- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- สวนลิงหิมะจิโกคุดานิ จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น
สวนลิงหิมะจิโกคุดานิ จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น

- อ่าน (4,055)
- By Webmaster
- 14:45:34 | 27 เม.ย. 2566
สวนลิงหิมะจิโกคุดานิ จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น
Jigokudani Snow Monkey Park, Nagano, Japan
ลิงหิมะนั่งอยู่บนโขดหินท่ามกลางไอน้ำริมบ่อน้ำพุร้อนของสวนลิง
สวนลิงหิมะจิโกคุดานิ (Jigokudani Snow Monkey Park) เป็นเหมือนแดนสวรรค์ของฝูงลิงป่าที่อาศัยอยู่ในหุบเขาจิโกคุดานิ และยังเป็นที่เดียวในโลกที่มีลิงแช่ออนเซ็นซึ่งเป็นภาพที่สร้างชื่อเสียงให้ที่นี่กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกโดยฝูงลิงมักจะมาแช่ออนเซ็นที่จัดไว้ให้กลางแจ้งเพื่อคลายความหนาว ก่อให้เกิดภาพที่น่ารักน่าเอ็นดู และหาชมได้ยาก โดยสวนลิงแห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ของหุบเขาจิโกคุดานิ ยาเอ็นโคเอ็น (Jigokudani Yaen-koen) ซึ่งแปลว่า หุบเขานรก เนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้จะมีหิมะปกคลุมยาวนานถึงหนึ่งในสามของปี และมีสภาพอากาศหนาวอย่างรุนแรง รวมถึงสภาพพื้นที่ที่มีลักษณะเป็นหุบเขาที่มีหน้าผาสูงชัน และมีไอน้ำพวยพุ่งจากธารน้ำพุร้อนที่ไหลรินอยู่เกือบตลอดเวลา คนญี่ปุ่นโบราณจึงเปรียบเปรยว่ามีสภาพเหมือนหุบเขานรกนั่นเอง แต่ปัจจุบันนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก
แผนที่ตั้ง สวนลิงหิมะจิโกคุดานิ (Jigokudani Snow Monkey Park) จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น
ประวัติ
สวนลิงหิมะจิโกคุดานิก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1964 ในพื้นที่ของหุบเขาจิโกคุดานิ ยาเอ็นโคเอ็น มีความสูง 850 เมตรจากระดับน้ำทะเล ใกล้กับอุทยานแห่งชาติโจชิเนสึ โคเก็น (Joshinetsu Kogen) สวนแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่ออนุรักษ์พันธุ์ลิงป่าหรือที่นิยมเรียกกันว่าลิงหิมะหลากหลายช่วงอายุที่อาศัยอยู่ในบริเวณภูเขาแถบนี้ตามธรรมชาติ และด้วยความที่ลิงเป็นสัตว์ที่ฉลาดและเรียนรู้ได้เร็ว พวกมันจึงรู้ว่าอาหารที่เจ้าหน้าที่จัดหาให้ที่สวนแห่งนี้ค่อนข้างดีกว่าอาหารที่พวกมันจะหาได้เองจากภูเขา และรู้ว่ามนุษย์ในสวนไม่ทำอันตรายพวกมัน พวกมันจึงพากันเข้ามาอาศัยอยู่ในสวนนี้ นักท่องเที่ยวจึงสามารถเห็นฝูงลิงในสวนจิโกคุดานิอยู่กันอย่างเป็นธรรมชาติและมีชีวิตชีวา ซึ่งแตกต่างจากชีวิตในสวนสัตว์อย่างสิ้นเชิง
