แยกชิบูย่า กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

  • อ่าน (7,562)
  • By Webmaster
  • 03:51:43 | 2 ก.พ. 2566

แยกชิบูย่า กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

Shibuya Crossing, Tokyo, Japan


ผู้คนจำนวนมากเดินข้ามแยกชิบูย่าไปยังจุดหมายปลายทางที่แตกต่างกันไปตลอดทั้งวัน

               Shibuya Crossing หรือ แยกชิบูย่า คือ เส้นทางสัญจรใจกลางย่านธุรกิจสำคัญของกรุงโตเกียว ซึ่งเชื่อกันว่าเป็น สถานที่ที่มีความพลุกพล่านมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดังหลายต่อหลายเรื่อง เช่น Fast and the Furious และ Resident Evil


กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

           ว่ากันว่าในบางช่วงเวลา บริเวณ 5 แยกชิบูย่านั้นมีผู้คนเดินข้ามถนนจากทิศทางต่างๆพร้อมกันสูงสุดกว่า 3,000 คน และไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาใด พื้นที่แห่งนี้ก็เต็มไปด้วยผู้คนเสมอ ด้วยบรรยากาศของความวุ่นวาย บวกกับความหลากหลายของวิถีชิวิตผู้คน รวมไปถึงการเป็นศูนย์กลางธุรกิจที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้ามากมาย และร้านรวงแบรนด์ดังจากทั่วโลก ทั้งหมดนี้จึงกลายเป็นสน่ห์ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากต่างต้องการมาเยือนสถานที่แห่งนี้


บรรยากาศของแยกชิบูย่าเมื่อมองจากฝั่งสถานีรถไฟ
 

ประวัติความเป็นมา


บรรดาผู้คนที่เดินผ่านแยกชิบูย่ามีทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็ก วัยรุ่น คนทำงาน ไปจนถึงคนชรา

           ย่านชิบูย่าในอดีตเป็นชุมชนธรรมดาที่ไม่มีอะไรโดดเด่นนัก แต่ในปีค.ศ. 1885 เมื่อมีการสร้างเส้นทางรถไฟสาย Yamanote ขึ้น ชิบูย่าก็กลายเป็นสถานีรถไฟสำคัญในฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงโตเกียว ตามมาด้วยการเติบโตทางเศรษฐกิจและความบันเทิงของชุมชนโดยรอบ จนได้ยกฐานะจากระดับหมู่บ้าน เป็นเขตเมืองในปีค.ศ. 1909 และเมื่อมีการสร้างเส้นทางรถไฟสาย Tokyu Toyoko ขึ้นในปีค.ศ. 1932 ยิ่งทำให้สถานีชิบูย่ากลายเป็นสถานีสำคัญซึ่งเชื่อมต่อเส้นทางสายหลักระหว่างโตเกียว และเมืองโยโกฮาม่า ตามมาด้วยเส้นทางรถไฟสายต่างๆอีกมากมาย เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ย่านชิบูย่าเป็นย่านที่ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศต่างใช้สัญจรผ่านไปมาตลอดเวลา


บรรยากาศภายในสถานีรถไฟชิบูย่า

           ผลพวงจากการเติบโตในฐานะย่านเศรษฐกิจมาโดยตลอด ทำให้ย่านชิบูย่ากลายเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับเหล่าวัยรุ่นในญี่ปุ่น พร้อมๆกับเริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะย่านแฟชั่นในช่วงปี ค.ศ. 1980 ซึ่งมีการเปิดศูนย์การค้าแฟชั่นจำนวนมากขึ้นในบริเวณนี้ ซึ่งรวมไปถึง 109 Shibuya ศูนย์รวมแฟชั่นชื่อดังและหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของย่านชิบูย่าในปัจจุบัน ตามมาด้วยศูนย์การค้าชื่อดังแทบทุกแห่งในญี่ปุ่นที่ทยอยมาเปิดสาขาหลักในบริเวณนี้ รวมไปถึงแบรนด์ดังระดับโลกมากมายที่ใช้ชิบูย่าเป็นที่ตั้งสาขาระดับ Flagship ของตนเอง
 

การเดินทางไปยังแยกชิบูย่า

               - รถไฟ  สถานีชิบูย่าถือเป็นศูนย์รวมของเส้นทางรถไฟมากถึง 9 สาย จนกลายเป็นสถานีรถไฟที่มีความพลุกพล่านมากที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก แต่ก็ถือว่าเป็นวิธีการเดินทางที่สะดวกที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวในการมาเยือน แยกชิบูย่า เนื่องจากเป็นสถานีของรถไฟสายหลักในโตเกียวทั้งสาย Yamanote สายรถไฟใต้ดินหลักอีก 3 สายคือ Ginza, Hanzomon และ Fukutoshin และยังมีรถไฟสาย Narita Express ที่วิ่งตรงทั้งไปและกลับจากสนามบินนาริตะอีกด้วย นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบข้อมูลการเดินทางโดยรถไฟอย่างละเอียดได้ที่ http://www.hyperdia.com/en/

