เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ คุณสามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ โดยคลิก "การตั้งค่าคุกกี้"
10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในจังหวัดนางาซากิ ประเทศญี่ปุ่น
Top 10 Travel Destinations in Nagasaki, Japan
จังหวัดนางาซากิ (Nagasaki) เป็นจังหวัดเล็กๆ ที่ได้ชื่อว่าเป็น “หน้าต่างสู่ประเทศญี่ปุ่น” เนื่องจากในช่วงศตวรรษที่ 17 – 19 ที่ญี่ปุ่นปิดประเทศและงดความสัมพันธ์กับประเทศอื่นๆ นางาซากิเป็นเพียงจังหวัดเดียวที่ได้รับอนุญาตให้เปิดทำการค้าขายกับต่างชาติอย่างเนเธอร์แลนด์และจีน แม้ว่าจังหวัดนางาซากิมักถูกจดจำในฐานะโศกนาฏกรรมในสงครามโลกครั้งที่สอง ทว่าจังหวัดเล็กๆ แห่งนี้ยังเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวอีกมากมายที่ไม่ได้มีเฉพาะกลิ่นอายของสงครามและความเจ็บปวด ไม่ว่าจะเป็นสวนสนุกขนาดใหญ่ จุดชมวิวสวยๆสุดโรแมนติก ไปจนถึงย่านไชน่าทาวน์ชุมชนชาวจีนสุดคึกคัก
แผนที่แสดงตำแหน่งของ 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองนางาซากิ
นางาซากิชินจิไชน่าทาวน์ (Nagasaki Shinchi China Town)
นางาซากิชินจิไชน่าทาวน์ (Nagasaki Shinchi China Town) หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า “ไชน่าทาวน์” คือบริเวณที่เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารเรียงรายสองข้างถนนที่ทอดยาวตลอดช่วงตึกในใจกลางเมืองนางาซากิ นางาซากิชินจิไชน่าทาวน์เรียกได้ว่าเป็นไชนาทาวน์ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ผู้อพยพในยุคแรกสุดของประเทศก็พำนักพักพิงกันอยู่รอบๆ พื้นที่นี้ โดยนอกจากชาวดัตช์ พ่อค้าชาวจีนก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ได้รับอนุญาตให้ตั้งถิ่นฐานในนางาซากิในระหว่างการปิดประเทศที่ยาวนานของญี่ปุ่นตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 จนถึงสิ้นสุดศตวรรษที่ 19 นอกจากจะเต็มไปด้วยร้านอาหารจีนอร่อยๆ แล้วที่นี่จึงเป็นย่านที่แสดงให้เห็นภาพเชิงลึกอันน่าตื่นตาตื่นใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมของผู้อพยพในยุคแรกสุดของแดนอาทิตอุทัยด้วย
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 32°44'30.2"N 129°52'31.7"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ นางาซากิชินจิไชน่าทาวน์ ได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/1271
สวนสันติภาพนางาซากิ (Peace Park)
สวนสันติภาพนางาซากิ (Peace Park) สวนสาธารณะที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ระเบิดปรมาณูในสงครามโลกครั้งที่ 2 บริเวณด้านหน้าสวนสันติภาพแห่งนี้มีเอกลักษณ์อันโดดเด่นคือ น้ำพุแห่งสันติภาพ (Fountain of Peace) กับ อนุสาวรีย์แห่งสันติภาพ (Peace Statue) ประติมากรรมโลหะสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่รูปชายคนหนึ่ง ความสูง 9.7 เมตร น้ำหนัก 30 ตัน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความปรารถนาของชาวเมืองนางาซากิเพื่อสันติภาพโดยมือขวาของรูปปั้นชี้ขึ้นฟ้าคือการเตือน "ภัยคุกคามของระเบิดปรมาณู" มือซ้ายเหยียดยาวในแนวราบขนานกับพื้นคือ "สันติภาพ" ส่วนตาที่ปิดลงอย่างสงบคือ "การอธิษฐานเพื่อความสุขของผู้รอดชีวิตจากระเบิดปรมาณู” ภายในสวนยังมีประติมากรรมอื่นๆ ที่ถูกส่งมาจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกเพื่อร่วมเรียกร้องให้เกิดความสงบสุขให้ได้ชมอย่างเพลิดเพลิน
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 32°46'35.2"N 129°51'49.3"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สวนสันติภาพนางาซากิ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1129
น้ำพุแห่งสันติภาพ (Fountain of Peace)
น้ำพุแห่งสันติภาพ (Fountain of Peace) ตั้งอยู่ด้านหน้าของสวนสันติภาพนางาซากิ (Peace Park) น้ำพุแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่ดวงวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตเพราะขาดน้ำจากระเบิดปรมาณูให้ไปสู่สุขติ จากความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ในวันที่นางาซากิโดนระเบิดปรมาณูที่ใช้เชื้อเพลิงพลูโตเนียมในเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 2 อันเป็นเหตุให้ผู้คนล้มตายและผู้ที่รอดชีวิตต้องทนทุกข์ทรมานจากพิษร้ายของสารพลูโตเนียมไปเกือบทั้งเมือง โดยในวันที่ 9 สิงหาคมของทุกปี ซึ่งตรงกับวันที่มีการทิ้งระเบิดปรมาณู จะมีการจัดงานระลึกถึงสันติภาพและเพื่ออุทิศแด่ดวงวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิต ที่บริเวณน้ำพุแห่งสันติภาพนี้ด้วย