โดยฝูงลิงจะประกอบด้วยลิงตัวผู้ที่โตเต็มวัย กับลิงตัวเมียที่โตเต็มวัยเป็นจำนวนสองหรือสามเท่าของจำนวนตัวผู้ รวมถึงบรรดาลูกลิงน้อย และจะมีลิงจ่าฝูงเป็นหัวหน้าคอยดูแลฝูง สาเหตุที่ลิงมาแช่ออนเซ็นนั้นเป็นเพราะบ่อน้ำร้อนช่วยคลายความหนาวเย็นได้ ซึ่งลิงส่วนใหญ่มักจะแช่บ่อน้ำร้อนกันในช่วงที่มีสภาพอากาศหนาวจัดราวเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ โดยแต่เดิมนั้นช่วงที่ก่อตั้งสวนลิงแห่งนี้ขึ้นใหม่ๆ จะมีลิงบางตัวลงไปแช่ออนเซ็นของคนระหว่างที่มารออาหารจากเจ้าหน้าที่ และพวกมันก็ลงไปแช่กันเรื่อยๆ เจ้าหน้าที่จึงสร้างออนเซ็นส่วนตัวให้ลิงใช้โดยเฉพาะซึ่งเป็นบ่อที่เห็นกันในปัจจุบัน เพื่อให้ลิงใช้บ่อน้ำร้อนแยกกับมนุษย์จะได้ถูกสุขอนามัย ตั้งแต่นั้นมาลิงก็จะมาแช่ออนเซ็นบริเวณนี้กันจากรุ่นสู่รุ่น
ในส่วนของสภาพทางธรรมชาติของหุบเขานั้นมีทิวทัศน์ที่สวยงามสะดุดตาจากหน้าผาสูงชันและก้อนหินมากมาย มีธารน้ำโยโคยุ (Yokoyu) ที่มาจากน้ำพุเกลือร้อนที่มีความใสสะอาดซึ่งผุดออกมาจากรอยแตกของชั้นหินควอตซ์ไดโอไรต์ (Quarts diorite) ซึ่งเป็นชั้นหินหนืดใต้ดินที่แข็งตัวหลังจากการประทุของภูเขาไฟ โดยน้ำร้อนจากแหล่งธรรมชาติแห่งนี้ยังได้ถูกผันไปยังชิบุออนเซ็นและคันบายาชิออนเซ็นในบริเวณใกล้เคียงเพื่อให้นักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจสามารถไปใช้บริการได้
ข้อมูลที่จำเป็นต้องรู้
1. สวนลิงหิมะจิโกคุดานินั้นตั้งอยู่ด้านบนของหุบเขา จึงต้องเดินเท้าจากบริเวณเชิงเขาด้านล่างลัดเลาะไปตามทางเดินประมาณ 1.6 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชั่วโมงในแบบที่ค่อยๆ เดินชมวิวไปเรื่อยๆ เพื่อขึ้นไปยังด้านบน ซึ่งอาจจะมีนักท่องเที่ยวบางส่วนที่รู้สึกท้อใจและตัดสินใจไม่เดินขึ้นไป แต่อันที่จริงแล้วการเดินขึ้นไปนั้นไม่ได้ลำบากอย่างที่คิด เนื่องจากทัศนียภาพสองข้างทางระหว่างที่เดินขึ้นไปนั้นมีความสวยงาม และสร้างความเพลิดเพลินให้จนสามารถลืมเรื่องระยะทางไปได้ เช่น บรรยากาศของต้นสนที่ปกคลุมด้วยหิมะ ลำธารข้างทาง และบ่อออนเซ็น อีกทั้งด้วยสภาพเส้นทางที่ไม่ได้ลาดชันมากนัก และสภาพอากาศที่ไม่มีแดดจัดจึงสามารถเดินได้อย่างสบายๆ ถ้าเตรียมตัวมาพร้อม
ทางเดินปกคลุมด้วยหิมะ
บริเวณทางขึ้นมีป้ายบอกระยะทางและแผนที่เส้นทาง