               - รถแท็กซี่ รถแท็กซี่ในกรุงโตเกียวนั้นมีค่ามิเตอร์เริ่มต้นที่ 550-800 เยน ต่อระยะทาง 2 กิโลเมตรแรก ค่าโดยสารทั้งหมดขึ้นอยู่กับระยะทางจากจุดขึ้นรถของนักท่องเที่ยว โดยสามารถคำนวณค่าโดยสารเบื้องต้นได้ที่ https://www.numbeo.com/taxi-fare/in/Tokyo
 

เวลาในการเปิด-ปิดทำการ

           เปิดทำการทุกวัน ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง
 

จุดท่องเที่ยวสำคัญบริเวณแยกชิบูย่า


รูปปั้น”ฮาจิโกะ” สัญลักษณ์แห่งความซื่อสัตย์ของชาวญี่ปุ่น

               รูปปั้นสุนัข “ฮาจิโกะ” : เป็นทั้งจุดนัดพบสำหรับคนญี่ปุ่น และสถานที่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังสำหรับนักท่องเที่ยว ย้อนไปในปี ค.ศ. 1924 ที่มาของรูปปั้นนี้มาจาก”ฮาจิโกะ” สุนัขสายพันธ์อากิตะของศาสตราจารย์อูเอโนะ ฮิเดะซาบุโร่ แห่งมหาวิทยาลัยโตเกียว ที่มักจะไปรอรับเจ้านายของมันที่สถานีรถไฟชิบูย่าอยู่เสมอ จนกระทั่งวันหนึ่ง ศาสตราจารย์อูเอโนะเสียชีวิตอย่างกะทันหันด้วยภาวะเลือดออกในสมอง แต่ทว่าเจ้าฮาจิโกะยังคงไปรอนายของมันที่สถานีทุกวัน เป็นเวลานานกว่า 9 ปี จนเมื่อฮาจิโกะตายไป คนญี่ปุ่นจึงสร้างรูปปั้นของมันขึ้นมาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความจงรักภักดี


อาคาร 109 Shibuya สัญลักษณ์สำคัญของย่านแฟชั่นในชิบูย่า 

               109 Shibuya : ศูนย์รวมร้านค้าแฟชั่นจำนวนมากมาย ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของย่านแฟชั่นที่อยู่คู่กับชิบูย่ามาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1979 ห้าง 109 นี้บริหารงานโดยบริษัทโตคิว ที่มาของชื่อ 109 ก็มาจากการเล่นคำของชื่อบริษัท โดย “โต” มาจากตัวเลข 10 ที่เขียนคล้ายกับ to ในภาษาอังกฤษ และ”คิว” มาจากเสียงคำอ่านของเลข 9 ในภาษาญี่ปุ่น โดยในปัจจุบันยังมีห้าง 109 Men’s ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กัน โดยเน้นไปที่แฟชั่นสำหรับกลุ่มลูกค้าผู้ชายโดยเฉพาะ
 

ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้

ไม่ใช่แค่เฉพาะบริเวณ 5 แยก แต่บริเวณอื่นๆในย่านชิบูย่าก็เต็มไปด้วยผู้คนเช่นกัน

           นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบข้อมูลวันเวลาเปิดทำการของสถานที่ต่างๆในย่านชิบูย่าได้ที่ https://www.japan-guide.com/e/e3007.html

           บริเวณแยกชิบูย่ามีจุดให้บริการ Free Wifi จำนวนมาก ทั้งในบริเวณสถานีรถไฟ รวมถึงห้างสรรพสินค้า นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบจุดให้บริการและขั้นตอนการใช้งานได้ที่ http://www.wifi-tokyo.jp/index.html

           ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวอาจะต้องใช้ความระมัดระวัง หรือพยายามหลีกเลี่ยงการไปเยือนแยกชิบูย่าในช่วงเวลา 07.00 น. - 09.00 น. และ 17.00 น. - 19.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาเข้างานและเลิกงานของคนญี่ปุ่น เนื่องจากจะมีปริมาณผู้คนทั้งบนรถไฟ สถานีรถไฟ และตามท้องถนนหนาแน่นกว่าปกติหลายเท่าตัว

           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม แยกชิบูย่า สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                         แยกชิบูย่า

                         (Shibuya Crossing)

                         อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชม

                         เวลาเปิด-ปิด : เปิดทำการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

                         ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

                         สถานที่ตั้ง : ย่านชิบูย่า กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

                         โทรศัพท์ : (+81)3-3463-1146

                         เว็บไซต์ : http://www.city.shibuya.tokyo.jp/eng/

                         ระดับความนิยม :

                         ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                                      เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/eng/

                                      เว็บไซต์การท่องเที่ยวโตเกียว https://www.gotokyo.org/en/

                                      เว็บไซต์ศูนย์รวมจุดบริการนักท่องเที่ยวในโตเกียว http://www.tourist-information-center.jp/tokyo/en/

