ศาลเจ้าเมจิ จังหวัดโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

  • อ่าน (1,730)
  • By
  • 15:56:08 | 9 มี.ค. 2566

ศาลเจ้าเมจิ จังหวัดโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

Meiji Jingu (Meiji Shrine), Tokyo, Japan

Meiji Jingu (Meiji Shrine)
โทริอิไม้ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งตระหง่านอยู่หน้าทางเข้าศาลเจ้าเมจิ

           ศาลเจ้าเมจิ เป็นศาลเจ้าที่คนญี่ปุ่นนิยมมาขอพรมากที่สุดในช่วงวันปีใหม่ ศาลเจ้าแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่ดวงวิญญาณของสมเด็จพระจักพรรดิเมจิ และสมเด็จพระจักพรรดินีโชเก็ง ตั้งอยู่ในเขตชิบูย่า กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

Meiji Jingu (Meiji Shrine)
 

ประวัติความเป็นมา

          ภายหลังจากการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระจักพรรดิเมจิ ในปี ค.ศ. 1912 เนื่องจากบทบาทอันสำคัญของพระองค์ในการปฏิรูปเมจิ ซึ่งเป็นการปฏิรูปที่เปลี่ยนโฉมหน้าประเทศญี่ปุ่นครั้งใหญ่ และการเป็นที่เคารพเทิดทูนของชาวญี่ปุ่นทุกคนอย่างสูง ในปีนั้น สภานิติบัญญัติแห่งชาติของญี่ปุ่นจึงได้ผ่านวาระในสภาเพื่อดำเนินการสร้างอนุสรณ์สถานแด่สมเด็จพระจักพรรดิ โดยเลือกสถานที่ตั้งจากสวนแห่งหนึ่งที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของดอกไอริส ซึ่งทั้งสมเด็จพระจักพรรดิและสมเด็จพระจักพรรดินีได้เสด็จไปเยี่ยมชมบ่อยครั้ง

Meiji Jingu (Meiji Shrine)
อาคารต่างๆของศาลเจ้าถูกปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใหญ่โดยรอบ

          การก่อสร้างศาลเจ้าเมจิเริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 1915 และสิ้นสุดในปี ค.ศ. 1920 โดยชาวญี่ปุ่นได้ร่วมบริจาคต้นไม้กว่าหนึ่งแสนต้นเพื่อนำมาปลูกภายในบริเวณศาลเจ้า จนทำให้มีความร่มรื่นไม่ต่างอะไรกับป่าไม้ทั้งที่อยู่ใจกลางเมืองใหญ่ ทั้งนี้ ศาลเจ้าเมจิเคยได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการทิ้งระเบิดระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ในปี ค.ศ. 1958

Meiji Jingu (Meiji Shrine)
ทั้งนักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่นต่างก็เดินทางมาสักการะศาลเจ้าเมจิตลอดทั้งวัน

          ความพิเศษของศาลเจ้าเมจิ คือพื้นที่โดยรอบที่มีขนาดใหญ่ถึง 700,000 ตารางเมตร ประกอบไปด้วยพรรณไม้กว่า 365 ชนิด และมีจำนวนต้นไม้ทั้งหมดกว่าหนึ่งแสนต้น ให้บรรยากาศร่มรื่นและสงบแม้ว่าจะตั้งอยู่ในย่านธุรกิจของกรุงโตเกียจนได้รับการขนานนามว่าเป็นป่าในเมือง นอกจากนี้ศาลเจ้าเมจิยังเป็นที่นิยมในการจัดงานแต่งงานตามแบบฉบับญี่ปุ่นโบราณอีกด้วย

Meiji Jingu (Meiji Shrine)
บรรยากาศภายในศาลเจ้าเมจิ สงบและร่มรื่นด้วยจำนวนต้นไม้กว่าแสนต้น

Meiji Jingu (Meiji Shrine)
บรรยากาศภายในศาลเจ้าเมจิ

 

การเดินทางไปยังศาลเจ้าเมจิ

          - รถไฟ เนื่องจากศาลเจ้าเมจิมีบริเวณกว้างขวาง ทำให้มีทางเข้าจากหลายทาง แต่ทางเข้าหลักซึ่งมีมีประตูโทริอิไม้ขนาดใหญ่นั้นอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ Harajuku สำหรับรถไฟสาย Yamanote และสถานี Meiji-jingumae สำหรับรถไฟใต้ดินสาย Chiyoda(สีเขียว) และ Fukutoshin(สีน้ำตาล) โดยใช้เวลาเดินจากทั้ง 2 สถานีประมาณ 2-4 นาที นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบข้อมูลการเดินทางโดยรถไฟอย่างละเอียดได้ที่ http://www.hyperdia.com/en/

          - รถแท็กซี่ รถแท็กซี่ในกรุงโตเกียวนั้นมีค่ามิเตอร์เริ่มต้นที่ 410-800 เยน ต่อระยะทาง 2 กิโลเมตรแรก ค่าโดยสารทั้งหมดขึ้นอยู่กับระยะทางจากจุดขึ้นรถของนักท่องเที่ยว โดยสามารถคำนวณค่าโดยสารเบื้องต้นได้ที่ https://www.numbeo.com/taxi-fare/in/Tokyo
 

เวลาในการเปิด-ปิดทำการ

          บริเวณศาลเจ้า ไม่มีกำหนดเวลาเปิดปิดที่แน่นอน แต่ยึดหลักตามเวลาที่ดวงอาทิตย์ขึ้นและตก

          บริเวณสวนภายในศาลเจ้า เปิดทำการตั้งแต่ 09.00 – 16.30 น.

