- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- 10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในจังหวัดนางาซากิ ประเทศญี่ปุ่น
10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในจังหวัดนางาซากิ ประเทศญี่ปุ่น
- อ่าน (4,133)
- By Webmaster Webmaster
- 09:44:02 | 30 ม.ค. 2567
10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในจังหวัดนางาซากิ ประเทศญี่ปุ่น
Top 10 Travel Destinations in Nagasaki, Japan
จังหวัดนางาซากิ (Nagasaki) เป็นจังหวัดเล็กๆ ที่ได้ชื่อว่าเป็น “หน้าต่างสู่ประเทศญี่ปุ่น” เนื่องจากในช่วงศตวรรษที่ 17 – 19 ที่ญี่ปุ่นปิดประเทศและงดความสัมพันธ์กับประเทศอื่นๆ นางาซากิเป็นเพียงจังหวัดเดียวที่ได้รับอนุญาตให้เปิดทำการค้าขายกับต่างชาติอย่างเนเธอร์แลนด์และจีน แม้ว่าจังหวัดนางาซากิมักถูกจดจำในฐานะโศกนาฏกรรมในสงครามโลกครั้งที่สอง ทว่าจังหวัดเล็กๆ แห่งนี้ยังเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวอีกมากมายที่ไม่ได้มีเฉพาะกลิ่นอายของสงครามและความเจ็บปวด ไม่ว่าจะเป็นสวนสนุกขนาดใหญ่ จุดชมวิวสวยๆสุดโรแมนติก ไปจนถึงย่านไชน่าทาวน์ชุมชนชาวจีนสุดคึกคัก
แผนที่แสดงตำแหน่งของ 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองนางาซากิ
นางาซากิชินจิไชน่าทาวน์ (Nagasaki Shinchi China Town)
นางาซากิชินจิไชน่าทาวน์ (Nagasaki Shinchi China Town) หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า “ไชน่าทาวน์” คือบริเวณที่เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารเรียงรายสองข้างถนนที่ทอดยาวตลอดช่วงตึกในใจกลางเมืองนางาซากิ นางาซากิชินจิไชน่าทาวน์เรียกได้ว่าเป็นไชนาทาวน์ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ผู้อพยพในยุคแรกสุดของประเทศก็พำนักพักพิงกันอยู่รอบๆ พื้นที่นี้ โดยนอกจากชาวดัตช์ พ่อค้าชาวจีนก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ได้รับอนุญาตให้ตั้งถิ่นฐานในนางาซากิในระหว่างการปิดประเทศที่ยาวนานของญี่ปุ่นตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 จนถึงสิ้นสุดศตวรรษที่ 19 นอกจากจะเต็มไปด้วยร้านอาหารจีนอร่อยๆ แล้วที่นี่จึงเป็นย่านที่แสดงให้เห็นภาพเชิงลึกอันน่าตื่นตาตื่นใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมของผู้อพยพในยุคแรกสุดของแดนอาทิตอุทัยด้วย
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 32°44'30.2"N 129°52'31.7"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ นางาซากิชินจิไชน่าทาวน์ ได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/1271
สวนสันติภาพนางาซากิ (Peace Park)
สวนสันติภาพนางาซากิ (Peace Park) สวนสาธารณะที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ระเบิดปรมาณูในสงครามโลกครั้งที่ 2 บริเวณด้านหน้าสวนสันติภาพแห่งนี้มีเอกลักษณ์อันโดดเด่นคือ น้ำพุแห่งสันติภาพ (Fountain of Peace) กับ อนุสาวรีย์แห่งสันติภาพ (Peace Statue) ประติมากรรมโลหะสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่รูปชายคนหนึ่ง ความสูง 9.7 เมตร น้ำหนัก 30 ตัน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความปรารถนาของชาวเมืองนางาซากิเพื่อสันติภาพโดยมือขวาของรูปปั้นชี้ขึ้นฟ้าคือการเตือน "ภัยคุกคามของระเบิดปรมาณู" มือซ้ายเหยียดยาวในแนวราบขนานกับพื้นคือ "สันติภาพ" ส่วนตาที่ปิดลงอย่างสงบคือ "การอธิษฐานเพื่อความสุขของผู้รอดชีวิตจากระเบิดปรมาณู” ภายในสวนยังมีประติมากรรมอื่นๆ ที่ถูกส่งมาจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกเพื่อร่วมเรียกร้องให้เกิดความสงบสุขให้ได้ชมอย่างเพลิดเพลิน
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 32°46'35.2"N 129°51'49.3"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สวนสันติภาพนางาซากิ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1129
น้ำพุแห่งสันติภาพ (Fountain of Peace)
