- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- โตเกียวสกายทรี กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
โตเกียวสกายทรี กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
- อ่าน (6,633)
- By Webmaster
- 03:51:31 | 2 ก.พ. 2566
Tokyo Skytree, Tokyo, Japan
โตเกียวสกายทรี สิ่งปลูกสร้างที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นยุคปัจจุบัน
โตเกียวสกายทรี หอคอยส่งสัญญาณโทรทัศน์ที่เป็น สิ่งปลูกสร้างที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น และเป็น หอคอยที่สุดที่สูงในโลก ตั้งอยู่ที่เขตสุมิดะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
ที่มาของระดับความสูงที่ 634 เมตรของโตเกียวสกายทรี มาจากชื่อเรียกพื้นที่บริเวณกรุงโตเกียว จังหวัดคานากาวะ และจังหวัดไซตามะในยุคเอโดะรวมกันว่า”มุซะชิ” (武蔵) โดย มุ (六) แทนเลข 6 ซะ (三) แทนเลข 3 ชิ (四) แทนเลข 4 นอกจากนี้ ชื่อเรียกของหอคอย “โตเกียว สกายทรี” มีที่มาจากการโหวตในระดับประเทศจากชื่อต่างๆที่ผ่านการคัดเลือกในรอบสุดท้ายทั้งหมด 6 ชื่อ โดย”โตเกียว สกายทรี” เป็นชื่อที่มีการโหวตสูงสุดด้วยคะแนนเสียง 33,000 คะแนน
ด้วยความสูง 634 เมตร จึงทำให้สามารถมองเห็นโตเกียวสกายทรีจากมุมต่างๆในกรุงโตเกียวได้เสมอ
ประวัติความเป็นมา
โตเกียวสกายทรีกับดอกซากุระที่ผลิบานในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
นับตั้งแต่โตเกียวทาวเวอร์ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1958 ด้วยความสูง 333 เมตร ประเทศญี่ปุ่นมีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง จนมีตึกสูงใหญ่มากมายถูกสร้างขึ้นใจกลางกรุงโตเกียว เป็นเหตุให้ความสูงของโตเกียวทาวเวอร์ถูกบดบังและลดทอนคุณภาพการกระจายสัญญาณวิทยุและโทรทัศน์ในภูมิภาค โครงการก่อสร้างหอส่งสัญญาณโทรทัศน์แห่งใหม่จึงเริ่มขึ้นในปีค.ศ. 2008 จนกระทั่งการก่อสร้างเสร็จสิ้นในปี 2012 โตเกียวสกายทรีก็ยืนโดดเด่นเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของโตเกียว ณ บริเวณริมแม่น้ำสุมิดะ ด้วยความสูง 634 เมตร หรือเกือบสองเท่าของโตเกียวทาวเวอร์ในอดีต
โตเกียวสกายทรีประดับประดาด้วยสีสันต่างๆยามค่ำคืน
แนวคิดการออกแบบของโตเกียวสกายทรีมาจากการผสมผสานระหว่างสิ่งใหม่และสิ่งเก่า จึงมีทั้งการสะท้อนรูปแบบของเจดีย์ 5 ชั้น ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมญี่ปุ่น ผสมกับส่วนฐานรากที่เป็นรูปแบบคล้ายคลึงกับโตเกียวทาวเวอร์ สัญลักษณ์ของสิ่งปลูกสร้างในสมัยใหม่ พร้อมๆกับเป็นการสะท้อนถึงความปลอดภัยและความมั่นคงของญี่ปุ่น โครงสร้างของโตเกียวสกายทรีจึงถูกออกแบบให้ลดแรงสั่นไหวในกรณีที่เกิดแผ่นดินไหวได้สูงสุดถึง 50%
การเดินทางไปยังโตเกียวสกายทรี
- รถไฟ บริเวณโตเกียว สกายทรี มีสถานีรถไฟใกล้เคียง 2 สถานี คือสถานี Tokyo SkyTree ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถไฟสาย Tobu SkyTree (สีส้ม) มาลงที่สถานีนี้ มีค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 150 เยน และอีกสถานีคือ Oshiage SkyTree ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถไฟใต้ดินสาย Asakusa (สีชมพู) หรือสาย Hanzomon (สีม่วง) มีค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 170 เยน นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบข้อมูลการเดินทางโดยรถไฟอย่างละเอียดได้ที่ http://www.hyperdia.com/en/
