- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- วัดเซนโซจิ (ศาลเจ้าอาซากุสะ) กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
วัดเซนโซจิ (ศาลเจ้าอาซากุสะ) กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
- อ่าน (12,431)
- By Webmaster
- 03:51:21 | 2 ก.พ. 2566
วัดเซนโซจิ (ศาลเจ้าอาซากุสะ) กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
Sensoji (Asakusa Kannon Temple) Tokyo, Japan
นักท่องเที่ยวจำนวนมากหลั่งไหลมาเยี่ยมชมวัดอาซากุสะตลอดทั้งวัน
วัดเซนโซจิ เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว ตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน และชื่อเสียงความศักดิ์สิทธิ์ที่สั่งสมมานับตั้งแต่อดีต ทำให้วัดเซนโซจิเป็นทั้งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวญี่ปุ่น และเป็นทั้งแลนด์มาร์คสำหรับนักท่องเที่ยวไปพร้อมกัน ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานของพระโพธิสัตว์คันนน หรือเจ้าแม่กวนอิม และเป็นที่ตั้งของเจ้าอาซากุสะอันขึ้นชื่อ รวมไปถึงศาลเจ้าชินโต และเจดีย์ห้าชั้นอีกด้วย
ร้านขายอาหาร งานฝีมือ และร้านของที่ระลึกมากมายเรียงรายอยู่บริเวณทางเข้าวัด
แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นวัด แต่ภายในวัดเซนโซจิยังมีถนนที่เต็มไปด้วยร้านขายอาหาร งานฝีมือ และของที่ระลึกมากมาย นอกจากนี้ ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนของวัด นักท่องเที่ยวก็จะมองเห็นโตเกียว สกายทรี สิ่งปลูกสร้างที่สูงที่สุดของญี่ปุ่นเป็นฉากหลังอยู่เสมอ ถือเป็นภาพอันน่าประทับใจของการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ เข้ากับสัญลักษณ์แห่งยุคสมัยใหม่ของญี่ปุ่นได้อย่างกลมกลืน
ประวัติของวัดเซนโซจิ
วัดเซนโซจิเป็นที่ประดิษฐานของพระโพธิสัตว์กวนอิม จึงมีรูปเคารพจำนวนมากทั้งภายในและรอบๆบวัด
ตามตำนานเล่าว่า ในปีค.ศ. 628 พี่น้องสองคนชื่อว่า ฮิโนคุมะ ฮามานาริ และฮิโนคุมะ ทาเคนาริ มักจะออกหาปลาในแม่น้ำสุมิดะทุกวัน มีอยู่วันหนึ่งสองพี่น้องจับปลาในแม่น้ำไม่ได้เลยสักตัว ด้วยความหิวโหย ทั้งสองคนจึงอธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้จับปลาได้สักตัวไปเป็นอาหารเย็น ภายหลังจากอธิษฐาน ทั้งสองคนได้เหวี่ยงแหออกไป แต่ปรากฏว่าสิ่งที่ติดมานั้นคือรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมทองคำ สูง 5 นิ้ว
ศาลเจ้าเก่าแก่ภายในบริเวณวัดเซนโซจิ
หลังจากนั้น ทั้งสองพี่น้องได้เปลี่ยนบ้านของพวกตนซึ่งอยู่ในเขตอาซากุสะเป็นวัดขนาดเล็ก และนำพระพุธรูปเจ้าแม่กวนอิมทองคำที่พบมาประดิษฐานไว้เพื่อให้คนในหมู่บ้านมากราบไหว้บูชา ซึ่งบรรดาผู้ที่มาขอพรนั้นต่างก็สมปรารถนาเสมอ จนชื่อเสียงด้านความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุธรูปเจ้าแม่กวนอิมทองคำองค์นี้ค่อยๆแผ่ขยายไปทั่วประเทศญี่ปุ่น มีผู้คนหลั่งใหลมากราบไหว้บูชามากมาย และเมื่อโชกุนโทคุกาวะ อิเอมิทซึรู้เข้า จึงมีบัญชาให้ปรับปรุงตัวอาคารวัด รวมถึงพื้นที่รอบๆเรื่อยมาจนกลายเป็นวัดเซนโซจิอย่างที่เราเห็นทุกวันนี้
การเดินทางไปวัดเซนโซจิ
- รถไฟ เป็นวิธีการเดินทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยว โดยสามารถขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Ginza ( สีส้ม ) มาลงที่สถานี Asakusa ค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 170 เยน ออกทางออกหมายเลข 6 หรือ 7 จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 450 เมตร ใช้เวลาประมาณ 5 นาที ก็จะพบกับวัดเซนโซจิ นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบข้อมูลการเดินทางโดยรถไฟอย่างละเอียดได้ที่ http://www.hyperdia.com/en/