น้ำพุแห่งสันติภาพ (Fountain of Peace) ตั้งอยู่ด้านหน้าของสวนสันติภาพนางาซากิ (Peace Park) น้ำพุแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่ดวงวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตเพราะขาดน้ำจากระเบิดปรมาณูให้ไปสู่สุขติ จากความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ในวันที่นางาซากิโดนระเบิดปรมาณูที่ใช้เชื้อเพลิงพลูโตเนียมในเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 2 อันเป็นเหตุให้ผู้คนล้มตายและผู้ที่รอดชีวิตต้องทนทุกข์ทรมานจากพิษร้ายของสารพลูโตเนียมไปเกือบทั้งเมือง โดยในวันที่ 9 สิงหาคมของทุกปี ซึ่งตรงกับวันที่มีการทิ้งระเบิดปรมาณู จะมีการจัดงานระลึกถึงสันติภาพและเพื่ออุทิศแด่ดวงวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิต ที่บริเวณน้ำพุแห่งสันติภาพนี้ด้วย
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 32°46'31.6"N 129°51'47.1"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ น้ำพุแห่งสันติภาพ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1125
พิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณูนางาซากิ (Nagasaki Atomic Bomb Museum)
พิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณูนางาซากิ (Nagasaki Atomic Bomb Museum) ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับสวนสันติภาพ (Peace Park) พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ถือเป็นสิ่งเตือนใจให้ผู้คนได้ระลึกถึงความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ในวันที่นางาซากิโดน “เจ้าอ้วน” (Fat Man) ระเบิดปรมาณูเชื้อเพลิงพลูโตเนียมลูกที่ 2 ถล่มต่อจากเมืองฮิโรชิม่า ภายในพิพิธภัณฑ์แบ่งออกเป็น 4 โซนด้วยกัน จัดแสดงเรื่องราว ข้อมูลเหตุการณ์ และซากชิ้นส่วนสิ่งของต่างๆ ตั้งแต่ก่อนการถูกถล่มด้วยระเบิดปรมาณูจนถึงวินาทีแห่งความหายนะ กระทั่งทำให้ญี่ปุ่นยอมยกธงขาวต่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ในอีกหนึ่งสัปดาห์ถัดมา นอกจากนี้ยังจัดแสดงข้อมูลที่ทำให้ทราบว่า ปัจจุบันยังมีประเทศใดบ้างในโลกที่สะสมอาวุธร้ายแรงและทดลองระเบิดปรมาณูอยู่
ค่าเข้าชม : ค่าเข้าชม 200 เยน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 8.30 – 17.30 น.
พิกัด GPS : 32°46'21.1"N 129°51'52.4"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณูนางาซากิ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1127
จุดชมวิวภูเขานาเบะคันมูริ (Mount Nabekanmuri Park)
จุดชมวิวภูเขานาเบะคันมูริ (Mount Nabekanmuri Park) อีกหนึ่งจุดชมวิวที่สวยงามของเมืองนางาซากิที่นักท่องเที่ยวหลายๆ คนไม่เคยรู้มาก่อน โดยอยู่ใกล้ๆกับสวนโกลฟเวอร์ (Glover Garden) สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนางาซากิ ด้านบนจุดชมวิวภูเขานาเบะคันมูริสามารถมองเห็นทัศนียภาพอันสวยงามแบบ 360 องศา ทั้งท่าต่อเรือขนาดใหญ่ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม โดยท่าต่อเรือนี้ถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์สำคัญของบริษัทมิตซูบิชิ นอกจากนี้ยังมองเห็นสะพานแขวนเมงามิโอฮาชิ (Megamio Bridge) สะพานความยาวอันดับ 7 ของโลก ทำหน้าที่เชื่อมระหว่างนางาซากิฝั่งตะวันตกและฝั่งใต้เข้าด้วยกัน
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 32°43'45.5"N 129°52'08.5"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ จุดชมวิวภูเขานาเบะคันมูริ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1124
โบสถ์โออุระ (Oura Church)
โบสถ์โออุระ (Oura Church) หรือชื่อทางการว่า “โบสถ์ 26 นักบุญของญี่ปุ่น” เป็นโบสถ์คริสต์สถาปัตยกรรมแบบโกธิกที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น สร้างเสร็จเมื่อปลายปี ค.ศ. 1864 และเปิดอย่างเป็นทางการในเดือนกุมภาพันธ์ของปีถัดมา โบสถ์โออุระมีลักษณะโดดเด่นด้วยโทนสีขาว ให้ความรู้สึกอบอุ่น สะอาดตา ส่วนภายในโบสถ์นั้นตกแต่งด้วยกระจกสีประดับอย่างงดงาม ว่ากันว่าของเดิมนั้นเป็นกระจกสีที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น โดยหลังจากถูกทำลายในสงครามโลกครั้งที่ 2 โบสถ์แห่งนี้ก็ได้รับการบูรณะฟื้นฟูขึ้นใหม่ และได้มีการสั่งกระจกสีมาใหม่จากบริษัทโรเจอร์ในปารีส ประเทศฝรั่งเศส มาทดแทนของเดิม โบสถ์โออุระได้รับการสถาปนาให้เป็นมรดกแห่งชาติญี่ปุ่นในปี ค.ศ.1933 และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 2018 โดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย
ค่าเข้าชม : ค่าเข้าชม 1,000 เยน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 8.00 – 18.00 น.