- รถบัส โตเกียว สกายทรีมีบริการ Shuttle Bus จากจุดต่างๆในเมืองโตเกียว อาทิเช่น สถานีโตเกียว, อุเอโนะ/อาซะกุสะ, สนามบินฮาเนดะ และ Tokyo Disney Resort นักท่องเที่ยวสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเดินทางด้วย Shuttle Bus ได้ที่ http://www.tobu-bus.com/en/skytree/ueno_asakusa.html
- รถแท็กซี่ รถแท็กซี่ในกรุงโตเกียวนั้นมีค่ามิเตอร์เริ่มต้นที่ 410-800 เยน ต่อระยะทาง 2 กิโลเมตรแรก ค่าโดยสารทั้งหมดขึ้นอยู่กับระยะทางจากจุดขึ้นรถของนักท่องเที่ยว โดยสามารถคำนวณค่าโดยสารเบื้องต้นได้ที่ https://www.numbeo.com/taxi-fare/in/Tokyo
เวลาในการเปิด-ปิดทำการ
เปิดทำการทุกวัน ไม่มีวันหยุด ระหว่างเวลา 08.00 น. – 22.00 น.
จากหน้าวัดเซนโซจิ โตเกียวสกายทรีอยู่ห่างออกไปเพียงคนละฝั่งของแม่น้ำ
การซื้อบัตรเข้าชม
ตัวอย่างบัตรเข้าชมโตเกียวสกายทรีสำหรับชั้น 350 และ 450
บัตรเข้าชม Tokyo Skytree มี 2 รูปแบบ ดังนี้
- บัตรเข้าชมแบบ Same-day หรือบัตรเข้าชมแบบปกติ ราคา 2,030 สำหรับขึ้นไปยังชั้น 350 และ 1,030 สำหรับขึ้นไปยังชั้น 450
- บัตรเข้าชมแบบ Fast Skytree เป็นบัตรเข้าชมแบบพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยไม่ต้องต่อคิวเพื่อรอเข้าชม และนักท่องเที่ยว จำเป็นจะต้องแสดงพาสปอร์ตหรือบัตรประจำตัวอื่นๆเพื่อยืนยันตัวตน ราคา 3,000 เยน สำหรับขึ้นไปยังชั้น 350 และ 4,000 เยน สำหรับขึ้นไปทั้งชั้น 350 และ 450
**บัตรทั้งสองแบบสามารถซื้อได้ที่เคาท์เตอร์ขายตั๋วบริเวณชั้น 4
**สำรองบัตรเข้าชมล่วงหน้าได้ที่ http://www.tokyo-skytree.jp/ticket/individual/reservation/set_online.html
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ทิวทัศน์ยอดนิยมของโตเกียวสกายทรี คือมุมจากฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำซึ่งมองเห็นรูปทรงอันแปลกจาของตึก Asahi
โตเกียวสกายทรีสามารถเข้าชมได้ตลอดทั้งปี ทั้งนี้ ภายในโตเกียวสกายทรีอาจมีการจัดนิทรรศการพิเศษ รวมถึงการจัดแสดงแสงสีในช่วงเวลาที่แตกต่างกันไป นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.tokyo-skytree.jp/en/
ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้
ทางเดินขึ้นไปยังชั้น 450 ของโตเกียวสกายทรี
จุดชมวิวบนโตเกียวสกายทรีมีทั้งหมด 2 ชั้น คือชั้นที่ 350 และชั้นที่ 450 แต่ละชั้นสามารถชมวิวของเมืองโตเกียวได้ 360 องศา จุดเด่นของชั้น 350 คือมีร้านขายของที่ระลึก และร้านอาหาร Musashi Sky Restaurant ซึ่งขายอาหารแนวฟิวชั่นระหว่างญี่ปุ่นและฝรั่งเศส ส่วนในชั้นที่ 450 จะมีลักษณะเป็นบันไดวนขึ้นไปจนถึงความสูงที่ 451.2 เมตร ตลอดทั้งชั้นเป็นกระจกใสซึ่งสามารถชมวิวทิวทัศน์ได้รอบด้าน นอกจากนี้ พื้นที่ของชั้น 450 ยังถือว่าเป็น Skywalk ที่สูงที่สุดในโลกอีกด้วย
ทางเข้า Sumida Aquarium ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชั้นล่างของโตเกียวสกายทรี