2. การเตรียมตัวให้พร้อมท่องเที่ยวท่ามกลางหิมะ และสภาพอากาศที่หนาวเย็นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะจะทำให้เที่ยวได้อย่างสนุกและปลอดภัย ดังนั้น นักท่องเที่ยวจึงควรเตรียมเสื้อผ้า ถุงมือ ที่ปิดหู หมวก และเครื่องกันหนาวต่างๆ ให้เหมาะสมกับสภาพอากาศและสภาพร่างกายของตนเอง และที่ขาดไม่ได้คือ “รองเท้าสำหรับเดินบนหิมะ” ซึ่งมีความแตกต่างจากรองเท้าธรรมดาตรงที่พื้นรองเท้าสำหรับเดินบนหิมะจะมีแผงหมุดช่วยยึดเกาะพื้นและกันลื่นได้ดีกว่า เนื่องจากหิมะที่ตกสะสมในบางพื้นที่นั้นมีความลื่น โดยเฉพาะในช่วงที่หิมะกำลังละลาย หากใส่รองเท้าสำหรับเดินบนหิมะโดยเฉพาะ ก็จะช่วยให้เดินได้อย่างสบายขึ้น ไม่ต้องกลัวหรือกังวลเรื่องลื่นล้ม ทำให้เที่ยวชมบรรยากาศสองข้างทางได้อย่างมีความสุข
3. มีจุดเช่ารองเท้าสำหรับเดินบนหิมะไว้บริการนักท่องเที่ยว หากนักท่องเที่ยวต้องการเดินขึ้นไปยังสวนลิงหิมะด้านบนหุบเขาแต่ไม่ได้เตรียมรองเท้าสำหรับเดินบนหิมะมาด้วย ก็สามารถทำการเช่ารองเท้าสำหรับเดินบนหิมะได้ที่บริเวณใกล้กับเชิงเขาทางขึ้น
รองเท้าสำหรับเดินบนหิมะวัสดุที่ใช้จะมีความทนทานต่อสภาพอากาศที่มีอุณหภูมิติดลบ
พื้นรองเท้าด้านล่างจะมีลักษณะเป็นแผงหมุดไว้ยึดเกาะพื้นหิมะหรือพื้นที่ที่ปกคลุมด้วยน้ำแข็งเพื่อช่วยกันลื่นและเพิ่มแรงเสียดทานในการก้าวเดินให้ทรงตัวได้ดี
รองเท้าผ้าใบทั่วไป
พื้นรองเท้าผ้าใบทั่วไปจะไม่มีแผงหมุดไว้ยึดเกาะหิมะและพื้นน้ำแข็ง
บริเวณทางเดินไปยังสวนลิงหิมะ พื้นอาจมีความลื่นจากหิมะที่ละลายไปบ้างแล้วบางส่วน
เส้นทางท่ามกลางธรรมชาติที่ปกคลุมด้วยหิมะ
หากเตรียมตัวมาพร้อมก็สามารถเดินชมทัศนียภาพได้อย่างสบายๆ
ทิวทัศน์อันสวยของงามของหุบเขาที่มีหิมะปกคลุม
มีลำธารสายเล็กๆ ภายในหุบเขา
กองหิมะใกล้กับลำธารกำลังละลาย
บรรยากาศเมืองเล็กๆ ภายในหุบเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ
ระหว่างทางจะพบบ่อน้ำพุร้อนอยู่เป็นระยะ
บันไดทางขึ้นเขาสู่สวนลิงหิมะจิโกคุดานิ
บริเวณทางเข้าไปยังที่ทำการด้านในอาคาร
ภายในอาคารยังมีการจัดแสดงป้ายข้อมูลของลิง และมีห้องน้ำไว้บริการนักท่องเที่ยวที่มาเยือน
สะพานทางเดินทอดยาวไปยังสวนลิงหิมะ
ธารน้ำจากบ่อน้ำร้อนที่ไหลอยู่ในบริเวณนี้ และทางด้านซ้ายคือออนเซ็นของลิง
เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเป็นอย่างมาก
ลิงตัวเล็กและลิงตัวใหญ่นั่งเล่นคลายหนาวอยู่ริมบ่อออนเซ็น
ไอน้ำร้อนช่วยคลายหนาวให้ลิงรู้สึกสบายตัว
บางตัวก็ชอบปลีกวิเวกไปนั่งอยู่ตัวเดียว
ลิงวัยรุ่นกำลังเล่นกัน
ลูกลิงจะอยู่ไม่ห่างแม่ลิง
ลิงแม่ลูกนั่งกอดกันอย่างน่าเอ็นดู และธรรมชาติของแม่ลิงจะค่อนข้างหวงลูก
การเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ (Narita International Airport) ไปยังสถานีรถไฟนากาโนะ (Nogano Station)