พิกัด GPS : 32°44'03.0"N 129°52'12.5"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ โบสถ์โออุระ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1126
สวนโกลฟเวอร์ (Glover Garden)
สวนโกลฟเวอร์ ( Glover Garden) สวนสวยบนเนินเขาริมทะเลที่สามารถมองเห็นท่าเรือนางาซากิ ผู้สร้างสวนแห่งนี้ขึ้นคือ โทมัส เบลค โกลฟเวอร์ (Thomas Blake Glover) พ่อค้าชาวสกอตแลนด์ที่เข้ามาทำการค้าในนางาซากิยุคที่ญี่ปุ่นปิดประเทศ โดยมีแค่เมืองท่าอย่างนางาซากิเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ติดต่อค้าขายกับชาวต่างชาติ สวนโกลฟเวอร์ถือเป็นจุดทรงคุณค่าที่ยังคงสภาพของประวัติศาสตร์และอาคารแบบต่างประเทศไว้อย่างดีเยี่ยม โดยมีการนำอาคารสไตล์ตะวันตกที่กระจายตัวอยู่ทั่วเมืองนางาซากิย้ายมาไว้ที่นี่ บูรณะ และเปิดให้ประชาชนได้เข้าชมในฐานะพื้นที่ตั้งถิ่นฐานชาวต่างชาติในอดีต
ค่าเข้าชม : ค่าเข้าชม 620 เยน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น. (ช่วงเทศกาลคริสต์มาส เปิดถึง 21.00 น.)
พิกัด GPS : 32°44'03.6"N 129°52'09.0"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สวนโกลฟเวอร์ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1128
สะพานมากาเนะบาชิ (Meganebashi Bridge)
สะพานมากาเนะบาชิ (Meganebashi Bridge) หรือที่เรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า “สะพานแว่นตา” สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1634 เพื่อข้ามแม่น้ำนาคาจิมะ (Nakajima) ที่ไหลผ่านใจกลางเมืองนางาซากิ สะพานแห่งนี้มีลักษณะเป็นครึ่งวงกลม 2 วงติดกัน ที่เมื่อภาพของสะพานสะท้อนลงบนผิวน้ำจะเห็นเป็นวงกลมเต็มวง 2 วงคล้ายแว่นตา ไม่เพียงแต่ความโดดเด่นของตัวสะพานเท่านั้น เพราะสะพานนี้คือสะพานหินแห่งแรกของประเทศญี่ปุ่น และยังติด 1 ใน 3 สะพานหินที่ได้รับยกย่องว่าสวยที่สุดในญี่ปุ่นด้วย ด้วยลักษณะเฉพาะตัวที่โดดเด่นสะดุดตา สะพานมากาเนะบาชิ หรือ “สะพานแว่นตา” จึงกลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองนางาซากิไปโดยปริยาย
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 32°44'49.9"N 129°52'48.1"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สะพานมากาเนะบาชิ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1130
จุดชมวิวกลางคืนภูเขาอินาสะยามะ (Mount Inasa Night View Ropeway)
จุดชมวิวกลางคืนภูเขาอินาสะยามะ (Mount Inasa Night View Ropeway) เรียกได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเรื่องทิวทัศน์ตอนกลางคืน กับความสูง 333 เมตรจากระดับน้ำทะเลของจุดชมวิวที่จะต้องนั่งกระเช้าขึ้นไป จึงทำให้เป็นจุดที่สามารถเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองนางาซากิได้งดงามโดยเฉพาะในยามค่ำคืน จุดชมวิวกลางคืนบนภูเขาอินาสะยามะนี้มีชื่อเสียงโด่งดังมากๆ ขนาดที่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน "สามทิวทัศน์ที่สวยที่สุดในโลก" พร้อมกับของฮ่องกงและโมนาโก ในงาน "Night View Summit 2012 in Nagasaki" ที่จัดขึ้นในปี 2012 ทิวทัศน์ตอนกลางคืนนี้จากบนนี้สวยงามจนมีคนเปรียบว่า "เป็นวิวที่มีค่าสิบล้านดอลลาร์" เลยทีเดียว
ค่าเข้าชม : จุดชมวิวไม่มีค่าใช้จ่าย (โรปเวย์สถานีฟุจิจินจะ (Fuchijinja) ถึงสถานีอินาสะดาเกะ (Inasadake) ไปกลับ 1230 เยน เที่ยวเดียว 720 เยน / รถบัสขึ้นยอดเขาเที่ยวเดียว 150 เยน)
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 9.00 - 22.00 น.