- รถแท็กซี่ รถแท็กซี่ในกรุงโตเกียวนั้นมีค่ามิเตอร์เริ่มต้นที่ 410-800 เยน ต่อระยะทาง 2 กิโลเมตรแรก ค่าโดยสารทั้งหมดขึ้นอยู่กับระยะทางจากจุดขึ้นรถของนักท่องเที่ยว โดยสามารถคำนวณค่าโดยสารเบื้องต้นได้ที่ https://www.numbeo.com/taxi-fare/in/Tokyo
เวลาในการเปิด-ปิดทำการ
เจดีย์ 5 ชั้นสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากบริเวณประตูวัด
บริเวณตัวอาคารหลักของวัด เปิดทำการทุกวันตั้งแต่ 06.00น. – 17.00น. ในช่วงเดือนเมษายน – กันยายน และเปิดทำการตั้งแต่ 06.30น. ในช่วงเดือนตุลาคม – มีนาคม
ส่วนบริเวณพื้นที่โดยรอบ เปิดทำการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
อัตราค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชม
บริเวณอาคารหลักของวัดเซนโซจิเนืองแน่นไปด้วยผู้คนตั้งแต่ตอนเช้า
จุดที่มีชื่อเสียงในบริเวณวัดเซนโซจิ
ประตูคามินาริมง ซึ่งมีตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นเขียนว่า 雷 แปลว่า”สายฟ้า”
ประตูคามินาริมง – เป็นประตูหลักของวัดเซนโซจิ และยังเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย บริเวณประตูจะมีโคมแดงขนาดมหึมาที่เขียนด้วยตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นว่า 雷 อ่านว่า “คามานาริ” ซึ่งแปลว่าสายฟ้า ประตูแห่งนี้จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ประตูสายฟ้า”
ถนนนากามิเสะที่นักท่องเที่ยวสามารถซื้อขนมและของฝากต่างๆได้อย่างเพลิดเพลิน
ถนนนากามิเสะ – เมื่อนักท่องเที่ยวเดินผ่านประตูคามินาริมงเข้าไป จะพบกับถนนที่ทอดยาวเข้าไปสู่ตัววัด โดย ตลอดสองข้างทางของถนนเส้นนี้จะเต็มไปด้วยร้านรวงต่างๆทั้งร้านขนม ร้านอาหาร ร้านขายของฝาก ไปจนถึงร้านเช่าและขายชุดกิโมโน ถือเป็นย่านช้อปปิ้งสำคัญที่นักท่องเที่ยวสามารถซื้อสินค้าต่างๆเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นได้อย่างหลากหลาย
ประตูโฮโซมง ประตูชั้นสุดท้ายก่อนที่นักท่องเที่ยวจะพบกับอาคารหลักของวัดเซนโซจิ
ประตูโฮโซมง – เมื่อเดินมาจนสุดถนนนากามิเสะ นักท่องเที่ยวจะพบกับประตูขนาดใหญ่อีกแห่งก่อนเข้าไปสู่บริเวณวัด ประตูโฮโซมงนั้นมีขนาดใหญ่กว่าประตูคามินาริมงเกือบเท่าตัว โดยมีความสูงถึง 22.7 เมตร ชื่อประตูมีความหมายว่า “ประตูคลังสมบัติ” ด้านในของประตูยังมี Nio หรือรูปปั้นเทพเจ้า 2 องค์ที่ทำหน้าที่ปกปักรักษาองค์พระพุทธเจ้า
เมื่อเข้าสู่บริเวณตัววัด นักท่องเที่ยวจะได้พบกับตัวอาคารหลักที่เป็นที่ประดิษฐานของพระโพธิสัตว์ เจดีย์ 5 ชั้น รวมไปถึงศาลาสำหรับเสี่ยงเซียมซี และศาลาสำหรับจำหน่ายเครื่องราง
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ต้นซากุระโบราณภายในวัดเซนโซจิผลิบานในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
เนื่องจากวัดเซนโซจิตั้งอยู่ใจกลางเมืองโตเกียว นักท่องเที่ยวจึงสามารถเดินทางมายังวัดได้อย่างสะดวกสบายตลอดทั้งปี
แต่หากนักท่องเที่ยวต้องการบรรยากาศที่พิเศษออกไป วัดเซนโซจินั้นมีการจัดงานเทศกาลต่างๆตลอดทั้งปี โดยงานเทศกาลที่ถือว่ายิ่งใหญ่ที่สุดของวัดคือเทศกาล Sanja Matsuri และยังถือเป็น 1 ใน 3 งานเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดในศาสนาชินโตอีกด้วย โดยเทศกาลนี้จะจัดขึ้นระหว่างสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพฤษภาคมในทุกปี
โคมไฟแบบญี่ปุ่นที่ถูกนำมาใช้ประดับประดา
จุดประสงค์ของเทศกาล Sanja Matsuri คือการจัดงานเฉลิมฉลองให้แก่ผู้ก่อตั้งวัด เชื่อกันว่าเทศกาลนี้จัดขึ้นมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 7 โดยพิธีในวันแรกจะเริ่มจากการอัญเชิญเทพเจ้าขึ้นสู่เกี้ยวหรือศาลเจ้าจำลองที่เรียกว่า “mikoshi” ทั้งสามหลังของศาลเจ้าอาซากุสะ โดยเกี้ยวแต่ละด้านต้องใช้คนหามถึง 40 คน วันที่สองจะเป็นวันที่ผู้คนต่างมาร่วมสนุกสนานไปกับดนตรี ขบวนแห่ ขับร้องเพลงและร่ายรำกันอย่างสนุกสนานที่บริเวณถนนสายหลักหน้าวัด และในวันสุดท้ายถือเป็นไฮไลท์ของเทศกาล ซึ่งจะมีการแห่เกี้ยวทั้งสามไปทั้ง 44 เขตของย่านอาซากาสะ ก่อนจะแห่กลับมาทำพิธีใหญ่เพื่อปิดเทศกาลในคืนนั้น
ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้
นักท่องเที่ยวปัดควันธูปเข้าตัวด้วยความเชื่อว่าจะนำพาความโชคดีมาให้
วัดเซนโซจิมีธรรมเนียมเช่นเดียวกับวัดแห่งอื่นๆในประเทศญี่ปุ่น นั่นคือต้องล้างหน้า ล้างมือ และล้างปากก่อนเข้าวัด ซึ่งนอกจากจะเป็นการชำระร่างกาย ยังสื่อถึงการชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ โดยภายในวัดจะมีบ่อน้ำและกระบวยตักน้ำอยู่ใกล้กับประตูโฮโซมง และนอกจากนี้ยังมีธรรมเนียมการปัดควันธูปเข้าหาตัว ซึ่งเชื่อกันว่าจะนำพาสิ่งดีๆมาให้อีกด้วย
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม วัดเซนโซจิ (ศาลเจ้าอาซากุสะ) สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
วัดเซนโซจิ ( ศาลเจ้าอาซากุสะ )
Sensoji (浅草寺, Asakusa Kannon Temple)
อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าบริการเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : อาคารหลักของวัดเปิดให้บริการระหว่าง 06.00น. – 17.00น. ในช่วงเดือนเมษายน – กันยายน
และเปิดทำการตั้งแต่ 06.30น. ในช่วงเดือนตุลาคม – มีนาคม
พื้นที่อื่นรอบบริเวณวัด เปิดทำการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : ย่านอาซากุสะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
โทรศัพท์ : (+81) 3-3842-0181
เว็บไซต์ : http://www.senso-ji.jp/
ระดับความนิยม :
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/eng/
เว็บไซต์การท่องเที่ยวโตเกียว https://www.gotokyo.org/en/
เว็บไซต์ศูนย์รวมจุดบริการนักท่องเที่ยวในโตเกียว http://www.tourist-information-center.jp/tokyo/en/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจาง – ดาลัด ประเทศเวียดนาม
หากอยากสัมผัสบรรยากาศเมืองชายทะเลสุดคึกคักอากาศอบอุ่น แล้วไปผ่อนคลายในเมืองแห่งภูเขาอากาศเย็นสบายที่เวียดนามใต้ ญาจางและดาลัดคือคำตอบ! สองเมืองนี้จะพาคุณดื่มด่ำไปกับธรรมชาติที่งดงาม วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์และกิจกรรมที่หลากหลาย Palanla ได้รวบรวมเอา 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจางและดาลัดมาให้แล้วในบทความนี้
อ่านต่ออาสนวิหารญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
อาสนวิหารญาจาง (Christ the King Cathedral Nha Trang) หรือ โบสถ์หินญาจาง สุดยอดสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบโรมัน ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใจกลางเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม อายุเกือบร้อยปีแห่งนี้ เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กของเมือง ด้วยผนังหินสีน้ำตาลเข้มที่สลักเสลาอย่างวิจิตรบรรจง และหลังคาสูงชะลูดที่ดูอลังการ ตัดกับท้องฟ้าสีคราม ทำให้โบสถ์แห่งนี้กลายเป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว
