- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- หมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะ ฮักไก จังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น
หมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะ ฮักไก จังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น
- อ่าน (14,031)
- By Webmaster
- 14:49:34 | 27 เม.ย. 2566
หมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะ ฮักไก จังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น
Oshino Hakkai, Yamanashi, Japan
ภาพบ้านเรือนโบราณของหมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะ ฮักไก และภูเขาไฟฟูจิซึ่งเป็นฉากหลังอันงดงาม
หมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะ ฮักไก คือหมู่บ้านเก่าแก่ในบริเวณทะเลสาบทั้ง 5 รอบภูเขาไฟฟูจิ ภายในหมู่บ้านมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์จำนวน 8 บ่อ แต่ละบ่อมีความใสสะอาดจนสามารถมองเห็นได้ถึงบริเวณก้นบ่อน้ำ ตั้งอยู่ในจังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น
ด้วยวิวทิวทัศน์ของหมู่บ้านสไตล์ญี่ปุ่นโบราณ มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิสูงตระหง่าน และสายน้ำบริสุทธิ์ที่เกิดจากหิมะบนยอดภูเขาไฟฟูจิละลายและไหลลงมารวมกัน ทำให้หมู่บ้านโอชิโนะ ฮักไก กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของบรรดานักท่องเที่ยว ซึ่งยังสามารถเดินทางต่อไปยังทะเลสาบคาวากูจิโกะ และทะเลสาบยามานากาโกะที่อยู่ใกล้กันได้อย่างง่ายดายอีกด้วย
ทางเดินไปยังบ่อน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ใจกลางหมู่บ้าน
ประวัติความเป็นมา
ในอดีต บ่อน้ำในหมู่บ้านแห่งนี้เคยถูกใช้เป็นที่ชำระล้างกายและจิตใจของผู้แสวงบุญ
ในอดีต คนญี่ปุ่นมีธรรมเนียมในการบูชาภูเขาไฟฟูจิเพื่อรับพลังจากเทพเจ้า ด้วยพิธีการที่มีชื่อเรียกว่า “Tohai” โดยขั้นตอนของพิธีนี้คือการไต่ขึ้นสู่ยอดของภูเขาไฟฟูจิ จากนั้นจึงกลับลงมาเพื่อเดินเท้าแสวงบุญไปตามจุดต่างๆรอบภูเขา พิธีการนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่คนทั่วไปในยุคเอโดะ (ค.ศ. 1600-1868) โดยหนึ่งในขั้นตอนสำคัญก่อนทำการปีนขึ้นสู่ยอดภูเขาไฟฟูจิ คือการมาชำระล้างร่างกายและจิตใจให้บริสุทธิ์ในบ่อน้ำพุที่มีชื่อว่า “Fujisan Nemoto Hakko” แปลว่าทะเลสาบทั้ง 8 ของภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งก็คือหมู่บ้านน้ำใสแห่งนี้นั่นเอง
อาคารที่อยู่ติดกับบ่อน้ำ จะมีการติดตั้งกังหันน้ำเพื่อรักษาคุณภาพของน้ำให้ดีที่สุดอยู่เสมอ
หมู่บ้านโอชิโนะ ฮักไก ในปัจจุบันมีอายุกว่า 80 ปี และยังคงเป็นหมู่บ้านที่มีผู้อยู่ศัยจริงๆ ด้วยการดูแลรักษาอย่างดีของคนในหมู่บ้าน จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อที่ใครๆต่างต้องแวะมาเยี่ยมชม และยังได้รับการยกย่องทั้งในฐานะ 1 ใน 100 แหล่งน้ำที่ดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่น และเป็นมรดกแห่งชาติของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย
การเดินทางไปยังหมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะ ฮักไก จากโตเกียว
- รถบัส นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการรถบัสของ Highway Bus ที่วิ่งระหว่างโตเกียว – ทะเลสาบทั้ง 5 รอบภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งจะแวะจอดที่หมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะฮักไก โดยจุดขึ้นรถจะอยู่ที่สถานีรถบัสด่วนพิเศษชินจูกุ (Shinjuku Expressway Bus Terminal) ลงป้าย Oshino Hakkai ค่าโดยสารเที่ยวละ 2,000 เยน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบตารางเวลาและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://highway-buses.jp/course/kawaguchiko.php
การเดินทางไปยังหมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะ ฮักไก จากบริเวณใกล้เคียง
- รถบัส จากสถานีรถไฟ Kawaguchiko ขึ้นรถบัสสาย Mishima-Gotemba-Kawaguchiko ลงป้าย “Oshino Hakkai” มีให้บริการระหว่าง 07.00 – 17.30 น. ค่าโดยสาร 550 เยนต่อเที่ยว นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบตารางเวลาและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://bus-en.fujikyu.co.jp/route/detail/id/1/
จากสถานีรถไฟ Fujisan มีรถบัสไปยังหมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะ ฮักไก ทั้งหมด 3 สาย คือรถบัสปลายทาง Uchino, Hirano และ Fujikko tourist buses ให้บริการระหว่าง 07.15 – 17.00 น. ค่าโดยสาร 380 เยน นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบตารางเวลาและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://bus-en.fujikyu.co.jp/heritage-tour/detail/id/2/
- รถแท็กซี่ บริเวณรอบภูเขาไฟฟูจิมีรถแท็กซี่ให้บริการทั้งแบบคิดตามมิเตอร์ และแบบเหมา โดยอัตรามิเตอร์เริ่มต้นที่ 730 เยน และเพิ่มขึ้นครั้งละ 90 เยนทุกๆระยะทาง 244 เมตร ส่วนอัตราเหมาเริ่มต้นที่ชั่วโมงละ 6,900 เยน นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.fujiq-taxi.jp/en/taxi/
จุดที่น่าสนใจในหมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะ ฮักไก
- พิพิธภัณฑ์ Hannoki Bayashi Shiryokan เป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านขนาดเล็ก ภายในจัดแสดงเครื่องมือเครื่องใช้ ของประดับตกแต่ง ไปจนถึงอาวุธในการทำสงครามในอดีตของคนในหมู่บ้าน บริเวณภายในพื้นที่พิพิธภัณฑ์ยังเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำอีกหนึ่งบ่อ ที่มีชื่อว่าบ่อ SakonaShiike อีกด้วย
ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆของคนในหมู่บ้าน ถูกจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์
- บ่อน้ำ Wakuike ถือเป็นบ่อน้ำหลักของหมู่บ้าน และเป็นจุดที่นิยมถ่ายภาพของนักท่องเที่ยว เพราะสามารถเก็บบรรยากาศของบ่อน้ำ พร้อมกับอาคารหมู่บ้านโบราณที่เรียงรายอยู่โดยรอบ ทั้งยังตั้งอยู่ใกล้กับร้านขายของที่ระลึก และร้านรวงอื่นๆอีกด้วยความพิเศษของบ่อน้ำแห่งนี้คือในปี ค.ศ. 1983 น้ำในบ่อแห่งนี้เคยถูกนำออกไปในอวกาศ เพื่อทำการทดลองการสร้างหิมะนอกโลกโดยองค์การ Nasa
ความใสสะอาดของบ่อน้ำที่ทำให้มองเห็นปราคาร์พ และมองเห็นลึกลงไปได้จนถึงก้นบ่อ
- ดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์จากปากมังกร ที่บริเวณบ่อน้ำใหญ่กลางหมู่บ้าน มีการสร้างรูปปั้นมังกร 3 ตัว และเปิดให้มีน้ำไหลผ่านออกจากปากของมังกรแต่ละตัว โดยเชื่อกันว่าน้ำที่ไหลออกมาจากปากของมังกรนี้เป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ ทำให้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่ต่างก็นำขวดน้ำมารองน้ำจากจุดนี้ไปดื่มกิน หากนักท่องเที่ยวคนไหนไม่ได้พกขวดน้ำติดตัวมา บริเวณนั้นยังมีการจำหน่ายขวดน้ำเปล่าๆ ในราคา 150 เยนอีกด้วย
น้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ไหลออกมาจากปากมังกรทั้ง 3
เวลาในการเปิด-ปิดทำการ
เปิดทำการระหว่าง 09.00 – 17.00น. ทุกวัน ไม่มีวันหยุด
บรรยากาศภายในร้านขายของกินและของฝากในหมู่บ้านน้ำใส
การซื้อบัตรเข้าชม
