เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ คุณสามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ โดยคลิก "การตั้งค่าคุกกี้"
ภูเขาไฟอะโสะ จังหวัดคุมาโมโตะ ประเทศญี่ปุ่น
Mt.Aso, Kumamoto, Japan
ภูเขาไฟอะโสะ (Mt.Aso) พื้นที่ทางธรรมชาติขนาดใหญ่ในจังหวัดคุมาโมโตะ (Kumamoto) แห่งนี้คืออีกหนึ่งความน่าอัศจรรย์ทางธรรมชาติแห่งแดนอาทิตอุทัย ซึ่งถือเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปในแถบภูมิภาคคิวชู (Kyushu) กับลักษณะอันโดดเด่นคือเป็นกลุ่มภูเขาไฟที่มีความสูงมากที่สุดในโลก โดยวัดจากระดับน้ำทะเลมากว่า 1,500 เมตร และเป็นภูเขาไฟที่ยังคงคุกรุ่นอยู่
ประวัติ
ภูเขาไฟอะโสะ ตั้งอยู่ที่เมืองอะโสะ จังหวัดคุมาโมโตะ ในภูมิภาคคิวชู ประเทศญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของภูมิภาคนี้ ทั้งยังติดหนึ่งในอันดับภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยลักษณะอันโดดเด่นของกลุ่มภูเขาไฟแห่งนี้ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับและมีขนาดที่ใหญ่มาก กินอาณาบริเวณกว่า 100 กิโลเมตร ประกอบด้วยยอดของปล่องภูเขาไฟเรียงรายกันไป 5 ยอด ได้แก่ ปล่องภูเขาไฟ Nakadake, ปล่องภูเขาไฟ Takadake,ปล่องภูเขาไฟ Kijimadake,ปล่องภูเขาไฟ Eboshidake และปล่องภูเขาไฟ Nekedake
บริเวณที่สามารถเข้าไปชมได้ง่ายที่สุดคือ ปล่องภูเขาไฟนาคาดาเกะ (Nakadake) ทั้งนี้การขึ้นไปท่องเที่ยวด้านบนจำเป็นต้องมีการเช็คสภาพของก๊าซพิษที่ปากปล่องก่อน หากช่วงไหนที่มีปริมาณก๊าซพิษมากเกินความปลอดภัย ทางเจ้าหน้าที่ก็จะปิดไม่ให้ขึ้นไปท่องเที่ยวด้านบนยอดเขา รวมถึงผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจควรหลีกเลี่ยงการขึ้นไปด้านบนยอดเขา
โดยนอกจากปากปล่องภูเขาไฟนาคาดาเกะที่ยังคงคุกรุ่นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นไฮไลต์สำคัญของการเดินทางมาเที่ยวที่นี่แล้ว ทิวทัศน์ธรรมชาติระหว่างทางไปก็ถือเป็นอีกหนึ่งมนต์เสน่ห์และเป็นเอกลักษณ์ ที่ใครก็ไม่อาจละสายตาหรือพลาดที่จะบันทึกภาพความสวยงามรอบๆ ตัวตลอดสองข้างทางนี้ไปได้ กับทุ่งหญ้าคุซะเซนริอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา พร้อมกับจุดชมวิวที่มีให้แวะพักชมความงามของธรรมชาติอยู่เป็นระยะ โดยหลักๆ แล้วมีอยู่ 3 จุดด้วยกัน ได้แก่
จุดชมวิวทุ่งหญ้าคุซะเซนริและปากปล่องภูเขาไฟเอโบชิดาเกะ (Kusasenri and Eboshidake)