พิกัด GPS : 32°45'10.0"N 129°50'57.6"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ จุดชมวิวกลางคืนภูเขาอินาสะยามะ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1123
ฮูส เทน บอช (Huis Ten Bosch)
ฮูส เทน บอช (Huis Ten Bosch) เป็นธีมปาร์คหรือสวนสนุกขนาดใหญ่กับความกว้างถึง 1,520,000 ตารางเมตร ที่จำลองมาจากเมืองในประเทศฮอลแลนด์เพียงแห่งเดียวในประเทศญี่ปุ่น โดยได้รวบรวมเอาสถาปัตยกรรมสิ่งปลูกสร้างต่างๆ และศิลปกรรมขนานแท้ของฮอลแลนด์ไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นอาคารสไตล์ยุโรป หอนาฬิกา กังหันลม คูน้ำทอดยาวถึง 6 กิโลเมตร สวนดอกไม้นานาพรรณ เรียกว่าเต็มไปด้วยกลิ่นอายความเป็นดัตช์ โดยภายในฮูส เทน บอชนั้นประกอบด้วยโซนที่เป็นเครื่องเล่น โซนช้อปปิ้ง ร้านอาหารมากมาย และสวนดอกไม้ที่มีดอกไม้สวยๆ ให้ชมแตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาล ซึ่งสิ่งที่เป็นไฮไลต์และได้รับความนิยมอย่างมากของที่นี่ก็คือเทศกาลชมดอกทิวลิปในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
ค่าเข้าชม : บัตรผ่านประตู + เครื่องเล่น ผู้ใหญ่ 7,000 เยน, เด็กมัธยม 6,000 เยน, เด็กประถม 4,600 เยน
บัตรผ่านประตู + รถบัสโดยสารในสวนสนุก (ไม่รวมเครื่องเล่น) ผู้ใหญ่ 4,500 เยน, เด็กมัธยม 3,500 เยน, เด็กประถม 2,200 เยน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 09.00 - 22.00 น.