บริเวณทั่วไปไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชม ส่วนพิพิธภัณฑ์ Hannoki Bayashi Shiryokan มีค่าเข้าชม 300 เยน
จุดจำหน่ายตั๋วเพื่อเข้าชมพิพิธภัณฑ์ของหมู่บ้าน
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
บรรยากาศของหมู่บ้านน้ำใสในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี
หมู่บ้านน้ำใสมีความงดงามอย่างมากในสองฤดู คือระหว่างฤดูใบไม้ผลิในช่วงเดือนเมษายน ที่ทั้งในหมู่บ้านและบริเวณรอบๆ จะเต็มไปด้วยดอกซากุระผลิบานอย่างสวยงาม และระหว่างฤดูใบไม้ร่วงในช่วงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับสีสันต่างๆของใบไม้เปลี่ยนสี
หมู่บ้านน้ำใสเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวอาจหลีกเลี่ยงการเดินทางไปเยือนหมู่บ้านน้ำใสในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้มีหิมะตกค่อนข้างหนัก ทำให้การเดินทางค่อนข้างยากลำบาก และเสี่ยงต่ออันตรายมากกว่าฤดูอื่นๆ
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถตรวจสอบพยากรณ์อากาศล่วงหน้าเพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยวได้ที่ https://www.accuweather.com/
ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้
ป้ายห้ามนักท่องเที่ยวโยนเหรียญลงไปในบ่อน้ำ
เนื่องจากหมู่บ้านน้ำใสเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยือนจำนวนมากในแต่ละวัน ระหว่างการชมบ่อน้ำต่างๆ นักท่องเที่ยวจึงควรระมัดระวังไม่ให้ทำสิ่งของติดตัวใดๆตกหล่นไปในบ่อน้ำ อีกทั้งบ่อน้ำทุกบ่อในหมู่บ้าน ยังมีข้อห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวโยนเหรียญเพื่อขอพรลงไปในบ่อน้ำอีกด้วย
รถบัสที่ให้บริการนักท่องเที่ยวจากหมู่บ้านน้ำใส ไปยังสถานีรถไฟใกล้เคียง
เนื่องจากจำนวนเที่ยวของรถบัสที่วิ่งผ่านบริเวณหมู่บ้านน้ำใสมีจำนวนไม่มาก มีเพียงชั่วโมงละ 1-2 เที่ยว นักท่องเที่ยวจึงควรตรวจสอบเวลาเดินรถให้ชัดเจน และเผื่อเวลาสำหรับการเดินทางไปยังป้ายรถเมล์ซึ่งต้องใช้เวลาเดินประมาณ 5-15 นาที ทั้งนี้อาจเตรียมเบอร์โทรศัพท์ของโรงแรมหรือรถแท็กซี่เอาไว้สำหรับกรณีฉุกเฉิน
เนื่องจากทัศนวิสัยและสภาพอากาศบริเวณทะเลสาบคาวากุจิโกะอาจมีความแปรปรวนและส่งผลต่อการมองเห็นภูเขาไฟฟูจิเป็นอย่างมาก นอกจากการตรวจสอบพยากรณ์อากาศจากโทรศัพท์มือถือ หรือเว็บไซต์พยากรณ์อากาศที่เป็นสากลอย่าง Accuweather แล้ว นักท่องเที่ยวควรตรวจสอบพยากรณ์อากาศจากหน่วยงานในประเทศญี่ปุ่นควบคู่ไปด้วย เนื่องจากการพยากรณ์อากาศในญี่ปุ่นนั้นค่อนข้างมีความแม่นยำสูง และเชื่อถือได้ โดยหน่วยงานที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดคือกรมอุตุวิทยาประเทศญี่ปุ่น (JMA) ที่มีการพยากรณ์สภาพอากาศในทุกจังหวัดของญี่ปุ่นแบบรายชั่วโมง และยังคอยแจ้งเตือนแผ่นดินไหว หรืออุบัติภัยอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย
เว็บไซต์กรมอุตุวิทยาญี่ปุ่น (Japan Meteorological Agency) : http://www.jma.go.jp/jma/indexe.html
จากตัวอย่างในภาพ หากสัญลักษณ์ในตารางพยากรณ์อากาศในจังหวัด Yamanashi เป็น รูปดวงอาทิตย์ ถือว่ามีโอกาสสูงประมาณ 90% ที่จะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิแบบไม่มีเมฆบดบัง หากสัญลักษณ์ในตารางพยากรณ์อากาศเป็น รูปดวงอาทิตย์และก้อนเมฆ จะมีโอกาสประมาณ 50-70% ที่จะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิ หากเป็น รูปก้อนเมฆอย่างเดียว จะมีจะมีโอกาสประมาณ 20-40% ที่จะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิ และหากเป็น รูปก้อนเมฆพร้อมฝน ถือว่าแทบไม่มีโอกาสมองเห็นภูเขาไฟฟูจิเลย