บริเวณนี้มีจุดชมวิวทุ่งหญ้าคุซะเซนริและปากปล่องภูเขาไฟเอโบชิดาเกะ (Kusasenri and Eboshidake) ตั้งตระหง่านโดดเด่นเป็นฉากหลัง และยังสามารถมองเห็นปากปล่องภูเขาไฟนาคาดาเกะที่คุกรุ่น รวมถึงปากปล่องภูเขาไฟทาคาดาเกะที่อยู่ถัดออกไป นอกจากจะเป็นจุดแวะเที่ยวที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในจุดชมทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยที่สุดระหว่างขับรถเที่ยวบริเวณภูเขาไฟอะโซะแล้ว ที่นี่ยังเป็นแหล่งปศุสัตว์ย่อยๆ ด้วย โดยจะสังเกตเห็นว่ามีแอ่งน้ำอยู่สองบ่ออยู่ใกล้ๆ กัน ในช่วงฤดูที่หญ้าเขียวขจีและน้ำเต็มบ่อ สัตว์น้อยใหญ่อย่างวัวและม้าก็จะมาเล็มหญ้าหาอาหารกินกันที่นี่ เป็นอีกบรรยากาศ ที่สวยงามแตกต่างออกไป ทั้งนี้ แม้จะมาเที่ยวในช่วงฤดูอื่นๆ ที่ไม่มีโอกาสได้ได้สัมผัสกับภาพทิวทัศน์แบบนั้น เขาก็มีบริการขี่ม้าเที่ยวชมรอบๆ บริเวณทุ่งหญ้าคุซะเซนริให้บริการแก่นักท่องเที่ยวอยู่โดยตลอด
ทัศนียภาพจากจุดชมวิวทุ่งหญ้าคุซะเซนริและปากปล่องภูเขาไฟเอโบชิดาเกะ (Kusasenri and Eboshidake) มองเห็นปากปล่องภูเขาไฟนาคาดาเกะ (Nakadake) – ภาพซ้ายบน, ปากปล่องภูเขาไฟทาคาดาเกะ (Takadake) – ภาพขวาบน และปากปล่องภูเขาไฟเอโบชิดาเกะ (Eboshidake) – ภาพซ้ายล่าง
ลักษณะทางเดินรอบๆ จุดชมวิวทุ่งหญ้าคุซะเซนริและปากปล่องภูเขาไฟเอโบชิดาเกะ
บ่อน้ำบริเวณทุ่งหญ้า ในช่วงฤดูที่หญ้าเขียวขจีและน้ำเต็มบ่อวัวและม้าจะมาเล็มหญ้าหาอาหารกินกันที่นี่
บริการขี่ม้าเที่ยวชมรอบๆ บริเวณทุ่งหญ้าคุซะเซนริ
จุดชมวิวคุซะเซนริ (Kusasenri Observatory)
ไม่ไกลจากจุดชมวิวทุ่งหญ้าคุซะเซนริและปากปล่องภูเขาไฟเอโบชิดาเกะ มีจุดชมวิวคุซะเซนริ (Kusasenri Observatory) ซึ่งเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวจะได้ดื่มด่ำกับวิวสวยๆ จากมุมสูงบริเวณภูเขาไฟอะโซะอย่างเต็มตา โดยมีพระเอกอย่างปากปล่องภูเขาไฟนาคาดาเกะที่ยังคงคุกรุ่นอยู่ตลอดเวลา คอยดึงดูดทุกๆ สายตาให้จับจ้องไปที่จุดเดียวกัน
ใกล้ๆ กับจุดชมวิวคุซะเซนรินี้เอง จะมีทางเดินขึ้น-ลงเนินเล็กๆ ระยะทางราวๆ 170 เมตร ด้านล่างของเนินเป็นที่ตั้งของ พิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟอะโสะ (Aso Valcano Museum) ภายในจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับภูเขาไฟลูกนี้ในรูปแบบ 3 มิติไว้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ นอกจากนี้ยังแสดงข้อมูลการคาดการณ์การเกิดหรือปะทุของภูเขาไฟในอนาคตด้วย พิพิธภัณฑ์เปิดบริการเวลา 09.00-16.30 น. โดยมีค่าเข้าชมอยู่ที่ 1,100 เยน
วิวจากจุดชมวิวคุซะเซนริ (Kusasenri Observatory)
พิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟอะโสะ (Aso Valcano Museum)
สวนชมวิวภูเขาไฟอะโสะ (Aso Volcano Viewing Park)
ห่างจากจุดชมวิวคุซะเซนริ (Kusasenri Observatory) ขึ้นมาประมาณ 2 กิโลเมตรก็จะเป็น สวนชมวิวภูเขาไฟอะโสะ (Aso Volcano Viewing Park) ทัศนียภาพรอบๆ มีความสวยงาม ให้ความรู้สึกใกล้ชิดกับปากปล่องภูเขาไฟขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง ซึ่งภายในบริเวณเดียวกันนี้เองก็เป็นตั้งของ อะโสะ ซันโจ เทอมินัล (Aso Sanjo Terminal) / ศาลเจ้าอะโสะ ซันโจ (Aso Sanjo Shrine) และจุดขึ้นเฮลิคอปเตอร์ชมวิวเหนือปากปล่องภูเขาไฟด้วย
