- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- ศาลเจ้าเมจิ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
ศาลเจ้าเมจิ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
- อ่าน (4,697)
- By Webmaster
- 03:53:45 | 2 ก.พ. 2566
ศาลเจ้าเมจิ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
Meiji Shrine, Tokyo, Japan
โทริอิไม้ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งตระหง่านอยู่หน้าทางเข้าศาลเจ้าเมจิ
ศาลเจ้าเมจิ เป็นศาลเจ้าที่คนญี่ปุ่นนิยมมาขอพรมากที่สุดในช่วงวันปีใหม่ ศาลเจ้าแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่ดวงวิญญาณของสมเด็จพระจักพรรดิเมจิ และสมเด็จพระจักพรรดินีโชเก็ง ตั้งอยู่ในเขตชิบูย่า กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
ความพิเศษของศาลเจ้าเมจิ คือพื้นที่โดยรอบที่มีขนาดใหญ่ถึง 700,000 ตารางเมตร ประกอบไปด้วยพรรณไม้กว่า 365 ชนิด และมีจำนวนต้นไม้ทั้งหมดกว่าหนึ่งแสนต้น ให้บรรยากาศร่มรื่นและสงบแม้ว่าจะตั้งอยู่ในย่านธุรกิจของกรุงโตเกียจนได้รับการขนานนามว่าเป็นป่าในเมือง นอกจากนี้ศาลเจ้าเมจิยังเป็นที่นิยมในการจัดงานแต่งงานตามแบบฉบับญี่ปุ่นโบราณอีกด้วย
บรรยากาศภายในศาลเจ้าเมจิ สงบและร่มรื่นด้วยจำนวนต้นไม้กว่าแสนต้น
ประวัติความเป็นมา
อาคารต่างๆของศาลเจ้าถูกปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใหญ่โดยรอบ
ภายหลังจากการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระจักพรรดิเมจิ ในปี ค.ศ. 1912 เนื่องจากบทบาทอันสำคัญของพระองค์ในการปฏิรูปเมจิ ซึ่งเป็นการปฏิรูปที่เปลี่ยนโฉมหน้าประเทศญี่ปุ่นครั้งใหญ่ และการเป็นที่เคารพเทิดทูนของชาวญี่ปุ่นทุกคนอย่างสูง ในปีนั้น สภานิติบัญญัติแห่งชาติของญี่ปุ่นจึงได้ผ่านวาระในสภาเพื่อดำเนินการสร้างอนุสรณ์สถานแด่สมเด็จพระจักพรรดิ โดยเลือกสถานที่ตั้งจากสวนแห่งหนึ่งที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของดอกไอริส ซึ่งทั้งสมเด็จพระจักพรรดิและสมเด็จพระจักพรรดินีได้เสด็จไปเยี่ยมชมบ่อยครั้ง
ทั้งนักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่นต่างก็เดินทางมาสักการะศาลเจ้าเมจิตลอดทั้งวัน
การก่อสร้างศาลเจ้าเมจิเริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 1915 และสิ้นสุดในปี ค.ศ. 1920 โดยชาวญี่ปุ่นได้ร่วมบริจาคต้นไม้กว่าหนึ่งแสนต้นเพื่อนำมาปลูกภายในบริเวณศาลเจ้า จนทำให้มีความร่มรื่นไม่ต่างอะไรกับป่าไม้ทั้งที่อยู่ใจกลางเมืองใหญ่ ทั้งนี้ ศาลเจ้าเมจิเคยได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการทิ้งระเบิดระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ในปี ค.ศ. 1958
การเดินทางไปยังศาลเจ้าเมจิ
- รถไฟ เนื่องจากศาลเจ้าเมจิมีบริเวณกว้างขวาง ทำให้มีทางเข้าจากหลายทาง แต่ทางเข้าหลักซึ่งมีมีประตูโทริอิไม้ขนาดใหญ่นั้นอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ Harajuku สำหรับรถไฟสาย Yamanote และสถานี Meiji-jingumae สำหรับรถไฟใต้ดินสาย Chiyoda(สีเขียว) และ Fukutoshin(สีน้ำตาล) โดยใช้เวลาเดินจากทั้ง 2 สถานีประมาณ 2-4 นาที นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบข้อมูลการเดินทางโดยรถไฟอย่างละเอียดได้ที่ http://www.hyperdia.com/en/
- รถแท็กซี่ รถแท็กซี่ในกรุงโตเกียวนั้นมีค่ามิเตอร์เริ่มต้นที่ 410-800 เยน ต่อระยะทาง 2 กิโลเมตรแรก ค่าโดยสารทั้งหมดขึ้นอยู่กับระยะทางจากจุดขึ้นรถของนักท่องเที่ยว โดยสามารถคำนวณค่าโดยสารเบื้องต้นได้ที่ https://www.numbeo.com/taxi-fare/in/Tokyo
เวลาในการเปิด-ปิดทำการ
บริเวณศาลเจ้า ไม่มีกำหนดเวลาเปิดปิดที่แน่นอน แต่ยึดหลักตามเวลาที่ดวงอาทิตย์ขึ้นและตก
บริเวณสวนภายในศาลเจ้า เปิดทำการตั้งแต่ 09.00 – 16.30 น.