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 32°46'31.6"N 129°51'47.1"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ น้ำพุแห่งสันติภาพ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1125
พิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณูนางาซากิ (Nagasaki Atomic Bomb Museum)
พิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณูนางาซากิ (Nagasaki Atomic Bomb Museum) ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับสวนสันติภาพ (Peace Park) พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ถือเป็นสิ่งเตือนใจให้ผู้คนได้ระลึกถึงความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ในวันที่นางาซากิโดน “เจ้าอ้วน” (Fat Man) ระเบิดปรมาณูเชื้อเพลิงพลูโตเนียมลูกที่ 2 ถล่มต่อจากเมืองฮิโรชิม่า ภายในพิพิธภัณฑ์แบ่งออกเป็น 4 โซนด้วยกัน จัดแสดงเรื่องราว ข้อมูลเหตุการณ์ และซากชิ้นส่วนสิ่งของต่างๆ ตั้งแต่ก่อนการถูกถล่มด้วยระเบิดปรมาณูจนถึงวินาทีแห่งความหายนะ กระทั่งทำให้ญี่ปุ่นยอมยกธงขาวต่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ในอีกหนึ่งสัปดาห์ถัดมา นอกจากนี้ยังจัดแสดงข้อมูลที่ทำให้ทราบว่า ปัจจุบันยังมีประเทศใดบ้างในโลกที่สะสมอาวุธร้ายแรงและทดลองระเบิดปรมาณูอยู่
ค่าเข้าชม : ค่าเข้าชม 200 เยน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 8.30 – 17.30 น.
พิกัด GPS : 32°46'21.1"N 129°51'52.4"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณูนางาซากิ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1127
จุดชมวิวภูเขานาเบะคันมูริ (Mount Nabekanmuri Park)
จุดชมวิวภูเขานาเบะคันมูริ (Mount Nabekanmuri Park) อีกหนึ่งจุดชมวิวที่สวยงามของเมืองนางาซากิที่นักท่องเที่ยวหลายๆ คนไม่เคยรู้มาก่อน โดยอยู่ใกล้ๆกับสวนโกลฟเวอร์ (Glover Garden) สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนางาซากิ ด้านบนจุดชมวิวภูเขานาเบะคันมูริสามารถมองเห็นทัศนียภาพอันสวยงามแบบ 360 องศา ทั้งท่าต่อเรือขนาดใหญ่ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม โดยท่าต่อเรือนี้ถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์สำคัญของบริษัทมิตซูบิชิ นอกจากนี้ยังมองเห็นสะพานแขวนเมงามิโอฮาชิ (Megamio Bridge) สะพานความยาวอันดับ 7 ของโลก ทำหน้าที่เชื่อมระหว่างนางาซากิฝั่งตะวันตกและฝั่งใต้เข้าด้วยกัน
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 32°43'45.5"N 129°52'08.5"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ จุดชมวิวภูเขานาเบะคันมูริ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1124
โบสถ์โออุระ (Oura Church)
โบสถ์โออุระ (Oura Church) หรือชื่อทางการว่า “โบสถ์ 26 นักบุญของญี่ปุ่น” เป็นโบสถ์คริสต์สถาปัตยกรรมแบบโกธิกที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น สร้างเสร็จเมื่อปลายปี ค.ศ. 1864 และเปิดอย่างเป็นทางการในเดือนกุมภาพันธ์ของปีถัดมา โบสถ์โออุระมีลักษณะโดดเด่นด้วยโทนสีขาว ให้ความรู้สึกอบอุ่น สะอาดตา ส่วนภายในโบสถ์นั้นตกแต่งด้วยกระจกสีประดับอย่างงดงาม ว่ากันว่าของเดิมนั้นเป็นกระจกสีที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น โดยหลังจากถูกทำลายในสงครามโลกครั้งที่ 2 โบสถ์แห่งนี้ก็ได้รับการบูรณะฟื้นฟูขึ้นใหม่ และได้มีการสั่งกระจกสีมาใหม่จากบริษัทโรเจอร์ในปารีส ประเทศฝรั่งเศส มาทดแทนของเดิม โบสถ์โออุระได้รับการสถาปนาให้เป็นมรดกแห่งชาติญี่ปุ่นในปี ค.ศ.1933 และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 2018 โดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย
ค่าเข้าชม : ค่าเข้าชม 1,000 เยน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 8.00 – 18.00 น.