นอกจากเป็นจุดชมวิวของเมืองโตเกียวแล้ว บริเวณด้านล่างของโตเกียวสกายทรี ยังมีศูนย์การค้าชื่อว่า Tokyo Solamachi ที่นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับการช้อปปิ้ง ซึ่งบริเวณร้านอาหารบนชั้นที่ 31 ของศูนย์การค้าแห่งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับทานอาหารอร่อยๆ และเพลิดเพลินกับการชมวิวทิวทัศน์ของเมืองพร้อมกับชมความสวยงามของโตเกียวสกายทรีไปพร้อมๆกัน นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ SUMIDA Aquaruim ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชั้น 5-6 ของโตเกียวสกายทรีอีกด้วย
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม โตเกียวสกายทรี สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
โตเกียวสกายทรี
(Tokyo Skytree)
อัตราค่าเข้าชม : Same Day Ticket ราคา 2,030 เยน สำหรับชั้นที่ 350 และราคา 1,030 เยน สำหรับชั้นที่ 450
FastSkytree Ticket สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ราคา 3,000 เยน สำหรับชั้นที่ 350 และ 4,000 เยนสำหรับทั้ง 2 ชั้น
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทำการทุกวัน ไม่มีวันหยุด ระหว่างเวลา 08.00 น. – 22.00 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : ย่านสุมิดะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
โทรศัพท์ : (+81) 570-55-0634
เว็บไซต์ : http://www.tokyo-skytree.jp/th/
ระดับความนิยม :
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/eng/
เว็บไซต์การท่องเที่ยวโตเกียว https://www.gotokyo.org/en/
เว็บไซต์ศูนย์รวมจุดบริการนักท่องเที่ยวในโตเกียว http://www.tourist-information-center.jp/tokyo/en/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจาง – ดาลัด ประเทศเวียดนาม
หากอยากสัมผัสบรรยากาศเมืองชายทะเลสุดคึกคักอากาศอบอุ่น แล้วไปผ่อนคลายในเมืองแห่งภูเขาอากาศเย็นสบายที่เวียดนามใต้ ญาจางและดาลัดคือคำตอบ! สองเมืองนี้จะพาคุณดื่มด่ำไปกับธรรมชาติที่งดงาม วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์และกิจกรรมที่หลากหลาย Palanla ได้รวบรวมเอา 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจางและดาลัดมาให้แล้วในบทความนี้
อ่านต่ออาสนวิหารญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
อาสนวิหารญาจาง (Christ the King Cathedral Nha Trang) หรือ โบสถ์หินญาจาง สุดยอดสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบโรมัน ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใจกลางเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม อายุเกือบร้อยปีแห่งนี้ เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กของเมือง ด้วยผนังหินสีน้ำตาลเข้มที่สลักเสลาอย่างวิจิตรบรรจง และหลังคาสูงชะลูดที่ดูอลังการ ตัดกับท้องฟ้าสีคราม ทำให้โบสถ์แห่งนี้กลายเป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว
อ่านต่อหาดญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หาดญาจาง (Nha Trang Beach) เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดของประเทศเวียดนาม ด้วยชายรูปร่างเหมือนพระจันทร์เสี้ยว ความยาวกว่า 6 กิโลเมตรที่โอบล้อมอ่าวญาจาง ในจังหวัดหวัดคั้ญฮวา ท่ามกลางภูมิทัศน์โดยรอบที่สวยงามของอาคารสถาปัตยกรรมสำคัญๆ มากมาย