- รถยนต์ (Car) จาก Narita International Airport ไปยัง Nagano Station โดยขึ้นทางด่วน มีระยะทางประมาณ 314 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง 10 นาที
- รถไฟ (Train) จาก Narita International Airport ไปยัง Nagano Station โดยรถไฟนั้น จะต้องไปเปลี่ยนขบวนรถไฟที่ Tokyo Station โดยมีวิธีการเดินทางตามความสะดวกอยู่ 2 วิธี ดังนี้
วิธีแรก เริ่มจาก Narita International Airport ให้เดินมายัง Narita Airport Terminal 2-3 Station เพื่อขึ้นรถไฟด่วนไปลงยัง Tokyo Station จากนั้นต่อรถไฟด่วนสายที่ไปเมืองนากาโนะไปลงยัง Nagano Station ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 2 ชั่วโมง 55 นาที
วิธีที่สอง เริ่มจาก Narita International Airport ให้เดินมายัง Narita Airport Terminal 1 เพื่อขึ้นรถบัส Airport Limousine Bus ไปลงยัง Tokyo Station จากนั้นต่อรถไฟด่วนสายที่ไปเมืองนากาโนะไปลงยัง Nagano Station ใช้เวลาเดินทางมากกว่าวิธีแรกประมาณสิบห้านาที
หมายเหตุ 1. สามารถตรวจสอบข้อมูลสายรถไฟ ตารางเวลา และราคาค่าโดยสารเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Japan Transit Planner https://world.jorudan.co.jp/mln/en/?sub_lang=nosub
2. สามารถตรวจสอบข้อมูลเวลาเดินรถและค่าโดยสารของ Airport Limousine Bus เพิ่มเติมได้ที่ https://webservice.limousinebus.co.jp/web/en/
การเดินทางจากสถานีรถไฟนากาโนะ (Nogano Station) ไปยังสวนลิงหิมะจิโกคุดานิ (Jigokudani Snow Monkey Park)
- รถยนต์ (Car) จาก Nagano Station ไปยังบริเวณที่จอดรถของสวนลิงหิมะจิโกคุดานิ ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้น ต้องเดินเท้าต่อไปตามทางเดินขึ้นหุบเขาอีกประมาณ 1 ชั่วโมง ก็จะถึงยัง Jigokudani Snow Monkey Park ใช้เวลาโดยรวมทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมง และมีระยะทางโดยรวมประมาณ 35 กิโลเมตร
- รถประจำทาง (Bus) จาก Nagano Station ให้เดินไปขึ้นรถบัสบริเวณประตูทางออกสถานี Nagano Station East Exit และลงป้าย Snow Monkey Park ใช้เวลาเดินทางโดยรถบัสประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นต้องเดินเท้าต่อไปตามทางเดินขึ้นหุบเขาอีกประมาณ 1 ชั่วโมง ก็จะถึงยัง Jigokudani Snow Monkey Park ใช้เวลาโดยรวมทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมง และมีระยะทางโดยรวมประมาณ 35 กิโลเมตร
เวลาทำการเปิด-ปิด
เดือนพฤศจิกายน – เดือนมีนาคม เปิดทำการ เวลา 9.00 น. – 16.00 น.
เดือนเมษายน – เดือนตุลาคม เปิดทำการ เวลา 8.30 น. – 17.00 น.