พิกัด GPS : 32°44'03.0"N 129°52'12.5"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ โบสถ์โออุระ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1126
สวนโกลฟเวอร์ (Glover Garden)
สวนโกลฟเวอร์ ( Glover Garden) สวนสวยบนเนินเขาริมทะเลที่สามารถมองเห็นท่าเรือนางาซากิ ผู้สร้างสวนแห่งนี้ขึ้นคือ โทมัส เบลค โกลฟเวอร์ (Thomas Blake Glover) พ่อค้าชาวสกอตแลนด์ที่เข้ามาทำการค้าในนางาซากิยุคที่ญี่ปุ่นปิดประเทศ โดยมีแค่เมืองท่าอย่างนางาซากิเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ติดต่อค้าขายกับชาวต่างชาติ สวนโกลฟเวอร์ถือเป็นจุดทรงคุณค่าที่ยังคงสภาพของประวัติศาสตร์และอาคารแบบต่างประเทศไว้อย่างดีเยี่ยม โดยมีการนำอาคารสไตล์ตะวันตกที่กระจายตัวอยู่ทั่วเมืองนางาซากิย้ายมาไว้ที่นี่ บูรณะ และเปิดให้ประชาชนได้เข้าชมในฐานะพื้นที่ตั้งถิ่นฐานชาวต่างชาติในอดีต
ค่าเข้าชม : ค่าเข้าชม 620 เยน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น. (ช่วงเทศกาลคริสต์มาส เปิดถึง 21.00 น.)
พิกัด GPS : 32°44'03.6"N 129°52'09.0"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สวนโกลฟเวอร์ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1128
สะพานมากาเนะบาชิ (Meganebashi Bridge)
สะพานมากาเนะบาชิ (Meganebashi Bridge) หรือที่เรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า “สะพานแว่นตา” สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1634 เพื่อข้ามแม่น้ำนาคาจิมะ (Nakajima) ที่ไหลผ่านใจกลางเมืองนางาซากิ สะพานแห่งนี้มีลักษณะเป็นครึ่งวงกลม 2 วงติดกัน ที่เมื่อภาพของสะพานสะท้อนลงบนผิวน้ำจะเห็นเป็นวงกลมเต็มวง 2 วงคล้ายแว่นตา ไม่เพียงแต่ความโดดเด่นของตัวสะพานเท่านั้น เพราะสะพานนี้คือสะพานหินแห่งแรกของประเทศญี่ปุ่น และยังติด 1 ใน 3 สะพานหินที่ได้รับยกย่องว่าสวยที่สุดในญี่ปุ่นด้วย ด้วยลักษณะเฉพาะตัวที่โดดเด่นสะดุดตา สะพานมากาเนะบาชิ หรือ “สะพานแว่นตา” จึงกลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองนางาซากิไปโดยปริยาย
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 32°44'49.9"N 129°52'48.1"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สะพานมากาเนะบาชิ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1130
จุดชมวิวกลางคืนภูเขาอินาสะยามะ (Mount Inasa Night View Ropeway)