อ่านต่อหอคอยแตร่มเฮือง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หอคอยแตร่มเฮือง (Tram Huong Tower) สัญลักษณ์และจุดเช็กอินยอดนิยมของหาดญาจางในปัจจุบัน
อ่านต่อวินเพิร์ลแลนด์ เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วินเพิร์ลแลนด์ (Vinpearl Land) เป็นสวนสนุกและรีสอร์ตหรูครบวงจรระดับโลกที่เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม มีจุดเด่นอยู่ที่ทำเลที่ตั้งที่สวยงามติดทะเล และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์สำคัญของการไปเที่ยวที่นี่คือ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลก
อ่านต่อวัดลองเซิน เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วัดลองเซิน (Long Son Pagoda) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “วัดพระใหญ่” เป็นวัดพุทธมหายานเก่าแก่ และใหญ่ที่สุดของเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม นอกจากความสวยงามอลังการของตัววัดแล้ว จากยอดเขายังสามารถมองเห็นวิวของเมืองญาจางและทะเลได้อย่างสวยงาม
อ่านต่อวัดตั๊กลัม เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
วัดตั๊กลัม (Truc Lam Monastery of Da Lat) เป็นวัดพุทธในนิกายเซนบนยอดเขาเฟืองฮว่าง นอกจากภายในบริเวณวัดจะมีสิ่งก่อสร้างที่สวยงาม ยังมีการจัดตกแต่งภูมิทัศน์โดยรอบด้วยสวนดอกไม้สดสวย ถือเป็นวัดที่งดงามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดในดาลัด
อ่านต่อน้ำตกดาตันลา เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
น้ำตกดาตันลา (Datanla Waterfall) ไม่เพียงแต่เป็นน้ำตกที่สวยงาม แต่ยังซ่อนเรื่องราวตำนานพื้นเมืองของดาลัดที่น่าสนใจเอาไว้ นอกจากสัมผัสความเย็นฉ่ำของละอองน้ำที่กระเซ็นจากม่านน้ำตกแล้ว ยังมีกิจกรรมสนุกๆ คือการนั่งรถรางลัดเลาะไปตามเส้นทางที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันเขียวขจี
อ่านต่อเจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
เจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก (Linh Phuoc Pagoda) วัดศาสนาพุทธนิกายเซนในดาลัด โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ ตัวอาคารทำจากเศษกระเบื้องเคลือบงดงามวิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปปั้นมังกรขนาดใหญ่ที่พันรอบองค์พระเจดีย์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวัด
อ่านต่อฮาจิ เลน ประเทศสิงคโปร์
ตรอกฮาจิ หรือ ฮาจิ เลน (Haji Lane) ถนนสายเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยสีสันและความมีชีวิตชีวาในย่านกัมปง กลาม (Kampong Glam) ของสิงคโปร์ เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นในฐานะแหล่งรวมร้านค้าบูติก ร้านอาหาร คาเฟ่ และศิลปะบนท้องถนนที่น่าสนใจ ฮาจิ เลน ไม่เพียงแค่เป็นถนนสายช้อปปิ้ง แต่ยังเป็นเหมือนแกลเลอรี่กลางแจ้งที่แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และวัฒนธรรมที่หลากหลายของสิงคโปร์อีกด้วย
อ่านต่อ