          ทั้งสองสถานที่เปิดทำการทุกวัน ไม่มีวันหยุด 

Meiji Jingu (Meiji Shrine)
ในวันเสาร์อาทิตย์ นักท่องเที่ยวมีโอกาสได้พบกับการจัดพิธีแต่งงานแบบญี่ปุ่นภายในศาลเจ้าอีกด้วย
 

การซื้อบัตรเข้าชม

          บริเวณศาลเจ้า ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม

          บริเวณสวนภายในศาลเจ้า มีค่าเข้าชม 500 เยน

Meiji Jingu (Meiji Shrine)
น้ำศักดิ์สิทธิ์
 

เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

          ศาลเจ้าเมจิได้รับการดูแลรักษาความสวยงามและความร่มรื่นภายในอยู่ตลอดเวลา นักท่องเที่ยวจึงสามารถแวะไปเยี่ยมชมได้ตลอดทั้งปี

          ทั้งนี้ หากนักท่องเที่ยวต้องการไปชมดอกไอริส ซึ่งเป็นที่โปรดปรานของสมเด็จพระจักพรรดิเมจิ และสมเด็จพระจักพรรดินีโชเก็ง ดอกไอริสจะผลิบานในช่วงเดือนมิถุนายนของทุกปี โดยจะปลูกเอาไว้ในสวนของศาลเจ้า (มีการเก็บค่าเข้าสวนเพิ่มเติม)

          นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถตรวจสอบพยากรณ์อากาศล่วงหน้าเพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยวได้ที่ https://www.accuweather.com/

Meiji Jingu (Meiji Shrine)
ความสวยงามของพรรณไม้ในศาลเจ้าเมจิยามใบไม้เปลี่ยนสี
 

ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้

           เนื่องจากระยะทางระหว่างประตูทางเข้ากับตัวศาลเจ้าอยู่ห่างกันค่อนข้างมาก โดยต้องใช้เวลาเดินเข้าไปประมาณ 10 นาที และพื้นทางเดินมีลักษณะเป็นก้อนกรวด นักท่องเที่ยวจึงควรสวมใส่รองเท้าที่เดินได้อย่างสบาย หลีกเลี่ยงการสวมใส่รองเท้าส้นสูง และหากนักท่องเที่ยวเหนื่อยล้าจากการเที่ยวชมสถานที่อื่นมาก่อน ควรนั่งพักเอาแรงบริเวณสถานี Harajuku ก่อนจะเดินเข้าไปสู่ศาลเจ้าเมจิ

Meiji Jingu (Meiji Shrine)
ทางเดินจากบริเวณหน้าศาลเจ้าเข้าไปยังอาคารภายใน มีระยะทางค่อนข้างไกล นักท่องเที่ยวจึงควรสวมใส่รองเท้าที่เดินได้สบาย

          เนื่องจากศาลเจ้าเมจิได้รับความนิยมในการจัดงานแต่งงานตามแบบฉบับญี่ปุ่นอย่างสูง ในช่วงวันเสาร์อาทิตย์นักท่องเที่ยวจึงมักจะได้พบกับพิธีแต่งงานของคู่บ่าวสาวชาวญี่ปุ่น ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวจึงควรระมัดระวังการถ่ายรูปพิธี รวมถึงระมัดระวังการเข้าไปขัดขวางพิธีการโดยไม่ได้ตั้งใจ

Meiji Jingu (Meiji Shrine)
ป้ายขอพรจำนวนมากถูกแขวนเรียงรายอยู่ใกล้กับอาคารศาลเจ้า
 

          นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว ศาลเจ้าเมจิ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                      ศาลเจ้าเมจิ จังหวัดโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

                      (Meiji Jingu (Meiji Shrine), Tokyo, Japan) 

                      ระดับความนิยม :

                      อัตราค่าเข้าชม : บริเวณศาลเจ้า ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม

                                              บริเวณสวนภายในศาลเจ้า – มีค่าเข้าชม 500 เยน

                      เวลาเปิด - ปิด : ตามพระอาทิตย์ขึ้นและตก บริเวณสวนภายในศาลเจ้า – เปิดทำการตั้งแต่ 09.00 – 16.30 น.