พิกัด GPS : 33°05'07.5"N 129°47'18.8"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ฮูส เทน บอช ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=1131
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ :
- เว็บไซต์พยากรณ์อากาศ
https://www.accuweather.com/
- เว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดนางาซากิ
https://www.discover-nagasaki.com/en
- สกุลเงินที่ใช้ : เยน (JPY)
แอปพลิเคชัน "บริการรถแท็กซี่" ในประเทศญี่ปุ่น
- Uber สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
- JapanTaxi สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
แอปพลิเคชัน "แผนที่ในการนำทาง" ในประเทศญี่ปุ่น
- Google Map สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจาง – ดาลัด ประเทศเวียดนาม
หากอยากสัมผัสบรรยากาศเมืองชายทะเลสุดคึกคักอากาศอบอุ่น แล้วไปผ่อนคลายในเมืองแห่งภูเขาอากาศเย็นสบายที่เวียดนามใต้ ญาจางและดาลัดคือคำตอบ! สองเมืองนี้จะพาคุณดื่มด่ำไปกับธรรมชาติที่งดงาม วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์และกิจกรรมที่หลากหลาย Palanla ได้รวบรวมเอา 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจางและดาลัดมาให้แล้วในบทความนี้
อ่านต่ออาสนวิหารญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
อาสนวิหารญาจาง (Christ the King Cathedral Nha Trang) หรือ โบสถ์หินญาจาง สุดยอดสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบโรมัน ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใจกลางเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม อายุเกือบร้อยปีแห่งนี้ เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กของเมือง ด้วยผนังหินสีน้ำตาลเข้มที่สลักเสลาอย่างวิจิตรบรรจง และหลังคาสูงชะลูดที่ดูอลังการ ตัดกับท้องฟ้าสีคราม ทำให้โบสถ์แห่งนี้กลายเป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว
อ่านต่อหาดญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หาดญาจาง (Nha Trang Beach) เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดของประเทศเวียดนาม ด้วยชายรูปร่างเหมือนพระจันทร์เสี้ยว ความยาวกว่า 6 กิโลเมตรที่โอบล้อมอ่าวญาจาง ในจังหวัดหวัดคั้ญฮวา ท่ามกลางภูมิทัศน์โดยรอบที่สวยงามของอาคารสถาปัตยกรรมสำคัญๆ มากมาย
อ่านต่อหอคอยแตร่มเฮือง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หอคอยแตร่มเฮือง (Tram Huong Tower) สัญลักษณ์และจุดเช็กอินยอดนิยมของหาดญาจางในปัจจุบัน
อ่านต่อวินเพิร์ลแลนด์ เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วินเพิร์ลแลนด์ (Vinpearl Land) เป็นสวนสนุกและรีสอร์ตหรูครบวงจรระดับโลกที่เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม มีจุดเด่นอยู่ที่ทำเลที่ตั้งที่สวยงามติดทะเล และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์สำคัญของการไปเที่ยวที่นี่คือ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลก
อ่านต่อวัดลองเซิน เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วัดลองเซิน (Long Son Pagoda) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “วัดพระใหญ่” เป็นวัดพุทธมหายานเก่าแก่ และใหญ่ที่สุดของเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม นอกจากความสวยงามอลังการของตัววัดแล้ว จากยอดเขายังสามารถมองเห็นวิวของเมืองญาจางและทะเลได้อย่างสวยงาม
อ่านต่อวัดตั๊กลัม เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
วัดตั๊กลัม (Truc Lam Monastery of Da Lat) เป็นวัดพุทธในนิกายเซนบนยอดเขาเฟืองฮว่าง นอกจากภายในบริเวณวัดจะมีสิ่งก่อสร้างที่สวยงาม ยังมีการจัดตกแต่งภูมิทัศน์โดยรอบด้วยสวนดอกไม้สดสวย ถือเป็นวัดที่งดงามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดในดาลัด
อ่านต่อน้ำตกดาตันลา เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
น้ำตกดาตันลา (Datanla Waterfall) ไม่เพียงแต่เป็นน้ำตกที่สวยงาม แต่ยังซ่อนเรื่องราวตำนานพื้นเมืองของดาลัดที่น่าสนใจเอาไว้ นอกจากสัมผัสความเย็นฉ่ำของละอองน้ำที่กระเซ็นจากม่านน้ำตกแล้ว ยังมีกิจกรรมสนุกๆ คือการนั่งรถรางลัดเลาะไปตามเส้นทางที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันเขียวขจี
อ่านต่อเจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
เจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก (Linh Phuoc Pagoda) วัดศาสนาพุทธนิกายเซนในดาลัด โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ ตัวอาคารทำจากเศษกระเบื้องเคลือบงดงามวิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปปั้นมังกรขนาดใหญ่ที่พันรอบองค์พระเจดีย์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวัด
อ่านต่อฮาจิ เลน ประเทศสิงคโปร์
ตรอกฮาจิ หรือ ฮาจิ เลน (Haji Lane) ถนนสายเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยสีสันและความมีชีวิตชีวาในย่านกัมปง กลาม (Kampong Glam) ของสิงคโปร์ เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นในฐานะแหล่งรวมร้านค้าบูติก ร้านอาหาร คาเฟ่ และศิลปะบนท้องถนนที่น่าสนใจ ฮาจิ เลน ไม่เพียงแค่เป็นถนนสายช้อปปิ้ง แต่ยังเป็นเหมือนแกลเลอรี่กลางแจ้งที่แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และวัฒนธรรมที่หลากหลายของสิงคโปร์อีกด้วย
อ่านต่อ