จุดชมวิวกลางคืนภูเขาอินาสะยามะ (Mount Inasa Night View Ropeway) เรียกได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเรื่องทิวทัศน์ตอนกลางคืน กับความสูง 333 เมตรจากระดับน้ำทะเลของจุดชมวิวที่จะต้องนั่งกระเช้าขึ้นไป จึงทำให้เป็นจุดที่สามารถเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองนางาซากิได้งดงามโดยเฉพาะในยามค่ำคืน จุดชมวิวกลางคืนบนภูเขาอินาสะยามะนี้มีชื่อเสียงโด่งดังมากๆ ขนาดที่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน "สามทิวทัศน์ที่สวยที่สุดในโลก" พร้อมกับของฮ่องกงและโมนาโก ในงาน "Night View Summit 2012 in Nagasaki" ที่จัดขึ้นในปี 2012 ทิวทัศน์ตอนกลางคืนนี้จากบนนี้สวยงามจนมีคนเปรียบว่า "เป็นวิวที่มีค่าสิบล้านดอลลาร์" เลยทีเดียว
ค่าเข้าชม : จุดชมวิวไม่มีค่าใช้จ่าย (โรปเวย์สถานีฟุจิจินจะ (Fuchijinja) ถึงสถานีอินาสะดาเกะ (Inasadake) ไปกลับ 1230 เยน เที่ยวเดียว 720 เยน / รถบัสขึ้นยอดเขาเที่ยวเดียว 150 เยน)
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 9.00 - 22.00 น.
พิกัด GPS : 32°45'10.0"N 129°50'57.6"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ จุดชมวิวกลางคืนภูเขาอินาสะยามะ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1123
ฮูส เทน บอช (Huis Ten Bosch)
ฮูส เทน บอช (Huis Ten Bosch) เป็นธีมปาร์คหรือสวนสนุกขนาดใหญ่กับความกว้างถึง 1,520,000 ตารางเมตร ที่จำลองมาจากเมืองในประเทศฮอลแลนด์เพียงแห่งเดียวในประเทศญี่ปุ่น โดยได้รวบรวมเอาสถาปัตยกรรมสิ่งปลูกสร้างต่างๆ และศิลปกรรมขนานแท้ของฮอลแลนด์ไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นอาคารสไตล์ยุโรป หอนาฬิกา กังหันลม คูน้ำทอดยาวถึง 6 กิโลเมตร สวนดอกไม้นานาพรรณ เรียกว่าเต็มไปด้วยกลิ่นอายความเป็นดัตช์ โดยภายในฮูส เทน บอชนั้นประกอบด้วยโซนที่เป็นเครื่องเล่น โซนช้อปปิ้ง ร้านอาหารมากมาย และสวนดอกไม้ที่มีดอกไม้สวยๆ ให้ชมแตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาล ซึ่งสิ่งที่เป็นไฮไลต์และได้รับความนิยมอย่างมากของที่นี่ก็คือเทศกาลชมดอกทิวลิปในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
ค่าเข้าชม : บัตรผ่านประตู + เครื่องเล่น ผู้ใหญ่ 7,000 เยน, เด็กมัธยม 6,000 เยน, เด็กประถม 4,600 เยน
บัตรผ่านประตู + รถบัสโดยสารในสวนสนุก (ไม่รวมเครื่องเล่น) ผู้ใหญ่ 4,500 เยน, เด็กมัธยม 3,500 เยน, เด็กประถม 2,200 เยน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 09.00 - 22.00 น.