บรรยากาศบริเวณสวนชมวิวภูเขาไฟอะโสะ (Aso Volcano Viewing Park)
ปล่องภูเขาไฟนาคาดาเกะที่ยังคงคุกรุ่น มองจากสวนชมวิวภูเขาไฟอะโสะ (Aso Volcano Viewing Park)
อะโสะ ซันโจ เทอมินัล (Aso Sanjo Terminal)
เป็นอาคารผู้โดยสารบนยอดเขา ชัทเทิลบัสจากที่นี่เองที่จะพานักท่องเที่ยวเดินทางไปยังปากปล่องภูเขาไฟนากาดาเกะ หากไม่ได้เที่ยวโดยการเช่ารถขับเองก็สามารถขึ้นรถบัสจากสถานี Aso และมาต่อรถชัทเทิลบัสได้ที่นี่ แต่ก่อนบริเวณนี้เคยมีกระเช้าให้บริการขึ้นไปยังปากปล่องภูเขาไฟ แต่ตอนนี้ได้รื้อถอนออกไปและยกเลิกให้บริการแล้ว เหลือเพียงชัทเทิลบัสเท่านั้น
อะโสะ ซันโจ เทอมินัล (Aso Sanjo Terminal) ชัทเทิลบัสจากที่นี่จะพานักท่องเที่ยวเดินทางไปยังปากปล่องภูเขาไฟนากาดาเกะ
ศาลเจ้าอะโสะ ซันโจ (Aso Sanjo Shrine)
เป็นศาลเจ้าเล็กๆ ที่หนุ่มสาวนิยมมาขอพรเกี่ยวกับเรื่องเนื้อคู่ เนื่องจากภูเขาไฟอะโสะนั้นได้รับการบูชาในฐานะภูเขาแห่งการมีคู่มาตั้งแต่สมัยโบราณ หนุ่มสาวจึงมักเดินทางมาที่นี่ โดยกล่าวกันว่า หากใครต้องการพบคู่ที่ดีหรือต้องการถนอมความสัมพันธ์ในปัจจุบัน ก็ให้มาสักการะขอพรศาลเจ้าที่วัดแห่งนี้ด้วยจะสมความปรารถนา
ศาลเจ้าอะโสะ ซันโจ (Aso Sanjo Shrine)
ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ชมวิวเหนือปากปล่องภูเขาไฟ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการชมทัศนียภาพมุมสูงเหนือปากป่องภูเขาไฟด้วยมุมมองแบบ Bird’s eye view ที่นี่ก็มีบริการนั่งเฮลิคอปเตอร์ชมวิวมุมสูงอย่างใกล้ชิดให้เลือกหลาย ขึ้นอยู่กับระยะเวลาและพื้นที่การบินชม โดยมีตั้งแต่ 2 – 20 นาที กับราคาเริ่มต้นที่ 3,000 ไปจนถึง 50,000 เยน
เฮลิคอปเตอร์นำชมวิวมุมสูงเหนือปากปล่องภูเขาไฟ
ทัศนียภาพมุมสูงของปล่องภูเขาไฟนาคาดาเกะ (Nakadake) ถ่ายจากบนเฮลิคอปเตอร์
ปล่องภูเขาไฟนาคาดาเกะที่ยังคงประทุ
ทั้งนี้การขึ้นไปท่องเที่ยวด้านบนปากปล่องภูเขาไฟจำเป็นต้องมีการเช็คสภาพของก๊าซพิษที่ปากปล่องก่อน หากช่วงไหนที่มีปริมาณก๊าซพิษมากเกินความปลอดภัย ทางเจ้าหน้าที่ก็จะปิดไม่ให้ขึ้นไปท่องเที่ยวด้านบนยอดเขา รวมถึงผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจควรหลีกเลี่ยงการขึ้นไปด้านบนยอดเขาด้วย สำหรับผู้ที่สนใจไปเที่ยวภูเขาไฟอะโสะสามารถเที่ยวได้ตลอดปี ซึ่งเวลาทำการของแต่ละฤดูอาจจะแตกต่างกันเล็กน้อย สามารถตรวจสอบได้จากเว็บไซต์ http://www.aso.ne.jp/~volcano/eng/
การเดินทางจากสนามบินคุมาโมโตะไปยังสถานีคุมาโมโตะ
- รถบัส จากสนามบิน นั่งรถบัส Kumamoto-Airport Limousine Bus เพื่อไปลง Kumamoto Station ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 53 นาที
