ปราสาทฮิโรชิมะ จังหวัดฮิโรชิมะ ประเทศญี่ปุ่น

  • อ่าน (3,874)
  • By Webmaster
  • 15:28:59 | 13 ธ.ค. 2565

ปราสาทฮิโรชิมะ จังหวัดฮิโรชิมะ ประเทศญี่ปุ่น

Hiroshima Castle, Hiroshima, Japan


ปราสาทฮิโรชิมะอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญของตังหวัดฮิโรชิมะ 

             ปราสาทฮิโรชิมะ (Hiroshima Castle) มีชื่อเล่นว่า ปราสาทปลาคาร์พ ซึ่งตัวปราสาทที่เห็นในปัจจุบันนั้นบูรณะขึ้นมาใหม่หลังจากที่ปราสาทเดิมถูกไฟไหม้ และโดนระเบิดปรมาณูในสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้มีสภาพเป็นซากปราสาท มีเพียงต้นไม้ 3 ต้นในนั้นที่รอดมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ หอคอยปราสาทฮิโรชิมะปัจจุบันสร้างขึ้นใหม่ด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก จำลองโครงสร้างให้เหมือนปราสาทเดิม ภายในเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับปราสาทฮิโรชิมะ วิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวฮิโรชิมะ ซึ่งชั้นบนสุดเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นจังหวัดฮิโรชิมะได้รอบทิศเลยทีเดียว


แผนที่ตั้ง ปราสาทฮิโรชิมะ (Hiroshima Castle) จังหวัดฮิโรชิมะ ประเทศญี่ปุ่น 


ประวัติ

             ปราสาทฮิโรชิมะเดิมสร้างขึ้นในสมัยเทนโช 17 หรือปี ค.ศ. 1589 โดยโมริ เทรุโมโตะ ไดเมียวผู้เป็นหนึ่งในห้าผู้อาวุโสของโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ปราสาทนี้เป็นปราสาทไม้ สร้างขึ้นโดยมีต้นแบบมาจากปราสาทโอซาก้า ตั้งอยู่บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโอตะกาวะ บนพื้นที่โกะคามุระ แม้ตัวปราสาทจะสร้างเสร็จตั้งแต่ต้นปี ค.ศ. 1591 แต่การก่อสร้างในส่วนอื่นๆ เช่น คูน้ำ ป้อมปราการ กำแพงรอบปราสาท ไปเสร็จสมบูรณ์ทั้งหมดในปี ค.ศ. 1599

             ในปี ค.ศ. 1600 เกิดการสู้รบที่เซกิงาฮาระ ซึ่งโทโยโทมิ ฮิเดโยชิเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ต่อโทคุงาวะ อิเอยาสึ ทำให้ไดเมียวโมริ เทรุโมโตะ ถูกเนรเทศออกจากจังหวัดฮิโรชิมะ โดยแต่งตั้งไดเมียวฟุกุชิมะ มาซาโนริ เข้ามาปกครองเมืองแทน และลดขนาดปราสาทลง ต่อมาปราสาทฮิโรชิมะเกิดความเสียหายจากพายุและน้ำท่วม ไดเมียวฟุกุชิมะ มาซาโนริ ออกคำสั่งให้ซ่อมแซมปราสาท และปรับปรุงเป็นปราสาทขนาดใหญ่ที่มีคูเมืองถึง 3 ชั้น รวมถึงพัฒนาเมืองปราสาทด้วย

             การซ่อมแซมปราสาทนั้นจะต้องรายงานต่อโชกุนและผู้สำเร็จราชการแทน ตามกฎ “บุเกะ โชฮัตโตะ” ที่อิเอยาสึตั้งไว้เพื่อจำกัดอำนาจของไดเมียว และซามุไร ซึ่งการซ่อมแซมปราสาทฮิโรชิมะ ผู้สำเร็จราชการตัดสินว่าผิด จากการที่รับรายงานแล้ว แต่ยังไม่ได้อนุมัติ ทำให้ในปี ค.ศ. 1619 ไดเมียวฟุกุชิมะ มาซาโนริถูกย้ายไปปกครองจังหวัดอื่นแทน โดยแต่งตั้งตระกูลอาซาโนะเป็นไดเมียวขึ้นปกครองแทน ซึ่งตระกูลอาซาโนะอาศัยอยู่ในปราสาทฮิโรชิมะยาวนานกว่า 250 ปี