ลูกลิงกำลังเล่นหิมะ
อัตราค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ ราคา 800 เยน
เด็กอายุ 6-17 ปี ราคา 400 เยน
เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี เข้าชมฟรี
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
บรรยากาศของหุบเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ
กฎระเบียบที่ควรรู้
ที่สวนนี้มีกฎระเบียบข้อบังคับเพื่อความปลอดภัยของทั้งลิงและตัวนักท่องเที่ยวเอง ดังนี้
1. ห้ามให้อาหารลิง หรือเอาอาหารมาล่อให้ลิงเข้ามาใกล้
2. ห้ามสัมผัส อย่าจับลิงหรือตะโกนใส่ลิง อย่ารบกวนให้ลิงหงุดหงิด เพราะคุณอาจถูกกัด โดยเฉพาะลูกลิงเพราะพวกมันอาจจะขอความช่วยเหลือจากลิงตัวโตเมื่อรู้สึกไม่ปลอดภัย ดังนั้น อย่าแตะต้องลิงแม้ว่าพวกมันจะอยู่ใกล้ชิดกับคุณก็ตาม
3. ห้ามจ้องตาลิง การจ้องตาลิงอย่างใกล้ชิดพร้อมพูดด้วย สำหรับลิงแล้วจะมองอากัปกิริยาเช่นนี้เป็นศัตรูทันที ดังนั้นอย่าเข้าใกล้พวกมันมากเกินไปนัก และจงรักษาระยะห่างอยู่เสมอ
4. ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาในบริเวณนี้
5. การถ่ายภาพและวีดีโอควรเป็นไปด้วยความระมัดระวัง
6. ห้ามใช้ไม้เซลฟี่ และห้ามรบกวนลิงกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ
ภาพลิงริมออนเซ็นที่หาชมได้แค่เพียงที่สวนลิงหิมะจิโกคุดะนิเท่านั้น
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว Jigokudani Snow Monkey Park สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
สวนลิงหิมะจิโกคุดานิ จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น
(Jigokudani Snow Monkey Park, Nagano, Japan)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ ราคา 800 เยน / เด็กอายุ 6-17 ปี ราคา 400 เยน / เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : เดือนพฤศจิกายน – เดือนมีนาคม เปิดทำการ เวลา 9.00 น. – 16.00 น.
เดือนเมษายน – เดือนตุลาคม เปิดทำการ เวลา 8.30 น. – 17.00 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : จังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น
โทรศัพท์ : (+81) 269-33-4379
เว็บไซต์ : https://jigokudani-yaenkoen.co.jp/
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/en/jp/nagano-shi/224701/weather-forecast/224701
เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งเมืองนากาโนะ http://en.nagano-cvb.or.jp/
เว็บไซต์องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

9 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในมณฑลกานซู ประเทศจีน
มณฑลกานซูตั้งอยู่ทางภาคเหนือตอนกลางของประเทศจีน พื้นที่แถบนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่งซึ่งกระจายตัวอยู่ตามเมืองดังต่างๆ เช่น เมืองตุนหวง และ เมืองจางเย่ อีกทั้งการเดินทางมาเที่ยวที่พื้นที่บริเวณนี้ก็มีความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก เพราะมณฑลกานซูมีสนามบินหลันโจวจงฉวนซึ่งเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่สามารถนั่งเครื่องบินจากไทยมาลงได้โดยตรง และยังสามารถต่อเที่ยวบินท้องถิ่นเพื่อไปมาระหว่างเมืองอื่นในจีนได้ตามต้องการอีกด้วย
อ่านต่อ
วัดลาบรัง วัดทิเบตโบราณ มณฑลกานซู ประเทศจีน