นอกจากการตรวจสอบพยากรณ์อากาศ เพื่อข้อมูลที่ชัดเจนมากขึ้น บริเวณรอบภูเขาไฟฟูจิยังมี 2 หน่วยงานหลักที่ ติดตั้งกล้อง Webcam ไว้ตามจุดต่างๆ เพื่ออัพเดทภาพภูเขาไฟฟูจิแบบสดๆ หรืออัพเดทเป็นรายนาที ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปตรวจสอบภาพพื้นที่โดยรอบภูเขาไฟฟูจิในช่วงเวลาปัจจุบันได้ทันทีบนเว็บไซต์ เพื่อประกอบการตัดสินใจว่าควรเดินทางไปท่องเที่ยวบริเวณนั้นหรือไม่
1. องค์การการท่องเที่ยวจังหวัดยามานาชิ (Yamanashi Prefecture Tourism Organization)
กล้องขององค์การท่องเที่ยวจังหวัดยามานาชิ มีทั้งหมด 9 ตัว ซึ่งครอบคลุมภาพจากบริเวณทะเลสาบทั้ง 5 แห่ง รวมถึงจุดอื่นๆ ซึ่งมีการทำแผนที่แสดงมุมกล้องอย่างชัดเจนบนเว็บไซต์ เว็บไซต์ : https://www.yamanashi-kankou.jp/fujisanwatcher/live/index.html
2. Fujigoko TV
กล้องของบริษัท Fujigoko TV มีจำนวนกว่า 20 ตัวรอบภูเขาไฟฟูจิ ครอบคลุมทั้งพื้นที่ทะเลสาบทั้ง 5 แห่ง รวมถึงจุดท่องเที่ยวยอดนิยมอื่นๆอย่างโอชิโนะ ฮักไก และภูเขาไฟฟูจิชั้นที่ 5 โดยส่วนใหญ่จะเป็นภาพนิ่งจากกล้องที่มีการอัพเดททุกๆ 1-5 นาที และยังสามารถดูภาพย้อนหลังในช่วงเวลาอื่นของวันได้อีกด้วย เว็บไซต์ : http://www.fujigoko.tv/english/
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว หมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะ ฮักไก สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
หมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะ ฮักไก จังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น
(Oshino Hakkai, Yamanashi, Japan)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : 300 เยน
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 17.00น. ทุกวัน ไม่มีวันหยุด
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ฤดูใบไม้ผลิในช่วงเดือนเมษายน และฤดูใบไม้ร่วงในช่วงเดือนพฤศจิกายน
สถานที่ตั้ง : จังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น
โทรศัพท์ : (+81) 555-84-4223
เว็บไซต์ : http://www.vill.oshino.lg.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น)
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/eng/
เว็บไซต์การท่องเที่ยวจังหวัดยามานาชิ https://www.yamanashi-kankou.jp/thai/index.html
เว็บไซต์สำหรับดูภาพวิดีโอสดจากมุมต่างๆรอบภูเขาไฟฟูจิ http://www.fujigoko.tv/english/
เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจาง – ดาลัด ประเทศเวียดนาม
หากอยากสัมผัสบรรยากาศเมืองชายทะเลสุดคึกคักอากาศอบอุ่น แล้วไปผ่อนคลายในเมืองแห่งภูเขาอากาศเย็นสบายที่เวียดนามใต้ ญาจางและดาลัดคือคำตอบ! สองเมืองนี้จะพาคุณดื่มด่ำไปกับธรรมชาติที่งดงาม วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์และกิจกรรมที่หลากหลาย Palanla ได้รวบรวมเอา 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจางและดาลัดมาให้แล้วในบทความนี้
อ่านต่ออาสนวิหารญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
อาสนวิหารญาจาง (Christ the King Cathedral Nha Trang) หรือ โบสถ์หินญาจาง สุดยอดสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบโรมัน ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใจกลางเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม อายุเกือบร้อยปีแห่งนี้ เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กของเมือง ด้วยผนังหินสีน้ำตาลเข้มที่สลักเสลาอย่างวิจิตรบรรจง และหลังคาสูงชะลูดที่ดูอลังการ ตัดกับท้องฟ้าสีคราม ทำให้โบสถ์แห่งนี้กลายเป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว
อ่านต่อหาดญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หาดญาจาง (Nha Trang Beach) เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดของประเทศเวียดนาม ด้วยชายรูปร่างเหมือนพระจันทร์เสี้ยว ความยาวกว่า 6 กิโลเมตรที่โอบล้อมอ่าวญาจาง ในจังหวัดหวัดคั้ญฮวา ท่ามกลางภูมิทัศน์โดยรอบที่สวยงามของอาคารสถาปัตยกรรมสำคัญๆ มากมาย
อ่านต่อหอคอยแตร่มเฮือง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หอคอยแตร่มเฮือง (Tram Huong Tower) สัญลักษณ์และจุดเช็กอินยอดนิยมของหาดญาจางในปัจจุบัน
อ่านต่อวินเพิร์ลแลนด์ เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วินเพิร์ลแลนด์ (Vinpearl Land) เป็นสวนสนุกและรีสอร์ตหรูครบวงจรระดับโลกที่เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม มีจุดเด่นอยู่ที่ทำเลที่ตั้งที่สวยงามติดทะเล และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์สำคัญของการไปเที่ยวที่นี่คือ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลก
อ่านต่อวัดลองเซิน เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วัดลองเซิน (Long Son Pagoda) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “วัดพระใหญ่” เป็นวัดพุทธมหายานเก่าแก่ และใหญ่ที่สุดของเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม นอกจากความสวยงามอลังการของตัววัดแล้ว จากยอดเขายังสามารถมองเห็นวิวของเมืองญาจางและทะเลได้อย่างสวยงาม
อ่านต่อวัดตั๊กลัม เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
วัดตั๊กลัม (Truc Lam Monastery of Da Lat) เป็นวัดพุทธในนิกายเซนบนยอดเขาเฟืองฮว่าง นอกจากภายในบริเวณวัดจะมีสิ่งก่อสร้างที่สวยงาม ยังมีการจัดตกแต่งภูมิทัศน์โดยรอบด้วยสวนดอกไม้สดสวย ถือเป็นวัดที่งดงามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดในดาลัด
อ่านต่อน้ำตกดาตันลา เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
น้ำตกดาตันลา (Datanla Waterfall) ไม่เพียงแต่เป็นน้ำตกที่สวยงาม แต่ยังซ่อนเรื่องราวตำนานพื้นเมืองของดาลัดที่น่าสนใจเอาไว้ นอกจากสัมผัสความเย็นฉ่ำของละอองน้ำที่กระเซ็นจากม่านน้ำตกแล้ว ยังมีกิจกรรมสนุกๆ คือการนั่งรถรางลัดเลาะไปตามเส้นทางที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันเขียวขจี
อ่านต่อเจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
เจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก (Linh Phuoc Pagoda) วัดศาสนาพุทธนิกายเซนในดาลัด โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ ตัวอาคารทำจากเศษกระเบื้องเคลือบงดงามวิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปปั้นมังกรขนาดใหญ่ที่พันรอบองค์พระเจดีย์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวัด
อ่านต่อฮาจิ เลน ประเทศสิงคโปร์
ตรอกฮาจิ หรือ ฮาจิ เลน (Haji Lane) ถนนสายเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยสีสันและความมีชีวิตชีวาในย่านกัมปง กลาม (Kampong Glam) ของสิงคโปร์ เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นในฐานะแหล่งรวมร้านค้าบูติก ร้านอาหาร คาเฟ่ และศิลปะบนท้องถนนที่น่าสนใจ ฮาจิ เลน ไม่เพียงแค่เป็นถนนสายช้อปปิ้ง แต่ยังเป็นเหมือนแกลเลอรี่กลางแจ้งที่แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และวัฒนธรรมที่หลากหลายของสิงคโปร์อีกด้วย
อ่านต่อ