             ในสมัยเมจิ ปราสาทฮิโรชิมะถูกใช้เป็นศูนย์กลางทางการทหาร โดยสร้างฮิโรชิมะชินได หรือกองบัญชาการทหารอยู่ภายในปราสาท รวมถึงจัดค่ายทหารไว้ในซันโนะมารุ ต่อมาในปี ค.ศ. 1874 เกิดไฟไหม้ในฮมมารุ และนิโนะมารุ สิ่งก่อสร้างบริเวณนั้นได้รับความเสียหาย จังหวัดฮิโรชิมะเป็นพื้นที่ทางการทหารทั้งในสงครามจีน-ญี่ปุ่น และสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น พื้นที่หลายแห่งเกิดความเสียหายจากสงคราม ต่อมาในปี ค.ศ. 1926 อาคารกองบัญชาการทหารถูกกำหนดให้เป็นโบราณสถาน และในปี ค.ศ. 1931 หอคอยปราสาทฮิโรชิมะก็ได้รับการประกาศเป็นสมบัติแห่งชาติของญี่ปุ่นด้วย

             เนื่องจากศูนย์บัญชาการทางการทหารอยู่ที่ฮิโรชิมะบริเวณปราสาทฮิโรชิมะ ในสงครามโลกครั้งที่ 2 วันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 1945 อเมริกาจึงเลือกทิ้งระเบิดปรมาณูลงใจกลางจังหวัดฮิโรชิมะ ซึ่งจุดศูนย์กลางการระเบิดอยู่ห่างจากปราสาทเพียง 1 กิโลเมตร แรงระเบิดทำให้ปราสาทและพื้นที่บริเวณนั้นภายในพังทลายลง หลังการฟื้นฟูเมือง มีการสร้างปราสาทฮิโรชิมะขึ้นมาใหม่ ในปี ค.ศ. 1958 โดยมีเฉพาะหอคอยปราสาท 5 ชั้น สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ปัจจุบันใช้เป็นพื้นที่พิพิธภัณฑ์สำหรับจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับปราสาทฮิโรชิมะ และเรื่องราวของเมืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานแห่งนี้


ปราสาทล้อมรอบด้วยคูเมือง


ภายในเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับปราสาทฮิโรชิมะ


ชั้นบนสุดเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นจังหวัดฮิโรชิมะได้รอบทิศ


แผนผังภายในบริเวณโบราณสถานปราสาทฮิโรชิมะ


ซุ้มประตูภายในบริเวณ


การเดินทางจากสนามบินไปยังจังหวัดฮิโรชิมะ

             - จากสนามบินฟุกุโอกะ (Fukuoka Airport - FUK) ขึ้นรถไฟใต้ดิน (Subway) สาย Kuko Line จากสถานี Fukuokakuko Station (Airport) ไปลงที่สถานี Hakata Station แล้วเปลี่ยนชานชาลาไปขึ้นรถไฟชินคันเซน (Shinkansen) สาย Tokaido Sanyō Shinkansen ไปลงที่สถานี Hiroshima Station ใช้เวลาเดินทางทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที

             - จากสนามบินคันไซ (Kansai International Airport - KIX) ขึ้นรถไฟสาย Haruka จากสถานี Kansai - Airport Station ไปลงที่สถานี Shin-Osaka Station ใช้เวลาประมาณ 50 นาที แล้วเปลี่ยนชานชาลาไปขึ้นรถไฟชินคันเซน (Shinkansen) สาย Tokaido Sanyō Shinkansen ไปลงที่สถานี Hiroshima Station ใช้เวลาเดินทางประมาณ 90 นาที รวมใช้เวลาเดินทางทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที


การเดินทางไปปราสาทฮิโรชิมะ

             - รถบัสนำเที่ยว (Hiroshima Maple Loop Sightseeing Bus) จากสถานี Hiroshima Station ให้แสดงตั๋วรถไฟ JR กับคนขับรถ (หากไม่มีตั๋วรถไฟ JR สามารถซื้อแบบรายวันได้ในราคา 400 - 2,000 เยน) แล้วขึ้นรถบัสนำเที่ยวสายสีเหลืองไปลงที่ปราสาทฮิโรชิมะ


เวลาทำการเปิด-ปิด

             หอคอยปราสาท

             มีนาคม - พฤศจิกายน 09:00 น. – 18:00 น. (เข้าก่อน 17:30 น.)