พิกัด GPS : 33°05'07.5"N 129°47'18.8"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ฮูส เทน บอช ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1131
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ :
- เว็บไซต์พยากรณ์อากาศ
https://www.accuweather.com/
- เว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดนางาซากิ
https://www.discover-nagasaki.com/en
- สกุลเงินที่ใช้ : เยน (JPY)
แอปพลิเคชัน "บริการรถแท็กซี่" ในประเทศญี่ปุ่น
- Uber สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
- JapanTaxi สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
แอปพลิเคชัน "แผนที่ในการนำทาง" ในประเทศญี่ปุ่น
- Google Map สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
เจ้าแม่กวนอิมแห่งไท่หู (Guanyin of Taihu) ประดิษฐานอยู่ภายในพื้นที่ของ Great Ruyi Holy Land บนเกาะซีซาน (Xishan Island) ทางทิศใต้ของทะเลสาบไท่หู (Taihu Lake) มณฑลเจียงซู ประเทศจีน
อ่านต่อเจ้าแม่กวนอิม แห่งเขาซีเฉียว (Guanyin of Mount Xiqiao) เป็นประติมากรรมแบบจีนรูปพระโพธิสัตว์กวนอิมขนาดใหญ่ที่สุดองค์หนึ่งในประเทศจีน มีความสูงประมาณ 77 เมตรรวมฐาน ประดิษฐานอยู่บนเนินเขาซีเฉียว เขตหนานไห่ เมืองฝัวซาน มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน
อ่านต่อผู่โถวซาน หรือ เกาะผู่โถว เป็นเกาะเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในส่วนตะวันออกของเมืองโจวซาน มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน โดยอยู่ทางตอนใต้ของนครเซี่ยงไฮ้ ผู่โถวซานเป็น 1 ใน 4 พุทธคีรีหรือภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของจีน ชาวพุทธจีนเชื่อกันว่าผู่โถวซานเป็นที่ประทับและตรัสรู้ของพระโพธิสัตว์กวนอิมหรือเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งเป็นหนึ่งในเทพเจ้าที่สำคัญที่สุดในศาสนาพุทธนิกายมหายาน ดังนั้นจึงมีผู้แสวงบุญจากทั่วโลก โดยเฉพาะผู้ที่ศรัทธาในเจ้าแม่กวนอิมเดินทางมาที่เกาะแห่งนี้เพื่อสักการะขอพรอยู่โดยตลอด
อ่านต่อในโลกที่ความยิ่งใหญ่และความสง่างามมาบรรจบกัน มีการสร้างสรรค์ที่น่าทึ่ง ซึ่งท้าทายขีดจำกัดของความเชื่อและความสำเร็จของมนุษย์ นั่นคือพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลก สิ่งก่อสร้างอันยิ่งใหญ่เหล่านี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความศรัทธา และความทุ่มเทที่ฝังรากลึกในวัฒนธรรมและจิตวิญญาณของคนในชาติต่างๆ Palanla จะพาคุณออกเดินทางไปสำรวจ 10 อันดับพระพุทธรูปที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดในโลก มาค้นหาความหมายทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ฝังอยู่ในสิ่งก่อสร้างอันงดงามเหล่านี้ไปพร้อมๆ กัน
อ่านต่อเจ้าแม่กวนอิมเป็นพระโพธิสัตว์ในพระพุทธศาสนานิกายมหายาน มีผู้เคารพนับถือบูชาในหลายประเทศ เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนาม รวมทั้งไทย โดยมีความเชื่อว่าพระองค์ทรงเป็นสัญลักษณ์แห่งความเมตตา กรุณา และความช่วยเหลือแก่ผู้ตกทุกข์ได้ยาก ในบทความนี้ Palanla จะพาไปสำรวจ 10 อันดับรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดในโลกในปัจจุบัน
อ่านต่อหลวงพ่อสัจจธรรม (Great Buddha Dordenma) เป็นพระพุทธรูปที่อยู่สูงที่สุดในโลก ประดิษฐานอยู่ที่กรุงทิมพู ประเทศภูฏาน ดินแดนแห่งเทือกเขาหิมาลัย
อ่านต่อไดคันนงแห่งสวนคิตะโนะมิยาโกะ (Dai Kannon of Kita no Miyako Park) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ฮอกไกโดคันนง เป็นรูปปั้นของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร หรือเจ้าแม่กวนอิม ที่ตั้งอยู่ในสวนคิตะโนะมิยาโกะ บนเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น รูปปั้นไดคันนงแห่งสวนคิตะโนะมิยาโกะ เคยเป็นรูปปั้นที่เคยสูงที่สุดในโลกเมื่อเปิดให้เข้าชมในปีค.ศ.1989