การเดินทางจากสถานีคุมาโมโตะไปยังภูเขาไฟอะโสะ
- รถยนต์ จาก Kumamoto Station ไปยัง Mt.Aso มีระยะทาง 50 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที
เวลาเปิด – ปิด
20 มีนาคม – 31 ตุลาคม เวลา 8.30 – 17.30 น.
1 พฤศจิกายน – 30 พฤศจิกายน เวลา 8.30 – 17.00 น.
1 ธันวาคม – 19 มีนาคม เวลา 9.00 – 16.30 น.
อัตราค่าเข้าชม
การเที่ยวชมบริเวณทั่วไปไม่เสียค่าเข้าชม
พิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟอะโสะ (Aso Valcano Museum) มีค่าเข้าชม 840 เยน
เวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว ภูเขาไฟอะโสะ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ภูเขาไฟอะโสะ จังหวัดคุมาโมโตะ ประเทศญี่ปุ่น
(Mt. Aso, Kumamoto, Japan)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : การเที่ยวชมบริเวณทั่วไปไม่เสียค่าเข้าชม พิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟอะโสะ (Aso Valcano Museum) มีค่าเข้าชม 840 เยน
เวลาเปิด-ปิด : 20 มีนาคม – 31 ตุลาคม เวลา 8.30 – 17.30 น.
1 พฤศจิกายน – 30 พฤศจิกายน เวลา 8.30 – 17.00 น.
1 ธันวาคม – 19 มีนาคม เวลา 9.00 – 16.30 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : จังหวัดคุมาโมโตะ ประเทศญี่ปุ่น
โทรศัพท์ : (+81) 967 32 1960
เว็ปไซต์ : http://www.aso.ne.jp/~volcano/eng/
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/eng/
เว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดคุมาโมโตะ https://kumamoto-guide.jp/en/
เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/
เว็บไซต์การเดินทางขนส่งมวลชนญี่ปุ่น http://www.hyperdia.com/
เจ้าแม่กวนอิมแห่งไท่หู (Guanyin of Taihu) ประดิษฐานอยู่ภายในพื้นที่ของ Great Ruyi Holy Land บนเกาะซีซาน (Xishan Island) ทางทิศใต้ของทะเลสาบไท่หู (Taihu Lake) มณฑลเจียงซู ประเทศจีน
อ่านต่อเจ้าแม่กวนอิม แห่งเขาซีเฉียว (Guanyin of Mount Xiqiao) เป็นประติมากรรมแบบจีนรูปพระโพธิสัตว์กวนอิมขนาดใหญ่ที่สุดองค์หนึ่งในประเทศจีน มีความสูงประมาณ 77 เมตรรวมฐาน ประดิษฐานอยู่บนเนินเขาซีเฉียว เขตหนานไห่ เมืองฝัวซาน มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน
อ่านต่อผู่โถวซาน หรือ เกาะผู่โถว เป็นเกาะเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในส่วนตะวันออกของเมืองโจวซาน มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน โดยอยู่ทางตอนใต้ของนครเซี่ยงไฮ้ ผู่โถวซานเป็น 1 ใน 4 พุทธคีรีหรือภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของจีน ชาวพุทธจีนเชื่อกันว่าผู่โถวซานเป็นที่ประทับและตรัสรู้ของพระโพธิสัตว์กวนอิมหรือเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งเป็นหนึ่งในเทพเจ้าที่สำคัญที่สุดในศาสนาพุทธนิกายมหายาน ดังนั้นจึงมีผู้แสวงบุญจากทั่วโลก โดยเฉพาะผู้ที่ศรัทธาในเจ้าแม่กวนอิมเดินทางมาที่เกาะแห่งนี้เพื่อสักการะขอพรอยู่โดยตลอด