อ่านต่อหาดญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หาดญาจาง (Nha Trang Beach) เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดของประเทศเวียดนาม ด้วยชายรูปร่างเหมือนพระจันทร์เสี้ยว ความยาวกว่า 6 กิโลเมตรที่โอบล้อมอ่าวญาจาง ในจังหวัดหวัดคั้ญฮวา ท่ามกลางภูมิทัศน์โดยรอบที่สวยงามของอาคารสถาปัตยกรรมสำคัญๆ มากมาย
อ่านต่อหอคอยแตร่มเฮือง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หอคอยแตร่มเฮือง (Tram Huong Tower) สัญลักษณ์และจุดเช็กอินยอดนิยมของหาดญาจางในปัจจุบัน
อ่านต่อวินเพิร์ลแลนด์ เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วินเพิร์ลแลนด์ (Vinpearl Land) เป็นสวนสนุกและรีสอร์ตหรูครบวงจรระดับโลกที่เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม มีจุดเด่นอยู่ที่ทำเลที่ตั้งที่สวยงามติดทะเล และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์สำคัญของการไปเที่ยวที่นี่คือ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลก
อ่านต่อวัดลองเซิน เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วัดลองเซิน (Long Son Pagoda) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “วัดพระใหญ่” เป็นวัดพุทธมหายานเก่าแก่ และใหญ่ที่สุดของเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม นอกจากความสวยงามอลังการของตัววัดแล้ว จากยอดเขายังสามารถมองเห็นวิวของเมืองญาจางและทะเลได้อย่างสวยงาม
อ่านต่อวัดตั๊กลัม เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
วัดตั๊กลัม (Truc Lam Monastery of Da Lat) เป็นวัดพุทธในนิกายเซนบนยอดเขาเฟืองฮว่าง นอกจากภายในบริเวณวัดจะมีสิ่งก่อสร้างที่สวยงาม ยังมีการจัดตกแต่งภูมิทัศน์โดยรอบด้วยสวนดอกไม้สดสวย ถือเป็นวัดที่งดงามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดในดาลัด
อ่านต่อน้ำตกดาตันลา เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
น้ำตกดาตันลา (Datanla Waterfall) ไม่เพียงแต่เป็นน้ำตกที่สวยงาม แต่ยังซ่อนเรื่องราวตำนานพื้นเมืองของดาลัดที่น่าสนใจเอาไว้ นอกจากสัมผัสความเย็นฉ่ำของละอองน้ำที่กระเซ็นจากม่านน้ำตกแล้ว ยังมีกิจกรรมสนุกๆ คือการนั่งรถรางลัดเลาะไปตามเส้นทางที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันเขียวขจี
อ่านต่อเจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
เจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก (Linh Phuoc Pagoda) วัดศาสนาพุทธนิกายเซนในดาลัด โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ ตัวอาคารทำจากเศษกระเบื้องเคลือบงดงามวิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปปั้นมังกรขนาดใหญ่ที่พันรอบองค์พระเจดีย์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวัด
อ่านต่อฮาจิ เลน ประเทศสิงคโปร์
ตรอกฮาจิ หรือ ฮาจิ เลน (Haji Lane) ถนนสายเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยสีสันและความมีชีวิตชีวาในย่านกัมปง กลาม (Kampong Glam) ของสิงคโปร์ เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นในฐานะแหล่งรวมร้านค้าบูติก ร้านอาหาร คาเฟ่ และศิลปะบนท้องถนนที่น่าสนใจ ฮาจิ เลน ไม่เพียงแค่เป็นถนนสายช้อปปิ้ง แต่ยังเป็นเหมือนแกลเลอรี่กลางแจ้งที่แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และวัฒนธรรมที่หลากหลายของสิงคโปร์อีกด้วย
อ่านต่อ