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งแรกของญี่ปุ่น และยังถือเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของตัวสะพานแล้ว สะพานโจกากุระ โอฮาชิยังขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

อ่านต่อ

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ (Showa Daibutsu Seiryu-Ji) หรือ พระพุทธรูปไดบุทสึแห่งยุคโชวะ เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ความสูง 21.35 เมตร น้ำหนัก 77 ตันที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ

อ่านต่อ

ตลาดปลาอาอูกะ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

ตลาดปลาอาอูกะ (Auga Fresh Market) ศูนย์กลางจำหน่ายอาหารทะเลสดใหม่จากท่าเรืออาโอโมริ ที่เป็นเหมือนครัวของเมืองนี้และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาด

อ่านต่อ

รูปปั้นโมอาย ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

รูปปั้นโมอาย (Moai) เป็นรูปปั้นหินซึ่งมีรูปร่างคล้ายมนุษย์และส่วนศีรษะมีขนาดใหญ่เด่นชัด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว เป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงาม และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซัปโปโร

อ่านต่อ

ตลาดปลานิโจ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

ตลาดปลานิโจ (Nijo Fish Market) เป็นตลาดปลาขนาดใหญ่ในเมืองซัปโปโรที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 100 ปี ตลาดแห่งนี้โด่งดังจากอาหารทะเลสดใหม่หลากหลายชนิด ร้านอาหาร และบรรยากาศที่คึกคัก เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวสำคัญของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวซัปโปโรจะต้องไม่พลาด

อ่านต่อ

ชิโตเสะเอาท์เล็ตมอลล์ เรระ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

ชิโตเสะเอาท์เล็ตมอลล์ เรระ (Chitose Outlet Mall Rera) หนึ่งในเอาท์เล็ตมอลล์ขนาดใหญ่และได้รับความนิยมมากที่สุดบนเกาะฮอกไกโด ซึ่งอยู่ห่างจากสนามบิน New Chitose Airport เพียง 10 นาที

อ่านต่อ

คลองโอตารุ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น

คลองโอตารุ (Otaru Canal) เคยเป็นศูนย์กลางการค้าทางทะเลที่สำคัญของฮอกไกโดในอดีต ปัจจุบันยังคงมีอาคารเก่าแก่เรียงรายริมคลอง สะท้อนภาพวิถีชีวิตในอดีตให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส

อ่านต่อ

เนินแห่งพระพุทธเจ้า ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

เนินแห่งพระพุทธเจ้า (Hill of the Buddha) สถานที่ท่องเที่ยวอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของซัปโปโร โดดเด่นด้วยเศียรของพระรูปที่โผล่พ้นเนินเขาขึ้นมา ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณเดียวกันกับรูปปั้นหินโมอาย (Moai Statue) ฉายา “สโตนเฮนจ์แห่งฮอกไกโด”

อ่านต่อ

อามาโนะฮาชิดาเตะ พาร์ค จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

อามาโนะฮาชิดาเตะ พาร์ค (Amanohashidate Park) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของสันทรายอามาโนะฮาชิดาเตะ ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดติด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นมาเป็นเวลานาน และมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ภายในอามาโนะฮาชิดาเตะเรียงรายไปด้วยทิวของต้นสน ทางเดินทอดยาว มีสะพานอันเป็นแลนด์มาร์กสำคัญ ตลอดจนศาลเจ้าให้แวะสักการบูชา

อ่านต่อ

วัดซันจูซันเก็นโด จังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

วัดซันจูซันเก็นโด (Sanjusanjen-do Temple) เป็นวัดพุทธนิกายเท็นได ที่ตั้งอยู่ในย่านฮิกาชิยามะ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ตัววัดมีชื่อเสียงโดดเด่นด้วยองค์เจ้าแม่กวนอิมปางค์ประทานพร (Senju Kannon) จำนวน 1,001 องค์ ประดิษฐานอยู่ภายในวิหารไม้ยาว 120 เมตร ซึ่งถือเป็นวิหารไม้ที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