ทั้งสองสถานที่เปิดทำการทุกวัน ไม่มีวันหยุด
ในวันเสาร์อาทิตย์ นักท่องเที่ยวมีโอกาสได้พบกับการจัดพิธีแต่งงานแบบญี่ปุ่นภายในศาลเจ้าอีกด้วย
การซื้อบัตรเข้าชม
บริเวณศาลเจ้า ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม
บริเวณสวนภายในศาลเจ้า มีค่าเข้าชม 500 เยน
จุดจำหน่ายเครื่องรางภายในศาลเจ้าเมจิ
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ความสวยงามของพรรณไม้ในศาลเจ้าเมจิยามใบไม้เปลี่ยนสี
ศาลเจ้าเมจิได้รับการดูแลรักษาความสวยงามและความร่มรื่นภายในอยู่ตลอดเวลา นักท่องเที่ยวจึงสามารถแวะไปเยี่ยมชมได้ตลอดทั้งปี
ทั้งนี้ หากนักท่องเที่ยวต้องการไปชมดอกไอริส ซึ่งเป็นที่โปรดปรานของสมเด็จพระจักพรรดิเมจิ และสมเด็จพระจักพรรดินีโชเก็ง ดอกไอริสจะผลิบานในช่วงเดือนมิถุนายนของทุกปี โดยจะปลูกเอาไว้ในสวนของศาลเจ้า (มีการเก็บค่าเข้าสวนเพิ่มเติม)
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถตรวจสอบพยากรณ์อากาศล่วงหน้าเพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยวได้ที่ https://www.accuweather.com/
ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้
เนื่องจากระยะทางระหว่างประตูทางเข้ากับตัวศาลเจ้าอยู่ห่างกันค่อนข้างมาก โดยต้องใช้เวลาเดินเข้าไปประมาณ 10 นาที และพื้นทางเดินมีลักษณะเป็นก้อนกรวด นักท่องเที่ยวจึงควรสวมใส่รองเท้าที่เดินได้อย่างสบาย หลีกเลี่ยงการสวมใส่รองเท้าส้นสูง และหากนักท่องเที่ยวเหนื่อยล้าจากการเที่ยวชมสถานที่อื่นมาก่อน ควรนั่งพักเอาแรงบริเวณสถานี Harajuku ก่อนจะเดินเข้าไปสู่ศาลเจ้าเมจิ
ป้ายขอพรจำนวนมากถูกแขวนเรียงรายอยู่ใกล้กับอาคารศาลเจ้า
เนื่องจากศาลเจ้าเมจิได้รับความนิยมในการจัดงานแต่งงานตามแบบฉบับญี่ปุ่นอย่างสูง ในช่วงวันเสาร์อาทิตย์นักท่องเที่ยวจึงมักจะได้พบกับพิธีแต่งงานของคู่บ่าวสาวชาวญี่ปุ่น ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวจึงควรระมัดระวังการถ่ายรูปพิธี รวมถึงระมัดระวังการเข้าไปขัดขวางพิธีการโดยไม่ได้ตั้งใจ
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว ศาลเจ้าเมจิ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ศาลเจ้าเมจิ
(Meiji Shrine)
อัตราค่าเข้าชม : บริเวณศาลเจ้า ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม
บริเวณสวนภายในศาลเจ้า – มีค่าเข้าชม 500 เยน
เวลาเปิด-ปิด : ตามพระอาทิตย์ขึ้นและตก บริเวณสวนภายในศาลเจ้า – เปิดทำการตั้งแต่ 09.00 – 16.30 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี, ช่วงเวลาที่ดอกไอริสผลิบานคือเดือนมิถุนายน
สถานที่ตั้ง : เขตชิบูย่า กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
โทรศัพท์ : (+81)3-3379-5511
เว็บไซต์ : http://www.meijijingu.or.jp/english/index.html
ระดับความนิยม :
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/eng/
เว็บไซต์การท่องเที่ยวโตเกียว https://www.gotokyo.org/en/
เว็บไซต์ศูนย์รวมจุดบริการนักท่องเที่ยวในโตเกียว http://www.tourist-information-center.jp/tokyo/en/
เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจาง – ดาลัด ประเทศเวียดนาม
หากอยากสัมผัสบรรยากาศเมืองชายทะเลสุดคึกคักอากาศอบอุ่น แล้วไปผ่อนคลายในเมืองแห่งภูเขาอากาศเย็นสบายที่เวียดนามใต้ ญาจางและดาลัดคือคำตอบ! สองเมืองนี้จะพาคุณดื่มด่ำไปกับธรรมชาติที่งดงาม วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์และกิจกรรมที่หลากหลาย Palanla ได้รวบรวมเอา 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจางและดาลัดมาให้แล้วในบทความนี้
อ่านต่ออาสนวิหารญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