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจาง – ดาลัด ประเทศเวียดนาม

หากอยากสัมผัสบรรยากาศเมืองชายทะเลสุดคึกคักอากาศอบอุ่น แล้วไปผ่อนคลายในเมืองแห่งภูเขาอากาศเย็นสบายที่เวียดนามใต้ ญาจางและดาลัดคือคำตอบ! สองเมืองนี้จะพาคุณดื่มด่ำไปกับธรรมชาติที่งดงาม วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์และกิจกรรมที่หลากหลาย Palanla ได้รวบรวมเอา 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจางและดาลัดมาให้แล้วในบทความนี้

อ่านต่อ

อาสนวิหารญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม

อาสนวิหารญาจาง (Christ the King Cathedral Nha Trang) หรือ โบสถ์หินญาจาง สุดยอดสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบโรมัน ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใจกลางเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม อายุเกือบร้อยปีแห่งนี้ เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กของเมือง ด้วยผนังหินสีน้ำตาลเข้มที่สลักเสลาอย่างวิจิตรบรรจง และหลังคาสูงชะลูดที่ดูอลังการ ตัดกับท้องฟ้าสีคราม ทำให้โบสถ์แห่งนี้กลายเป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว

อ่านต่อ

หาดญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม

หาดญาจาง (Nha Trang Beach) เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดของประเทศเวียดนาม ด้วยชายรูปร่างเหมือนพระจันทร์เสี้ยว ความยาวกว่า 6 กิโลเมตรที่โอบล้อมอ่าวญาจาง ในจังหวัดหวัดคั้ญฮวา ท่ามกลางภูมิทัศน์โดยรอบที่สวยงามของอาคารสถาปัตยกรรมสำคัญๆ มากมาย

อ่านต่อ

หอคอยแตร่มเฮือง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม

หอคอยแตร่มเฮือง (Tram Huong Tower) สัญลักษณ์และจุดเช็กอินยอดนิยมของหาดญาจางในปัจจุบัน

อ่านต่อ

วินเพิร์ลแลนด์ เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม

วินเพิร์ลแลนด์ (Vinpearl Land) เป็นสวนสนุกและรีสอร์ตหรูครบวงจรระดับโลกที่เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม มีจุดเด่นอยู่ที่ทำเลที่ตั้งที่สวยงามติดทะเล และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์สำคัญของการไปเที่ยวที่นี่คือ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลก

อ่านต่อ

วัดลองเซิน เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม

วัดลองเซิน (Long Son Pagoda) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “วัดพระใหญ่” เป็นวัดพุทธมหายานเก่าแก่ และใหญ่ที่สุดของเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม นอกจากความสวยงามอลังการของตัววัดแล้ว จากยอดเขายังสามารถมองเห็นวิวของเมืองญาจางและทะเลได้อย่างสวยงาม

อ่านต่อ

วัดตั๊กลัม เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม

วัดตั๊กลัม (Truc Lam Monastery of Da Lat) เป็นวัดพุทธในนิกายเซนบนยอดเขาเฟืองฮว่าง นอกจากภายในบริเวณวัดจะมีสิ่งก่อสร้างที่สวยงาม ยังมีการจัดตกแต่งภูมิทัศน์โดยรอบด้วยสวนดอกไม้สดสวย ถือเป็นวัดที่งดงามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดในดาลัด

อ่านต่อ

น้ำตกดาตันลา เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม

น้ำตกดาตันลา (Datanla Waterfall) ไม่เพียงแต่เป็นน้ำตกที่สวยงาม แต่ยังซ่อนเรื่องราวตำนานพื้นเมืองของดาลัดที่น่าสนใจเอาไว้ นอกจากสัมผัสความเย็นฉ่ำของละอองน้ำที่กระเซ็นจากม่านน้ำตกแล้ว ยังมีกิจกรรมสนุกๆ คือการนั่งรถรางลัดเลาะไปตามเส้นทางที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันเขียวขจี

อ่านต่อ

เจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม

เจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก (Linh Phuoc Pagoda) วัดศาสนาพุทธนิกายเซนในดาลัด โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ ตัวอาคารทำจากเศษกระเบื้องเคลือบงดงามวิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปปั้นมังกรขนาดใหญ่ที่พันรอบองค์พระเจดีย์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวัด

อ่านต่อ

ฮาจิ เลน ประเทศสิงคโปร์

ตรอกฮาจิ หรือ ฮาจิ เลน (Haji Lane) ถนนสายเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยสีสันและความมีชีวิตชีวาในย่านกัมปง กลาม (Kampong Glam) ของสิงคโปร์ เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นในฐานะแหล่งรวมร้านค้าบูติก ร้านอาหาร คาเฟ่ และศิลปะบนท้องถนนที่น่าสนใจ ฮาจิ เลน ไม่เพียงแค่เป็นถนนสายช้อปปิ้ง แต่ยังเป็นเหมือนแกลเลอรี่กลางแจ้งที่แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และวัฒนธรรมที่หลากหลายของสิงคโปร์อีกด้วย

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