             ธันวาคม - กุมภาพันธ์ 09:00 น. – 17:00 น. (เข้าก่อน 16:30 น.)

             นิโนะมารุ

             เมษายน - กันยายน 09:00 น. – 17:30 น. (เข้าก่อน 17:00 น.)

             ตุลาคม - มีนาคม 09:00 น. – 16:30 น. (เข้าก่อน 16:00 น.)

             ปิดวันที่ 29 ธันวาคม - 2 มกราคม ของทุกปี


อัตราค่าเข้าชม

             ผู้ใหญ่ 370 เยน

             เด็ก ม.ปลาย 180 เยน

             เด็กเล็ก เข้าชมฟรี


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

             ตลอดทั้งปี 


             
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว ปราสาทฮิโรชิมะ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                         ปราสาทฮิโรชิมะ จังหวัดฮิโรชิมะ ประเทศญี่ปุ่น

                         (Hiroshima Castle, Hiroshima, Japan)

                         ระดับความนิยม : 

                         อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าใช้จ่าย

                         เวลาเปิด-ปิด : ตลอดเวลา 

                         ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

                         สถานที่ตั้ง : 21-1 Motomachi, Naka Ward, Hiroshima, 730-0011, Japan

                         โทรศัพท์ : (+81) 82-221-7512

                         เว็บไซต์ : https://www.rijo-castle.jp

                         ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com  

                                                     เว็บไซต์จังหวัดฮิโรชิมะ https://www.city.hiroshima.lg.jp/site/english/

                                                     เว็บไซต์องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น https://www.jnto.or.th/ 

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

ช็อคโกแลตฮิลส์ จังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์

ช็อคโกแลตฮิลส์ (Chocolate Hills) ตั้งอยู่บนเกาะโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นเนินเขาลูกย่อมๆ ทรงกรวยคว่ำที่มีลักษณะค่อนข้างจะสมมาตร เรียงกันเป็นบริเวณกว้าง ครอบคลุมพื้นที่กว่า 50 ตารางกิโลเมตร ลูกที่ใหญ่ที่สุดมีความสูงถึง 120 เมตร ความน่าอัศจรรย์อันเกิดจากฝีมือของธรรมชาติที่สวยงามเหล่านี้ คือหนึ่งในจุดท่องเที่ยวสำคัญของเกาะหรือจังหวัดโบฮอล

อ่านต่อ

5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเกาะโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์

เกาะโบฮอล (Bohol) มีฐานะเป็นทั้งเกาะและจังหวัด โดยมีเมืองหลวงที่ชื่อว่าตัคบิลารัน (Takbilarun) โบฮอลเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 10 ของฟิลิปปินส์ และเกาะนี้ยังถูกเลือกให้เป็นอุทยานธรณีโลกแห่งแรกของฟิลิปปินส์อีกด้วย เกาะโบฮอลมีความอุดมสมบูรณ์และสภาพภูมิศาสตร์ที่หลากหลาย โดยโซนทางใต้ของเกาะเป็นแหล่งดำน้ำที่มีชื่อเสียงหลายจุด… Palanla จะพาไปชมความสวยงามและน่าอัศจรรย์ทางธรรมชาติของฟิลิปปินส์ที่คุณอาดไม่เคยคาดคิด ผ่าน 5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเกาะโบฮอล ดังต่อไปนี้

อ่านต่อ

หาดอโลนา จังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์

หาดอโลนา (Alona Beach) เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยงามและมีชื่อเสียงที่สุดของเกาะปังเลา จังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์ ด้วยทรายขาวละเอียด น้ำทะเลสีฟ้าครามใส และบรรยากาศที่คึกคัก ทำให้หาดอโลนาเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวมาโดยตลอด

อ่านต่อ

ล่องเรือแม่น้ำโลบ็อค จังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์

ล่องเรือแม่น้ำโลบ็อค (Loboc River Cruise) เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเกาะโบฮอล เพราะแม่น้ำสายนี้ถือเป็นแม่น้ำสายสำคัญของเกาะหรือจังหวัดโบฮอล การล่องเรือไปตามแม่น้ำจะทำให้ได้สัมผัสเสน่ห์ธรรมชาติ และเห็นวิถีชีวิตสองฝั่งของคนบนเกาะนี้

อ่านต่อ

เกาะเวอร์จิน จังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์

เกาะเวอร์จิน (Virgin Island / Pungtud Island) อีกหนึ่งความสวยงามและมีเอกลักษณ์ของโบฮอล ด้วยหาดทรายขาวละเอียด ผืนน้ำบริสุทธิ์ และสันทรายรูปตัว C ที่ทอดยาวไปจนลับตา

อ่านต่อ

เกาะบาลิคาซัค จังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์

เกาะบาลิคาซัค (Balicasag Island) เป็นอีกหนึ่งอัญมณีที่ซ่อนอยู่ของจังหวัดโบฮอล ประเทศฟิลิปปินส์ ด้วยความโดดเด่นทางธรรมชาติที่งดงาม ทั้งแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ ชายหาดทรายขาวละเอียด และน้ำทะเลสีฟ้าครามใสราวกระจก ทำให้ที่นี่เป็นสวรรค์สำหรับนักดำน้ำตื้นและนักดำน้ำลึก รวมถึงผู้ที่ชื่นชอบการพักผ่อนริมทะเล

อ่านต่อ

เกาะนามิ จังหวัดคังวอน ประเทศเกาหลีใต้

เกาะนามิ (Nami Island) เป็นเกาะเล็กๆ ในจังหวัดคังวอน (Gangwon) ไม่ไกลจากกรุงโซล ขึ้นเชื่อเรื่องธรรมชาติที่สวยงามและความโรแมนติก โดยเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำซีรียส์เกาหลีเรื่อง Winter Sonata หรือชื่อไทยว่า “เพลงรักในสายลมหนาว” ที่แฟนซีรียส์จำนวนมากต้องไม่พลาดไปตามรอย

อ่านต่อ

อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย เมืองจางเจียเจี้ย ประเทศจีน

อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie National Forest Park) เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของจีน ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของมณฑลหูหนาน ประเทศจีน สวรรค์บนดินแห่งนี้เผยให้เห็นถึงความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ด้วยความสวยงามตระการตาของภูเขาหินทรายที่สูงตระหง่านกับป่าไม้เขียวชอุ่ม จางเจียเจี้ยจึงกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับภาพยนตร์เรื่อง Avatar จนได้รับการขนานนามว่า "แพนโดร่าแห่งโลกมนุษย์"

อ่านต่อ

ภูเขาเทียนเหมินซาน เมืองจางเจียเจี้ย ประเทศจีน

ภูเขาเทียนเหมินซาน (Tianmen Shan) เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในจางเจียเจี้ย มณฑลหูหนาน ประเทศจีน ด้วยสถานที่มหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ถูกขนานนามว่า "ประตูสวรรค์" บวกกับความสวยงามของธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์ใจระดับ 5 A ที่นี่จึงได้รับยกย่องให้เป็นภูเขาที่สวยที่สุด 1 ใน 4 ของจีน และยังได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ให้เป็นมรดกโลกในปีค.ศ. 1992 อีกด้วย

อ่านต่อ

แกรนด์แคนยอนจางเจียเจี้ย เมืองจางเจียเจี้ย ประเทศจีน

แกรนด์แคนยอนจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie Grand Canyon) เป็นที่ตั้งของสะพานกระจกข้ามเขาที่ยาวและสูงที่สุดในโลกกับ สะพานแก้วจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie Glass Floor Bridge) ทางเดินลอยฟ้าเหนือแกรนด์แคนยอนอันตระการตา

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