วัดลาบรัง (Labrang Monastery) เป็นวัดและมหาวิทยาลัยสงฆ์ในพุทธศาสนานิกายทิเบตที่มีความเก่าแก่เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีอาณาบริเวณกว้างใหญ่เทียบเท่าได้กับเมืองขนาดย่อมใจกลางหุบเขา หมู่อารามต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอุโบสถ ศาลา หอสวดมนต์ หอพระสูตร อาคารเรียน เจดีย์ และที่พำนักสงฆ์ ล้วนถูกสร้างขึ้นด้วยสถาปัตกรรมวิหารทิเบตอย่างงดงาม นักท่องเที่ยวสามารถซื้อบริการทัวร์เที่ยวชมภายในวัด หรือจะซื้อตั๋วเข้าชมภายในวัดด้วยตนเองตามอัธยาศัยก็ได้ โดยการเที่ยวชมภายในวัดลาบรังจะยกเว้นบริเวณที่พำนักสงฆ์ และห้ามภ่ายภาพภายในสถานที่สำคัญบางแห่งที่มีป้ายถ่ายภาพ ไฮไลท์ของการเที่ยวชมวัดลาบรังได้แก่บริเวณหอสามชั้นซึ่งสร้างขึ้นแบบทิเบตดั้งเดิม บริเวณห้องโถงฮายากริวาที่มีจิตรกรรมฝาผนังอันวิจิตรงดงาม และบริเวณเจดีย์สีทอง รวมถึงบริเวณจุดชมวิวต่างๆ ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์อันน่าทึ่งของหมู่อารามทั้งหมดที่โอบล้อมด้วยภูเขา วัดลาบรังได้รับการยกย่องให้เป็น "สถาบันทิเบตศาสตร์แห่งโลก" และถือเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนมณฑลกานซูเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ
15 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม
โฮจิมินห์ (Ho Chi Minh) หรือที่รู้จักกันในชื่อไซ่ง่อน เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนานของเวียดนาม ทั้งยังคึกคักและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา Palanla ขอนำเสนอ 15 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในโฮจิมินห์ที่มัดรวมเข้าด้วยกันแล้วรับรองว่าจะสามารถบอกเล่าเรื่องราวของความเป็น “ไซ่ง่อน” ได้อย่างดีเยี่ยม
อ่านต่อ
8 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองเว้ ประเทศเวียดนาม
เว้ (Thua Thien Hue) เป็นหนึ่งในเมืองอันดับต้นๆ ของเวียดนามที่รวบรวมเอาสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเป็นชาติเวียดนามเอาไว้มากมาย ผ่านสถาปัตยกรรมที่สวยงามและมีนัยยะสำคัญทางความหมาย ทั้งจากอดีตและในปัจจุบัน หากต้องการรู้จักเวียดนาม แน่นอนว่าเราจึงไม่อาจปฏิเสธการมาเยี่ยมชมเมืองเว้ไปได้ Palanla จะพาไปชม 8 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองเว้ ประเทศเวียดนามพร้อมๆ กัน
อ่านต่อ
10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
จังหวัดหล่าวกายเป็นจังหวัดในพื้นที่ภูเขาทางตะวันตกเฉียงเหนือของเวียดนาม พื้นที่บริเวณนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง โดยเฉพาะในเมืองซาปาอันโด่งดังที่โอบล้อมด้วยภูเขา และมีทิวทัศน์ของท้องนาขั้นบันไดอันงดงามท่ามกลางป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ วันนี้ทาง Palanla จึงได้คัดสรรสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดหล่าวกายมาฝากทุกท่าน โดยมีทั้งจุดชมวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจไปจนถึงแลนด์มาร์กสำคัญที่ต้องไปเช็คอินให้ได้ โดยรวบรวมสถานที่สำคัญทั้งหมดสิบแห่งไว้ในบทความนี้เพื่อเป็นแนวทางท่องเที่ยวหล่าวกายในช่วงวันหยุดที่กำลังจะมาถึงนี้
อ่านต่อ
หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต (Cat Cat Village) เป็นหมู่บ้านกลางหุบเขาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากทิวทัศน์ของภูเขาและนาขั้นบันได นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้สัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวม้ง เที่ยวชมบ้านเรือนที่สร้างด้วยไม้แบบดั้งเดิม และตื่นตาตื่นใจไปกับทัศนียภาพอันน่าทึ่งของหมู่บ้านที่จะสวยงามแตกต่างกันไปตามแต่ละฤดูกาล รวมทั้งได้เที่ยวชมตลาดท้องถิ่นที่มีสินค้าแฮนด์เมดสวยๆ และอาหารท้องถิ่นที่น่าลิ้มลอง นอกจากนี้ อีกหนึ่งโซนที่พลาดไม่ได้ภายในหมู่บ้านคือบริเวณน้ำตกกั๊ตกั๊ตที่มีความสวยงามและร่มเย็นเป็นอย่างมาก ซึ่งน้ำจะไหลตลอดทั้งปี และจะไหลแรงที่สุดในช่วงฤดูฝนประมาณเดือนพฤษภาคมถึงกันยายน
อ่านต่อ
หมู่บ้านเมืองฮัว จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
หมู่บ้านเมืองฮัว (Muong Hoa Village) เป็นหมู่บ้านชาวม้งที่ตั้งอยู่ในหุบเขาเมืองฮัวของเมืองซาปา ไฮไลท์ของที่นี่คือทิวทัศน์ทางธรรมชาติอันสวยงามของนาข้าวขั้นบันไดท่ามกลางภูเขาและป่าไม้ โดยจะมีความสวยงามที่สุดในช่วงเดือนกันยายนซึ่งเป็นช่วงที่รวงข้าวสุกงอมเป็นสีทองอร่ามไปทั้งไหล่เขาท่ามกลางภูเขาที่โอบล้อม และในบางช่วงเวลาจะมีสายหมอกปกคลุม เป็นจุดชมวิวธรรมชาติที่สวยงามและมีบรรยากาศที่เงียบสงบ นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีร้านอาหารท้องถิ่นและที่พักแบบโฮมสเตย์ไว้รองรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
อ่านต่อ
สะพานแก้วมังกรเมฆ จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
สะพานแก้วมังกรเมฆ (Glass Bridge Rong May) เป็นสะพานกระจกแก้วแห่งแรกของเวียดนามที่สร้างขึ้นบนเทือกเขาฮว่างเลียนเซิน ไฮไลท์ของสะพานกระจกแก้วนี้คือความสูงราวสองพันเมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นจุดชมวิวที่น่าตื่นเต้นจากการได้เดินชมวิวบนสะพานพื้นกระจกใส ท่ามกลางสายหมอกและเมฆที่ลอยอยู่ ซึ่งมองไปจะเห็นวิวอันน่าทึ่งภูเขานับพันลูก ทุ่งนาขั้นบันได และถนนคดเคี้ยวด้านล่าง โดยการเดินทางขึ้นมายังสะพานแก้วมังกรเมฆนี้มีความสะดวกสบายเป็นอย่างมากจากบริการลิฟต์แก้วที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการขึ้นไปถึงสะพานแก้วบนยอดเขา
อ่านต่อ
วัดตรักลัมไดเกียกเซน จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
วัดตรักลัมไดเกียกเซน (Truc Lam Dai Giac Zen Monastery) เป็นวัดพุทธแห่งแรกที่สร้างขึ้นในเมืองซาปา ภายในวัดประกอบด้วยหมู่อารามหลายหลังที่สร้างขึ้นอย่างงดงาม สามารถเดินชมสถาปัตยกรรมของวัดและทิวทัศน์จากด้านบนเนินเขาได้อย่างเพลิดเพลิน รวมทั้งแวะสักการะพระพุทธรูปปางต่างๆ ภายในวัดเพื่อความเป็นสิริมงคลได้อีกด้วย ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางในเส้นทางท่องเที่ยวเมืองซาปาและจังหวัดหล่าวกายที่ไม่ควรพลาด
อ่านต่อ
ภูเขาฮามรอง จังหวัดหล่าวกาย ประเทศเวียดนาม
ภูเขาฮามรอง (Ham Rong Mountain) เป็นภูเขาที่ตั้งอยู่กลางเมืองซาปา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีทุ่งดอกไม้สีสันสดใสนานาพันธุ์ให้เที่ยวชม และมีจุดชมวิวที่น่าประทับใจอยู่หลายแห่ง โดยจุดชมวิวที่เป็นไฮไลท์คือจุดชมวิวที่สถานีโทรคมนาคมซาปาที่สามารถชมวิวของภูเขาฟานซีปันซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีหมอกปกคลุมตลอดทั้งปี และจุดชมวิวคลาวด์ยาร์ดที่สามารถเห็นกลุ่มมวลเมฆและสายหมอกล่องลอยอยู่เหนือเมืองซาปา และมองเห็นหุบเขาเมืองฮัว หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต และทุ่งนาขั้นบันได ภูเขาฮามรองจึงเป็นจุดท่องเที่ยวและจุดถ่ายภาพยอดนิยมของเมืองซาปาที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อ