อ่านต่อในโลกที่ความยิ่งใหญ่และความสง่างามมาบรรจบกัน มีการสร้างสรรค์ที่น่าทึ่ง ซึ่งท้าทายขีดจำกัดของความเชื่อและความสำเร็จของมนุษย์ นั่นคือพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลก สิ่งก่อสร้างอันยิ่งใหญ่เหล่านี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความศรัทธา และความทุ่มเทที่ฝังรากลึกในวัฒนธรรมและจิตวิญญาณของคนในชาติต่างๆ Palanla จะพาคุณออกเดินทางไปสำรวจ 10 อันดับพระพุทธรูปที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดในโลก มาค้นหาความหมายทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ฝังอยู่ในสิ่งก่อสร้างอันงดงามเหล่านี้ไปพร้อมๆ กัน
อ่านต่อเจ้าแม่กวนอิมเป็นพระโพธิสัตว์ในพระพุทธศาสนานิกายมหายาน มีผู้เคารพนับถือบูชาในหลายประเทศ เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนาม รวมทั้งไทย โดยมีความเชื่อว่าพระองค์ทรงเป็นสัญลักษณ์แห่งความเมตตา กรุณา และความช่วยเหลือแก่ผู้ตกทุกข์ได้ยาก ในบทความนี้ Palanla จะพาไปสำรวจ 10 อันดับรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดในโลกในปัจจุบัน
อ่านต่อหลวงพ่อสัจจธรรม (Great Buddha Dordenma) เป็นพระพุทธรูปที่อยู่สูงที่สุดในโลก ประดิษฐานอยู่ที่กรุงทิมพู ประเทศภูฏาน ดินแดนแห่งเทือกเขาหิมาลัย
อ่านต่อไดคันนงแห่งสวนคิตะโนะมิยาโกะ (Dai Kannon of Kita no Miyako Park) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ฮอกไกโดคันนง เป็นรูปปั้นของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร หรือเจ้าแม่กวนอิม ที่ตั้งอยู่ในสวนคิตะโนะมิยาโกะ บนเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น รูปปั้นไดคันนงแห่งสวนคิตะโนะมิยาโกะ เคยเป็นรูปปั้นที่เคยสูงที่สุดในโลกเมื่อเปิดให้เข้าชมในปีค.ศ.1989
อ่านต่อเจ้าแม่กวนอิมแห่งหนานชาน หรือ พระโพธิสัตว์กวนอิมแห่งเกาะไหหลำ (Guanyin of Nanshan) ได้รับการจดบันทึกในกินเนสบุ๊คว่า เป็นเจ้าแม่กวนอิมที่สูงที่สุดในโลกในปัจจุบัน ประดิษฐานอยู่ใกล้กับวัดหนานชานแห่งเมืองซานย่า บนชายฝั่งทางตอนใต้ของมณฑลไห่หนาน ประเทศจีน
อ่านต่อพระใหญ่จงหยวน หรือนิยมเรียกในชื่อ Spring Temple Buddha ที่แปลว่า พระพุทธรูปวัดบ่อน้ำพุ ถือเป็นพระพุทธรูปที่สูงที่สุดในโลก ประดิษฐานอยู่ที่วัดฟัวเฉวียน ในเมืองหลู่ซัน มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน
อ่านต่อพระโพธิสัตว์กวนอิมพันมือแห่งกุยชาน (Guishan Guanyin) มณฑลหูหนาน ประเทศจีน เป็นประติมากรรมเจ้าแม่กวนอิมความสูง 99.19 เมตร ซึ่งจัดเป็นหนึ่งในรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่สูงที่สุดในโลก
อ่านต่อเจ้าแม่กวนอิมแห่งไท่หู (Guanyin of Taihu) ประดิษฐานอยู่ภายในพื้นที่ของ Great Ruyi Holy Land บนเกาะซีซาน (Xishan Island) ทางทิศใต้ของทะเลสาบไท่หู (Taihu Lake) มณฑลเจียงซู ประเทศจีน
อ่านต่อเจ้าแม่กวนอิม แห่งเขาซีเฉียว (Guanyin of Mount Xiqiao) เป็นประติมากรรมแบบจีนรูปพระโพธิสัตว์กวนอิมขนาดใหญ่ที่สุดองค์หนึ่งในประเทศจีน มีความสูงประมาณ 77 เมตรรวมฐาน ประดิษฐานอยู่บนเนินเขาซีเฉียว เขตหนานไห่ เมืองฝัวซาน มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน
อ่านต่อผู่โถวซาน หรือ เกาะผู่โถว เป็นเกาะเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในส่วนตะวันออกของเมืองโจวซาน มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน โดยอยู่ทางตอนใต้ของนครเซี่ยงไฮ้ ผู่โถวซานเป็น 1 ใน 4 พุทธคีรีหรือภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของจีน ชาวพุทธจีนเชื่อกันว่าผู่โถวซานเป็นที่ประทับและตรัสรู้ของพระโพธิสัตว์กวนอิมหรือเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งเป็นหนึ่งในเทพเจ้าที่สำคัญที่สุดในศาสนาพุทธนิกายมหายาน ดังนั้นจึงมีผู้แสวงบุญจากทั่วโลก โดยเฉพาะผู้ที่ศรัทธาในเจ้าแม่กวนอิมเดินทางมาที่เกาะแห่งนี้เพื่อสักการะขอพรอยู่โดยตลอด
อ่านต่อในโลกที่ความยิ่งใหญ่และความสง่างามมาบรรจบกัน มีการสร้างสรรค์ที่น่าทึ่ง ซึ่งท้าทายขีดจำกัดของความเชื่อและความสำเร็จของมนุษย์ นั่นคือพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลก สิ่งก่อสร้างอันยิ่งใหญ่เหล่านี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความศรัทธา และความทุ่มเทที่ฝังรากลึกในวัฒนธรรมและจิตวิญญาณของคนในชาติต่างๆ Palanla จะพาคุณออกเดินทางไปสำรวจ 10 อันดับพระพุทธรูปที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดในโลก มาค้นหาความหมายทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ฝังอยู่ในสิ่งก่อสร้างอันงดงามเหล่านี้ไปพร้อมๆ กัน
อ่านต่อเจ้าแม่กวนอิมเป็นพระโพธิสัตว์ในพระพุทธศาสนานิกายมหายาน มีผู้เคารพนับถือบูชาในหลายประเทศ เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนาม รวมทั้งไทย โดยมีความเชื่อว่าพระองค์ทรงเป็นสัญลักษณ์แห่งความเมตตา กรุณา และความช่วยเหลือแก่ผู้ตกทุกข์ได้ยาก ในบทความนี้ Palanla จะพาไปสำรวจ 10 อันดับรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดในโลกในปัจจุบัน
อ่านต่อหลวงพ่อสัจจธรรม (Great Buddha Dordenma) เป็นพระพุทธรูปที่อยู่สูงที่สุดในโลก ประดิษฐานอยู่ที่กรุงทิมพู ประเทศภูฏาน ดินแดนแห่งเทือกเขาหิมาลัย
อ่านต่อ