                      ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี, ช่วงเวลาที่ดอกไอริสผลิบานคือเดือนมิถุนายน

                      สถานที่ตั้ง : เขตชิบูย่า กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

                      โทรศัพท์ : (+81) 3-3379-5511

                      เว็บไซต์ : http://www.meijijingu.or.jp/english/index.html

                      ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/eng/

                                                เว็บไซต์การท่องเที่ยวโตเกียว https://www.gotokyo.org/en/

                                                เว็บไซต์ศูนย์รวมจุดบริการนักท่องเที่ยวในโตเกียว http://www.tourist-information-center.jp/tokyo/en/

                                                เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น

จังหวัดคานากาว่า (Kanagawa) เป็นเขตปกครองตนเองที่ตั้งอยู่ใน ภูมิภาคคันโต ของประเทศญี่ปุ่น จังหวัดนี้เป็นที่ตั้งของเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงหลายเมืองด้วยกัน อาทิ คามาคุระ (Kamakura) โยโกฮาม่า (Yokohama) และฮาโกเน่ (Hakone)…Palanla ได้รวบรวมเอา 11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ตั้งแต่ชายหาด พระใหญ่ วัดเก่าแก่ ศาลเจ้า ไชน่าทาวน์ สวนสนุก อควาเรียม ทะเลสาบ ไปจนถึงกระเช้าลอยฟ้าและจุดชมภูเขาไฟฟูจิ มาไว้แล้วในบทความนี้

อ่านต่อ

สวนหลิวหยวน เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

สวนหลิวหยวน หรือ สวนสิงโต (Lion Forest Garden) เป็นสวนจีนโบราณที่สวยงาม ตั้งอยู่ในเมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน สวนแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของและชื่อหลายครั้งตลอดหลายศตวรรษ สวนหลิวหยวน ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสวนคลาสสิกที่สำคัญที่สุดของซูโจว และเป็นส่วนหนึ่งของ "สวนคลาสสิกของซูโจว" ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ.2000

อ่านต่อ

สวนจัวเจิ้ง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

สวนจัวเจิ้ง (Humble Administrator’s Garden) เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุดในซูโจวและได้ชื่อว่าเป็นสวนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีนตอนใต้ สวนแห่งนี้ถูกใช้เป็นฉากหลังของภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์จีนหลายเรื่องด้วยกัน และได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1997

อ่านต่อ

เนินเขาเสือ เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

เนินเขาเสือ หรือเนินหู่ชิว (Tiger Hill) ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในซูโจว นักท่องเที่ยวนิยมปีนขึ้นไปชมทิวทัศน์ธรรมชาติที่มีเสน่ห์และโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าของซูโจว ไม่ว่าจะเป็นหลุมศพโบราณ บ่อน้ำ เจดีย์ และห้องสมบัติ เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสัมผัสความสวยงามของทิวทัศน์ในวรรณคดีจีนโบราณ โดยที่นี่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย

อ่านต่อ

ทะเลสาบจินจี เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

ทะเลสาบจินจี (Jinji Lake) ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในซูโจว ซึ่งแวดล้อมไปด้วยสวนสาธารณะริมทะเลสาบ ศูนย์จัดแสดงสินค้า พิพิธภัณฑ์ โรงแรม ฯลฯ ถือเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของเมืองซูโจว

อ่านต่อ

ถนนซานถัง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

ถนนซานถัง (Shantang Street) ถนนโบราณที่มีความเก่าแก่เกือบ 1,200 ปี ครั้งหนึ่งถนนสายนี้เคยเป็นศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ปัจจุบันซานถังยังคงเป็นถนนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยได้รับการยกย่องว่าเป็น “ภาพย่อของซูโจวเก่า” และยังถูกจัดอันดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ AAAA ของประเทศ

อ่านต่อ

อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น (Grand Canal National Culture Park) เป็นส่วนหนึ่งของคลองต้ายุ่นซึ่งทอดตัวยาวกว่า 3,000 กิโลเมตร และเป็นแหล่งหลอมรวมวัฒนธรรมสำคัญในประเทศจีนมานานกว่า 2,500 ปี ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองซูโจว

อ่านต่อ

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ (Jogakura Ohashi Bridge) ในเทือกเขาฮักโกดะทางตอนใต้ในเมืองอาโอโมริ เป็นสะพานแขวนคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งแรกของญี่ปุ่น และยังถือเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของตัวสะพานแล้ว สะพานโจกากุระ โอฮาชิยังขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

อ่านต่อ

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ (Showa Daibutsu Seiryu-Ji) หรือ พระพุทธรูปไดบุทสึแห่งยุคโชวะ เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ความสูง 21.35 เมตร น้ำหนัก 77 ตันที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ

อ่านต่อ

ตลาดปลาอาอูกะ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

ตลาดปลาอาอูกะ (Auga Fresh Market) ศูนย์กลางจำหน่ายอาหารทะเลสดใหม่จากท่าเรืออาโอโมริ ที่เป็นเหมือนครัวของเมืองนี้และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาด

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