อ่านต่อเจ้าแม่กวนอิมแห่งหนานชาน หรือ พระโพธิสัตว์กวนอิมแห่งเกาะไหหลำ (Guanyin of Nanshan) ได้รับการจดบันทึกในกินเนสบุ๊คว่า เป็นเจ้าแม่กวนอิมที่สูงที่สุดในโลกในปัจจุบัน ประดิษฐานอยู่ใกล้กับวัดหนานชานแห่งเมืองซานย่า บนชายฝั่งทางตอนใต้ของมณฑลไห่หนาน ประเทศจีน
อ่านต่อพระใหญ่จงหยวน หรือนิยมเรียกในชื่อ Spring Temple Buddha ที่แปลว่า พระพุทธรูปวัดบ่อน้ำพุ ถือเป็นพระพุทธรูปที่สูงที่สุดในโลก ประดิษฐานอยู่ที่วัดฟัวเฉวียน ในเมืองหลู่ซัน มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน
อ่านต่อพระโพธิสัตว์กวนอิมพันมือแห่งกุยชาน (Guishan Guanyin) มณฑลหูหนาน ประเทศจีน เป็นประติมากรรมเจ้าแม่กวนอิมความสูง 99.19 เมตร ซึ่งจัดเป็นหนึ่งในรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่สูงที่สุดในโลก
อ่านต่อเจ้าแม่กวนอิมแห่งไท่หู (Guanyin of Taihu) ประดิษฐานอยู่ภายในพื้นที่ของ Great Ruyi Holy Land บนเกาะซีซาน (Xishan Island) ทางทิศใต้ของทะเลสาบไท่หู (Taihu Lake) มณฑลเจียงซู ประเทศจีน
อ่านต่อเจ้าแม่กวนอิม แห่งเขาซีเฉียว (Guanyin of Mount Xiqiao) เป็นประติมากรรมแบบจีนรูปพระโพธิสัตว์กวนอิมขนาดใหญ่ที่สุดองค์หนึ่งในประเทศจีน มีความสูงประมาณ 77 เมตรรวมฐาน ประดิษฐานอยู่บนเนินเขาซีเฉียว เขตหนานไห่ เมืองฝัวซาน มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน
อ่านต่อผู่โถวซาน หรือ เกาะผู่โถว เป็นเกาะเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในส่วนตะวันออกของเมืองโจวซาน มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน โดยอยู่ทางตอนใต้ของนครเซี่ยงไฮ้ ผู่โถวซานเป็น 1 ใน 4 พุทธคีรีหรือภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของจีน ชาวพุทธจีนเชื่อกันว่าผู่โถวซานเป็นที่ประทับและตรัสรู้ของพระโพธิสัตว์กวนอิมหรือเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งเป็นหนึ่งในเทพเจ้าที่สำคัญที่สุดในศาสนาพุทธนิกายมหายาน ดังนั้นจึงมีผู้แสวงบุญจากทั่วโลก โดยเฉพาะผู้ที่ศรัทธาในเจ้าแม่กวนอิมเดินทางมาที่เกาะแห่งนี้เพื่อสักการะขอพรอยู่โดยตลอด
อ่านต่อในโลกที่ความยิ่งใหญ่และความสง่างามมาบรรจบกัน มีการสร้างสรรค์ที่น่าทึ่ง ซึ่งท้าทายขีดจำกัดของความเชื่อและความสำเร็จของมนุษย์ นั่นคือพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลก สิ่งก่อสร้างอันยิ่งใหญ่เหล่านี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความศรัทธา และความทุ่มเทที่ฝังรากลึกในวัฒนธรรมและจิตวิญญาณของคนในชาติต่างๆ Palanla จะพาคุณออกเดินทางไปสำรวจ 10 อันดับพระพุทธรูปที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดในโลก มาค้นหาความหมายทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ฝังอยู่ในสิ่งก่อสร้างอันงดงามเหล่านี้ไปพร้อมๆ กัน
อ่านต่อเจ้าแม่กวนอิมเป็นพระโพธิสัตว์ในพระพุทธศาสนานิกายมหายาน มีผู้เคารพนับถือบูชาในหลายประเทศ เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนาม รวมทั้งไทย โดยมีความเชื่อว่าพระองค์ทรงเป็นสัญลักษณ์แห่งความเมตตา กรุณา และความช่วยเหลือแก่ผู้ตกทุกข์ได้ยาก ในบทความนี้ Palanla จะพาไปสำรวจ 10 อันดับรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดในโลกในปัจจุบัน
อ่านต่อหลวงพ่อสัจจธรรม (Great Buddha Dordenma) เป็นพระพุทธรูปที่อยู่สูงที่สุดในโลก ประดิษฐานอยู่ที่กรุงทิมพู ประเทศภูฏาน ดินแดนแห่งเทือกเขาหิมาลัย
อ่านต่อ