อาสนวิหารญาจาง (Christ the King Cathedral Nha Trang) หรือ โบสถ์หินญาจาง สุดยอดสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบโรมัน ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใจกลางเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม อายุเกือบร้อยปีแห่งนี้ เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กของเมือง ด้วยผนังหินสีน้ำตาลเข้มที่สลักเสลาอย่างวิจิตรบรรจง และหลังคาสูงชะลูดที่ดูอลังการ ตัดกับท้องฟ้าสีคราม ทำให้โบสถ์แห่งนี้กลายเป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว
อ่านต่อหาดญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หาดญาจาง (Nha Trang Beach) เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดของประเทศเวียดนาม ด้วยชายรูปร่างเหมือนพระจันทร์เสี้ยว ความยาวกว่า 6 กิโลเมตรที่โอบล้อมอ่าวญาจาง ในจังหวัดหวัดคั้ญฮวา ท่ามกลางภูมิทัศน์โดยรอบที่สวยงามของอาคารสถาปัตยกรรมสำคัญๆ มากมาย
อ่านต่อหอคอยแตร่มเฮือง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หอคอยแตร่มเฮือง (Tram Huong Tower) สัญลักษณ์และจุดเช็กอินยอดนิยมของหาดญาจางในปัจจุบัน
อ่านต่อวินเพิร์ลแลนด์ เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วินเพิร์ลแลนด์ (Vinpearl Land) เป็นสวนสนุกและรีสอร์ตหรูครบวงจรระดับโลกที่เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม มีจุดเด่นอยู่ที่ทำเลที่ตั้งที่สวยงามติดทะเล และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์สำคัญของการไปเที่ยวที่นี่คือ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลก
อ่านต่อวัดลองเซิน เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วัดลองเซิน (Long Son Pagoda) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “วัดพระใหญ่” เป็นวัดพุทธมหายานเก่าแก่ และใหญ่ที่สุดของเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม นอกจากความสวยงามอลังการของตัววัดแล้ว จากยอดเขายังสามารถมองเห็นวิวของเมืองญาจางและทะเลได้อย่างสวยงาม
อ่านต่อวัดตั๊กลัม เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
วัดตั๊กลัม (Truc Lam Monastery of Da Lat) เป็นวัดพุทธในนิกายเซนบนยอดเขาเฟืองฮว่าง นอกจากภายในบริเวณวัดจะมีสิ่งก่อสร้างที่สวยงาม ยังมีการจัดตกแต่งภูมิทัศน์โดยรอบด้วยสวนดอกไม้สดสวย ถือเป็นวัดที่งดงามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดในดาลัด
อ่านต่อน้ำตกดาตันลา เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
น้ำตกดาตันลา (Datanla Waterfall) ไม่เพียงแต่เป็นน้ำตกที่สวยงาม แต่ยังซ่อนเรื่องราวตำนานพื้นเมืองของดาลัดที่น่าสนใจเอาไว้ นอกจากสัมผัสความเย็นฉ่ำของละอองน้ำที่กระเซ็นจากม่านน้ำตกแล้ว ยังมีกิจกรรมสนุกๆ คือการนั่งรถรางลัดเลาะไปตามเส้นทางที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันเขียวขจี
อ่านต่อเจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
เจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก (Linh Phuoc Pagoda) วัดศาสนาพุทธนิกายเซนในดาลัด โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ ตัวอาคารทำจากเศษกระเบื้องเคลือบงดงามวิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปปั้นมังกรขนาดใหญ่ที่พันรอบองค์พระเจดีย์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวัด
อ่านต่อฮาจิ เลน ประเทศสิงคโปร์
ตรอกฮาจิ หรือ ฮาจิ เลน (Haji Lane) ถนนสายเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยสีสันและความมีชีวิตชีวาในย่านกัมปง กลาม (Kampong Glam) ของสิงคโปร์ เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นในฐานะแหล่งรวมร้านค้าบูติก ร้านอาหาร คาเฟ่ และศิลปะบนท้องถนนที่น่าสนใจ ฮาจิ เลน ไม่เพียงแค่เป็นถนนสายช้อปปิ้ง แต่ยังเป็นเหมือนแกลเลอรี่กลางแจ้งที่แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และวัฒนธรรมที่หลากหลายของสิงคโปร์อีกด้วย
อ่านต่อ